Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด, น.ส.อรอารี ศรีดอนไผ่ เลขที่ 61 ห้อง…
การพยาบาลเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด
ปากแหว่ง-เพดานโหว่Cleft-lip , Cleft-palate
ความหมาย
ปากแหว่ง (Cleft-lip)
ผิดปกติบริเวณริมฝีปากเพดานส่วนหน้าแยกออกจากกัน
เพดานส่วนหน้าจะเจริญสมบูรณ์ ช่วง 4-7 Wk แรกของการตั้งครรภ์
เพดานโหว่(Cleft-palate)
ผิดปกติบริเวณเพดานหลังแยกออกจากกันซึ่งเกิดได้ระยะทารกอยู่ในครรภ์มารดาช่วง 12 Wk
อุบัติการณ์
ปากแหว่งสองร่วมกับเพดานโหว่ พบได้ประมาณ 46 %
ปากแหว่งอย่างเดียวอาจเป็นข้างเดียว พบได้ ประมาI 21 % พบในทารกเพศ ญ>ช
เพดานโหว่อย่างเดียวพบได้ประมาณ 33 %
การวินิจฉัย
ตรวจได้เมื่ออายุครรภ์ 13-14 Wk ด้วยU/S
การซักประวัติเพื่อหาสาเหตุทางกรรมพันธุ์
การตรวจร่างกาย เพดานโหว่
ปัญหาที่เกิดร่วมกับความผิดปกติ
หายใจลำบาก
พูดไม่ชัด
สำลัก
การรักษาปากแหว่ง
ผ่าตัด
อาจทำ 48 ชม. หลังคลอดในรายที่เด็กสมบูรณ์ดี / อายุ8-12Wk
อาจใช้กฏ10 เด็ก 10Wk> นน.10ปอนด์ Hct.10กรัมเปอร์เซ็น
การพยาบาล
ก่อนผ่าตัด
บิดา มารดา วิตกกังวลเกี่ยวกับความพิการแต่กำเนิด
ให้ข้อมูล คำแนะนำอธิบาย เกี่ยวกับอาการและอาการแสดงของผู้ป่วยและการรักษา
ห้ข้อมูลคำแนะนำอธิบายเกี่ยวกับอาการและอาการแสดงของผู้ป่วย
เปิดโอกาสให้บิดามารดาได้ซักถามถึงอาการเจ็บป่วย อาการและอาการแสดงของเด็ก และได้ระบายถึงความวิตกกังวลของตนเอง
ประเมินความวิตกกังวลของบิดามารดาของผู้ป่วยเพื่อหาแนวทางแก้ไขหรือการให้ข้อมูลได้ถูกต้อง
บิดา มารดา ผู้ดูแลเด็กขาดความรู้เกี่ยวกับโรคและวิธีการดูแลรักษา
ประเมินความรู้ความเข้าใจของบิดามารดาเรื่องความผิดปกติของผู้ป่วยและการผ่าตัดรักษา
แพทย์จะอธิบายการผ่าตัดและผลลัพธ์การรักษา พยาบาลควรให้ความชัดเจนในกรณีที่ ผู้ปุวยไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิดในเรื่องต่างๆ
สอนการป้อนนมอย่างถูกวิธี
แนะนำการดูแลในระยะก่อน หลังผ่าตัด
เสริมแรง ให้กำลังใจ
เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจ /หูชั้นกลาง / การอุดกั้นทางเดินหายใจจากการสำลัก
ดูแลให้นมอย่างถูกวิธี
รักษาความสะอาดช่องปาก
เตรียมลูกยางแดงสำหรับดูดเสมหะไว้ข้างเตียง
สังเกตอาการหายใจผิดปกติ ไอ ไข้
ชั่งน้ำหนักทารกวันละครั้ง
หลังผ่าตัด
เสี่ยงต่อการเกิดแผลแยก/ เลือดออก /ติดเชื้อ
ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังดูแลผู้ป่วย
ผูกยึดข้อศอกทั้งสองข้าง (elbow restraint) ไม่ให้งอประมาณ 2-6 wk (คลายออกทุก 1-2 hr ครั้งละ 10-15 min)
สอนผู้ดูแลเกี่ยวกับการผูกยึดข้อศอก ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยล้วงมือเข้าในปาก
