Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บาดเจ็บจากการคลอด (Birth injury) - Coggle Diagram
บาดเจ็บจากการคลอด (Birth injury)
ความหมาย
การที่ทารกได้รับอันตรายจากกระบวนการคลอด ซึ่งส่งผลให้มีการบกพร่องของการทำงาน หรือความผิดปกติทางโครงสร้างของร่างกายทารกแรกเกิด การบาดเจ็บเกิดขึ้นได้กับหลายตำแหน่งของร่างกายและมีความรุนแรงต่างๆกันไป
ปัจจัยเสี่ยง
ทารกมีขนาดใหญ่
ภาวะอ้วนของหญิงตั้งครรภ์
ทารกอยู่ในท่าผิดปกติ
การทำสูติศาสตร์หัตถการเพื่อช่วยคลอด
การผ่าตัดคลอด
ปัจจัยอื่นๆทางด้านมารดา
ชนิดของการบาดเจ็บ
การบาดเจ็บของ Soft tissue
Bruising and petechiae
ลักษณะผิวหนังบวมช้ำและมีจุดเลือดออก
Subcutaneous of necrosis
เกิดจากการขาดเลือดของเนื้อเยื่อไขมันบริเวณที่พบบ่อยคือไหล่และก้น
บาดแผลฉีกขาด
เป็นการบาดเจ็บจากการคลอดที่พบบ่อยที่สุดในการผ่าท้องคลอดที่พบบ่อยคือ บริเวณส่วนนำ ส่วนใหญ่เกิดในรายที่ผ่าคลอดฉุกเฉินที่ต้องทำผ่าตัดอย่างรวดเร็ว
การบาดเจ็บที่ศีรษะ
Caput succedaneum
การบวมของบริเวณศีรษะเหนือ periostreum ส่วนที่บวมจึงอาจข้าม suture lines ได้ คลำขอบได้ไม่ชัดเจน ตรวจพบตั้งแต่แรกคลอด หายไปเองภายใน เวลาเป็นชั่วโมงหรือ 2-3 วัน
Cephalhematoma
เกิดจากการฉีกขาดของเส้นเลือดใต้ชั้น periostreum ทำให้มีเลือดออกใต้ต่อ periostreum คลำได้เป็นก้อน ขอบเขตชัดเจน อยู่บนกระดูกชิ้นเดียวไม่ข้าม suture lines มักทำให้เสียเลือดเพียงเล็กน้อยแต่อาจทำให้เกิดภาวะซีดหรือตัวเหลืองได้
Subgaleal hemorrhage
มีเลือดออกคั่งอยู่ใน subgaleal space ระหว่าง periostreum ของกะโหลกศีรษะกับ aponeurosis จากการฉีกขาดของเส้นเลือด
Intracranial hemorrhage
พบทั้งในทารกคลอดครบกำหนดและคลอดก่อนกำหนด พบบ่อยในคลอดก่อนกำหนดร้อยละ 20
Subarachnoid hemorrhage
Subdural hemorrhage
Epidural hemorrhage
Intraventricular hemorrhage
กะโหลกศีรษะแตก
พบในทารกที่ใช้เครื่องมือช่วยคลอด มักเป็นการแตกในแนวเส้นตรง ซึ่งพบร่วมกับ Cephalhematoma
การบาดเจ็บของกระดูกและกล้ามเนื้อ
กระดูกไหปลาร้าหัก
กระดูกไหปลาร้าเป็นตำแหน่งที่พบการหักได้บ่อยที่สุดสำหรับทารกแรกคลอด มักสัมพันธ์กับการคลอดยาก
สามารถหายได้เองไม่มีผลระยะยาว ควรให้การปรึกษาพ่อแม่เพื่อลดความวิตกกังวล อาจให้ยาแก้ปวดและลดการเคลื่อนไหวของแขนเพื่อลดความเจ็บปวด
กระดูกต้นแขนหัก
ปัจจัยเสี่ยง
คลอดติดไหล่
ทารกมีขนาดใหญ่
การคลอดท่าก้น
การผ่าตัดในรายที่ทารกไม่ได้มีศีรษะเป็นส่วนนำ
ทารกมีน้ำหนักแรกคลอดต่ำกว่าเกณฑ์
กระดูกต้นขาหัก
มักพบในรายคลอดท่าก้นทางช่องคลอด
การหักของกระดูกอื่นๆ
กระดูกจมูก
กระดูกขากรรไกร
กระดูกใบหน้า
septal cartilage
ทำให้ทารกหายใจลำบากและมีปัญหาการดูดนม
การเคลื่อนหลุดของข้อต่อ
เกิดจากทารกอยู่ในท่าผิดปกติตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จากภาวะน้ำคร่ำน้อยกว่าปกติ
การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ sternocleidomastoid
อาจมีการฉีกขาดของกล้ามเนื้อหรือเยื่อหุ้มของกล้ามเนื้อ sternocleidomastoid ขณะทำคลอดท่าก้น ให้เกิดเป็นก้อนเลือดในกล้ามเนื้อ เมื่อทารกโตขึ้นกล้ามเนื้อด้านที่มีการบาดเจ็บไม่สามารถยืดขยายได้เท่ากับข้างปกติ ทำให้เกิดภาวะคอเอียง (torticollis)ต้องรักษาโดยการทำกายภาพบำบัด บางรายอาจต้องผ่าตัดรักษา
การบาดเจ็บของระบบประสาท
การบาดเจ็บของ Brachial plexus
Klumpke paralysis
เกิดจาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังระดับ C8 และ T1 อาจทำให้มือทารกข้างที่บาดเจ็บไม่มีแรง
Total brachial plexus paralysis หากมีการบาดเจ็บของเส้นประสาทที่ประกอบเป็น brachial plexus ทั้งหมด ทำให้ทั้งมือและแขนของทารกมีอาการอ่อนแรง
Duchenne paralysis
เกิดจากการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังระดับ C5 C6 และอาจมีการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังระดับ C7 ร่วมด้วย
Neonatal Brachial Plexus Injury (NBPI)
จะหาย ภายใน 12 เดือนหลังคลอด ในบางการศึกษารายงานโอกาส หายสูงถึงร้อยละ 94
มีเพียงร้อยละ 10-18 ของทารกที่มี ภาวะ NBPI เท่านั้นที่ไม่หายภายใน 12 เดือน ซึ่งในกลุ่มนี้ มีความเสี่ยงที่ความพิการของเส้นประสาทจะเป็นแบบถาวร มากขึ้น
การบาดเจ็บของเส้นประสาทไขสันหลัง
พบไม่บ่อย เกิดจากการถูกดึงรั้งของบริเวณลำคอขณะช่วยคลอดไหล่หรืออาจเกิดจากการบิด
การบาดเจ็บของเส้นประสาทของใบหน้า
เกิดจากเส้นประสาทคู่ที่ 7 (facial nerve) ถูกกด อาจเกิดร่วมกับการคลอดโดยใช้คีม โดยจะเห็นร่องรอยของคีมบนใบหน้าของทารก
เป็นการบาดเจ็บของเส้นประสาท mandibular branch ทำให้ทารกเคลื่อนไหวใบหน้าด้านเดียวกับที่มีการบาดเจ็บ หนังตาปิดไม่สนิท และไม่สามารถใช้กล้ามเนื้อใบหน้าส่วนล่างได้
หายได้เองภายใน 2-3 วัน จนถึงไม่เกิน 2 สัปดาห์
การบาดเจ็บของ Phrenic nerve
มักเกิดร่วมกับการบาดเจ็บของ brachial plexus ทารกจะมีอาการหายใจลำบาก เสียงหายใจลดลง มักพบอาการตั้งแต่แรกคลอด
การบาดเจ็บของ Laryngeal nerve
อาจทำให้เกิด paralysis ของเส้นเสียง ทำให้ทารกหายใจลำบาก เสียงแหบ ร้องเบา ไม่มีเสียงร้อง กลืนลำบากและสำลัก
การบาดเจ็บของอวัยวะภายในช่องท้อง
พบไม่บ่อย ปัจจัยเสี่ยงได้แก่คลอดท่าก้นทางช่องคลอดและทารกที่มีขนาดใหญ่ การบาดเจ็บของอวัยวะภายในช่องท้องที่พบบ่อยที่สุด คือ ตับแตก
การบาดเจ็บของบริเวณใบหน้า
การบาดเจ็บของจมูก
เกิดได้จากการที่จมูกของทารกถูกกดอยู่กับกระดูก symphysis pubis หรือ promontory of sacrum หากรุนแรงอาจทำให้ทารกหายใจลำบาก ต้องได้รับการรักษาเพื่อไม่ให้เกิดความผิดปกติของกระดูกจมูก และ nasal septum
การบาดเจ็บบริเวณดวงตา
หนังตาบวม retinal hemorrhage (มักหายในเวลา 1-5 วัน)
subconjunctival hemorrhage (มักหายในเวลา 1-2 สัปดาห์)
จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาจากจักษุแพทย์