Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Automotive Quality Management System Standard IATF 16949 - Coggle Diagram
Automotive Quality Management
System Standard IATF 16949
ข้อกำหนด 9 การประเมินสมรรถนะ
9.1 การเฝ้ าติดตาม การวัด การวิเคราะห์ และ การประเมิน
9.2 การตรวจประเมินภายใน
9.3 การทบทวนของฝ่ ายบริหาร
ข้อกำหนด 6 การวางแผน
6.2 เป้าหมายคุณภาพ และ แผนงานเพือบรรลเป้าหมาย
6.2.1องค์กรต้องจัดทําเป้าหมายคุณภาพ ตามสายงานระดับ และ กระบวนการทีจําเป็นในระบบบริหารคุณภาพ
d) เกียวข้องกับการสอดคล้องข้อกําหนดของผลิตภัณฑ์และบริการ แล เพือเสริมสร้าความพึงพอใจของลูกค้า
e) ได้รับการเฝ้าติดตามผล
c) คํานึงถึงข้อกําหนดทีเกียวข้อง
f) ได้รับการสือสาร
b)วัดได้
g) ได้รับการอัพเดทตามความเหมาะสม
a) สอดคล้องกับนโยบายคุณภาพ
6.2.2เมือวางแผนเพือบรรลุเป้าหมายคุณภาพ องค์กรต้องพิจารณาถึง
a) อะไรทีต้องทํา
b) ทรัพยากรอะไรทีต้องใช้
c) ใครเป็ นผู้รับผิดชอบ
d) เมือไรจะแล้วเสร็จ
e) จะประเมินผลลัพธ์อย่างไร
6.1 มาตรการสําหรับจัดการความเสี่ยงและโอกาส
6.1.1ในการวางแผนสําหรับระบบบริหารคุณภาพ องค์กรต้องคํานึงถึงประเด็นทีระบุใน 4.1 และ ข้อกําหนดทีระบุในข้อ 4.2 และพิจารณากําหนดความเสียงและโอกาสทีจําเป็นทีจะต้องถูกจัดการเพือ
b) เสริมสร้างผลกระทบที่พึงประสงค์
c) ป้องกัน หรือ ลด ผลกระทบทีไม่พึงประสงค์
a) รับประกันว่าระบบบริหารคุณภาพจะสามารถบรรลุผลลัพธ์ตามทีคาดหวังไว
d) การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องสัมฤทธิผล
6.1.2 องค์กรต้องวางแผน
b) วิธีการ
1) บูรณาการและดําเนินมาตรการเข้าไปในกระบวนการต่างๆของระบบบริหารคุณภาพ (ดู 4.4)
2) ประเมินประสิทธิผลของมาตรการเหล่านี
ตัวอย่างเทคนิค วิธีการ และแนวคิดทีใช้จัดการความเสี่ยง
ISO31000 Risk Management
SWOT (Strength-Weakness-Opportunities-Threats)
PEST (Political/Economic/Social/Technology)
แผนภูมิเต่า (Turtle Diagram)
FMEA (Failure Mode and Effects Analysis)
4M1E (Man-Machine-Method-Material-Environment)
Management Review
a) มาตรการเพือจัดการความเสียงและโอกาสเหล่าน
6.1.2.1 การวิเคราะห์ความเสียง
ในการวิเคราะห์ความเสียง องค์กรต้องครอบคลุมอยางน้อยเรื่อง บทเรียนจาก
การเรียกคืนผลิตภัณฑ์
การตรวจประเมินผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ถูกส่งคืนจากผู้ใช้รถและการซ่อมแซม
ข้อร้องเรียนจากลูกค้า ผลิตภัณฑ์ที่ทิ้งและการซ่อมแซมแกไข
องค์กรต้องจัดเก็บข้อมูลทีเป็ นลายลักษณ์อักษรไว้เป็นหลักฐานของผลการวิเคราะห์ความเสียง
6.1.2.2 การดําเนินการป้องกันไว้ก่อน
หาสิงทีไม่เป็ นไปตามข้อกําหนดและสาเหตุต่างๆ ของสิงเหล่านั้น
การประเมินความจําเป็ นในการดําเนินการป้ องกัน
การกําหนดและดําเนินมาตรการทีจําเป็น
