Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลทารกเเละเด็กที่มี ความพิการเเต่กำเนิด - Coggle Diagram
การพยาบาลทารกเเละเด็กที่มี
ความพิการเเต่กำเนิด
ความพิการเเต่กำเนิด
Major anomalies
ความผิดปกติที่ทำให้การทำงานของ
อวัยวะเสียไป จำเป็นต้องรักษา
เช่น ภาวะหลอดลมประสาทไม่
ปิด (neural tuube defects)
Minoranomalies
ความผิดปกตที่ไม่มีผลให้การทำงาน
ของอวัยวะเสียไป
เช่น ติ่งบริเวณหน้าหู การพับผิวหนัง
ของเปลือกตาบน ปาน
การจำเเนกความพิการเเต่กำเนิด
ตามกลไกการเกิด
Malformation
คือลักษณะรูปร่างที่ผิดไป
เกิดจากกระบวนการเจริญภายในที่ผิดปกติ
อาจเกิดจากพันธุกรรมหรือสิ้งเเวดล้อม
เช่น นิ้วเเยกไม่สมบูรณ์ นิ้วเกิน ติ่ง บริเวณหน้าหู เท้าปุก
Deformation
เกิดจากเเรงกระทำจากภายนอกทำให้อวัยวะผิด รูปไปในระหว่างการเจริญพัฒนาของอวัยวะ
เช่น มีภาวะถุงนำ้ครำ่รั่วระหว่างตั้งครรภ์ทำให้ เกิด oligohydramnios sequence
Disruption
ภาวะโครงสร้างของอวัยวะหรือเนื้อเยื่อผิดปกติจาก สาเหตุภายนอกรบกวนกระบวนการเจริญพัฒนา อวัยวะที่ไม่ใช่พันธุกรรม
เช่น ทารกขาดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลาย การบาดเจ็บของอวัยวะหรือเนื้อเยื่อ เเม่ได้รับยาหรือสาร เคมีที่มีผลต่อการพฒนาอวัยวะทารก
Dysplasia
เป็นความผิดปกติระดับเซลล์ของ เนื้อเยื่อพบในทุกส่วนของร่างกาย
เช่นกลุ่มโรค skeletal dysplasia เกิดจากความผิด ปกติของกระดูก เด็กจะมีตัวเตี้ย เเขนขาสั้น ศีรษะโต สันจมูกแบน
สาเหตุของความพิการเเต่กำเนิด
พันธุกรรม
ในกรณีที่บิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ในครอบครัวเป็นโรคความพิการเเต่ กำเนิด
เช่น โรคปากเหว่ง เพดานโหว่
ปัจจัยจากสิ่งเเวดล้อม
มารดามีอายุมากเกินไป
โรคติดเชื้อ
ขาดสารอาหาร ขาดวิตามิน
มารดากินยาหรือใช้สารเสพติด
มารดาได้รับสารเคมีจากสิ่งแวดล้อม
รังสีเอ๊กซ์ หรือรังสีเเกมม่า รวมทั้งสารกัมมันตรังสีทางการเเพทย์
ความผิดปกติของครรภ์ หรือภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
ปากเเหว่ง-เพดาน โหว่(clefe-lip,cleft- palate)
ความหมาย
ปากเเหว่ง
ความผิดปกติที่ริมฝีปาก เพดานส่วน หน้าเเยกออกจากกัน
ซึ่งเพดานส่วนหน้าจะเจริญสมบูรณ์ช่วง 4-7 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
เพดานโหว่
มีความผิดปกติบริเวณเพดานหลังเเยกออก จากกัน
ซึ่งเกิดได้ในช่วงอายุครรภ์ 12 สัปดาห์
เพดานส่วนหลังเจริญเป็นเพดานเเข็งเเละเพดานอ่อนหลังต่อช่องโหว่หลังฟันคู่หน้า
อุบัติการณ์
ปากเหว่งอย่างเดียวอาจเป็นข้างเดียว ไม่มีเพดานโหว่
ปากเเหว่งสอง ร่วมเพดานโหว่ พบได้ประมาณ46%
เพดานโหว่อย่างเดียวพบประมาณ 33%
วินิจฉัย
สามารถตรวจได้เมื่ออายุครรภ์13-14สัปดาห์
การตรวจร่างกาย
การซักประวัติเพื่อหาสาเหตุทางพันธุกรรม
อาการและอาการแสดง
เกิดการสำลักเพราะไม่มีเพดานรองรับ เมื่อมีอาการกลืนอาหาร อาหาร เลื่อนตัวไปในจมูกทำให้อาหารเข้าเข้าทางหลอดลมพูดไม่ชัดเนื่องจาก เพดานปากเชื่อมติดกับเพดานจมูก
หายใจลำบาก
การดูดกลืนจะผิดปกติต้องใช้แรงมาก
อาจติดเชื้อในหูชั้นกลางทำให้มีปัญหาการได้ยินผิดปกติ
การรักษาปากเเหว่ง
