Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสภาพระบบสืบพันธุ์ โรคระบบสืบพันธ์ - Coggle Diagram
พยาธิสภาพระบบสืบพันธุ์
โรคระบบสืบพันธ์
Male repproductive organ
Eeternal genital organ
-Scrotal sac
ถุงอัณฑะทำหน้าที่ปรับอุณหภูมิของอัณฑะให้คงที่
-Penis
เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของน้ำปัสสาวะและน้ำอสุจิ
Internal genital organ
-Testis
อัณฑะเป็นอวัยวะที่เคลื่อนไหวได้อยู่ในถุงอัณฑะ
-Epididymis
หลอดเก็บตัวอสุจิ อยู่ด้านบนของอัณฑะ มีลักษณะเป็นท่อเล็ก ๆ ขดไปมาเพื่อเก็บและพักตัวอสุจิให้เติบโต หากนำมายืดเป็นเส้นจะได้ขนาดยาวประมาณ 6 เมตร
-Ejaculartory ducts
ท่อฉีดอสุจิ เป็นท่อที่เกิดจากการรวมตัวกันเป็น ท่อเดียวของท่อนำอสุจิ 2 ท่อ ซึ่งมาจากอัณฑะทั้งสองข้างมี หน้าที่ขับน้ำอสุจิส่งต่อไปยังอวัยวะนำส่งอสุจิสู่ภายนอก
-Seminal Vesicles
ต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ ทำหน้าที่สร้างอาหารสำหรับอสุจิ เนื่องจากเซลล์เหล่านี้ไม่ได้รับสารอาหารจากเลือดเหมือนกับเซลล์อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย โดยอาหารสำหรับอสุจิประกอบไปด้วย น้ำตาลฟรักโทส
-Prostste gland
ต่อมลูกหมาก
-Bulbourethral's gland
ทำหน้าที่หล่อลื่นและลดความเป็นกรดภายในท่อปัสสาวะของผู้ชายและในช่องคลอดของผู้หญิง
Spermatogenesis
แสดงท่อ seminaiferous tubules ที่ผลิต sperm ภายในอัณฑะ spermจะเจริญเป็นชั้นๆโดยเริ่มจาก spermatogonium เจริญเป็น primary spermatocyte เซลล์นี้จะแบ่งแบบ meiosis I กลายเป็น seccondary spermatocyte 2 เซลล์ในการแบ่งตัว meiosis ll จะได้ spermatid และจะเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นsperm ในขณะที่ได้สารอาหารจาก sertori cell
อวัยวะสืบพันธ์เพศหญิง
รังไข่ (Ovary)
เป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง มีอยู่ 2 ข้างในช่องท้องน้อยทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ สร้างไข่ และสร้างฮอร์โมนเพศหญิง ไข่ใบที่สุกเต็มที่แล้ว จะหลุดออกมาจากรังไข่ เรียกว่า การตกไข่ (Ovulation) ซึ่งถูกควบคุมและกระตุ้นโดยฮอร์โมน LH และ FSH จากต่อมใต้สมอง รังไข่จะสร้างฮอร์โมนโพรเจสเตอโรน
ท่อนำไข่ (Oviduct)
เป็นท่อซึ่งด้านหนึ่งติดกับมดลูกอีกด้านหนึ่งอิสระอยู่ใกล้ๆ รังไข่ เป็นทางผ่านของไข่และอสุจิ ซึ่ง จะพบกันประมาณ 1 ใน 3 ของท่อนำไข่
ช่องคลอด (Vagina)
อยู่ระหว่างทวารหนัก กับปากท่อปัสสาวะผนังด้านในมีเยื่อเมือกบุอยู่ ยืดหดได้ดี ที่ปากช่องคลอดมีกล้ามเนื้อหูรูสามารถบังคับได้
มดลูก (Uterus)
มีขนาดกว้าง 2 นิ้ว ยาว 3 นิ้ว และหนา 1 นิ้ว อยู่ในช่องท้องน้อย ผนังยืดหดได้มากเป็นพิเศษ และขยายตัวได้มากในเวลาตั้งครรภ์
Support of ovary
Suspensory ligament
เป็น ligament ที่ยึดระหว่าง ovary และ diaphragm
Ovaryian ligament
เป็น ligament ที่ยึดระหว่าง ovary กับ ส่วนปลายสุดของ uterine horn
เป็นส่วนหนึ่งของ broad ligament แบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ
Proximal part จะยึดจาก abdominal wall ไปจนถึง mesosalpinx (เยื่อยึดรังไข่) และ distal part จะยึดจาก mesosalpinx ไปจนถึง ovary
