Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลด้านจิตสังคมสำหรับผู้ประสบสาธารณภัย, ชื่อ นางสาวมาลินี คำมา,…
การพยาบาลด้านจิตสังคมสำหรับผู้ประสบสาธารณภัย
การเตรียมตัวเพื่อรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
ปฏิกิริยาด้านจิตใจ
ร่างกาย
อาการหน้ามืด
วิงเวียนศีรษะ
รู้สึกร้อนหรือหนาว
รู้สึกตีบแน่นในลำคอ
ปวดศีรษะ
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
ปวดท้องและคลื่นไส้อาเจียน
ความอยากอาหารลดลงหรือเพิ่มขึ้น
การแสดงออก
นอนไม่หลับ
หลับๆตื่นๆ
ฝันร้าย
ตกใจง่าย
ร้องไห้ไม่มีสาเหตุ
เฉยเมย
แยกตัวออกจากสังคม
หวาดระแวง
กวาดตามองไปมาบ่อยๆ
หันเข้าหาสุราของมึนเมาและยาเสพติด
อารมณ์
ช็อค
ไม่ยอมรับในสิ่งที่เห็น
วิตกกังวล
กลัว เศร้า โกรธ
ต้องการแก้แค้น
ฉุนเฉียวง่าย
โทษตัวเองและผู้อื่น
การรับรู้
สับสน
มึนงง
ไม่มีสมาธิ
มีปัญหาด้านความจำ
มีปัญหาในการตัดสินใจ
ภาพทรงจำผ่านเข้ามาแบบวูบวาบ
จะเกิดขึ้นและลดลงจนหายไปภายใน 1 เดือน
หากอาการเหล่านี้ยังคงอยู่จำเป็นต้องพบเชี่ยวชาญทางด้านจิตใจ
ปฏิกิริยาทางจิตใจหลังเกิดเหตุ
ปฏิกิริยาทางจิตใจแบบช็อคและปฏิเสธ (Shock & Denial)
ปฏิกิริยาทางจิตใจแบบโกรธ (Anger)
ปฏิกิริยาทางจิตใจแบบต่อรอง (Bargaining)
ปฏิกิริยาทางจิตใจแสดงอารมณ์เศร้า (Depression)
ปัญหาที่เกิดขึ้นในผู้ประสบภาวะวิกฤต
ด้านจิตใจ
ไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตและทำงานเหมือนอย่างเดิมได้
เกิดปัญหาความเจ็บป่วยทางจิตเวช
อาจมีภาวะสับสน ว้าวุ่น ความคิดแปรปรวน
อาจมีปัญหาโรคซึมเศร้า
ด้านร่างกาย อ่อนแอ การพักผ่อนไม่เพียงพอ
ด้านพฤติกรรม
ไม่สนใจดูแลตนเองและสิ่งแวดล้อม
แยกตัวออกจากสังคม ปฏิเสธการรับรู้เรื่องราวต่างๆ
ลักขโมยหรือก่ออาชญากรรมในผู้ที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมหรือผู้ที่ได้รับการดูแลไม่ทั่วถึงโดยเฉพาะการขาดปัจจัย 4
การติดยาหรือสารเสพติดเพื่อเป็นหนทางในการแก้ปัญหาและต้องการหลีกเลี่ยงการเผชิญความรู้สึกในด้านลบของตนเอง
ทีมผู้ปฏิบัติงานช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ
ผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT)
ระดับทีม MCATT
ระดับตำบล
ระดับอำเภอ
ระดับจังหวัด
ระดับกรมสุขภาพจิต
การช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ
ระยะเตรียมการ
เป็นระยะการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤต
เตรียมความพร้อมทั้งระดับบุคคล องค์กร และชุมชน
รับนโยบายจากผู้ว่าราชการจังหวัด/นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
จัดเตรียมโครงสร้างการดำเนินงานช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต
จัดเตรียมแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤต
จัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต /ศูนย์วิกฤตสุขภาพจิต
จัดเตรียมทีมเพื่อปฏิบัติงาน
ฝึกอบรม
การปฐมพยาบาลทางจิตใจ
การช่วยเหลือทางจิตใจและสังคมในภาวะวิกฤต
การบำบัดทางพฤติกรรมความคิด
การช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตตามแบบ Satir
ความรู้เรื่องการใช้แบบประเมิน/ แบบคัดกรองภาวะสุขภาพจิตทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ความรู้เรื่องวัฒนธรรม ธรรมเนียมปฏิบัติ และหลักคำสอนทางศาสนา
เตรียมความพร้อมของชุมชนเพื่อรับมือกับสถานการณ์วิกฤต
ซ้อมแผนการช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตผู้ประสบภาวะวิกฤต
ระยะวิกฤตและฉุกเฉิน
ระยะวิกฤต (72 ชั่วโมงแรกหลังเกิดเหตุ)
ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
มีการตื่นตัวทางสรีระและพฤติกรรม
คนจำนวนมากเข้ามาให้การช่วยเหลืออย่างไม่มีระบบ
มุ่งให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า
เน้นการช่วยเหลือตามสภาพความเป็นจริง
ต้องให้การปฐมพยาบาลด้านจิตใจแก่ผู้ประสบภาวะวิกฤต
ระยะฉุกเฉิน (72 ชั่วโมง - 2 สัปดาห์)
ลักษณะเฉพาะ
มองโลกในแง่ดี
การช่วยเหลือหลั่งไหลเข้ามา
ผู้ประสบภาวะวิกฤตเกิดกำลังใจ
ประเมินคัดกรองภาวะสุขภาพจิต