งดใส่สายยางดูดเสมหะเข้าช่องปาก
ไม่ให้ดูดนม 1 เดือน การให้นมโดยใช้ช้อน หลอดหยด syring ต่อยางเหลืองนิ่ม และป้อนนมอย่างระมัดระวัง
เสี่ยงต่อการเกิดแผลแยก/ เลือดออก /ติดเชื้อ
สังเกตอาการแผลมีเลือดออก การสีสิ่งคัดหลั่ง กลิ่น การอักเสบ ปวดบวมแดง
หากร้องไห้ ปลอบโยนให้ทำให้สงบโดยเร็ว
ทำความสะอาดแผลเย็บปากแหว่งด้วย NSS ป้ายด้วยยาปฏิชีวนะ
ให้น้ าตามหลังให้อาหารเหลวทุกครั้ง เพื่อรักษาความสะอาดช่องปาก
ดูแลไม่ให้เด็กติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
สังเกตการติดเชื้อ
การพยาบาลหลังผ่าตัดcleft lip
เสี่ยงต่อการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจจากการสำลัก
ดูแลทำความสะอาดแผลผ่าตัด
ดูแลให้นมอย่างถูกวิธี
ไม่สุขสบายเนื่องจากแผลผ่าตัด
ประเมินความเจ็บปวดโดยสังเกตพฤติกรรม การร้องการเกร็งกระสับกระส่าย การอนพักหลับ
ประเมินสัญญาณชีพ
ดูแลให้ไดรับยาแก้ปวดตามแผนการรักษา
ส่งเสริมความสุขสบายเพื่อลดความปวดโดยการสัมผัส การกอด
ให้การพยาบาลด้วยความนุ่มนวล
เสี่ยงต่อการหายใจไม่มีประสิทธิภาพหลังได้รับยาระงับความรู้สึก
สังเกตอาการบวมของแผลผ่าตัด/โพรงจมูกทั้งสองข้าง
ประเมินการหายใจเสียงหายใจ การติดตามค่า oxygen satulation
จัดท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน หรือนอนตะแคงหน้าเพื่อให้เสมหะระบายออก
กรณีมีเสมหะ ดูดเสมหะด้วยความนุ่มนวล ระมัดระวังอย่าให้กระทบกระเทือนแผล
พลิกตะแคงตัวทุก 2 ชั่วโมง
มีโอกาสขาดน้ำและสารอาหารเนื่องจากข้อจำกัดในการดูดกลืนหลังผ่าตัด
ดูแลให้ได้รับสารน้ำและสารอาหารทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
วิธีการให้นมหลังผ่าตัด
จัดท่านอนศีรษะสูง
หลังผ่าตัดปากแหว่งเริ่มปูอนนม อาหารเหลวได้ตามแผนการรักษาโดยใชหยดเข้าทางกระพุ้งแก้ม
หลังผ่าตัดเพดานโหว่ให้อาหารเหลวที่มีพลังงานสูง โดยใช้ syring ต่อท่อยางยาวประมาณ 3 เซนติเมตร หยอดเข้าในกระพุ้งแก้มด้านใน
การดูแลหลังผ่าตัด 4-5 ปี
งด ดูด เป่า ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ เพื่อปูองกันไม่ให้เด็กใช้ลิ้นดัน flap ทำให้flap ที่ผ่าตัด มีการแยกได้
สอนฝึกพูดเสมอและได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง
อายุประมาณ 2 ปีครึ่ง - 3 ขวบ แพทย์จะพิจารณาผ่าตัดแก้ไข ภาวะความ ผิดปกติจมูก
อายุประมาณ 4-5 ปี ส่งทำ Nasendoscope โดย แพทย์ ENTร่วมกับ speech therapist เพื่อประเมินประสิทธิภาพการพูด
การให้นม/อาหารอย่างถูกวิธี
ขณะให้อาหารจัดท่าศีรษะสูงประมาณ 30-45 องศาการ Feeding เด็กเพดานโหว่จะต้องนั่งศีรษะสูง (จัดท่า 45 degree)