การพัฒนาของไข่ (Oogenesis)
ความผิดปกติที่พบใน Testis และ Epididymis
ความผิดปกติ Penis
Hypospadias
รูเปิดของ Urethra มาเปิด ที่ส่วนล่างของPenis อาจพบรูเปิดได้ที่ใดที่หนึ่งตลอดส่วนล่างของPenisตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงบริเวณ Perineum
Epispadias
เป็นความผิดปกติที่รูเปิด Urethra ไปเปิดที่ด้านบนของ Penis อาจพบร่วมกับความผิดปกติอื่นๆ
Phimosis(ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ)
เป็นความผิดปกติของส่วนปลายหนังหุ้มองคชาตมีรูเปิดเล็กเกินไปผิวหนังบริเวณปลายองคชาตหดตัวไม่สามารถดึงให้เปิดได้เหมือนปกติ สาเหตุ จะเป็นมาแต่กำเนิดบริเวณหนังหุ้ม penis คลุมอยู่จะสกปรกเป็นที่สะสมสิ่งขับถ่ายและเกิดการติดเชื้อ การเกิดภายหลังจะมีสาเหตุมาจากการอักเสบหรือความบอบช้ำของหนังหุ้มทำให้บริเวณรูเปิดเกิดการบวมน้ำและเป็นผลทำให้รูเปิดตีบลง
Venereal disease
เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือโรค STD ติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์อาจเรียกว่ากามโรคหรือวีดี ติดต่อการร่วมเพศทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปาก กับผู้ที่มีเชื้อ หรือติดจากสารคัดหลั่ง ทางเลือด เชื้อที่ทำให้เกิดคือ แบคทีเรีย เช่น แผลริมอ่อน หรือ หนองใน เชื้อปรสิต เชื้อรา
Balanitis
เป็นการอักเสบของปลายอวัยวะเพศชาย เกิดขึ้นทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศหรือมีสุขอนามัยไม่ดีทำให้มีอาการบวมอักเสบเกิดขึ้นที่ปลายอวัยวะเพศ
สาเหตุจากการรักษาความสะอาดไม่ดีหรืออาจมรการติดเชื้อของยีสต์แคนดิดา โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การแพ้ละคายเคือง อาการที่พบคือ มีอาการแดง เจ็บ คัน ระคายเคืองบางส่วนของปลายอวัยวะเพศ เจ็บขณะปัสสาวะ มีหนองหรือน้ำสีเหลืองข้นไหลออกมาจากปลายอวัยวะเพศ มีกลิ่นเหม็น ถ้ามีอาการรุนแรงอาจไม่สามาถร้นหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศขึ้นและลงได้ตามปกติ
ความผิดปกติ Urethra
Urethritis
การบาดเจ็บ อักเสบ บวม ของเซลล์เยื่อเมือกบุท่อปัสสาวะเกิดได้จากหลายสาเหตุ พบบ่อยที่สุด คือ จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะจากเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุมาจาก โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม การติดเชื่อที่ไม่ใช่จากทางเพศสัมพันธ์ เช่น E.coli ,Staphylococcus,pseudomonas ติดต่อ่านทางลำไส้ หรือทางๆต หรือ กระเพาะปัสสาวะ
Urethral stricture
เกิดเนื้อเยื่อพังผืดในท่อปัสสาวะหรืออยู่โดยรอบท่อปัสสาวะทำให้เกิดการอุดกั้นของน้ำปัสสาวะซึ่งต่อมาจะเกิดการอักเสบและการติดเชื้อตามมาภายหลัง สาเหตุ มาจากอุบัติเหตุและอันตรายต่อท่อปัสสาวะ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะหนองใน การใส่สายสวนปัสสาวะ เกิดภายหลังการผ่าตัดต่อมลูกหมากหารผ่าตัดนิ่วไนไต
ความผิดปกติที่พบ Epididymis
Crytorchidism
