Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

พยาธิสภาพระบบสืบพันธุ์ - Coggle Diagram

- - - - รูเปิดของ Urethra มาเปิด ที่ส่วนล่างของ Penis
      - อาจพบรูเปิดได้ดี ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดส่วน่ลางของ Penis
        ตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงบริเวณ Perineum
    - - เป็นความผิดปกติที่รูเปิด Urethra ได้ไปเปิดที่ด้านบนของ Penis อาจพบร่วมกับความผิดปกติอื่นๆ
    - - เป็นความผิดปกตของส่วนปลายหนังหุ้มองคชาต
        (prepuce) มีรูเปิดเล็กเกินไป
      - ผิวหนังบริเวณปลายองคชาตหดตัว ไม่สามารถดึง ให้ เปิดขึ้นได้ ดังปกติ
      - สาเหตุ
        
        เป็นแต่กำเนิด
        
        การเกิดภายหลังมักมีสาเหตจากการอักเสบหรือจาก ความบอบช้ำของหนังหุ้ม penis ทำให บริเวณรูเปิดเกิด การบวมน้ำและเป็นผลทำให้ รูเปิดตีบลง
    - - เป็นอาการอักเสบของปลายอวัยวะเพศชาย เกิดขึ้นได้ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ที่ไม่ได้ ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศหรือมีสุขอนามัยที่ไม่ดี
      - ทำให้ มีอาการบวมอักเสบเกิดขึ้นที่ปลายอวัยวะเพศ
      - สาเหตุ
        
        การรักษาสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศที่ไม่ดี
        
        การติดเชื้อ
        
        โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
        
        การแพ้และระคายเคือง
      - อาการที่พบบ่อย
        
        มีอาการแดง เจ็บ คัน และระคายเคืองบริเวณส่วนปลายของอวัยวะเพศ
        
        รู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะ
        
        มีหนองหรือน้ำสีเหลืองข นไดหลออกมาจากปลายอวัยวะเพศ
        
        อวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็น
    - - เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือ โรค STD (SexuallyTransmitted Diseases)
      - ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ อาจเรียกว่า กามโรค
      - ติดต่อโดยการร่วมเพศทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปากกับผู้ที่ติดเชื้อ
      - สามารถติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง เลือด
      - เชื้อที่ทำให้เกิด
        
        แบคทีเรีย เช่น chancroid (แผลริมอ่อน) หรือหนองใน
        
        เชื้อไดวรัส เช่น condyloma acuminatum (หูดหงอนไก่)
        
        เชื้อปรสิต เช่น โลน, หิด,พยาธิช่องคลอด
        
        เชื้อรา เช่น เชื้อราในช่องคลอด
  - - - การบาดเจ็บ อักเสบ บวม ของเซลล์เยื่อเมือกบุท่อ
        ปัสสาวะเกิดไดด จากหลายสาเหตุ
      - พบบ่อยที่สุด คือ จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะจากเชื้อแบคทีเรีย
      - สาเหตุ
        
        โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
        -โรคหนองใน
        -เชื้อที่ไดม่ใช่หนองใน เช่น โรคเริม โรคซิฟิลิส
        
        การติดเชื้อที่ไดม่ใช่จากเพศสัมพันธ์ เช่น E. coli, Staphylococcus, Pseudomonas ติดต่อผ่านทางลำไส้ (ทางอุจจาระ) หรือทางไตหรือทางกระเพาะปัสสาวะ
    - - เกิดเนื้อเยื่อพังผืดในท่อปัสสาวะหรืออยู่โดยรอบท่อปัสสาวะ
      - ทำให เกิดการอุดกั้นของน้ำปัสสาวะ ซึ่ง
        ต่อมาจะเกิดการอักเสบ และการติดเชื้อ
      - สาเหตุ
        