ใช้ Artificial nipple จุกนมต้องยาว รูออกของน้ านมจะต้องใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย เด็กจะได้ดูดสะดวกและไม่ดูด เอาอากาศเข้าไปมากซึ่งจะทาให้แน่นท้อง
ถ้าเด็กดูดไม่ได้ใช้ช้อนปูอน / หลอดหยด
ดูดครั้งละน้อยๆ บ่อยครั้ง ใส่เพดานเทียมก่อนให้ดูดนม ก่อน-หลังใช้เพดานเทียมต้องท าความสะอาดทุกครั้ง
จับไล่ลมเป็นระยะๆทุก 15-30 มิลลิลิตรเสมอ หลังให้นมนอนศีรษะสูง 30 องศาตะแคงขวาให้ใบหน้าตะแคงเพื่อป้องกันท้องอืด สำลัก
ป้อนน้ำตามทุกครั้งและทำความสะอาดช่องปากเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เป็นเมล็ด
ใส่ NG tube จะเป็นทางเลือกสุดท้าย
Omphalocele/ Gastroschisis
วินิจฉัย
U/S เมื่ออายุครรภ์ 10 สัปดาห์
อาการและอาการแสดง
เด็กตัวเล็ก ไม่มีผนังหน้าท้อง ตัวเย็นอาจพบmalrotationร่วมด้วย
การรักษา
การผ่าตัด
การพยาบาล
การพยาบาลระยะก่อนผ่าตัด
keep warm
ใช้ก็อสชุบNSSที่อุ่นเช็ดลำไส้ที่Contaminate แล้วคลุมด้วยก็อสที่ชุบNSSหมาดแล้วปิดคลุมด้วยก็อสอีกครั้ง
ประคองจุกลำไส้โดยใช้ผ้าก็อสม้วนประคองไว้
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ดูแลให้ systemic antibiotics ตามแผนการรักษา
การพยาบาลในขณะรอการผ่าตัดเย็บปิดผนังหน้าท้อง
keep warm
ประคองล าไส้ไม่ให้พับตกลงมาข้างๆตัวได้
นอนตะแคงข้างเพื่อลดโอกาสที่เลือดจะมาเลี้ยงลำไส้ไม่สะดวก
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ระยะหลังผ่าตัด
ดูแลเด็กที่ได้รับการรักษาโดยใช้เครื่องช่วยหายใจประมาณ 24-48 ชั่วโมง
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ติดตามการทำงานของลำไส้ ฟัง bowl sound
สังเกตอาการระวังการเกิดAbdominal compartment syndrome
Abdominal compartment syndrome
การที่ความดันในช่องท้อง(Intra-abdominal pressure: IAP) เพิ่มสูงขึ้น > 20 mmHg ซึ่งท าให้เกิดอวัยวะล้มเหลวตามมา
ACS ส่งผลกระทบกับผู้ปุวยหลายระบบ
หายใจลำบาก
ความดันโลหิตต่ำลง
ไตวาย
เสียชีวิต
การดูแลเพื่อลดแรงดันในช่องท้อง
ให้ยาระงับปวดให้เหมาะสม
จัดท่าผู้ปุวยนอนราบ ศีรษะสูงไม่เกิน 30 องศา
ใส่สายสวนกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่
ได้รับยาขับปัสสาวะ/ยากระตุ้นการทำงานของลำไส้
ฟอกไตเพื่อดึงน้ำออกจากร่างกาย
การใส่สายระบายในช่องท้อง(Percutaneous catheter drainage)
ความพิการแต่กำเนิด
พบในทารกแรกเกิดร้อยละ20ในทารกที่เสียชีวิต
แบ่งเป็น 2 ประเภท
major anomalies
คือความผิดปกติที่ทำให้การทำงานของอวัยวะนั้นเสียไป
พบได้ประมาณร้อยละ 2-3 ของทารกเกิดมีชีพและจำเป็นต้องได้รับการรักษา
เช่นภาวะหลอดประสาทไม่ปิด
minoranomalies
ความผิดปกติที่ไม่มีผลให้การทำงานของอวัยวะเสียไป