ข้อมูลทีเป็นลายลักษณ์อักษรของมาตรการทีได้ดําเนินการไปแล้ว
ทบทวนประสิทธิผลของมาตรการป้ องกันไว้ก่อนทีได้ดําเนินการแล้ว
ใช้บทเรียนทีผ่านมาเพือป้องกันการเกิดซํ้าในกระบวนการที่คล้ายคลึงกัน
6.1.2.3 แผนสํารองในกรณีฉุกเฉิน
c) เตรียมแผนสํารองในกรณีฉุกเฉินเพือความต่อเนืองของการส่งมอบในกรณี
d) มีกระบวนการแจ้งเตือนลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอืนๆ ในเรืองขอบเขตและระยะเวลาของสถานการณ์ทีมีผลกระทบต่อการดําเนินงานของลูกค้า ซึงเป็นส่วนเพิมเติมจากแผนสํารองในกรณีฉุกเฉิน
b) กาหนดแผนสํารองในกรณีฉุกเฉินตามความเสียงและผลกระทบทีมีต่อลูกค้า
e) ทดสอบแผนสํารองในกรณีฉุกเฉินตามระยะเวลาทีกำหนดเพือให้เกิดประสิทธิผล (เช่น การจําลองสถานการณ์ ตามความเหมาะสม)
a) ระบุและประเมินความเสียงภายในและภายนอกของกระบวนการผลิตทั้งหมดและอุปกรณ์เครืองจักรของโครงสร้างพืนฐานทีมีความสําคัญต่อการรักษาปริมาณทีผลิตได้และมันใจว่ามีควาสอดคล้องตามข้อกำหนดของลูกค้า
f) ดําเนินการทบทวนแผนสํารองในกรณีฉุกเฉิน (อยางน้อยปี ละครั้ง) โดยใช้ทีมงานทีมาจากหลากหลายสายงาน รวมทังผู้บริหารระดับสูง และปรับปรุงแผนให้เป็ นปัจจุบันตามความจําเป็น
g) จัดทําแผนสํารองในกรณีฉุกเฉินเป็ นเอกสารและเก็บรักษาข้อมูลทีเป็นลายลักษณ์อักษรทีระบุถึงเนือหาทีปรับปรุงแกไข รวมถึงบุคคลทีมีอํานาจตัดสินใจในการแกไขเปลียนแปลง
แผนสํารองในกรณีฉุกเฉินต้องรวมถึงการจัดให้มีการทดสอบผลิตภัณฑ์ทีผลิตออกมาวายังคงสอดคล้องตามสเปกของลูกค้า หลังจากเริ่มการผลิตใหม่อีกครั้งในกรณีฉุกเฉินซึงหยุดการผลิตและไม่ได้ดําเนินการหยุดการผลิตตามกระบวนการปกติ
6.3 การวางแผนสําหรับการเปลียนแปลง
a) วัตถุประสงค์ของการเปลียนแปลง และ ผลกระทบทีมีแนวโน้มจะเกิดขึน
b) ความสมบูรณ์ของระบบบริหารคุณภาพ
c) ความพียงพอของทรัพยากร
d) การมอบหมายหรือมอบหมายใหม่ สําหรับหน้าทีความรับผิดชอบ และ อํานาจในการตัดสินใจ
ข้อกำหนด 5 ภาวะความเป็นผู้นํา
5.2 นโยบาย
5.2.2 การสือสารนโยบายคณภาพ
b) ได้รับการสือสารเป็นทีเข้าใจ และนําไปประยุกต์ใช้ภายในองค์กร
c) จัดให้มีสําหรับผู้มีส่วนได้เสียทีเกียวข้อง ตามความเหมาะสม
a) จัดให้มี และได้รับการรักษาไว้เป็นเอกสารทีเป็นลายลักษณ์อักษร
5.2.1 การจัดทํานโยบายคณภาพ
d)ครอบคลุมถึงความมุ่งมันในการปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพอย่างต่อเนือง
a) เหมาะสมกับจุดประสงค์และบริบทขององค์กร และสนับสนุนทิศทางเชิงกลยุทธ์
c) ครอบคลุมถึงความมุ่งมันในการตอบสนองข้อกําหนดทีเกียวข้อง
b) จัดให้มีกรอบสําหรับการกําหนดเป้าหมายคุณภาพ
5.3 บทบาท หน้าทีความรับผิดชอบ และ อํานาจในการตัดสินใจ ในองค์กร
5.3.2 หน้าทีความรับผิดชอบ และอํานาจการตัดสินใจ สําหรับข้อกําหนดของผลิตภัณฑ์และการดําเนินการแก้ไขป้องกันการเกิดซํา
b) • ได้รับรายงานทันที • ชี้บ่งและกักผลิตภัณฑ์
