Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 6 7
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
…
บทที่ 5 6 7
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ณวันที่ 3 กรกฎาคมพ.ศ 2546 เป็นปีที่ 58 ในรัชกาลปัจจุบัน
-
-
-
มาตรา๔ให้นำกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติมาใช้บังคับแก่กระทรวงศึกษาธิการโดยอนุโลมเว้นแต่ในพระราชบัญญัตินี้จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
มาตรา 5 กระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวงทบวงกรม
-
มาตรา 7 การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการไม่คำนึงถึงคุณวุฒิประสบการณ์มาตรฐานวิชาชีพลักษณะหน้าที่ความรับผิดชอบและคุณภาพของงานแล้วแต่กรณี
มาตรา 8 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงระเบียบและประกาศเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้รวมทั้งให้มีอำนาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งหรือหน่วยงานต่างๆตามที่กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลของพระราชบัญญัตินี้
-
-
-
-
หมวด 5 การรักษาราชการแทน
มาตรา 48 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือมีแต่อาจไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้รักษาการ แทนถ้ามีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการหลายคนให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทนถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน
มาตรา 49 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรีหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนถ้ามีผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีหลายคนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมอบหมายให้ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน
มาตรา 50 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้รองปลัดกระทรวงเป็นผู้รักษาราชการแทนถ้ามีรองปลัดกระทรวงใดคนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งรองปลัดกระทรวงคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทนถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งตำแหน่งรองปลัดกระทรวงหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวง ซึ่งดำรงตำแหน่ง ไม่ต่ำกว่าเลขาธิการหรือเทียบเท่าเป็นผู้รักษาราชการแทนแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าเลขขาพิการหรือเทียบเท่าเป็นผู้รักษาราชการแทน
มาตรา 51 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้รองเลขาธิการเป็นผู้รักษาราชการแทนถ้ามีรองเลขาธิการหลายคนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ศึกษาธิการแต่งตั้งรองเลขาธิการคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รับราชการแทนถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งข้าราชการในสำนักงานซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่าสาธิการหรือข้าราชการตำแหน่งเลขาธิการสำนักหรือผู้อำนวยการสำนักหรือเทียบเท่าขึ้นไปคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอาจแต่งตั้งข้าราชการคนหนึ่งซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองเลขาธิการหรือเทียบเท่ามาเป็นผู้รักษาราชการแทนก็ได้
มาตรา 52 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองผู้อำนวยการสำนักเป็นผู้รักษาราชการแทนถ้ามีรองผู้อำนวยการสำนักหลายคนหรือปลัดกระทรวงหรือเลขาธิการแล้วแต่กรณีแต่งตั้งรองผู้อำนวยการสำนักคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทนถ้าไม่มี มีผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนัก หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้ปลัดกระทรวงหรือเลขาธิการแต่งตั้งข้าราชการในสำนักซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่ารองผู้อำนวยการสำนักคนหนึ่งเป็นผู้ รักษา ราชการแทน ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ในปลัดกระทรวงหรือเลขาธิการแล้วแต่กรณีแต่งตั้งข้าราชการในสำนักบริหารงานหรือสำนักซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่าผู้อำนวยการสำนักเป็นผู้รักษาราชการแทนก็ได้ส
มาตรา 53 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษารักษาราชการแทนถ้ามีรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหลายคน ให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่งตั้งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาคนใดคนหนึ่งรักษาราชการแทนถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่งตั้งข้าราชการในเขตพื้นที่การศึกษาซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่ารองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการสถานศึกษาหรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป คนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทนก็ได้
มาตรา 54 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้รองผู้อำนวยการสถานศึกษารักษาราชการแทนถ้ามีรองผู้อำนวยการสถานศึกษาหลายคนให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแต่งตั้งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาคนใดคนหนึ่งรักษาราชการแทนถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ในผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแต่งตั้งข้าราชการในสถานศึกษาคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทนก็ได้
-