การผ่าตัดอาจทำภายใน 48 ชม.หลังคลอดในรายที่เด็ก สมบูรณ์ดี หรือ รอตอนเด็กอายุอย่างน้อย8-12สัปดาห์
ระยะนี้เด็กมีริมฝีปากโตพอสมควร ทำให้การผ่าตัดได้ง่านเเละได้ผลดีกว่า
อาจใช้ กฎเกิน10 คือเด็กจะผ่าตัดเมื่ออายุ10วัปดาห์ขึ้นไปนำ้หนักตัว 10ปอนด์ ฮีโมโกลบิน10กรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
การผ่าตัดเเก้ไขเพดานโหว่ palatoplasty,palatotorrhaphy
แพทย์จะปรึกษาทันตกรรมเพื่อใส่เพดานเทียมเพื่อปิดเพดานช่องโหว่เพื่อให้ทารกดูดนมได้โดยไม่สำลัก
แพทย์จะผ่าตัดเพดานเพื่อให้พูดชัดขึ้นใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด
การผ่าตัดเเก้ไขเพดานโหว่
ผ่าตัดเเก้ไขจมูกจะทำเมื่ออายุ3ปี
อายุประมาณ5ปี ปรึกษาทันตเเพทย์จัดฟัน
เป็นการผ่าตัดที่หลงเหลืออยู่เพื่อให้ลักษณะริมฝีปาก จมูก และลักษณะช่องปาก ใกล้เคียงปกติที่สุด
ประเด็นคำถามที่ต้องการคำตอบ
1.ภาวะเเทรกซ้อนที่สำคัญของเด็กปากเหว่วเพดานโหว่ในระยะก่อนผ่าตัด คือเรื่องใด มีวิธีการป้องกันอย่างไร
เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจ/หูชั้นกลาง/การอุดกั้นทางเดินหายใจจากการสำลัก
วิธีการดูแล
ดูเเลให้นมอย่างถูกวิธี
รักษาความสะอาดช่องปาก
เตรียมลูกยางเเดงสำหรับดูดเสมหะไว้ข้างเตียง
สังเกตอาการ หายใจผิดปกติ ไอ มีไข้
ชั่งนำ้หนักทารกวันละครั้ง
ถ้านำ้หนักไม่ขึ้นได้รับนมไม่เพียงพอ รายงานเเพทย์เพื่อพิจารณาใส่สายให้อาหาร
2.การผ่าตัดปากแหว่งควรทำเมื่อใด/การผ่าตัดเพดานโหว่ควรทำเมื่อใด
การทำการผ่าตัดเด็กปากเเหว่งอาจทำใน48ชม.หลังคลอด ในรายที่เด็กสมบูรณ์ดีหรือรอเด็กที่มีอายุอย่าง น้อย8-12สัปดาห์ เพราะเด็กระยะนี้มีกายวิภาคของริมฝีปาก โตพอสมควรชัดเจน ทำให้การผ่าตัดทำได้ง่ายเเละผลดีกว่า
การทำการผ่าตัดเพดานโหว่ควรทำอายุ ประมาณ6-18เดือน สภาพร่างกายแข็งแรงไม่มี โรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน
3.หลังผ่าตัดการดูแลป้องกันแผลแยกทำอย่างไร
สอนผู้ดูเเลเกี่ยวกับการผูกยึดข้อศอก ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยล้วงมือเข้าในปาก
งดสายยางดูดเสมหะเข้าช่องปาก
ผูกยึดข้อศอกทั้งสองข้างไม่ให้งอ2-6สัปดาห์ คลายทุก1-2ชั่วโมง ครั้งละ10-15นาที
ไม่ให้ดูดนม1เดือนการให้นมโดยช้อน หลอดหยดsyringต่อยางเหลืองนิ่ม เเละป้อนนมอย่างระมัดระวัง
4.หลังการผ่าตัดควรนอนท่าใด
จัดท่ากึ่งนั่งกึ้งนอนหรือตะแคงหน้า
5.หลังผ่าตัดทารกจะดูดขวดนมได้เมื่อใด
ดูดนมได้เมื่อครบ 1 เดือนไปแล้ว
หลอดอาหารตีบรั่ว Esophageal stenosis / fistula /atresia
อาการเเละอาการเเสดง
นำ้ลายไหลมาก อาเจียน ไอ สำลัก เอาอาหารเเละเมือกเข้าสู่ทางเดินหายใจ
ผู้ป่วยอาจตายเนื่องจากขาดอาการ นำ้ เกลือเเร่ เเละการสำลัก
ส่วนใหญ่มีโรคหัวใจพิการเเต่กำเนิด ความผิดปกติของลำไส้เล็ก ไส้ตรง เเละรูทวาร
การรักษา
ระยะแรก
Gastrostomy
ระยะสอง
Thoracotomy and division of the fistula
with Esophageal anastomosis
Esophagogram
Try oral feeding
Off gastrostomy tube
การพยาบาลก่อนผ่าตัดเเก้ไขหลอดอาหาร
อาจเกิดภาวะปอดอักเสบหายใจลำบากหรือหยุดหายใจเนื่องจากสำลักนำ้ลายหรือนำ้ย่อยเข้าหลอดลม
จัดท่านอนให้เหมาะสม
ให้ออกซิเจนกรณีที่มีภาวะพร่องออกซิเจน
On NG tube ต่อ continuous suction
ให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
ผลิกตะเเคงตัวบ่อยๆ
อาจได้รับสารอาหารเเละสารนำ้ไม่เพียงพอ เนื่องจากไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้
ดูเเลให้สารนำ้ทางหลอดเลือดดำตามเเผนการรักษา
ดูเเลให้สารอาหาร นม นำ้ ทาง Gastrostomy tube
วินิจฉัยปัญหาเเละการพยาบาล
อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดต่อหลอดอาหาร(เเผลเเยก)
ห้ามใส่สาย NG tube หรือสาย suction ดูด เสมหะในคอเเละไม่ควรนอนเหยียดคอ เพราะอาจทำให้หลอดอาหารตึงเเละเเผลผ่าตัดเเยก
กระตุ้นให้เด็กร้องบ่อยๆเพื่อให้ปอดขยายได้ดี สังเกตภาวะขาดออกซิเจน
ดูเเลการให้การทำงานของ ICU มีประสิทธิภาพ
ดูเเลให้ได้รับสารนำ้ทางหลอดเลือดดำ,Antibiotic ตามเเผนการรักษา
การพยาบาลหลังผ่าตัด
อาจเกิดภาวะปอดเเฟบจากการอุดตันของท่อระบายทรวงอก
จัดท่านอนศีรษะสูง
ตรวจสอบการทำงานของ ICD
ระวังสายหัก พับ งอ นวดคลึงบ่อยๆ
บันทึกลักษณะสี จำนวนของ discharge
อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณเเผลผ่าตัดเเละเเผล Gastrostomy
ล้างมือก่อนเเละหลังให้การพยาบาล
ทำเเผลอย่างน้อยวันละ2ครั้ง
สังเกตอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อ
ดูแลให้ antibiotic ตามแผนการรักษาของแพทย์
ประเด็นคำถามที่ต้องการคำตอบ
1.อาการเเสดงที่บ่งชี้ว่าหลอดอาหารตีบคืออะไร
มีอาการนำ้ไหลมาก อาเจียน ไอ สำลัก เอาอาหารเเละเมือกเข้าสู่ทางเดินหายใจอาจพบอากาศในกระเพาะอาหาร
2.อาการแสดงที่บ่งชี้ว่าหลอดอาหารมีรูรั่วคืออะไร
มีอาการปวดทันทีทันใดเเละรุนเเรง อ่อนเพลีย อาเจียนเป็นเลือด กลืนลำบาก
3.การให้นม TE fistula ทำอย่างไร
จัดท่านอนให้ศีรษะสูง45องศาอย่างน้อย 30-60นาที, ล้างมือให้สะอาด
เตรียมอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมประกอบด้วยนมหรืออาหารปั่นเหลว กระบอกฉีดยาพร้อมลูกสูบ (ไซรินจ์) ขนาด 50CC สำหรับใส่อาหารหรือน้ำสะอาด
ขนาด 50CC สำหรับใส่อาหารหรือน้ำสะอาดนำกระบอก ฉีดยาต่อเข้ากับช่องให้อาหารตรงปลายสาย ตรวจสอบ ปริมาณอาหารที่เหลือค้างอยู่ในกระเพาะก่อนให้อาหารมื้อ ใหม่ ถ้าเหลือมากกว่า 50CC ให้เลื่อนเวลาให้อาหารไป 30 ถึง 60 นาที
เริ่มต้นให้อาหารโดยการปิดสายให้อาหารด้วยตัวหนีบ (Clamp) เพื่อป้องกันอาหารเก่าไหลย้อนออกมา
หลังจากนั้น เทอาหารเหลวใส่กระบอกโดยเอาแกนในออกในปริมาณที่ต้องการปลดตัวหนีบอาหารจะไหลเข้าไปในกระเพาะอาหาร
4.การดูเเล Gastrostomy ทำอย่างไร
การดูเเลเเผลรูเปิด
ในระยะ 1-2 สัปดาห์แรกหลังใส่สายสวนกระเพาะอาหาร ควรทําความสะอาดแผลรูเปิดทุกวันด้วยวิธีปราศจากเชื้อ โดยใช้ยาเช็ดแผล เบตาดีน (Betadine) หรือ 70% แอลกอฮอล์และปิดผ้าก๊อซปราศจากเชื้อ ควรปฏิบัติ ตามคําแนะนําของแพทย์หรือพยาบาลผู้ดูแลอย่างเคร่งครัด
ในระยะต่อมาเมื่อแผลแห้งดี ควรปฏิบัติดังนี้
ทําาความสะอาดแผลรูเปิดทุกวัน วันละ 1-2 ครั้งหลังอาบน้ําา
ทําความสะอาดแผลรูเปิดโดยใช้ไม้พันสําลีชุบน้ําเกลือ (normal saline) หรือน้ำต้มสุกควรเอาใจใส่แผลบริเวณใต้ เเป้นสายสวนให้สะอาด และเช็ดให้ เเห้ง(หากใช้นำ้เกลือควรเทแบ่งใส่ภาชนะสะอาด ครั้งละประมาณ 5-10 ซีซี)