c)• มีบุคคลทีรับผิดชอบดูแลหรือมอบหมายความรับผิดชอบสําหรับ
ทุกกะของการผลิต
a) •ผู้มีอํานาจหยุดการส่งมอบและหยุดการผลิต •แก้ไขปัญหาด้านคุณภาพ
5.3.1 บทบาท หน้าทีความรับผิดชอบ และอํานาจการตัดสินใจในองค์กร – ส่วนเพิมเติม
การมอบหมายต้องเป็นลายลักษณ์อักษร
การมอบหมายนี้อยางน้อยครอบคลุมถึง การคัดเลือกคุณลักษณพิเศษ
การกาหนดเป้าหมายคุณภาพและการฝึกอบรมทีเกี่ยวข้อง การดําเนินการแกไขป้องกันการเกิดซ้ำ และการป้องกันไว้ก่อน การออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การวิเคราะห์กำลังการผลิต ข้อมูลโลจิสติกส์
ใบประเมินคะแนนของลูกค้า (customer scorecards)เว็บท่าของลูกค้า (Customer Portal)
ผู้บริหารระดับสูงต้องมอบหมายหน้าทีความรับผิดชอบและอํานาจการตัดสินใจ
ให้กบบุคลากร เพือให้มั่นใจว่าข้อกำหนดของลูกค้าได้รับการตอบสนอง
ผู้บริหารระดับสูงต้องมอบหมายความรับผิดชอบและอํานาจหน้าทีเพือ:
c) รายงานสมรรถนะของระบบบริหารคุณภาพ และ โอกาสในการปรับปรุง (ดูข้อ10.1) ต่อผู้บริหารระดับสูงเป็นการเฉพาะ
d) มันใจว่าได้มีการส่งเสริมความตระหนักใน เรืองการมุ่งเน้นลูกค้า ทัวทังองค์กร
b) มันใจว่ากระบวนการต่างๆได้มีการส่งมอบผลลัพธ์ตามทีคาดหวังไว้
e) มันใจว่ายังคงสภาพความสมบูรณ์ของระบบบริหารคุณภาพเมือมีการวางแผนและ
ดําเนินการเปลียนแปลงต่อระบบบริหารคุณภาพ
a) มันใจว่าระบบบริหารคุณภาพ สอดคล้องตามข้อกําหนดของมาตรฐานสากลนี
5.1 ภาวะความเป็นผ้นําและความมุ่งมัน
5.1.1 บททัวไป
b) กําหนดนโยบายคุณภาพและวัตถุประสงค์คุณภาพ สําหรับระบบบริหารคุณภาพ และ สอดคล้องกับ บริบท และ ทิศทางเชิงกลยุทธ์ ขององค์กร
c) บูรณาการข้อกําหนดของระบบบริหารคุณภาพเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจขององค์กร
a) เป็นผู้ทีรับผิดชอบต่อการมีประสิทธิผลของระบบบริหารคุณภาพ
e) มั่นใจว่ามีทรัพยากรทีจําเป็ นสําหรับระบบบริหาคุณภาพเพียงพอ
f) สือสารให้เข้าใจถึงความสําคัญของการบริหารคุณภาพทีมีประสิทธิผลและการ
g) มันใจว่าระบบบริหารคุณภาพบรรลุผลตามทีคาดหวัง
h) การให้บุคลากรในองค์กรมีส่วนร่ วมการกํากับดูแล สนับสนุน บุคคลเหล่านัน เพือช่วยให้ระบบบริหารคุณภาพเกิดประสิทธิผล
i) ส่งเสริมให้มีการปรับปรุงอย่างต่อเนือง
j) สนับสนุนบทบาทหน้าทีอืนของผู้บริหารทีเกียวข้อง เพือแสดงภาวะความเป็นผู้นําในหน่วยงานทีรับผิดชอบ
5.1.1.1 หน้าทีความรับผิดชอบของบริษัทต้องกำหนดและดําเนินการนโยบายความรับผิดชอบของบริษัท อย่างน้อยประกอบด้วย นโยบายต่อต้านการติดสินบน จรรยาบรรณของพนักงาน และการรายงาผู้บังคับบัญชาเรืองทีเกียวกับจริยธรรม (“นโยบายเป่านกหวีด”)
5.1.1.2 ประสิทธิผลและประสิทธิภาพของกระบวนการต้องทบทวนกระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์และกระบวนการสนับสนุน และนําผลการทบทวนเข้าการทบทวนของฝ่ายบริหาร(ดูข้อ 9.3.2.1.)
5.1.1.3เจ้าของกระบวนการต้องระบุเจ้าของกระบวนการ เจ้าของกระบวนการต้องเข้าใจบทบาทเของพวกเขาและมีความสามารถในการแสดงบทบาทเหล่านัน(ดูข้อ 7.2 ของ ISO 9001)
5.1.2 การมุ่งเน้นลูกค้า
b) กําหนด และ จัดการ ความเสียงและโอกาสทีสามารถส่งผลต่อการสอดคล้องตามข้อกําหนดของผลิตภัณฑ์/บริการ และ ความสามารถในเสริมสร้ างความพึงพอใจของลูกค้า
c) รักษาการมุ่งเน้นการเสริมสร้ างความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนือง
a) ข้อกําหนดลูกค้าและข้อกําหนดกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ได้รับการพิจารณาและสอดคล้อง
ข้อกำหนด 8 การดําเนินงาน
8.1การวางแผนและการควบคุมการดําเนินงาน
•เป้าหมายและแผนดําเนินงาน (หัวข้อที 6)
•ข้อกําหนดผลิตภัณฑ์และบริ การของลูกค้า
•ข้อกาหนดด้านเทคนิค ํ
•ข้อกาหนดโล ํ จิสติกส์
8.2 ข้อกําหนดสําหรับผลิตภัณฑ์และบริการ
8.2.2 พิจารณาข้อกําหนด
8.2.2.1 พิจารณาข้อกําหนด - ส่วนเสริม
• กฎหมายและข้อบังคับทีเกียวข้อง (รวมถึงกฎหมายข้อบังคับทาง ราชการ ด้านความปลอดภัย และด้านสิงแวดล้อม ทีเกียวข้องกับการได้มา การจัดเก็บ การขนย้าย การนํากลับมาใช้ใหม่การขจัด หรือ การกําจัดทิิ้ง
ข้อกําหนดของผลิตภัณฑ์และบริการ
8.2.3 ทบทวนข้อกําหนด
• ข้อกําหนดทีระบุโดยลูกค้า(รวมถึงข้อกําหนดหลังส่งมอบ)
• จําเป็นสําหรับการใช้งาน
• ข้อกําหนดทีระบุโดยองค์กร
• คุณลักษณะพิเศษทีกําหนดโดยลูกค้า (8.2.3.1.2)
8.2.1 การสือสารกับลูกค้า
8.2.1.1 การสือสารกับลูกค้า - ส่วนเพิมเติมสามารถสือสาร ข้อมูลทีจําเป็ นในรูปแบบและภาษาทีลูกค้ากาหนดได้ เช่น ข้อมูลการออกแบบโดยคอมพิวเตอร์
8.3 การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ
8.3.2
a) ธรรมชาติ ระยะเวลา และความซับซ้อน
b) ขันตอนกระบวนการ + การทบทวน
c) การทวนสอบ การทดสอบยืนยัน
d) หน้าทีความรับผิดชอบและอํานาจการตัดสินใจ
e) ทรัพยากรภายในและภายนอกทีจําเป็ น
f) การควบคุมการประสานงาน
g) การมีส่วนร่ วมของลูกค้าและผู้ใช้งาน
h) การจัดหาผลิตภัณฑ์ในขันตอนต่อไป
i) ระดับการควบคุมทีคาดหวัง
j) ข้อมูลทีเป็ นลายลักษณ์อักษร
8.4 การควบคุมผลิตภัณฑ์และบริการจากภายนอก
8.5 การผลิตและการให้บริการ
8.6 การเฝ้ าติดตามและการวัดผลิตภัณฑ์
8.7การควบคุมผลลัพธ์ทีไม่เป็ นไปตามข้อกําหนด
ข้อกำหนด 4 บริบทขององค์กร