        อุบัติเหตุและภยันตรายต่อท่อปัสสาวะ
        
        โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคหนองใน
        
        การใส่สายสวนท่อปัสสาวะ
        
        เกิดภายหลังการผ่าตัดต่อมลูกหมาก การผ่าตัดนิ่วในไต
  - - - เป็นภาวะที่ Testis ไม่เคลื่อนที่ หรือเคลื่อนลงมาใน Scrotal sac ไม่สมบูรณ์
      - ไม่ทราบสาเหตุของการเกิด
      - พบว่า Testis มี Atrophy ทำให้เป็นหมัน
    - - เป็ นกลุ่มหลอดเลือดด าของอัณฑะ(ไหลจากอัณฑะไป ตามสาย รั้งอัณฑะเข้าสู่ช่องท้อง) เกิดการพองตัว
      - พบถุงอัณฑะข้างหนึ่งโต หรือมีอาการปวดหน่วงๆ ที่
        อัณฑะข างหนึ่งเป็นครั้งคราว
      - เป็นภาวะที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่อาจทำให้มีบุตรยาก
      - สาเหตุ
        
        การเสื่อมของลิ้นในหลอดเลือดดำที่มีหน้าที่ช่วยในการไหลเวียนของเลือดจากอัณฑะและถุงอัณฑะให้ไหลกลับสู่หัวใจผิดปกติหรือ
        ล้มเหลว
        
        เมื่อเลือดดำกลับเข้าสู่หัวใจได้น้อย หรือไม่ได้
        เลือดจึงคั่ง
    - - เป็นความผิดปกติเนื่องจาก การคั่งของน้ำ
    - - สาเหตุ
        
        เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น
        
        เด็กมักพบเป็นชนิด gram-negative bacilli
        
        ผู้ใหญ่ มักเกิดจากเชื้อ Chlamydia trachomatis และ
        Neisseria gonorrhoeae
        
        ผู้สูงอายุ มักเป็นชนิด E.coli และ Pseudomonas spp.
        นอกจากนี้ อาจเกิดเป็นผลตามมาจาก โรคติดเชื้อในร่างกาย เช่น โรคคางทูม
      - พยาธิสภาพ
        
        พบลูกอัณฑะ บวมโต หลอดเลือดที่อวัยวะและบริเวณใกล้เคียง
        ขยายใหญ่ และ มีเลือดคั่ง เซลล์อักเสบจ าพวก neutrophils,macrophages และ lymphocytes พบกระจัดกระจายทั่วไป
        
        แทรกเข้าไปตามเนื้อเยื่อของอวัยวะเอพิดิไดมิส และลามเข้าไปในเนื้อเยื่อของลูกอัณฑะ โดยเฉพาะเข้าไปในหลอดสร้างอสุจิ
        
        ทำให้บริเวณระหว่างเนื้อเยื่อของลูก
        อัณฑะเกิดบวมน้ำ ในกรณีการอักเสบรุนแรง ทำให้เกิดเป็นหนองฝี
    - - Seminoma : พบในผู้ใหญ่ ที่ไวต่อรังสี
      - Yolk sac tumor : พบบ่อยในเด็กเล็ก พบ alpha fetoprotein สูง
- - - - สาเหตุจากการติดเชื้อที่มาจากการอักเสบของทางเดินปัสสาวะส่วนปลาย หรือของกระเพาะปัสสาวะ
    - - ต่่อมลูกหมากส่วนใหญ่ มักจะโต นุ่ม และบวมน้ำ หรือเลือดคั่ง พบหย่อมหนองกระจายทั่วไปในต่อมลูกหมาก
      - พบเซลล์อักเสบชนิดเฉียบพลันทั่วไปในต่อมลูกหมาก
      - ต่อมลูกหมาก ผลิตน้ำเมือกเพิ่มมากกวาปกติ ทำให ้ภายในต่อมขยายใหญ่ขึ้น
- - - - ความผิดปกติของโครโมโซม เช่น Down’s syndrome
      - มารดามีการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
      - มีความผิดปกติของการทำงานของต่อมไร้ท่อ เช่น โรคเบาหวาน โรคของต่อมไดทรอยด์
      - ภาวะขาดฮอร์โมน progesterone
      - การสูบบุหรี่
    - - การแท้งคุกคาม (Threatened abortion)
        
        ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูก แต่ปากมดลูกยังปิดอยู่
        
        การตั้งครรภ์สามารถดำเนินไปได้ โดยทารกมีความปลอดภัยสูง
      - การแท้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ (Inevitable abortion)
        
        ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูก และมีการเปิดขยายของปากมดลูกร่วมด้วย
      - การแท้งครบ (Complete abortion)
        
        ภาวะที่มีเลือดออก และผลิตภัณฑ์ของทารกหลุดออกมา ได้แก่ ถุงน้ำคร่ำ น้ำคร่ำ รก และทารก
      - การแท้งไม่ครบ (Incomplete abortion)
        
        ภาวะที่มีเลือด และ ผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์ หลุดออกมาบางส่วน และปากมดลูกยังปิดอยู่
      - การแท้งค้าง (Missed abortion)
        
        ภาวะที่ทารกเสียชีวิตอยู่ในครรภ์เป็นเวลาหลายวัน โดยที่ปากมดลูกจะยังปิดอยู่
        
        ภาวะนี้อาจส่งผลให้มารดาติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นอันตรายถึงชีวิต
- - - - ทำให้ เกิดภาวะที่เรียกว่า กระบังลมหย่อน
      - ผนังด้านหน้าของช่องคลอดหย่อนจนกระเพาะ ปัสสาวะโป่งเข ามาในช่องคลอดเรียกว่า Cystocele
      - ผนังด้านหลังหย่อนจน rectum โป่งเข้ามาในช่อง คลอดเรียกว่า Rectocele
  - - - Neisseria gonorrhea
        
        ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
        
        อาการแทรกซ้อน : เชื้ออาจลุกลามเข้า Bartholin gland ที่
        แคมใหญ่เกิด Bartholinitis หรือเป็นฝี(Bartholin abscess)
        
        ถ้าการอักเสบลุกลามไปถึงท่อนำไข่และกระจายเข้าไปใน
        อุ้งเชิงกราน เรียก Pelvic Inflammatory Disease (PID)
        
        หากเป็นมากอาจทำให้เกิดหนองขัง
        
        ถ้าเชื้อกระจายมากขึ้นก็จะทำให้ เกิดการอักเสบของ เยื่อบุอุ งเชิงกราน (pelvic peritonitis)
      - Syphilis
        
        เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ เกิดโรค Treponema pallidum
        
        ติดต่อโดยการร่วมเพศ เชื้อจะเข้าทางรอยถลอกหรือบาดแผลเล็กน้อย
        
        พยาธิกำเนิด
        
        -เชื้อซิฟิลิสเข้าสู่ร่างกายทางแผลถลอกหรือไชทะลุผิวเซลล์ เยื่อเมือกหรือทาง รูขุมขน ทางเพศสัมพันธ์ น้ ากาม ทางเลือดและมารดาสู่ทารก แล้วก่อให้เกิด
        โรคซิฟิลิสระยะต่างๆโดยมีทั้งหมด 3 ระยะ
        
        ระยะที่ 1 หรือ ระยะเป็นแผล (Primary syphilis)
        
        ระยะที่ 2 หรือ ระยะเข้าข้อออกดอก (Secondary syphilis)
        
        ระยะที่ 3 หรือ ระยะทำลาย (Tertiary syphilis)
      - Chancroid หรือแผลริมอ่อน
        
        เชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคคือ Hemophilus ducreyi
        
        เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคนี้ติดต่อได้ง่าย
        
        ทำให้ เกิดแผลที่อวัยวะเพศ และต่อมน ้ำเหลืองที่ขาหนีบโต
        
        หากไม่รักษาจะเป็น สาเหตุให้ เกิดการติดเชื้อ HIV
      - Non –specific infection
        
        เชื้ออื่นๆ อาจทำให้ เกิดการอักเสบตามตำแหน่ง
        
        เช่นการอักเสบจากเชื้อ Streptococci, Staphylococci, Clostridium หลังการคลอด และการทำแท้ง
    - - Herpes simplex virus
        
