Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
COVID-19 coronavirus-5058262_960_720 - Coggle Diagram
COVID-19
Coronavirus or COVID-19 คืออะไ
ร
มีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วทั้งหมด 6 สายพันธุ์
สายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ 7
เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์
ถูกเรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่”
ป็นไวรัสที่ถูกพบครั้งแรกในปี 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจน
ภายหลังถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “โควิด-19” (COVID-19)
อาการของโรค COVID-19
ไอแห้งๆ
หายใจหอบเหนื่อย
เจ็บคอ
มีน้ำมูก
มีไข้
การรับกลิ่นและรับรสผิดปกติ
กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อหรือโควิด-19
คนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว
คนที่ภูมิคุ้มกันผิดปกติ
ผู้สูงอายุ
คนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมาก (คนอ้วนมาก)
เด็กเล็ก
ผู้ที่เดินทางไปในประเทศเสี่ยงติดเชื้อ เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น
ผู้ที่ต้องทำงาน หรือรักษาผู้ป่วย ติดเชื้อโควิด-19 อย่างใกล้ชิด
ผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องพบปะชาวต่างชาติจำนวนมาก เช่น คนขับแท็กซี่ลูกเรือสายการบินต่าง ๆ เป็นต้น
หากมีอาการ COVID-19ควรทำอย่างไร?
หากมีอาการของโรคที่เกิดขึ้นตาม 5 ข้อดังกล่าว ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด และเมื่อแพทย์ซักถามควรตอบตามความเป็นจริง ไม่ปิดบัง ไม่บิดเบือนข้อมูลใด ๆ
หากเพิ่งเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง ควรกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกไปข้างนอกเป็นเวลา 14-27 วัน เพื่อให้ผ่านช่วงเชื้อฟักตัว (ให้แน่ใจจริง ๆ ว่าไม่ติดเชื้อ)
วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20 วินาที ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70%
งดจับตา จมูก ปากขณะที่ไม่ได้ล้างมือ
ระมัดระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด และอาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่ รวมถึงสิ่งที่มีคนจับบ่อยครั้ง เช่น ที่จับบน BTS, MRT,
หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด สัมผัสสัตว์ต่าง ๆ โดยที่ไม่มีการป้องกัน
สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
รับประทานอาหารสุก สะอาด ไม่ทานอาหารที่ทำจากสัตว์หายาก
หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 โดยตรง ควรใส่หน้ากากอนามัย หรือใส่แว่นตานิรภัย เพื่อป้องกันเชื้อในละอองฝอยจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งเข้าตา
หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