4.2 การเข้าใจความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย: บุคคล หรือ องค์กร ที่สามารถส่งผลกระทบ ได้รับผลกระทบ หรือรับรู้ว่าได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจ หรือ กิจกรรม
พนักงานในองค์กร
สภาพแวดล้อมการทํางานทีดี
ความมั่นคงในการงาน
การตระหนักถึงและการให้รางวัล
ผู้ส่งมอบและหุ้นส่วน
มีผลประโยชน์ร่วมกัน และ ความต่อเนือง
เจ้าของกิจการ / ผ้ถือหุ้น
มีกาไรทียั่งยืน และ ความโปร่งใส
สังคม
พฤติกรรมที่มีศีลธรรม
สอดคล้องตามกฎหมายและกฎระเบียบอืนๆ
การปกป้องสิ่งแวดล้อม
ลูกค้า
คุณภาพ ราคา และ สมรรถนะการส่งมอบของ
ผลิคภัณฑ์
4.3 การกําหนดขอบข่ายของระบบบริหารคุณภาพ: องค์กรต้องพิจารณาขอบเขตและการนําระบบบริหารคุณภาพไปประยุกต์ใช้ เพือจัดทําขอบข่ายของระบบนั้น
ข้อกําหนดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตามที่ระบุในข้อกําหนด 4.2
ผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร
ประเด็นภายนอกและภายใน ตามทีระบุในข้อกําหนด 4.1
4.3.1 กําหนดขอบเขตของระบบบริหารคุณภาพ
ยกเว้นข้อกาหนดได้เฉพาะที่เกี่ยวข้องกบข้อกำหนดการออกแบบและพัฒนา ํผลิตภัณฑ์ภายใต้ข้อ 8.3 ไม่สามารถยกเว้นการออกแบบกระบวนการผลิต
ข้อยกเว้นจะต้องถูกต้องสมเหตุสมผล
4.3.2 ข้อกําหนดเฉพาะของลูกค้า (Customer Specific Requirement)-CSR
ข้อกาหนดเฉพาะของลูกค้าต้องได้รับการประเมินและรวมอยู่ในขอบเขตของระบบบริหารคุณภาพขององค์กร
หากผู้ประกอบรถยนต์ ู (Vehicle Manufacturer) ต้องการขอการรับรอง ผู้
ประกอบรถยนต์จะเป็ นผ้กําหนดข้อกําหนดของลูกค้าของเขาเอง
4.1 การเข้าใจองค์กรและบริบทขององค์กร: องค์กรต้องพิจารณาประเด็นภายนอกและภายในที่เกียวข้องกับ
จุดประสงค์ขององค์กร
ปัจจัยภายนอก
สังคม
สภาพแวดล้อมด้านเศรษฐกิจ
วัฒนธรรม
การตลาด
สภาพการแข่งขัน
เทคโนโลยี
กฎหมาย
ปัจจัยภายใน
วัฒนธรรม
ความรู้
คุณค่า
สมรรถนะ
4.4ระบบบริหารคุณภาพและกระบวนการในระบบ
4.4.1 องค์กรต้องจัดทํา นําไปปฏิบัติ ธํารงรักษา และ ปรับปรุง ระบบบริหารคุณภาพอย่างต่อเนือง รวมถึงกระบวนการทีจําเป็นและปฏิสัมพันธ์ของกระบวนการตามข้อกําหนดของมาตรฐานสากฉบับนี้
a) กําหนดข้อมูลนําเข้าทีต้องการและผลลัพธ์ทีคาดหวังจากกระบวนการเหล่านี้
b) กําหนดลําดับขันตอนและปฏิสัมพันธ์ของกระบวนการเหล่านี้
c)กําหนดและประยุกต์ใช้ เกณฑ์ และวิธีการ (รวมถึง การติดตาม การวัด และ
ตัวชีวัดสมรรถนะทีเกียวข้อง) ทีจําเป็ น เพือให้มันใจว่า การดําเนินและการ
ควบคุมของกระบวนการเหล่านี มีประสิทธิผล