เป็นภาวะที่ testis ไม่เคลื่อนหรือเคลื่อนลงมาใน scrotal sac ไม่สมบูรณ์ ไม่ทราบสาเหตุของการเกิด พบว่า testis มี atrophy ทำให้เป็นหมัน นอกจากนั้นยังมีโอกาสเป็นมะเร็งชองอัณฑะได้สูงกว่าคนปกติ
varicocelo (หลอดเลือดอัณฑะขอด)
เป็นกลุ่มของหลอดเลือดดำของอัณฑะเกิดการพองตัวหรือขอดพบถุงอัณฑะข้างหนึ่งโต หรือ มีอาการปวดหน่วงๆที่อัณฑะข้างหนึ่งเป็นครั้งคราวเป็นภาวะที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่อาจทำให้มีลูกยาก สาเหตุมาจากเกิดการเสื่อมของลิ้นในหลอดเลือดดำที่มีหน้าที่ช่วยในการไหลเวียนของเลือดจากอัณฑะและถุงอัณฑะให้ไหลกลับสู่หัวใจผิดปกติ หรือ ล้มเหลว เมื่อเลือดดำกลับเข้าสู่หัวใจได้น้อยหรือไม่ได้เลือดจึงคั่งส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพอง อัณฑะขยายใหญ่ขึ้น
Hydrocele
เป็นปกติเนื่องจากการคั่งของน้ำใน tunica vaginalis
Epididymitis
ส่วนใหญ่มักเกิดจากเชื้อโรคหนองใน ผลตามมาคือการอุดกั้นทางเดินของ sperm ทำให้เป็นหมันได้
Acute orchitis
สาเหตุการอักเสบของลูกอัรฑะ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น เด็กมักจะพบชนิด gram-negative bacili ผู้ใหญ่มักเกิดจากเชื้อ Chlamydia trachomatis และ Nessersia gonorrhoeae ผู้สูงอายุ มักเกิดชนิด E.coli และ Pseudomonas ssp.นอกจากนี้ อาจเป็นผลมาจากโรคติดเชื้อในร่างกายบางชนิด เช่น คางทูม
พยาธิสภาพ
พบลูกอัณฑะบวมโต หลอดเลือดที่อวัยวะและบริเวณใกล้เคียงขยายใหญ่ และ มีเลือดคั่ง เซลล์อักเสบจำพวก neutrophils,macrophages และ lymphocytes พบกระจัดกระจายทั่วไปและแทรกเข้าไปตามเนื้อเยื่อของอวัยวะเอพิดิไดมิสและลามเข้าไปในเนื้อเยื่อของลูกอัณฑะโดยเฉพาะเข้าไปในหลอดสร้างอสุจิทำให้บริเวณระหว่างเนื้อเยื่อของมดลูกอัณฑะเกิดบวมน้ำ ในกรณีการอักเสบรุนแรง ทำให้เกิดเป็นฝีหนอง
ความผิดปกติที่พบ Prostate gland
ต่อมลูกหมากอักเสบ (Prostatitis)
อาจเป็นเฉพาะส่วน หรือ ทั้งต่อม มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยเกิดร่วมกับการอักเสบของ urethra และ กระเพาะปัสสาวะ หรือเกิดจากการใส่เครื่องมือเพื่อตรวจ Urethra
Acute prostatitis สาเหตุจากการติดเชื้อที่มาจากการอักเสบของทางเดินปัสสาวะส่วนปลายหรือของกระเพาะปัสสาวะ
พยาธิสภาพ
ต่อมลูกหมากส่วนใหญ่มักจะโต นุ่ม และ บวมน้ำ หรือมี เลือดคั่ง พบหย่อมหนองกระจายทั่วไปในต่อมลูกหมาก พบเซลล์อักเสบชนิดเฉียบพลันทั่วไปในต่อมลูกหมาก ต่อมลูกหมาก ผลิตน้ำเมือกเพิ่มมากว่าปกติ ทำให้ภายนต่อมขยายใหญ่ขึ้น
Chronic prostatitis
พบค่อนข้างบ่อย ส่วนมากพบในผู้ป่วยสูงอายุ สาเหตุมาจากการติดเชื้อเช่นเดียวกับที่พบในการอักเสบชนิดเฉียบพลัน ผู้ป่วยมรอาการเรื้อรัง เช่น ปวดหลัง บริเวณบั้นเอว ปวดบริเวณหัวเหน่า และ ถ่ายปัสสาวะ
ต่อมลูกหมากโต
พบในชายตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เป็นความผิดปกติที่มีความเจริญทั้งขนาดและจำนวนของเซลล์ต่อมลูกหมากมากกว่าปกติ ทำให้ขนาดของต่อมลูกหมากโตขึ้น ตำแหน่งของต่อมลูกหมากอยู่รอบๆท่อปัสสาวะ ก็จะมีการบีบรัดท่อปัสสาวะให้ตีบ แบน และ ยาว ทำให้เกิดการอุดกั้นบริเวณท่อทางเดินปัสสาวะ เป็นผลให้ปัสสาวะไหลไม่สะดวก
ความผิดปกติของฮอร์โมน
Dysfunction uterine bleeding