พบได้น้อยกว่าร้อยละ 5 ของประชากร
เช่น ติ่งบริเวณหน้าหู
การจำแนกความพิการแต่กำเนิดตามกลไกการเกิด
Malformation
อวัยวะผิดรูปร่าง
เกิดจากการเจริญพัฒนาผิดปกติ
ปากแหว่งเพดานโหว่
นิ้วเกิน
เท้าปุก
ติ่งบริเวณหน้าหู
Deformation
เกิดจากการที่มีแรงกระทำจากภายนอกทำให้อวัยวะ ผิดรูปไปในระหว่างการเจริญพัฒนาของอวัยวะนั้น
มีภาวะถุงน้ำคร่ำรั่วระหว่างตั้งครรภ์ทำให้เกิด
Disruption
ภาวะที่โครงสร้างของอวัยวะหรือเนื้อเยื่อผิดปกติจาก
สาเหตุภายนอกรบกวนกระบวนการ
เจริญพัฒนาอวัยวะที่ไม่ใช่พันธุกรรม
Dysplasia
เป็นความผิดปกติในระดับเซลล์ของเนื้อเยื่อพบในทุกส่วนของร่างกาย
เช่น กลุ่มโรค skeletal dysplasia
สาเหตุของความพิการแต่กำเนิด
พันธุกรรม
ในกรณีที่บิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ในครอบครัวเป็นโรคความพิการแต่กำเนิด
ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะจากมารดาในระหว่างตั้งครรภ์
มารดามีอายุมากเกินไป 35+
โรคติดเชื้อ
โรคหัดเยอรมันขณะตั้งครรภ์ได้ไม่เกิน16 สัปดาห์
ม้ามโต
หูหนวก
ขาดอาหาร ขาดวิตามิน
มารดาขาดสารอาหารระหว่างตั้งครรภ์
ปากแหว่งเพดานโหว่
มารดากินยาหรือเสพสารเสพติด
ยาแก้อาเจียน กลุ่ม ยาดองเหล้า
และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ถ้ามารดาได้รับเป็นประจำ
มารดาได้รับสารเคมีจากสิ่งแวดล้อม
สารปรอท
เกิดอาการแพ้พิษสารปรอท
พิการทางสมอง
ชัก
รังสีเอ๊กซ์ หรือรังสีแกมม่า รวมทั้งสารกัมมันตรังสีทางการแพทย์
ถ้ามารดาได้รับตั้งแต่ตั้งครรภ์
2 สัปดาห์จนถึง 3 เดือน
ศีรษะเล็ก ลูกตาเล็ก
ความผิดปกติของการตั้งครรภ์ หรือ ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
ครรภ์เป็นพิษ รกเกาะผิดที่ทำให้เกิดเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์
esophageal stenosis
อาการและอาการแสดง
น้ำลายไหลมาก อาเจียน ไอ สำลัก
การรักษา
ระยะสอง Thoracotomy and division of the fistula with Esophageal anastomosis
ระยะแรก Gastrostomy
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
อาจเกิดภาวะปอดอักเสบเนื่องจากสำลักน้ำลาย
-จัดท่านอนที่เหมาะสม
พลิกตะแคงตัวบ่อยๆ
On NG tube ต่อ Continuous suction
On O2กรณีมีภาวะพร่องออกซิเจน
ให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
อาจได้รับสารน้ำและสารอาหารไม่เพียงพอเนื่องจากไม่สามารถ รับประทานอาหารทางปากได้
อาจได้รับสารน้ำและสารอาหารไม่เพียงพอเนื่องจากไม่สามารถ รับประทานอาหารทางปากได้
ดูแลให้สารอาหาร นม น้ำทาง Gastrostomy tube
การวินิจฉัยปัญหาและการพยาบาล
อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดต่อหลอดอาหาร(แผลแยก)