e) มอบหมายความรับผิดชอบและอํานาจหน้าที่่ สําหรับกระบวนการเหล่านี
d) กําหนดทรัพยากรทีจําเป็นและมันใจว่ามีเพียงพอ
f) จัดการกับความเสียงและโอกาสทีได้ระบุไว้ตามข้อกําหนด 6.1
g) ประเมินกระบวนการเหล่านี และ ดําเนินการเปลียนแปลงที่จําเป็นเพื่อทําให้มันใจว่า กระบวนการเหล่านีได้ผลลัพธ์ตามทีคาดหวังไว้
g) ประเมินกระบวนการเหล่านี้ และ ดําเนินการเปลียนแปลงทีจําเป็นเพื่อทําให้มั่นใจว่า กระบวนการเหล่านีได้ผลลัพธ์ตามทีคาดหวังไว้
4.4.1.2 ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
j) การเปลียนแปลงของผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการต้องได้รับการอนุมัติก่อนดําเนินการ รวมถึงการประเมินผลกระทบทีมีแนวโน้มจะเกิดขึนต่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์จากการเปลียนแปลงของกระบวนการและผลิตภัณฑ์
(ดูข้อ 8.3.6 ของISO 9001)
k) การถ่ายทอดข้อกาหนดทีเกี่ยวกบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ตลอดทั้งห่วงโซ่ของการส่งมอบ
รวมถึงผู้ส่งมอบที่กำหนดโดยลูกค้า (ดูข้อ 8.4.3.1)
d) การระบุคุณลักษณะทีเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ
l) การสอบกลับได้ของผลิตภัณฑ์ตลอดทั้งห่วงโซ่ของการส่งมอบด้วยล็อตทีผลิต (อย่างน้อย ) (ดูข้อ8.5.2.1)
c) การอนุมัติพิเศษสําหรับ FMEA ของการออกแบบ
m) บทเรียนสําหรับการจัดทําผลิตภัณฑ์ใหม่
b) แจ้งข้อกำหนดในข้อ a)แก่ลูกค้า
a) การระบุข้อกาหนดพระราชบัญญัติและกฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์โดยองค์กร
ข้อกำหนด 7 (ทรัพยากรที่)สนับสนุน
7.1 ทรัพยากร
7.1.1 บททัวไปองค์กรต้องพิจารณาและให้ทรัพยากรทีจําเป็ นสําหรับการจัดทํา การนําไปปฏิบัติ การบํารุงรักษา และปรับปรุงอย่างต่อเนือง สําหรับระบบบริหารคุณภาพ
7.1.2 บุคลากร
7.1.3โครงสร้ างพืนฐาน
7.1.3.1 การวางแผนโรงงาน สิงอํานวยความสะดวกและอุปกรณ์
ระบุและจัดการความเสียง
ประเมินความเป็ นไปได้ในการผลิต (New + Change)
ใช้ทีมงานคละแผนก
7.1.4 สภาพแวดล้อม
ความปลอดภัยของบุคลากร
ความสะอาดและเป็นระเบียบของสถานที่
7.1.5 เครืองมือวัด
7.1.5.1 บททัวไป
a ) เหมาะสมกับชนิดของกิจกรรมเฝ้าติดตามและตรวจสอบทีเฉพาะเจาะจง
b) ได้รับการบํารุงรักษาให้เหมาะสมต่อการใช้งานตามวัตถุประสงค์อย่างต่อเนื่อง
7.1.5.2การสอบกลับได้ของการวัด
a) ทวนสอบหรือสอบเทียบ หรือทังสองอย่าง ตามช่วงเวลาทีกําหนด หรือ ก่อนใช้งานจริง