ไม่มีความจำเป็นต้องปิดผ้าก๊อซหากแผลรูเปิดแห้งไม่มีเลือดหรือนำ้เหลืองซึม
โดยทั่วไปแผลแห้งดีสามารถอาบนำ้ได้ตามปกติ (ยกเว้นข้อห้ามจากเเพทย์)และควรทําาความสะอาดผิวหนังรอบๆ แผลด้วยสบู่และน้ําาสะอาด เช็ดให้แห้ง
หากบริเวณแผลรูเปิดมีอาการบวมแดง มีอาหารหรือของเหลวออกมาจากแผลรูเปิดควรรีบปรึกษาแพทย์
การดูเเลสายสวนกระเพาะอาหาร
1.ข้อควรระวังคือการอุดกั้นของสาย
การป้องกันคือ
ให้นํ้าหลังให้อาหารหรือนมทุกครั้งปริมาณอย่างน้อย 20-30 ซีซี (เด็กทารก 10-20 ซีซี) กรณีผู้ป่วยที่แพทย์จํากัดปริมาณน้ําดื่มควรปรึกษาแพทย์
ให้น้ําก่อนและหลังให้ยาทุกครั้ง
ควรให้น้ําอย่างน้อยทุก 4-6 ชั่วโมง กรณีที่ให้อาหารแบบหยดช้าๆ ต่อ เนื่อง หลายชั่วโมงและทุกครั้งที่หยุดเครื่องควบคุมอัตราการไหลของ อาหาร
ให้นำ้ทุกครั้งหลังจากตรวจสอบปริมาณอาหารที่เหลือในกระเพาะอาหาร โดยไม่ได้ให้อาหารหรือนมต่อถ้าสงสัยว่าสายอุดตันให้ลองใช้ กระบอกฉีดยาใส่น้ําอุ่นเข้าไปในสายแล้วค่อยๆ ล้าง
ทำความสะอาดสายสวนกระเพาะอาหารด้านนอกและข้อต่อด้วย สบู่เเละนำ้สะอาด หากมีคาบที่ฝาควรใช้นำ้อุ่นเช็ด
การหมุนสายสวนกระเพาะอาหาร 360 องศาทุกครั้งหลังให้อาหารเพื่อป้องกันเนื้อเยื่อรอบๆรูเปิดยึดติดกับสายสวนกระเพาะอาหาร
ไม่ควรหรือพับงอสายสวนกระเพาะนานเกินไปเพราะอาจทำให้สายแตกหักหรือพับงอหรืออุดตันได้
5.ระวังอย่าให้สายสวนแกว่งไปมามากเกินไปเพราะอาจทําให้แผลรูเปิดขยายใหญ่ขึ้นและเจ็บแผลได้
6.ควรหมั่นตรวจสอบตำเเหน่งของสายสวนว่าถูกต้องหรือไม่
Anorectal maformation
ความหมาย
เป็นความพิการตั้งแต่กำเนิด
เด็กไม่มีรูทวารหนักเปิดให้อุจจาระออกจากร่างกายได้
รูเปิดทวารหนักอยู่ผิดที่จากตำเเหน่งปกติหรือมีการตีบเเคบ
อุบัติการณ์
เกิดขึ้นในอัตราส่วน1ใน4000ของเด็กเกิดมีชีวิต
เด็กชายเป็นมากกว่าเด็กหญิง
เพศชายพบความผิดปกติของลำไส้ตรงกับท่อปัสสาวะ
เพศหญิงพบความผิดปกติในทวารหนักเป็นเเบบลำไส้ตรงมีรูทะลุกับเวสติบูลง
พยาธิสภาพ
ทารกมีอาการท้องผูก/ถ่ายลำบาก/หรือไม่ถ่ายอุจจาระ
ทารกเพศชายมีอาการถ่ายขี้เทาออกทางท่อปัสสาวะ
ทารกเพศหญิงถ่ายขี้เทาออกทางท่อปัสสาวะหรือทางช่องคลอด
ทำให้เกิดการติดเชื้อสู่ระบบทางเดินปัสสาวะหรือระบบสืบพันธุ์
ชนิดของความผิดปกติ
Anal stenosis รูทวารหนักตีบแคบ
Imperforate anal membraneมีเยื่อบางๆปิดกั้นรูทวารหนัก
Anal agenesis รูทวารหนักเปิดผิดที่
Low type
Intermediate type
High type
Rectal atresia ลำไส้ตรงตีบตัน
อาการเเละอาการเเสดง
ไม่มีการถ่ายขี้เทาภายใน24ชม.ถ้ายังไม่ถ่ายให้สงสัยว่าเกิดจากที่ลำไส้อุดตัน
ไม่พบรูเปิดทวารหนัก
ไม่มีเสียงเคลื่อนไหวของลำไส้
กระสับกระส่าย อึดอัด ไม่สบายตัว
เเน่นท้อง ท้องอืด, ปวดเบ่งอุจจาระ
ตรวจพบมีกากอาหารค้างอยู่ในระบบทางเดินอาหาร
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
การตรวจรังสีวินิจฉัย x ray เพื่อประเมินระดับลำไส้ตรง
CT scanตรวจดูกระดูก กล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน
MRI เพื่อดูความผิดปกติร่วมของไขสันหลังความผิดปกติร่วมของลักษณะกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
การรักษา
Low type
การถ่างขยายทวารหนักโดยใช้hegar metal dilatore ใช้เบอร์9-10mm.
