Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

โรคระบบสืบพันธุ์ unnamed - Coggle Diagram

- - - - ความผิดปกติที่รูเปิด Urethra ไปเปิดที่ด้านบนของ Penis
    - - Balanitis
        
        สาเหตุ
        
        การติดเชื้อโดยทั่วไปมักเกิดจากการติดเชื้อของยีสต์แคนดิดา
        
        โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
        
        การรักษาสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศที่ไม่ดี
        
        การแพ้และระคายเคือง
        
        อาการที่พบ
        
        รู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะ
        
        มีหนองหรือน้ำสีเหลืองข้นไหลออกจากปลายอวัยวะเพศ
        
        มีอาการแดงเจ็บ คัน และระคายเคืองบริเวณส่วนปลายของอวัยวะ
        
        อวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็น
        
        ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจไม่สามารถร่นหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศขึ้นและลงได้ตามปกติ
      - Venereal disease
        
        ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ อาจเรียกว่า กามโรค
        
        ติดต่อโดยการร่วมเพศทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปาก กับผู้ที่มีเชื้อ
        
        โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือ โรค STD (Sexually Transmitted Diseases)
        
        สามารถติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง กาารติดต่อทางเลือด
        
        เชื้อที่ทำให้เกิด
        
        เชื้อไวรัส เช่น condyloma acuminatum (หูดหงอนไก่) เริม HPV
        
        เชื้อปรสิต เช่น โลน, หิด, พยาธิช่องคลอด
        
        แบคทีเรีย เช่น Chancroid (แผลริมอ่อน) Gonorrhea (หนองใน)
        
        เชื้อรา เช่น เชื้อราในช่องคลอด
      - Phimosis
        
        สาเหตุ
        
        เป็นแต่กำเนิด บริเวณที่หนังหุ่ม Penis คลุมอยู่จะสกปรกเป็นที่สะสมสิ่งขับถ่ายและเกิดการติดเชื้อ
        
        เกิดภายหลัง มักมีสาเหตุจากการอักเสบหรือจากความบอบช้ำของหนังหุ้ม Penis ทำให้บริเวณรูเปิดเกิดการบวมน้ำและเป็นผลทำให้รูเปิดตีบลง
    - - รูเปิดของ Urethra มาเปิด ที่ส่วนล่างของ Penis
      - อาจพบรูเปิดได้ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดส่วนล่างของ Penis
  - - - การบาดเจ็บ อักเสบ บวม ของเซลล์เยื่อเมือกบุท่อปัสสาวะ
      - สาเหตุจากการติดเชื้อ
        
        โรคหนองใน หรือโกโนเรีย Gonococcal urethritis
        
        เชื้อที่ไม่ใช่หนองใน เช่น โรคเริม โรคซิฟิลิส โรคหนองในเทียม
        
        เชื้อที่ไม่ใช่จากเพศสัมพันธ์ เช่น E.coli Staphylococcus.Pseudomonas
        ติดต่อผ่านทางลำไส้(ทางอุจจาระ)
        หรือทางไตหรือทางกระเพาะปัสสาวะ
      - พบบ่อยที่สุด คือ จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะจากเชื้อแบคทีเรีย
    - - เกิดเนื้อเยื่พังผืดในท่อปัสสาวะหรืออยู่โดยรอบท่อปัสสาวะ
      - สาเหตุ
        
        โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคหนองใน (gonorrhea)
        
        การใส่สายสวนท่อปัสสาวะ
        
        เกิดภายหลังการผ่าตัดต่อมลูกหมาก
        
        การผ่าตัดนิ่วในไต
      - ทำให้เกิดการอุดกั้นของน้ำปัสสาวะ ซึ่งต่อมาจะเกิดการอับเสบและการติดเชื้อ
  - - - ไม่ทราบสาเหตุของการเกิด
      - พบว่า testis มี atrophy ทำให้เป็นหมัน
        นอกจากนั้นยังมีโอกาสเป็นมะเร็ง
        ของอัณฑะได้สูงกว่าคนปกติ
      - เป็นภาวะที่ testis ไม่เคลื่อนหรือเคลื่อนลงมาใน scrotal sac ไม่สมบูรณ์
    - - เป็นกลุ่มหลอดเลือดดำของอัณฑะ
        (ไหลจากอัณฑะไปตามสาย รั้งอัณฑะเข้าสู้ช่องท้อง)
      - สาเหตุ
        