เป็นภาวะเลือดออกผิดปกติจากมดลูก
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ
ปกติ endometrium จะมีการเปลี่ยนแปลงตามอิทธิพลของฮอร์โมน estrogen และ progesterone ถ้าเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมนเนื่องจากไม่มีการตกไข่ทำให้ไม่มี progesterone ออกมา มีแต่ estrogen อย่างเดียว เยื่อโพรงมดลูกจะไม่เปลี่ยนเป็น secretory endomrtrium
Endrometrium หนาตัวมากขึ้นจนถึงระดับหนึ่งซึ่งกำลังที่ estrogen จะช่วยให้เจริญต่อไปได้ เยื่อบุบางส่วนจะหลุดลอกและมีเลือดออกกระปริกระปรอย
Abortion
การสิ้นสุดการตั้งครรภ์ก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ หรือ ก่อนที่ทารกในครรภ์จะมีน้ำหนักตัวเกิน 500 กรัม สาเหตุมาจากความผิดปกติของโครโมโซม เช่น ดาวน์ซินโดรม และที่พบบ่อยคือ trisomy ที่ 13 16 18 หรืออาจเกิดจากมารดามีการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์ มีความผิดปกติของการทำงานของต่อมไร้ท่อ เช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ หรืออาจจะเกิดจากภาวะขาดฮอร์โมน progesterone หรือ ภาวะ luteal phase defect เป็นภาวะที่มีการสร้าง progesterone จาก corpus luteum น้อยลง ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่แข็งแรง หรือ อาจทำให้มีการสลายตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก จึงมีผลต่อการฝังตัวของทารก หรือ อาจจะเกิดจากภาวะพร่องโภชนาการ การสูบบุหรี่ อาจทำให้ทารกเกิดความพิการ หรือแท้งได้
การแท้งเอง (Spontaneous sbortion)
-การแท้งที่หลีกเหลี่ยงไม่ได้ (Inevitable abortion)
ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูกและมีการเปิดขยายของปากมดลูกร่วมด้วยโดยที่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมา
-การแท้งครบ (Complete abortion)
ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูกและผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์ทั้งหมดหลุดออกมา ได้แก่ ถุงน้ำคร่ำ น้ำคร่ำ รก และทารก หลังจากนั้นปากมดลูกจะถูกปิด
-การแท้งไม่ครบ (Incomplete abortion)
ภาวะที่มีเลือดและผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมาบางส่วนแลพปากมดลูกจะเปิดอยู่ เนื่องมาจาก ผลิตภัณฑ์ จากการตั้งครรภ์ยังออกมาไม่ครบ
การแท้งคุกคาม (Threatened abortion)
ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูก แต่ปาดมดลูกปิดอยู่ การตั้งครรภ์ยังดำเนินต่อไปได้โดยทารกมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากไม่มีผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมา
การแท้งค้าง (Missed Abortion)
ภาวะที่ทารกเสียชีวิตอยู่ในครรภ์เป็นเวลาหลายวัน โดยที่ปากมดลูกปิดอยู่ไม่มีผลิตภัณฑ์ของการท้องหลุดออกมา ภาวะนี้อาจจะส่งผลให้แม่ติดเชื้อในกระแสเลือดเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ความผิดปกติที่เป็นมาแต่กำเนิดของอวัยวะสืบพันธ์ุเพศหญิง
Lmperforate hymen
เยื่อพรหมจารีไม่เปิดเมื่อถึงวัยมีประจำเดือน เลือดจะไม่มีทางออก ทำให้เลือดคั่งค้างอยู่ในช่องคลอดและในโพรงมดลูก