การผ่าตัด anal membrane ออกในรายที่สังเกตเห็นขี้เทาทางทวารหนัก
การผ่าตัดตกแต่งทวารหนัก(anoplasty) เมื่อแผลผ่าตัดเรียบร้อยเเล้ว ประมาณ10วัน ถ่างขยายทวารหนักต่อ
Intermediate และ high
การทำทวารหนักเทียมทางหน้าท้องเพื่อบายอุจจาระออก (colostomy)
การผ่าตัดตกเเต่งทวารภายหลัง2สัปดาห์เเพทย์จะเริ่มถ่างขยายรูทวารหนัก
การพยาบาลในระยะขยายทวารหนัก
ให้ความรู้เเก่บิดามารดาเกี่ยวกับการดำเนินของโรค
สอนการดูแลในการถ่างขยายรูทวารหนัก
เเนะนำให้บิดามารดาให้อาหารตามวัยของเด็กที่มีประโยชน์
การพยาบาลหลังผ่าตัดเปิดcolostomy
สัปดาห์เเรกทำความสะอาดด้วยนำ้เกลือล้างเเผลเมื่อเเผลหายดีเเล้วให้ทำความสะอาดด้วยนำ้สะอาดซับผิวหนังรอบรูเปิดด้วยสำลีหรือผ้าสะอาดนิ่ม
เด็กที่มีอุจจาระทางทวารเทียมเลือกขนาดปากถุงให้ครอบปิดกระชับพอกับทวารเทียม
ถ้ารั่วซึมต้องเปลี่ยนถุงใหม่เเละสังเกตการรั่วทุก2ชม.
ทิ้งอุจจาระถ้ามีในถุงปริมาณ 1/4-1/3ของถุง
สังเกตอาการเปลี่ยนเเปลงของผิวหนังรอบๆทวารเทียม
เเนะนำอาหารย่อยง่ายมีโปรตีนสูง เเคลอรี่สูง กากใยมาก
สังเกตภาวะแทรกซ้อน เช่น เลือดออก ลำใส้ยื่นออกมา อุจจารมีกลิ่นเหม็น
สังเกตเเละบันทึกอุจจาระ
เเนะนำการมาตรวจตามนัด
การพยาบาลระยะก่อนเเละหลังผ่าตัดตกเเต่งทวารหนักAnoplasty
ทำความสะอาดบริเวณเเผลผ่าตัดรูทวารหนัก 8-10 วันตามเเผนการรักษา
หลังผ่าตัด3-4วันหลังถอดสายสวนปัสสาวะให้เเช่ก้นด้วยนำ้อุ่นกระตุ้น การไหลเวียน
ดูเเลทำความสะอาดผิวหนังบริเวณรอบๆทวารหนักด้วยนำ้ที่สะอาด
สังเกตการติดเชื้อเช่น มีไข้ ปวด บวม เเดง ร้อน
ให้คำเเนะนำเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
การถ่างขยายรูทวารหนักสม่ำเสมอเเนะนำเทียนไขเหลาเท่าขนาดhegar ถ่างขยาย
สอนทำความสะอาด
ให้ความรู้ป้องกันท้องผูก
ถ้าถ่ายอุจจาระเหลวให้ยาที่ทำให้อุจจาระเป็นก้อน
สังเกตการตีบเเคบของทวารหนัก
ฝึกการขับถ่ายฝึกกล้ามเนื้อที่ช่วยควบคุมการถ่ายอุจจาระ
การมาตรวจตามนัด
ปัญหาที่อาจจะพบได้หลังการผ่าตัด
ทวารหนักตีบจากกลไกการหดรั้งตัวของเเผล:การถ่างขยายการฝึกอุปนิสัย การขับถ่าย การให้ยา
ท้องผูก:การสวนล้างร่วมกับการใช้ยาระบาย
กลั้นอุจจาระไม่ได้: ฝึกฝนให้กลั้นอุจจาระเพื่อให้เด็กใช้กล้ามเนื้อที่มีอยู่อย่างเต็มที่
ประเด็นคำถามที่ต้องการคำตอบ
1.สังเกตการไม่มีรูทวารหนักหลังคลอดอย่างไร
ทารกมีอาการท้องผูก ถ่ายลำบาก หรือไม่ถ่าย มีอาการขี้เทาออกทางท่อปัสสาวะ
2.การดูเเล colstomy ทำอย่างไร
ทำความสะอาดด้วยนำ้เกลือเมื่อเเผลหายดีเเล้วให้ทำความสะอาดด้วยนำ้สะอาดซับผิวหนังรอบรูด้วยสำลีหรือผ้าสะอาด
เลือกขนาดปากถุงให้ครอบปิดกระชับพอดีกับขนาดทวารเทียมไม่เเน่นเกินไป
กรณีต้องเปลี่ยนถุงใหม่ให้สังเกตการรั่วซึมของอุจจาระทุก2ชม