มาตรา 56 การเป็นผู้รักษาราชการแทนตามพระราชบัญญัตินี้ไม่กระทบกระเทือนอำนาจของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการปลัดกระทรวงหรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าปลัดกระทรวงศึกษาธิการหรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าใดข้าราชการซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาที่จะแต่งตั้งข้าราชการอื่นเป็นผู้รักษาราชการแทนตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย
บทเฉพาะกาล
มาตรา 57 ให้โอนอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีทบวงมหาวิทยาลัยได้เป็นของสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 58 ให้โอนบรรดากิจการทรัพย์สินอัตรากำลังข้าราชการลูกจ้างและเงินงบประมาณของสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีมหาวิทยาลัยไปเป็นของสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 59 ให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวกับราชการของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการยกเว้นสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานศึกษาธิการอำเภอและบรรดาอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สํานักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการยกเว้นสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานศึกษาธิการอำเภอไปเป็นของสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ
มาตรา 60 ให้โอนบรรดากิจการทรัพย์สินอัตรากำลังข้าราชการลูกจ้างเงินงบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการยกเว้นสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานศึกษาธิการอำเภอไปเป็นของสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ
มาตรา 61 ให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติสำนักนายกรัฐมนตรีและบรรดาอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติสำนักนายกรัฐมนตรีไปเป็นของสำนักงาน เลขาธิการสภาการศึกษา
มาตรา 62 ให้โอนบรรดากิจการทรัพย์สิน อัตรากำลังข้าราชการลูกจ้างและเงินงบประมาณสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติสำนักนายกรัฐมนตรีไปเป็นของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
มาตรา 63 ให้โอนบัญชีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติกระทรวงศึกษาธิการกรมสามัญศึกษากระทรวงศึกษาธิการกรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานศึกษาธิการอำเภอในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการและบรรดาอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติกระทรวงศึกษาธิการ กรมสามัญศึกษากระทรวงศึกษาธิการกรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานศึกษาธิการอำเภอในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรา 64 ให้โอนบรรดากิจการทรัพย์สินหนี้อัตรากำลังข้าราชการลูกจ้างและเงินงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติกระทรวงศึกษาธิการกรมสามัญศึกษากระทรวงศึกษาธิการกรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานศึกษาธิการอำเภอในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรา 65 ให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของทบวงมหาวิทยาลัยสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏกระทรวงศึกษาธิการและกรมอาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธิการในส่วนที่เกี่ยวกับราชการของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันและปัญญาอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำ สำนักงานสภาสถาบันราชภัฏกระทรวงศึกษาธิการและกรมอาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธิการในส่วนที่เกี่ยวกับราชการของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา
มาตรา 66 ให้โอนบรรดากิจการทรัพย์สินหนี้อัตรากำลังข้าราชการลูกจ้างและเงินงบประมาณของทบวงมหาวิทยาลัยสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏกระทรวงศึกษาธิการและสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันกรมกระทรวงศึกษาธิการไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
มาตรา 67 ให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการยกเว้นสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันและบรรดาอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ยกเว้นสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
มาตรา 68 ให้โอนบรรดากิจการทรัพย์สินหนี้ อัตรากำลัง ข้าราชการ ลูกจ้าง และเงินงบประมาณโครงการ กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ยกเว้นสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา
มาตรา 69 ให้หน่วยงานทางการศึกษาที่จัดการศึกษาในลักษณะโรงเรียนวิทยาลัยหรือสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติและสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการบริหารและการจัดการในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาที่สถาบันศึกษานั้นตั้งอยู่เว้นแต่ศูนย์การศึกษาพิเศษสำหรับคนพิการและโรงเรียนสำหรับคนพิการโดยเฉพาะ
มาตรา 70 ในระยะเริ่มแรกระหว่างที่ยัง ไม่ได้มีการกำหนดตำแหน่งหรือวิทยฐานะของข้าราชการที่โอนมาสังกัดสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาตามมาตรา 58 มาตรา 60 มาตรา 62 มาตรา 64 มาตรา 66 มาตรา 68 และมาตรา 82 วรรคหนึ่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัยและข้าราชการครูยังคงดำรงตำแหน่งเดิมโดยให้มีสิทธิได้รับเงิน เงินประจำตำแหน่งตลอดจนมีสิทธิอื่นๆตามที่เคยมีสิทธิอยู่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการกำหนดตำแหน่งหรือวิทยฐานะใหม่