        ติดต่อได้ ทางเพศสัมพันธ์
        
        รอยโรคเป็นตุ่มใสและแตกเป็นแผลที่บริเวณปาก ช่องคลอด
        
        อาจติดต่อไปยังทารกในครรภ์ได้ โดยเฉพาะขณะคลอดถ้าเด็กติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต
      - Human papilloma virus (HPV)
        
        ทำให้ เกิดรอยโรค Condyloma acuminatum ได้ ทั้งที่บริเวณช่องคลอด ปากมดลูก
        
        มีลักษณะขรุขระคล้ายหงอนไก่
    - - Candida albicans ทำให เกิดการอักเสบที่เยื่อบุปาก
        ช่องคลอดและช่องคลอด เรียกว่า candidiasis เยื่อบุจะมีสีแดง
      - Dermatophytes ทำให้ เกิดการอักเสบที่ผิวหนังบริเวณผิวหนัง ขาหนีบด้ ยซึ่งเรียกว่า Tinea cruris
    - - Trichomonas vaginalis
        
        ทำให้ เกิดการอักเสบที่ เยื่อบุช่องคลอด
        
        จะมีระดูขาว เป็นน้ำสีเหลืองงอมเขียว และมีอาการคันปากช่องคลอด
  - - - ภาวะที่มีการตั้งครรภ์ที่ตำแหน่งอื่นนอกเหนือจากโพรงมดลูก
      - สาเหตุ : มีการขัดขวางการเดินทางของ Ovum
      - ที่พบบ่อยได้ แก่ Tubal pregnancy เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น
    - - ภาวะที่มีความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
      - มักมีอาการบวม อาจะมีไข่ขาวในปัสสาวะร่วมด้วย
      - รวมเรียกว่า Toxemia of pregnancy (Preeclampsia: HT, Proteinuria Eclampsia : convulsion)
    - - เกิดจากความผิดปกติของรก
      - Chorionic villi ของรก จะบวม
      - เห็นเป็น ถุงน้ำใส จำนวนมาก
      - สาเหตุ
        
        จากความผิดปกติหลังการผสมของไดข่และอสุจิ
        
        ทำให้ เหลือแต่โครโมโซมของอสุจิ ไม่มีตัวอ่อน
        
        มีเลือดออกและแท้งในที่สุด
  - - - เกิดจากเชื้อไดวรัสตัวหนึ่งที่ชื่อว่า HPV (Human Papilloma Virus)
      - ไวรัสชนิดนี้ติดต่อจากการสัมผัส ส่วนใหญ่เป็นการสัมผัสทาง เพศสัมพันธ์
      - มีรอยถลอกของผิวหรือเยื่อบุ
    - - Stage I เซลล์มะเร็งอยู่เฉพาะที่ปากมดลูก การรักษาจะต้องผ่าตัดใหญ่ ผ่าตัดมดลูก
      - Stage II เซลล์มะเร็งกระจายออกจากปากมดลูก การรักษาระยะนี้ ต้องรักษาด้วยการฉายรังสี และการให้เคมีบำบัด (คีโม)
      - Stage III เซลล์มะเร็งกระจายไดปที่ผนังช่องเชิงกราน การรักษา คือใช รังสีรักษา และการให้ เคมีบำบัด
      - Stage IV เป็ นระยะที่เซลล์มะเร็งกระจายทั่วร่างกาย การรักษา คือการให้ คีโม และรักษาตามอาการ โอกาสรอดน้อยมาก
    - - Leiomyoma
        
        เป็นก้อนมีขอบเขตชัดเจน เกิดขึ้นในตำแหน่งที่มีกล้ามเนื้อเรียบอยู่
        
        เจริญเร็ว ถ้ามีฮอร์โมนเอสโตรเจนกระตุ้น
    - - ภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ผิดที่
      - มีอาการปวดท้องมากเวลามีประจำเดือน
      - อาจเกิดการดึงรั้งของพังผืดที่เกิดจากมีเลือดออกนาน
      - อยู่ผนังมดลูกในชั้นกล้ามเนื้อเรียบ ทำให้มดลูกมีขนาดโตขึ้น
      - อยู่ในอุ้งเชิงกราน เกิดเป็น Cyst