ทิ้งอุจจาระถ้ามีปริมาณใน ถุง1/4-1/3ของถุง
สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบริเวณรอบๆ
3.อายุที่เหมาะสมในการฝึกการขับถ่าย
การฝึกขับถ่ายอุจจาระเมื่ออายุ18-24เดือนโดยนั่งกระโถน เช้า เย็น
หลังผ่าตัดรูทวารหนักป้องกันการตีบเเคบได้อย่างไร
การถ่างขยายรูทวารหนักหนักสม่ำเสมอและเเนะนำให้ใช้เทียนไขเหลา เท่าขนาดhegar ถ่างขยาย
5.วิธีฝึกการควบคุมกล้ามเนื้อช่วยในการขับถ่ายทำอย่างไร
ฝึกให้เด็กหนีบลูกบอล ออกกำกาย โดยการวิ่งหรือว่ายนำ้เพื่อพัฒนา กล้ามเนื้อข้างเคียง
การพยาบาลทารกที่มีความผิดปกติของผนังหน้าท้อง
Umbilical hernia
Umbilical cord hernia
Omphalocele
ผนังหน้าท้องพัฒนาไม่สมบูรณ์
ทำให้ช่องท้องไม่ปิดมีเยื่อบางๆของ peritoneum,wharton’s jelly, amnion หุ้มอวัยวะที่ออกนอกช่องท้อง
Gastroschisis
ผนังช่องท้องพัฒนาไม่สมบูรณ์
ไส้เลื่อนสะดือเเตกตอนทารกอยู่ในครรภ์ ลำไส้ กระเพาะทะลักออกนอก ช่องท้องทางรูด้านข้าง
สายสะดือไม่มีสิ่งห่อหุ้ม
การวินิจฉัย/อาการ/อาการเเสดง
ตรวจ ultrasound อายุครรภ์10สัปดาห์สามารถตรวจพบถุงmembrane
หลังคลอดพบผนังหน้าท้องมักจะอยู่ขวาต่อสายสะดือเป็นช่วงโหว่มีอวัยวะออกมา
เด็กอาจตัวเล็ก คลอดก่อนกำหนด
การไม่มีผนังหน้าท้องจะทำให้ลำไส้ปนเปื้อนความสกปรกจากภายนอก ทำให้ติดเชื้อ
อุณหภูมิร่างกายตำ่ ตัวเย็น จากนำ้ระเหยจากผิวของลำไส้ทำให้สูญเสียนำ้
อาจพบความผิดปกติร่วมด้วย เช่น malrotation intestinal atresia
การรักษา
ปิดผนังหน้าท้องลดภาวะแทรกซ้อนให้ทารกหายเร็วที่สุด
สำหรับ omphalocele ขนาดใหญ่ไม่มากอาจใช้ เเผ่น silastic ปิดทับถุง omphalocele พับด้วยผ้ายืด elastric wrapทำให้อวัยวะนอกช่องท้องถูกดันกลับ
การรักษาโดยการผ่าตัด
Primary closure เป็นกระปิดหน้าท้องตั้งแต่ระยะแรกโดยการดันลำไส้กลับไปในช่องท้องแล้วเย็บผนังหน้าท้อง
Staged closure ในกรณีที่ดันกลับเข้าไปในช่องท้องทำให้ผนังหน้าท้องตึงไม่สามารถเย็บปิด fascia ได้หรือเย็บปิดแล้วทำให้ช่องท้องเเน่นมาก
การพยาบาลระยะก่อนผ่าตัด
Keep warm อาจเป็น radiant warwer หรือไว้ใน incubator
ระวัง contaminate ต้องใช้ sterile techniqe
พยายามปั้นประคองกระจุกลำไส้ให้ตั้งโดยใช้ผ้า gauze ม้วนพันประคอง ไว้ไม่ให้ล้มพับ
ดูเเลให้สารนำ้ทางหลอดเลือดดำตามเเผนการรักษา
ดูเเลให้ systemic antibiotics ตามเเผนการรักษา
การพยาบาลในขณะรอการผ่าตัดเย็บปิดผนังหน้าท้อง
Keep warm เป็น radiant warwer หรือไว้ใน incubator
ประคองลำไส้ไม่ให้พับตกลงมาข้างตัว
นอนตะเเคงเพื่อลดโอกาสที่เลือดจะมาเลี้ยงลำไส้ไม่สะดวก
ดูเเลให้ได้รับสารนำ้ทางหลอดเลือดดำเนื่องจากมีการสูญเสียนำ้จากการไม่มีผนังหุ้ม
การรักษาในระยะหลังผ่าตัด
ดูเเลให้เด็กได้รับเครื่องช่วยหายใจประมาณ24-48ชม.