        เกิดจากการเสื่อมของลิ้นในหลอดเลือดดำที่ มีหน้าที่ช่วยในการไหลเวียนของเลือด
        
        เมื่อเลือดดำกลับเข้าสู่หัวใจได้น้อย หรือไม่ได้เลือดจึงคั่ง
    - - เป็นความผิดปกติเนื่องจากการคั่งของน้ำใน tunica vaginalis
    - - ส่วนใหญ่มักเกิดจากเชื้อโรคหนองใน (gonorrhea)
      - ผลตามมาคือ การอุดกั้นททางเดินของ sperm เป็นหมันได้
    - - สาเหตุ
        
        เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
        
        เด็กมักพบ ชนิด grm-negative bacilli
        
        ผู้ใหญ่ มักเกิดจากเชื้อ Chlamydia trachomatis และ Neisseria gonorrhoeae
        
        ผู้สูงอายุ มักเป็นชนิด E.coli และ Pseudomonas spp.
      - พยาธิสภาพ
        
        พบลูกอัณฑะ บวมโต หลอดเลือดที่อวัยวะและบริเวณใกล้เคียงขยายใหญ่และมีเลือดคั่ง
    - - Seminoma : พบในผู้ใหญ่ ไวต่อรังสี
      - Yolk sac tumor : พบบ่อยในเด็กเล็ก พบ alpha fetoprotein สูง
  - - - มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยเกิดร่วมกับการอับเสบของ urethra
      - สาเหตุ จากการติดเชื้อที่มาจากการอับเสบของทางเดินปัสสาวะส่วนปลาย
      - อาจเป็นเฉพาะส่วน หรือทั้งต่อม
      - พยาธิสภาพ
        
        ต่อมลูกหมากส่วนใหญ่ มักจะโต นุ่ม และบวมน้ำ หรือมีเลือดคั่ง
        
        พบเซลล์อักเสบชนิดเฉียบพลันทั่วไปในต่อมลูกหมาก
        
        ผลิตน้ำเมือกเพิ่มมากกว่าปกติ ทำให้ภายในต่อมขยายใหญ่ขึ้น
    - - สาเหตุ
        
        ส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยสูงอายุ
        
        การติดเชื้อเช่นเดียวกับที่พบในการอักเสบชนิดเฉียบพลัน
        
        ผู้ป่วยมีอาการเรื้อรัง เช่น ปวดหลัง บริเวณบั้นเอว ปวดบริเวณหัวเหน่าและถ่ายปัสสาวะลำบาก
      - ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostate Hyperplasia)
        
        พบในชายอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
        
        เป็นความผิดปกติที่มีความเจริญทั้งขนาดและจำนวนของเซลล์ต่อมลูกหมากมากกว่าปปกติ
        
        ตำแหน่งของต่อมลูกหมากอยู่รอบๆท่อปัสสาวะ มีการบีบรัดท่อปัสสาวะให้ตีบ แบน และยาว
        
        ทำให้เกิดการอุดกั้นบริเวณท่อทางเดินปัสสาวะ เป็นผลให้ปัสสาวะไหลไม่สะดวก
- - - - มารดามีการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
      - มีความผิดปกติของการทำงานของต่อมไร้ท่อ เช่น โรคเบาหวาน โรคของต่อมไทรอยด์
      - ความผิดปกติของโคโมโซม เช่น Down's syndrome (ผิดปกติของคู่ที่21)
      - ภาวะขาดฮอร์โมน progesterone หรือภาวะ Luteal phase defect เป็นภาวะที่มีการสร้าง progesterone จาก Corpus luteum น้อยลง ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่แข็งแรง
      - ภาวะพร่องทางโภชนาการ (Malnutrition)
      - การสูบบุหรี่ เป็นผลทำให้หลอดเลือดที่รกเสื่อมสภาพ
      - ทารกได้รับสารอาหารน้อยลงไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต
  - - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูกและผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์ทั้งหมดหลุดออกมา ได้แก่ ถุงน้ำคร่ำ น้ำคร่ำ เป็นต้น
    - - ภาวะที่มีเลือดและผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์ หลุดออกมาบางส่วน และปากมดลูกจะยังเปิดอยู่
    - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูก และมีการเปิดขยายของปากมดลูกร่วมด้วย
    - - ภาวะที่ทารกเสียชีวิตอยู่ในครรภ์เป็นเวลาหลายวัน โดยที่ปากมดลูกจะยังปิดอยู่ ไม่มีผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมา
      - ภาวะนี้อาจส่งผลให้มารดาติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
    - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูก แต่ปากมดลูกยังปิดอยู่
      - การตั้งครรภ์สามารถดำเนินต่อไปได้โดยทารกมีความปลอดภัยสูง
- - - - ระยะที่2 เข้าข้ออกดอก (Secondary syphilis)
      - ระยะที่3 ทำลาย (Tertiary syphilis)
      - ระยะที่1 เป็นแผล (Primary syphilis)
  - - - รอยโรคเป็นตุ่มใสและแตกเป็นแผลที่บริเวณปากช่องคลอด
      - อาจติดต่อไปยังทารกในครรภ์ได้โดยเฉพาะขณะคลอดถ้าเด็กติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรงได้
    - - ทำให้เกิดรอยโรค Condyloma acuminatum ได้ทั้งที่ บริเวณปากช่องคลอด ช่องคลอดและปากมดลูก
      - มีลักษณะขรุขระคล้ายหงอนไก่
  - - - ทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุปากช่องคลอดและช่องคลอด
    - - ทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดและมักเป็นที่บริเวณขาหนีบ
  - - - ทำให้เกิดการอับเสบที่เยื่อบุช่องคลอด
      - ผู้ป่วยจะมี ระดูขาว เป็นน้ำสีเหลืองอมเขียวและมีอาการคันปากช่องคลอด
- - - - ไวรัสชนิดนี้ติดต่อจากการสัมผัส ส่วนใหญ่เป็นการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์
  - - - ทำให้เหลือแต่โครโมโซมของอสุจิ ไม่มีตัวอ่อน
      - มีเลือดออกและแท้งในที่สุด
      - ความผิดปกติหลังการผสมของไข่และอสุจิ
  - - - มีการขัดขวางการเดินทางของ Ovum ที่ถูกผสมด้วยSperm แล้วไม่ให้มาถึงโพรงมดลูก
  - - - เซลล์มะเร็งกระจายออกจากปากมดลูก ไปที่ตัวมดลูกแต่ไม่สามารถผ่าตัดได้ การรักษา ด้วยการฉายรังสี และการเคมีบำบัดบำบัด ได้ผลราว60%
    - - เซลล์มะเร็งกระจายไปที่ผนังช่องเชิงกราน การรักษา คือใช้รังสีรักษาและการให้เคมีบำบัด ได่ผลประมาณ 20-30%
    - - เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งกระจายทั่วร่างกาย การรักษาคือการให้คีโม และรักษาตามอาการ โดยหวังผลได้เพียง 5-10% และโอกาสรอดน้อยมาก
    - - เซลล์มะเร็งอยู่เฉพาะที่ปากมดลูก การรักษา ผ่าตัดใหญ่ ผ่าตัดมดลูก เลาะต่อมน้ำเหลืองในเชิงกราน ได้ผลดีถึง 80%
  - - - เป็นก้อนมีขอบเขตชัดเจน เกิดขึ้นในตำแหน่งที่มีกล้ามเนื้อเรียบอยู่
      - เจริญเร็ว ถ้ามีฮอร์โมนเอสโตรเจนกระตุ้น จะเล็กลงเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน