Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ผลของโปรแกรมการออกกำลังกายโดยการแกว่งแขนร่วมกับครอบครัวต่อพฤติกรรมการออกกำ…
ผลของโปรแกรมการออกกำลังกายโดยการแกว่งแขนร่วมกับครอบครัวต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ
Output
ผู้สูงอายุกลุ่มทดลองมีพฤติกรรมการออกกำลังกายดีกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในด้านของระยะเวลาที่ออกกำลังกายต่อวัน (p < .001) จำนวนวันออกกำลังกายต่อสัปดาห์(p < .05) และ จำนวนครั้งของการแกว่งแขนแต่ละท่า (p < .001)
กลุ่มทดลองหลังเข้าโปรแกรม พบว่าผู้สูงอายุมีจำนวนวันที่ออกกำลังกายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นและจำนวนครั้งของการแกว่งแขนเพิ่มขึ้น มากกว่าก่อนการทดลองที่นัยสำคัญทางสถิติ.05
Intervention
-
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
-
-
2.ผู้สูงอายุแกว่งแขนที่บ้าน 9 สัปดาห์ๆ ละ 3 วันๆ ระยะเวลาการแกว่งแขนแต่ละวันขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้สูงอายุ บันทึกการออกกำลังกายลงในแบบบันทึกพฤติกรรมการออกกำลังกาย
-
1.รับการฝึกแกว่งแขนสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละ 40 นาทีเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และได้รับวิดิทัศน์การแกว่งแขนพร้อมแผ่นพับการแกว่งแขน
หมายเหตุ กลุ่มทดลองจะรับการฝึกร่วมกับสมาชิกในครอบครัว และขณะออกกำลังกายที่บ้านกลุ่มทดลองจะมีสมาชิกในครอบครัวคอยสนับสนุน คอยกระตุ้น ช่วยนับจำนวนครั้ง ระยะเวลา และจำนวนวัน ในการแกว่งแขนพร้อมจดบันทึกการออกกำลังกายลงในแบบบันทึกพฤติกรรมการออกกำลังกายให้
Concept or Theory
การเพิ่มขึ้นของปริมาตรเลือดส่งออกจากหัวใจต่อนาที(cardiacoutput) ปัจจัยที่มีผล ได้แก่ ปริมาตรเลือดที่เพิ่มขึ้น และการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจที่เพิ่มขึ้น
ค่าความดันโลหิตซีสโตลิก (systolic blood pressure, SBP) ≥ 140 mmHg และ/หรือความดันโลหิตไดแอสโตลิก (diastolic blood pressure, DBP) ≥ 90 mmHg
การออกกำลังกายด้วยวิธีการแกว่งแขน ประยุกต์ใช้กับทฤษฎีสมรรถนะแห่งตน (self-efficacy theory) และการสนับสนุนทางสังคม (social support) โดยให้สมาชิกในครอบครัวซึ่งเป็นแหล่งสนับสนุนที่สำคัญ เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมการเสริมสร้างสมรรถนะแห่งตนของผู้สูงอายุในการออกกำลังกายด้วยวิธีการแกว่งแขน การสนับสนุนดังกล่าวช่วยกระตุ้นให้ผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงพร้อมที่จะออกกำลังกายได้มากขึ้น
People
-
-
สุ่มเลือกผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงซึ่งทำการรับการรักษาที่
โรงพยาบาลบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี กลุ่มควบคุม 31 คนและกลุ่มทดลอง 31 คนโดยกลุ่มทดลองจะมีสมาชิกในครอบครัวคอยช่วยเหลือขณะออกกำลังกาย
-
-