ดูเเลให้ได้รับสารนำ้เเละสารอาหารตามเเผนการรักษา
ติดตามการทำงานของลำไส้ฟัง bowl sound
สังเกตอาการระวังเกิด abdominal compartment syndrome: ท้องอืดรุนเเรง ปัสสาวะออกน้อย central venous pressure สูงขึ้น ความดันในช่องอกสูงขึ้น
การดูเเลเพื่อลดเเรงดันในช่องท้อง
ให้ยาระงับอาการปวดที่เหมาะสม
จัดท่าผู้ป่วยนอนราบศีรษะสูงไม่เกิน 30 องศา
ใส่สายสวนอาหารเเละลำไส้ใหญ่
ได้รับยาขับปัสสาวะ/ยากระตุ้นการทำงานของลำไส้
ฟอกไตเพื่อดึงนำ้ออกจากร่างกาย
การใส่สายระบายในช่องท้อง
ประเด็นคำถามที่ต้องการคำตอบ
1.Gastroshisis กับ Omphalocele เเตกต่างกันอย่างไร
Gastroshiss คือไส้เลื่อนสะดื้อเเตกตอนอยู่ในครรภ์ ลำไส้ กระเพาะทะลักออกนอกช่องท้องทางรูด้านข้าง สายสะดือไม่มีสิ่งห่อหุ้ม ส่วนOmphalocele คือช่วงท้องไม่ปิด
มีเยื่อบางๆของ peritoneum,wharton’s jelly,amnion หุ้มอวัยวะที่ออกนอกช่องท้อง
2.เด็กดูเเลในระยะดันลำไส้กลับไปในช่องท้องเด็กต้องจัดท่านอนอย่างไร เพราะเหตุใด
นอนตะเเคงข้างเพื่อลดโอกาสที่เลือดจะมาเลี้ยงลำไส้ไม่สะดวก
3.การฟัง bowl sound หลังผ่าตัดปิดหน้าท้องเด็กมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
ติดตามฟังการทำงานของลำไส้
4.ภาวะเเทรกซ้อนหลังผ่าตัดปิดหน้าท้องเด็กต้องระวังภาวะใดมีอาการ เเละอาการเเสดงอย่างไร
ต้องระวังภาวะabdominal compartment syndrome
ให้ยาระงับปวด
จัดท่าผู้ป่วยให้นอนราบศีรษะสูงไม่เกิน 30 องศา
ใส่สายสวนกระเพาะอาหารเเละลำไส้
ได้รับยาขับปัสสาวะ/ยากระตุ้นการทำงานของลำไส้
ฟอกไตเพื่อดึงนำ้ออกจากร่างกาย
การใส่สายระบายในช่องท้อง(Percutaneous catheter drainage)
รูเปิดท่อปัสสาวะตำ่กว่า ปกติhypospadias
รูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ด้านบน epispadias
อาจพบร่วมกับความผิดปกติอิ่นๆเช่นexstrophy of urinary bladder , absence of prostate gland
ผลกระทบ
ปัสสาวะไม่พุ่งเป็นลำไปข้างหน้าเเต่กลับไหลพุ่งตามถุงอัณฑะหรือด้าน หน้าของต้นขา
องคชาตคดงอเมื่อมีการเเข็งตัว
องคชาตเเตกต่างจากปกติทำให้สูญเสียความมั่นใจ
การเเบ่งความผิดปกติของรูเปิดท่อปัสสาวะ
Anterior or distal or mild
รูปิดท่อปัสสาวะเปิดทางด้านหน้าหรือบริเวณส่วนปลายขององคชาตมีรูตำ่กว่าปกติเพียงเล็กน่อย
Middle or moderate
รูปิดท่อปัสสาวะอยู่กลางองคชาต
Posterior or proximal or severe
รูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ที่ใต้องคชาตบริเวณ peniscrotal,scrotal ,perineal
การรักษา
เด็กที่มีรูเปิดท่อปัสสาวะตำ่กว่าปกติเพียงเล็กน้อยไม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด
การผ่าตัด
เด็กที่มีท่อปัสสาวะตำ่กว่าปกติเวลาถ่ายปัสสาวะไม่พุ่งตรง
เด็กที่มีความผิดปกติมากต้องได้รับการรักษาผ่าตัดตกเเต่งท่อปัสสาวะ เพื่อให้รูเปิดปัสสาวะอยู่ในตำเเหน่งปกติ
การผ่าตัดเเก้ไขรูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ตำ่กว่าปกติ
1.ผ่าตัดเเบบขั้นตอนเดียว one- stage repair
เป็นการผ่าตัดองคชาตยืดตรง
ตกเเต่งท่อปัสสาวะทำรูเปิด
2.ผ่าตัดเเบบ 2 ขั้นตอน two-stage repair