ห้ามใส่สาย NG tube หรือสาย suction ดูดเสมหะในคอ
และไม่ควรนอนเหยียดคอ เพราะอาจท าให้หลอดอาหารตึงและแผลผ่าตัดแยก
กระตุ้นให้เด็กร้องบ่อยๆเพื่อให้ปอดขยายได้ดีสังเกตภาวะขาดออกซิเจน
ดูแลให้การทำงานของ ICD มีประสิทธิภาพ
ดูแลให้ได้รััับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
อาจเกดิภาวะปอดแฟบจากการอุดตนัของท่อระบายทรวงอก
จัดท่านอนศีรษะสูง
ตรวจสอบการทำงานของ ICD
ระวังสายหัก พับงอ / นวดคลึงสายบ่อยๆ
บันทึก ลักษณะ สี จำนวนของ discharge
อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดและแผล Gastrostomy
ล้างมือก่อนและหลังให้การพยาบาล
ทำแผลอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
สังเกตการติดเชื้อ
ดูแลให ้ ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
Anorectal malformation
ความหมาย
พิการแต่กำเนิิดไม่มีรูทวารหรือรูทวารอยู่ผิดต่ำแหน่ง
อุบัติการณ์
1ใน4 ของเด็กมีชีวิตทั้งหมด พบใน ช>ญ พบความผิดปกติของลำไส้ตรงกับท่อปัสสาวะ
สาเหตุ
ไม่ทราบแน่ชัด
พยาธิสรีรภาพ
ท้องผูก อุจจาระลำบากหรือไม่ถ่าย
ทารก ช ขี้เทาออกมางท่อปัสสาวะ
ทารก ญ ขี้เทาออกทางปัสสาวะ ช่องคลอด อวัยวะเพศ
ชนิดของความผิดปกติ
Anal stenosis รูทวารหนักตีบแคบ
Imperforate anal membrane มีเยื่อบางๆปิดกั้นรูทวารหนัก
Anal agenesis รูทวารหนักเปิดผิดที่
Low type
Intermediate type
High type
Rectal atresia ลำไส้ตรงตีบตัน
อาการและอาการแสดง
ไม่มีการถ่ายขี้เทา ภายใน 24 ชั่วโมง
ไม่พบรูเปิดทางทวารหนักหรือพบเพียงรอยช่องเปิดของทวารหนักเท่านั้น
ไม่มีเสียงเคลื่อนไหวของลำไส้
กระสับกระส่าย อืดอัด ไม่สบายเนื้อสบายตัว
แน่นท้อง ท้องอืด
ปวดเบ่งอุจจาระ
ตรวจพบมีกากอาหารค้างอยู่ในระบบทางเดินอาหาร
การวินิจฉัย
X -ray เพื่อประเมินระดับลำไส้ตรง
ตรวจร่างกาย
U/Sเพื่อตรวจการไหลเวียนและดูอวัยวะภายใน
CT scan ตรวจกระดูก กล้ามเนื้อ อวัยวะภาย.น
MRI ตรวจความผิดปกติร่วมของไขสันหลัง
การรักษา
low type มีการรักษา 3 วิธี
การถ่างขยายทวารหนัก
การผ่าตัด anal membrane ออกในรายที่สังเกตเห็นขี้เทาทางทวารหนัก
การผ่าตัดตบแต่งทวารหนัก (anoplasty) เมื่อแผลผ่าตัดติดเรียบร้อยแล้วประมาณ 10 วัน ถ่างขยายทวารหนักต่อ
ความผิดปกติ intermediate และ high
การท าทวารหนักเทียมทางหน้าท้อง เพื่อระบายอุจจาระออก(colostomy)
การผ่าตัดตบแต่งทวาร (anoplasty)
ภายหลังผ่าตัดประมาณ 2สัปดาห์ แพทย์จะเริ่มถ่าง ขยายรูทวารหนัก(Anal dilatation)โดยเริ่มจากเบอร์ขนาดเล็ก
ประมาณ 7-10 มิลลิเมตร ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก วันละ 2 ครั้ง จนการขยายทวารหนักทำได้ง่าย
เพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของ hegar สัปดาห์ละ 1 มิลลิเมตรจนกระทั่งเบอร์เหมาะสมกับอายุเด็กต้องทำต่อเนื่อง
ระยะ
ระยะที่1 ขยายรูทวารหนักวันละ 1 ครั้ง นาน 1 เดือน
ระยะที่2 ขยายรูทวารหนักวันละ 1 ครั้ง ทุก 3 วัน นาน 1 เดือน
ระยะที่3 ขยายรูทวารหนัก 2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ นาน 1 เดือน
ระยะที่4 ขยายรูทวารหนัก 1 ครั้ง ต่อสัปดาห์ นาน 1 เดือน
ระยะที่5 ขยายรูทวารหนัก 1 ครั้ง ต่อเดือน นาน 1 เดือน
ความสัมพันธ์ อายุกับ hegar metal dilator
อายุ 1-3 m เบอร์ 12
อายุ 4-8 M เบอร์ 13
อายุ 9-12 Mเบอร์ 14
อายุ 1-3Yเบอร์ 15
อายุ 4-14 Yเบอร์ 16
อายุ14Y ขึ้นไป 17
การพยาบาล
การพยาบาลในระยะขยายทวารหนัก
ให้ความรู้บิดามารดาเกี่ยวกับการดำเนินของโรค
สอนการดูแลในการถ่างขยายรูทวารหนัก
แนะน าให้บิดามารดาให้อาหารตามวัยของเด็กที่มีประโยชน์มีกากใยสูง
การพยาบาลการพยาบาลหลังผ่าตัดเปิด colostomy
แนะน าอาหารย่อยง่ายมีโปรตีนสูง แคลอรีสูง มีกากใยมาก หลีกเลี่ยงอาหารที่ท าให้มีแก๊ส เช่น ถั่ว น้ าอัดลม
สังเกตและบันทึกอุจจาระ
สังเกตภาวะแทรกซ้อนของทวารเทียม
แนะนำการมาตรวจตามนัด
การพยาบาลระยะก่อนและหลังผ่าตัดตกแต่งทวารหนัก (anoplasty)
บิดามารดาวิตกกังวลเรื่องความผิดปกติ และต้องได้รับการรักษาเป็นเวลานานหลายขั้นตอน
เสี่ยงต่อการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่แผลผ่าตัดทวารหนัก
ปัญหาที่พบได้หลังผ่าตัด
ทวารหนักตีบจากกลไกการหดรั้งตัวของแผล
การถ่างขยาย การฝึกอุปนิสัย การขับถ่าย
ท้องผูก
การสวนล้างร่วมกับการใช้ยาระบาย
กลั้นอุจจาระไม่ได้
ฝึกฝนการกลั้นอุจจาระเพื่อให้เด็กใช้กล้ามเนื้อที่มีอยู่อย่างเต็มที่
Hypospadias รูเปิดท่อ ปัสสาวะอยู่ต่ำกว่าปกติ
ความหมาย
เด็กที่มีความผิดปกติแต่กำเนิดของรูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ต่ำกว่าปกติ
ทำให้เกิด ปัญหาทั้งสภาพ ร่างกายและจิตใจ อัตราการเกิด 1 ใน 300 ในทารกเพศชาย
รูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ด้านบน (epispadias)
ท่อปัสสวะไปเปิดที่ ด้านบน ขององคชาต
อาจพบ ร่วมกับ ความ ผิดปกติอื่นๆ
(ผนังด้านใน กระเพาะปัสสาวะ เปิดแบะออกที่หน้าท้อง)
ผลกระทบ
ปัสสาวะไม่พุ่งเป็นลาไปดา้นหนา้แต่กลับไหลไปตามถุงอัณฑะ
องคชาตคดงอเมื่อมีการแข็งตัวถ้างอมากอาจทำให้ร่วมเพศไม่ได้ในอนาคต
องคชาตแตกต่างจากรูปปกติ
แบ่งเป็น
Anterior or distal or mild
รูเปิดท่อปัสสาวะมาเปิดทางด้านหน้า
บริเวณส่วนปลายขององคชาต
มีรูเปิดต่ำกว่าปกติเพียง เล็กน้อย คือ เปิดที่บริเวณ glanular
Middle or moderate
รูเปิดท่อปัสสาวะอยู่กลางขององคชาต