มาตรา 71 ให้บรรดาอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัยและอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติตามที่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 72 ให้มันจำหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัยและอำนาจหน้าที่ของปลัดทบวงมหาวิทยาลัยในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของทบวงมหาวิทยาลัยตามที่มีกฎหมายกำหนดไว้ เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้แล้วแต่กรณี
มาตรา 73 บรรดาบทกฎหมาย กด ข้อบังคับระเบียบประกาศและคำสั่งเกี่ยวกับการศึกษาที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับและไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติของพระราชบัญญัตินี้ ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปจนกว่าจะได้มีการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพศ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัตินี้ซึ่งต้องไม่เป็น 5 ปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ 2542 ใช้บังคับ
มาตรา 74 ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงศึกษาธิการให้ปลัดทบวงมหาวิทยาลัยซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับรักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับรักษาการแทนเลขาธิการสภาการศึกษา
มาตรา 75 ในวาระเริ่มแรกมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดเขตพื้นที่การศึกษาและให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งข้าราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามจำนวนเขตพื้นที่การศึกษาที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามมาตรา 37 ไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยระเบียบราชการข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา
มาตรา 76 ในวาระเริ่มแรกในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสภาการศึกษาและคณะกรรมการการอุดมศึกษาในคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการ การศึกษาแห่งชาติและคณะกรรมการทบวงมหาวิทยาลัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบการปฏิบัติราชการของทบวงมหาวิทยาลัยแล้วแต่กรณีซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ปฏิบัติหน้าที่สภาและคณะกรรมการดังกล่าวทั้งนี้จนกว่าจะได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสภาการศึกษาและคณะกรรมการการอุดมศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 77 ให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวกับกปภสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการอปพรกรมการศึกษานอกโรงเรียนกระทรวงศึกษาธิการอปพรสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูกระทรวงศึกษาธิการไปเป็นของ ก.พ ของสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 78 ให้ข้าราชการครูในสังกัดสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลและสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันกรมอาชีวศึกษาอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงเป็นข้าราชการครูตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครู
มาตรา 79 ให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับกข สำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ orc กรมการศึกษานอกโรงเรียนกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนกระทรวงศึกษาธิการไปเป็นของสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวง
มาตรา 80 ในระหว่างที่ยังไม่ได้ดำเนินการให้มีอปพรของสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานพศสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาและสำนักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษาที่ทำหน้าที่กระทรวงในแต่ละส่วนราชการให้องค์กรต่อไปนี้ปฏิบัติหน้าที่บริหารงานบุคคลเป็น
1 ให้อปพร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกพสํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษาสำหรับข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
2 ให้ออกทบวงมหาวิทยาลัยปฏิบัติหน้าที่ในฐานะของกปภสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาสำหรับข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
3 ให้โอกพกระทรวงศึกษาธิการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกพสํานักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการสำหรับข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดสำนักงานรัฐมนตรีและสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการตามพระราชบัญญัตินี้ในฐานะ Corp สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
มาตรา 81 ให้ดำเนินการออกกฎกระทรวงตามมาตรา 11 มาตรา 14 วรรค๕มาตรา 15 วรรค 4 มาตรา 16 วรรค 4 มาตรา 17 วรรค๕มาตรา 34 วรรค 4 มาตรา 36 วรรค 3 มาตรา 38 วรรคสองและวรรคสามและมาตรา 39 วรรค 3 ภายใน 180 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 82 ให้สถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นสถานศึกษาในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัยและสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลสังกัดกระทรวงศึกษาธิการซึ่งมีกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งสถานศึกษานั้นโดยเฉพาะและมีฐานะเป็นกรมตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับในฐานะเป็นสถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคลในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาโดยให้สถานศึกษาดังกล่าวยังคงมีอำนาจในการบริหารบรรดากิจการทรัพย์สินข้าราชการลูกจ้างและเงินงบประมาณตลอดจนบังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างของสถานศึกษานั้นตามพระราชบัญญัตินี้และตามกฎหมายจัดตั้งสถานศึกษานั้นตลอดทั้งกฎหมายอื่น เกี่ยวข้องต่อไป
-