ขั้นที่1 orthoplasty ผ่าตัดเเก้ไของคชาตโค่งงอโดยการตัดเนื้อเยื่อที่ดึงรั้ง
ขั้นที่2 urethoplasty หลังผ่าตัด orthoplasty เเล้ว 6 เดือนเพื่อให้เนื้อเยื่ออ่อนนุ่มจึงจะผ่านัดขั้นตอนฝนของการตกเเต่งท่อปัสสาวะโดยการทำรูเปิดให้ปลายองคชาต
ภาวะแทรกซ้อน
เลือดออก
เกิดการตีบตันของรูเปิดท่อปัสสาวะ
รูตรงบริเวณรอยต่อระหว่างรูเปิดท่อปัสสาวะเก่ากับท่อปัสสาวะที่สร้างใหม่เเก้ไขโดยการเย็บปิดรูที่เกิดขึ้นซึ่งมักทำหลังผ่าตัดครั้งเเรก 6-12 เดือน
องคชาตโค่งงอเเก้ไขด้วยการผ่าตัด
เกิดการติดเชื้อ
การพยาบาลก่อนการผ่าตัด
อธิบายขั้นตอนเตรียมการก่อนผ่าตัด
ประเมินความวิตกกังวล
ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆเช่นผลของการผ่าตัด การได้รับยา ระงับความรู้สึก ความรู้สึกหลังผ่าตัด
การพยาบาลหลังผ่าตัด
จัดให้นอนในท่าที่สบายยึดสายที่ต่อ จากuretra ให้อยู่บริเวณหน้าท้อง หรือหน้าขา
ประเมินอาหารปวดเเละให้ยาลดปวดตามเเผนการรักษา
เก็บปัสสาวะส่งตรวจเพาะเชื้อตามเเผนการรักษา
ใช้เทคนิคปลอดภัยในการทำเเผลเเละการเทปัสสาวะออกจากถุง
ประเมินบริเวณสาย cystostom ไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
ให้ผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิดและอธิบายให้เข้าใจถึงสภาพเด็กที่มีเเผลหลังผ่าตัด
คำเเนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
ผู้ปกครองกระตุ้นให้เด็กดื่มนำ้มากๆ
ห้ามเด็กเล่นทราย ขี่จักรยานหรือนั่งคร่อมของเล่น ว่ายนำ้หรือเล่นกิจกรรมที่รุนเเรง
ดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้เปียก ทำความสะอาดร่างกายด้วยการเช็ดตัว
เเนะนำให้ผู้ปกครองทราบวิธีการดูเเลทำความสะอาดองคชาตที่คาสายปัสสาวะ
ทำความสะอาดให้เด็กภายหลังการถ่ายอุจจาระทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ภายหลังการเอาสายสวนปัสสาวะออกให้สังเกตปริมาณปัสสาวะ ลักษณะการถ่ายปัสสาวะเป็นลำพุ่งดีหรือไม่
อธิบายให้เด็กเเละผู้ปกครองเข้าใจถึงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น ลักษณะขององคชาตยังโค่งงอหรือไม่ มีปัสสาวะออกตรงบริเวณรอบของท่อปัสสาวะที่สร้างใหม่หรือไม่
อธิบายให้เด็กผู้ปกครองเข้าใจถึงความสำคัญในการมาพบเเพทย์ตามนัด
ประเด็นคำถามที่ต้องการคำตอบ
1.การรักษา hypospadiaโดยการผ่าตัดควรทำเมื่อใดเพราะเหตุใด
ควรทำเมื่อเด็กอยู่ในช่วงอายุ6-18เดือนเเต่ไม่ควรเกิน 2 ปีเนื่องจากเด็กเริ่มเรียนรู้เรื่องเพศหากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้มีผลต่อการพัฒนาทางด้านจิตใจ
2.ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดมีอะไรบ้าง
มีเลือดออก เกิดการตีบตันของรูเปิด ท่อปัสสาวะ มีรูตรงบริเวณรอยต่อ ระหว่างรูเปิดท่อปัสสาวะเก่ากับท่อปัสสาวะที่สร้างใหม่ องคชาตโค่งงอ เกิดการติดเชื้อ
3.คำเเนะนำในการดูเเลหลังผ่านัดเมื่อกลับไปอยู่บ้านทำอย่างไร
ให้เด็กดื่มนำ้มากๆทุกวัน
ห้ามเด็กเล่นทราย ขี่จักรยานหรือนั่งคร่อม ว่ายนำ้หรือเล่นกิจกรรมที่รุน เเรง
ดูเเลแผลผ่าตัดไม่ให้เปียก ทำความสะอาดร่างกายด้วยการเช็ดตัว
เเนะนำสาธิตให้ผู้ปกครองทราบถึงวิธีการดูเเลทำความสะอาดองคชาตที่ คาสายสวนปัสสาวะ