b) ชี้บ่งเพือระบุสถานะของการสอบเทียบ
c) ปกป้องจากการถูกปรับแต่ง การเสียหาย หรือ การเสือมสภาพ
d) ความถูกต้องของผลการวัดก่อนหน้านีไม่น่าเชือถือ เมือพบว่าเครืองมือวัดมีความไม่เหมาะสมต่อการใช้งานและ ต้องดําเนินมาตรการตามความจําเป็ น
7.1.6 ความร้องค์กร
องค์กรต้องพิจารณากําหนด ความรู้ ทีจําเป็ นสําหรับการดําเนินงานกระบวนการและเพือให้สอดคล้องข้อกําหนดของผลิตภัณฑ์และบริการ
ความรู้ ต้องได้รับการธํารงรักษา ทําให้มีอยู่ตามขอบเขตทีจําเป็น
เมือมีการระบุความจําเป็ นในการเปลียนแปลงและแนวโน้ม องค์กรต้องพิจารณาความรู้ในปัจจุบันและพิจารณาวิธีการทําให้ได้มาหรือเข้าถึงความรู้ เพิมเติมทีจําเป็ น และต้องปรับให้ทันสมัย
7.2 ความสามารถ
7.2.2 ความสามารถ – การฝึกอบรมหน้างาน (OJT)
ระดับของรายละเอียดทีจําเป็นสําหรับการฝึกอบรมหน้างานต้องสอดคล้องกับ -ระดับการศึกษาของบุคลากร -ความซับซ้อนของงานทีพวกเขาต้องทําประจําวัน
บุคลากรซึงทํางานทีมีผลกระทบกบคุณภาพจะต้องได้รับทราบถึงผลทีตามมา หากเกิดสิงทีไม่เป็ นไปตามข้อกาหนดของลูกค้า
7.2.3 ความสามารถของผ้ตรวจประเมินภายใน (Internal auditor)
• Process Approach และ Risk-based thinking
• ข้อกําหนดเฉพาะของลูกค้าและองค์กร
• ข้อกําหนดของ ISO 9001 และ IATF 16949
• ข้อกําหนดของ Automotive Core Tools ทีเกียวข้อง
• การวางแผน ดําเนินการ รายงาน ปิดประเด็นปัญหาการตรวจประเมิน
• ด้านเทคนิค
• วิเคราะห์ความเสียง (เช่น PFMEA) และแผนควบคุม
• ข้อกําหนดของผลิตภัณฑ์และการใช้อุปกรณ์
ตรวจวัดและทดสอบ
7.2.4 ความสามารถของผู้ตรวจประเมินบุคคลที่สอง(2nd Party Auditor)
• สอดคล้องตามข้อกาหนดเฉพาะของลูกค้า
• Process Approach และ Risk-based thinking
• ข้อกาหนดเฉพาะของลูกค้า (CSR)
• ข้อกาหนดของ ํ ISO 9001 และ IATF 16949
• กระบวนการผลิตทีจะถูกตรวจประเมิน รวมถึง PFMEA และแผนควบคุม
• ข้อกำหนดของ Automotive Core Tools ทีเกียวข้อง
• วิธีการวางแผน ดําเนินการ รายงานและปิดประเด็นปัญหาการตรวจประเมิน
7.3 ความตระหนัก
7.3.1 ความตระหนัก - ส่วนเสริม
7.3.2 การสร้างแรงจูงใจ และการให้อํานาจแก่พนักงาน
7.4การสือสาร
a) สื่อสารเรืองอะไร
b) สื่อสารเมือไหร่
c) สื่อสารกับใคร
d) สื่อสารอย่างไร
e) ใครเป็นคนสื่อสาร
ข้อกำหนด 10 การปรับปรุง
10.1 บททัวไป
10.2 สิงทีไม่เป็ นไปตามข้อกําหนดและมาตรการแก้ไขป้ องกันการเกิดซ้า
10.3 การปรับปรุงอย่างต่อเนือง