Lncomplete fusion of mullerian's duct
ปกติแล้วอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงพัฒนามาจาก mullerian's duct 2 ข้างมารวมกันตรงกลาง ถ้ามันไม่สมบูรณ์ก็จะเกิดความผิดปกติ เช่น Septum vagina, double vagina เป็นต้น
Turner's syndrome
ผิดปกติจากขาดโครโมโซม x ไป 1 ตัว อาการก็จะมีการพัฒนาทางเพศน้อย ไม่มีรังไข่ ทำให้เตี้ย เป็นหมัน หน้าอกกระดูกอกกว้างแบน ไม่มีประจำเดือน ระดับสติปัญญาต่ำ
Trauma
การถูกกระแทก มกพบที่บริเวณ vulva การร่วมเพศ เช่น การร่วมเพศครั้งแรกหรือมีการร่วมเพศอย่างรุนแรงอาจพบรอยฉีกขาดที่ hymen หรือที่ผนังช่องคลอด หรือ การคลอด อาจทำให้เกิดรอยฉีกขาดของช่องทางคลอดได้ เช่นที่ปากมดลูก การฉีกขาดแบบนี้จะมีเลือดออกและจะได้รับการเย็บรอยฉีกขาดหลังจากคลอดเสร็จ ผลที่ตามมา ทำให้เกิดภาวะกระบังลมหย่อน ผนังด้านหน้าช่องคลอดหย่อนจนกระเพาะปัสสาวะโป่งเข้ามาในช่องคลอดเรียกว่า Cystocle ผนังด้านหลังหย่อนจน rectum โป่งเข้ามาในช่องคลอดเรียกว่า rectocle หรือปากมดลูกเคลื่อนต่ำลงมาจากตำแหน่งปกติเรียกว่า Descensus cervicis
การอักเสบ Inflammation
การอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
Neisseria gonorrhea
ติดต่อทางการร่วมเพศ อาการแทรกซ้อน เชื้ออาจจะลุกลามเข้า Bartholin gland ที่แคมใหญ่เกิดการอักเสบ หรือ เป็นฝี อาจทำให้มดลูกอักเสบถ้าเชื้อลุกลามมากๆ จะทำให้เกิดเยื่อบุโพรงมดลูกอละท่อนำไข่อักเสบ ถ้าเชื้อกระจายมากขึ้นก็จะทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุอุ้งเชิงกราน หรือกระจายไปทั่วช่องท้อง
Syphilis เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค Treponema pallidum ติอต่อทางการร่วมเพศ เชื้อเข้าทางรอยถลอกหรือบาดแผลเล็กๆหรืออาจไชเข้าเยื่อบุผิวของท่อปัสสาวะ ทวารหนัก ช่องคลอด ช่องปาก ซิฟิลิสสามารถรักษาให้หายขาดได้แต่ถ้าปล่อยไว้นานจะแสดงอาการที่หลากหลายต่อร่างกาย เช่น ทางตา ผิวหนัง กระดูก หัวใจและหลอดเลือด ถ้าสตรีตั้งครรภ์เป็นโรคนี้มีโอกาสแพร่เชื้อเข้าสู่ทารกได้ทำให้ทารกเป็รโรคนี้ตั้งแต่แรกเกิด พยาธิกำเนิด มีทั้งหมด 3 ระยะ 1. ระยะเป็นแผล 2.ระยะเข้าข้อออกดอก 3.ระยะทำลาย
Chancroid
หรือ แผลริมอ่อน เชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดคือ Hemophilus ducreyi เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ติดต่อได้ง่ายและรักษาให้หายขาดได้ โรคนี้ทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศ และต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตบางครั้งอาจมีหนองไหลออกมาเรียกว่าฝีมะม่วง หากไม่รักษาจะเป็น สาเหตุให้เกิดการติดเชื้อ HIV ได้ง่าย เชื้ออื่นๆก็อาจทำให้เกิดการอักเสบตามตำแหน่งได้
การอักเสบจากไวรัส
Herpes simplex virus
ต่อทางการร่วมเพศ รอยโรคเป็นตุ่มใสและแตกเป็นแผลที่ปากช่องคลอด จะเป็นๆหายๆ อาจติดต่อไปยังทารกในครรภ์ได้โดยเฉพาะขณะคลอดถ้าเด็กติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
Human papilloma virus (HPV) ทำให้เกิดรอยโรค Condyloma acuminatum ได้ทั้งที่บริเวณปากช่องคลอด ช่องคลอด ปากมดลูก มัลักษณะขรุขระคล้ายหงอนไก่บางชนิดมีความสัมพันธ์กับ precancerous lesion
การอักเสบจากเชื้อรา
-Candida albican
ทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุปากช่องคลอดและช่องคลอดเรียกว่า candidiasis เยื่อบุจะมีสีแดงระดูขาวจับตัวกันเป็นก้อนและคัน
-Dermatophytes ทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนังบริเวณผิวหนังปากช่องคลอดและมักเป็นที่บริเวณขาหนีบด้วยเรียกว่า Tinea cruris
การอักเสบจากปรสิต
-Trichomonas vaginalis
ทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุช่องคลอดผู้ป่วยจะมีระดูขาว เป็นน้ำสีเหลืองอมเขียวและคันปากช่องคลอด
โรคหรือความผิดปกติที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอด
Ectopic prenancy
ภาวะที่การตั้งครรภ์ที่ตำแหน่งอื่นนอกจากโพรงมดลูก สาเหตุมีการขัดขวางการเดินทางของ Ovum ที่ถูกผสมด้วย sperm แล้ว ไม่ให้มาถึงโพรงมดลูกที่พบบ่อยได้แก่ Tubal pregnancy เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ทำให้เกิด ruptured tubal pregnancy
Hypertensive disorders in pregnancy
ภาวะที่มีความดันโลหิตสูงในระหว่างการท้องมักมีการบวม อาจมีไข่ขาวในปัสสาวะร่วมด้วย รวมเรียกว่า Toxemia of pregnancy
Morar pregnancy เ
กิดจากความผิดปกติของรก Chorionic villi จะบวม เห็นเป็นถุงน้ำใส จำนวนมาก ขนาดต่างกัน คล้ายไข่ปลาอุก สาเหตุมาจากความผิดปกติหลังการผสมของไข่และอสุจิทำให้เหลือแต่โครโมโซมของอสุจิไม่มีตัวอ่อน มีเลือดออกและแท้งในที่สุด
ก้อนและเนื้องอก
โรคมะเร็งปากมดลูก
เกิดจากเชื้อไวรัสตัวหนึ่งที่ชื่อว่า HPV หรือ ไวรัสหูด ติดต่อทางการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์ ทำให้มีรอยถลอกของผิวหรือเยื่อบุ และเชื้อไวรัสเข้าไปที่ปากมดลูก ทำให้ปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อหรือเซลล์ จากปากมดลูกปกติกลายเป็นระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก
Stage of CA Cervix
Stage I
เซลล์มะเร็งอยู่ที่ปากมดลูก การรักษามะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1 คือผ่าตัดใหญ่ ผ่าตัดมดลูก เลาะต่อมน้ำเหลืองในเชิงกราน ได้ผลดีถึง 80%
Stage II
เซลล์มะเร็งกระจายออกจากปากมดลูกไปที่ตัวมดลูกแต่ไม่สามารถผ่าตัดได้ ระยะนี้ต้องรักษาด้วยการฉายรังสี และการให้เคมีบำบัด
Stage III
เซลล์มะเร็งกระจายไปที่ผนังช่องเชิงกราน การรักษาคือฉายรังสีกับเคมีบำบัด ได้ผลประมาณ 20-30%
Stage IV
เซลล์กระจายทั่วร่างกายการรักษาด้วยคีโม ได้ผลเพียง 5-10%
Uterus
Leiomyoma
เป็นก้อนมีขอบเขตชัดเจน เกิดขึ้นในตำแหน่งที่มีกล้ามเนื้อเรียบอยู่ เจริญเร็ว ถ้ามีฮอร์โมนเอสโตรเจนกระตุ้น และจะเล็กลงเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
Endometriosis
ภาวะที่เยื่อบุโพรมดลูกอยู่ผิดที่
อยู่ผนังมดลูกในชั้นกล้ามเนื้อเรียก Adenomyosis ทำให้มดลูกมีขนาดโตขึ้น แต่ถ้าอยู่ในอุ้งเชิงกรานเรียก Pelvic endonetriosis เกิดเป็น cys เรียก Chocolate cyst มีอาการปวดท้องมากเวลามีประจำเดือน อาจเกิดการดึงรั้งของพงผืดที่เกิดจากการมีเลือดออกนาน เกิดการดึงรั้งท่อรังไข่ ทำให้เป็นหมันได้