วางแผนในการช่วยเหลือ
จัดลำดับความต้องการของกลุ่มเสี่ยง
กลุ่มเป้าหมายตามความรุนแรง
กลุ่มผู้สูญเสียบุคคลในครอบครัว/ทรัพย์สิน
กลุ่มผู้ป่วยที่มีประวัติการรักษาทางจิตเวชหรือใช้สารเสพติด
กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบหลังประสบภาวะวิกฤต
กลุ่มผู้สูงอายุและเด็ก
กลุ่มผู้พิการและเจ็บป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มผู้ที่ต้องการบริการด้านสุขภาพจิต
ขั้นตอนการดูแลช่วยเหลือ
เข้าพื้นที่ให้การช่วยเหลือ
คัดกรองและค้นหากลุ่มเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิต (ผู้ใหญ่และเด็ก)
และให้การปฐมพยาบาลด้านจิตใจ
สำรวจความต้องการช่วยเหลือทั้งด้านร่างกายและจิตใจ และการให้การช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ โดยใช้วิธีให้การปฐมพยาบาลด้านจิตใจ (PFA)
กรณีพบความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจิต ให้จัดทำทะเบียนกลุ่ม
เสี่ยงและวางแผนการติดตามต่อเนื่อง
สรุปรายงานสถานการณ์เบื้องต้นพร้อมทะเบียนกลุ่มเสี่ยง
ระยะหลังได้รับผลกระทบ (2 สัปดาห์- 3 เดือน)
ระยะฟื้นฟู (หลังเกิดเหตุการณ์ 3 เดือนขึ้นไป)
การปฐมพยาบาลด้านจิตใจด้วยหลักการ EASE
Engagement: E
สังเกต Nonverbal/Verbal
การสร้างสัมพันธภาพ
ควรมีท่าทีสงบนิ่ง
แนะนำตัวเอง
มองหน้าสบตา
รับฟังด้วยท่าทีที่สงบให้กำลังใจ
การสื่อสาร
ควรเริ่มพูดคุยเบื้องต้นเมื่อผู้ประสบเหตุการณ์วิกฤตมีความพร้อม
Assessment: A
ประเมินและตอบสนองความต้องการทางด้านร่างกาย
บรรเทาความเจ็บปวดด้วยการให้ยา
มีอาการอ่อนเพลีย ควรจัดหาน้ำให้ดื่ม หาอาหารให้รับประทาน
เป็นลม ควรจัดหายาดมแอมโมเนีย ผ้าเย็นเช็ดหน้าและแขน
กำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย
การประเมินสภาพจิตใจ
อยู่ในภาวะช็อกและปฏิเสธ
ดูแลทางกาย โดยให้อยู่ในสถานที่ที่สงบ
ดูแลทางจิตใจ ให้ผู้ประสบภาวะวิกฤตได้ระบายความรู้สึก
สอบถามความต้องการเร่งด่วน
อยู่ในภาวะโกรธ
ยอมรับพฤติกรรมที่แสดงออก
ให้ระบายความรู้สึกโดยใช้ทักษะการฟังอย่างตั้งใจและพูดสะท้อนอารมณ์
ถามความต้องการเพื่อตอบสนองความต้องการทางกาย จิตใจ สังคม ที่สามารถตอบสนองให้ได้
อยู่ในภาวะต่อรอง
อดทน รับฟัง ไม่แสดงอาการท่าทางเบื่อหน่าย
สนองความต้องการในสิ่งที่สามารถให้ได้
การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ที่เป็นจริงตามความเหมาะสม
ทักษะการประเมินอารมณ์ ความรู้สึกผู้ประสบภาวะวิกฤตและทักษะการบอกข่าวร้าย
อยู่ในภาวะเสียใจ
หาผ้าเช็ดหน้า น้ำเย็น ผ้าเย็น
รายที่มีอาการหายใจไม่ออก อาจใช้การฝึกหายใจแบบ Breathing Exercise หรือใช้การสัมผัส (Touching)
ช่วยให้ผู้ประสบภาวะวิกฤตหาสิ่งยึดเหนี่ยวในชีวิต เช่น ญาติ ลูก พระเจ้าศาสนา
การประเมินภาวะฆ่าตัวตาย
ผู้ประสบภาวะวิกฤตรับฟังมากขึ้น ยอมรับข้อมูล
ลดเงื่อนไขในการต่อรองลง อาจต่อรองในสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากขึ้น
ยอมรับความจริงมากขึ้น
ผู้ประสบภาวะวิกฤตอาจเข้าสู่อาการภาวะซึมเศร้าได้ ผู้ให้การช่วยเหลือต้องประเมินสภาพการณ์เฉพาะหน้า และอารมณ์ที่แปรเปลี่ยนไปของผู้ประสบภาวะวิกฤต
ประเมินความต้องการทางสังคม
ผู้ประสบภาวะวิกฤตต้องการพบญาติ หรือครอบครัวให้ติดต่อประสานโดยการโทรศัพท์
ผู้ประสบภาวะวิกฤตไร้ญาติขาดมิตร ประสานเพื่อหาที่พักอาศัยให้ชั่วคราว
ผู้ประสบภาวะวิกฤตต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน ทุนการศึกษา ให้ติดต่อหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง
Skills: S
การฝึกกำหนดลมหายใจ (Breathing exercise)
การสัมผัส (Touching skill)
ทักษะการ Grounding
การนวดสัมผัส และการนวดกดจุดคลายเครียด
ลดความเจ็บปวดทางใจ
การฟังอย่างใส่ใจ (Active Listening)
การสะท้อนความรู้สึก
การเงียบ
การทวนซ้ำ
การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ การเสริมสร้าง Coping skills
Education
ตรวจสอบความต้องการ
เติมเต็มความรู้
ติดตามต่อเนื่อง
ชื่อ นางสาวมาลินี คำมา
รหัสนักศึกษา 6001211368
เลขที่ 62 Section A