distal penile,midshaft, proximal penile
มีความผิดปกติขนาดปานกลาง พบร้อยละ 30 ของเด็ก ที่เป็นhypospadias
Posterior or proximal or severe
รูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ที่ใต้องคชาต
บริเวณ penoscrotal, scrotal, perineal
เป็นความผิดปกติมากพบร้อยละ 20 ของ ผู้ป่วยที่เป็น hypospadias
การรักษา
การผ่าตัดแก้ไขรูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ต่ำกว่าปกติ
ผ่าตัดแบบขั้นตอนเดียว (one-stage repair)
ผ่าตัดแบบ 2 ขั้นตอน (two-staged repair)
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
เลือดออก
เกิดการตีบตันของรูเปิดท่อปัสสาวะ/ท่อปัสสาวะบริเวณแผลเย็บที่สร้างท่อปัสสาวะใหม่
มีรูตรงบริเวณรอยต่อระหว่างรูเปิดท่อปัสสาวะ เก่ากับท่อปัสสาวะที่ สร้างใหม่ แก้ไขโดยการเย็บปิดซ่อมรูที่เกิดซึ่งมักทำหลังการผ่าตัด ครั้งแรก 6-12 เดือน
องคชาตยังโค้งงอ แก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด
เกิดการติดเชื้อ
การพยาบาล
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
อธิบายขั้นตอนการเตรียมการก่อนผ่าตัด
ประเมินความวิตกกังวล
ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
ผลของการผ่าตัด
การปวดหลังผ่าตัด การได้ รับยาระงับความรู้สึก
ความรู้สึกเด็กที่ต้องพบกับสิ่ง แปลกใหม่ หลังผ่าตัด
การพยาบาลหลังผ่าตัด
จัดให้เด็กนอนในท่าสบาย ยึดสายที่ต่อจากuretra หรือสาย cystostomy ให้อยู่บริเวณหน้าท้องหรือต้นขา ไม่ให้ถูกดึงรั้งหักพับและถุงปัสสาวะอยู่ต่ำ กว่ากระเพาะ ปัสสาวะเป็นระบบปิดเสมอ
ประเมินความปวดของเด็ก
เก็บปัสสาวะส่งตรวจเพาะเชื้อตามแผนการ
ใช้เทคนิคปลอดเชื้อในการท าแผลและการ เทปัสสาวะออกจากถุงปัสสาวะ
ประเมินบริเวณสาย cystostomy ไม่ให้เกิด การติดเชื้อ
คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
กระตุ้นให้เด็ก ดื่มน้ำมากๆ ทุกวัน
ห้ามเด็กเล่นทราย ขี่จักรยานหรือนั่งคร่อม ของเล่น ว่ายน้ำหรือเล่นกิจกรรมที่รุนแรง
ดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้เปียก
แนะน าและสาธิตให้บิดามารดา/ผู้ปกครอง ทราบวิธีการดูแลความสะอาด
ทำความสะอาดให้เด็กภายหลังการถ่ายอุจจาระ
อธิบายอาการติดเชื้อ เช่น มีไข้ แผลแดงอักเสบ
ภายหลังการเอาสายสวนปัสสาวะออกให้สังเกตปริมาณปัสสาวะ ลักษณะการถ่ายปัสสาวะเป็นลำพุ่งดี
อธิบายให้เด็ก บิดามารดา/ผู้ปกครองเข้าใจ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
อธิบายให้เด็ก บิดามารดา/ผู้ปกครองเข้าใจ ถึงความสำคัญในการมาพบแพทย์ตาม นัดหรือมาก่อน นัดหากมีความผิดปกติเกิดขึ้น
น.ส.อรอารี ศรีดอนไผ่ เลขที่ 61 ห้อง 36/2 612001142