Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีชีวภาพทางการแพทย์, นางสาวรุ่งอรุณ พรมทา 61122230011 เลขที่9 - Coggle…
ทฤษฎีชีวภาพทางการแพทย์
แนวคิดหลักของทฤษฎีชีวภาพทางการแพทย์
1)บุคคลมีความแปรปรวนทางด้านอารมณ์และจิตใจ
บุคคลมีความแปรปรวนทางด้านอารมณ์และจิตใจ คือ ผู้ท่ีเจ็บป่วย เช่นเดียวกับผู้ป่วยทางกายโรคอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคความดันโลหิตสูง
2)สาเหตุการเจ็บป่วย
เกิดจากความผิดปกติของการทางานของสมอง โดยเฉพาะ limbic system และ synapse ในระบบประสาทส่วนกลาง
ปัจจัยท่ีเก่ียวข้องกับความ เจ็บป่วยประกอบด้วย สารสื่อประสาท (Neurotransmitters) ท่ีมีมากหรือน้อยเกินไป การ เปลี่ยนแปลงของจังหวะการทางานของชีวภาพของร่างกาย เช่น วงรอบการหลับ-ตื่น (Sleep-wake cycle) และปัจจัยทางพันธุกรรม (Genetic factors)
3)ความเจ็บป่วยจะมีลักษณะของโรคและอาการแสดงที่สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลในการวินิจฉัยและจำแนกโรคได้
4)โรคทางจิตเวชมีการดำเนินโรคที่แน่นอนและสามารถพยากรณ์โรคได้
6)แนวคิดที่ว่าโรคจิตเวชมีสาเหตุมาจากปัจจัยทางชีวภาพ
ช่วยลด ความรู้สึกเป็นตราบาป (Stigma) ของผู้ป่วยและครอบครัว รวมทั้งลดเจตคติของสังคมที่ว่าการ เจ็บป่วยทางจิตมาจากบุคลิกภาพท่ีอ่อนแอของบุคคลหรือจากการผิดศีลธรรมของบุคคล
5)โรคทางจิตเวชสามารถมารักษาได้โดยการรักษาแบบฝ่ายกาย เช่น การรักษาด้วยยา
สาเหตุของความผิดปกติทางจิต
1) พันธุกรรม (Genetic)
การเกิดความผดิปกติทางจิตเวช มีความสัมพันธ์กับประวัติการเจ็บป่วยทางจิตเวชของบุคคลในครอบครัว โดยเฉพาะโรคจิตเภท (Schizophrenia) โรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar disorder) และโรคซึมเศร้า (Major depressive disorder)
Ex. โรคจิตเภท ในบุคคลทั่วไปมีโอกาสเกิดเพียง ร้อยละ 1 ขณะที่ในฝาแฝดทั้งฝาแฝดเทียมและฝาแฝดแท้ มีโอกาสเกิดได้ร้อยละ 40 และ 65 ตามลาดับ
Ex. โรคอารมณ์ สองขั้วในฝาแฝดมีอัตราการเกดิโรคได้ร้อยละ40ถึงร้อยละ80ในเครือญาติมีโอกาสเกิดได้ร้อยละ5 ถึงร้อยละ 10 ในขณะที่บุคคลทั่วไปมีโอกาสเกิดโรคเพียงร้อยละ 1.2
2) สารสื่อประสาท (Neurotransmitters)
2.1)Monoamines สารสื่อประสาทสาคัญ คือ dopamine มีหน้าที่ เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวและการประสานงานของกล้ามเนื้อ และด้านอารมณ์ norepinephrine มี ผลต่อระบบประสาทอัตโนมตัิของบคุคลและserotonin
2.2)Amino acid สารสื่อประสาทสาคัญ คือ GABA (Gamma-
aminobytyric acid) ซึ่งทาหน้าที่ลดความตื่นเต้น ลดความวิตกกังวล หากพบว่ามีสารนี้น้อยจะ สัมพันธ์กับการเกิดโรคจิตเภทและแมเนีย
2.3)Neuropeptide สารสื่อประสาทสาคัญ คือ somatostatin neurotensin และ substance P ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์และความเจ็บปวด
2.4)Cholinergics สารสื่อประสาทสาคัญ คือ acetylcholine มีบทบาท เก่ียวข้องกับการเรียนรู้ การจา การควบคุมอารมณ์ การนอนหลับ และการตื่นตัว หากมีน้อยเกินไปจะ สัมพันธ์กับการเกิดโรคซึมเศร้า และหากมีมากเกินไปจะมีความผิดปกติด้านการเคลื่อนไหว เช่น โรค พาร์กินสัน (Parkinson’s disease)
3) ความผดิ ปกติของโครงสร้างและการทางานของสมอง (Structure and functional of brain)
3.1) Cerebrum
Frontal lobe
ทาหน้าท่ีควบคุมระบบการทางานของ ความคิด การเคลื่อนไหวของร่างกาย ความจา การแสดงออกทางอารมณ์ ความสามารถในการแก้ไข ปัญหา และการตัดสินใจ หากมีความผิดปกติ การเกิดโรคจิตเภท โรค สมาธิสั้น (Attention deficit hyperactivity disorder: ADHD) โรคสมองเสื่อม (Dementia) และ
การแสดงออกทางอารมณ์ เช่น อารมณ์ทื่อ การย้ำทำ และการตัดสินใจเสีย เป็นต้น
Temporal lobe
เป็นศูนย์กลางของรับรู้การได้กลิ่นและ
การได้ยิน รวมท้ังความจา และการแสดงออกทางอารมณ์ หากมีความผิดปกติของสมองส่วนนี้อาจพบ อาการ เช่น หูแว่ว ความสนใจลดลง และหมกมุ่นเรื่องเพศมากข้ึน เป็นต้น
Parietal lobe
เกี่ยวข้องกับการแปรผลการรับรสการ สัมผัส รวมทั้งการอธิบายถึงสิ่งต่างๆ รอบตัว การคิดอย่างเป็นระบบ มีข้ันตอน หากมีความผิดปกติ ของสมองส่วนนี้ อาจพบอาการ เช่น อนามัยส่วนบุคคลเปล่ียนแปลงไป คิดคานวณตัวเลขช้า และ
สมาธิไม่ดี เป็นต้น
Occipital lobe
เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาและการมองเห็น หากมีความผิดปกติของสมองส่วนนี้อาจพบอาการ เช่น การเห็นภาพหลอน
3.2) Brainstem ประกอบด้วย midbrain, pons และ medulla oblongata หากมีความผิดปกติของสมองส่วนนี้อาจพบอาการมือสั่นในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
3.3) Cerebellum เป็นศูนย์กลางในการทางานที่เก่ียวข้องกับการ เคลื่อนไหวและการทรงตัว รับข้อมูลจากส่วนของร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อ ข้อต่อ อวัยวะ และ ส่วนประกอบอื่นๆ ของระบบประสาทส่วนกลาง
3.4) Limbic system ประกอบด้วย thalamus, hypothalamus,
hippocampus และ amygdala โดย thalamus จะควบคุมการกระทา ความรู้สึก และอารมณ์ hypothalamus จะเก่ียวข้องกับการทาให้ร่างกายอยู่ในภาวะสมดุลเช่นอุณหภูมิของร่างกาย ควบคุมความอยากอาหาร การทางานของต่อมไร้ท่อ ความต้องการทางเพศ เป็นต้น
4) พัฒนาการของเซลล์ประสาท (Neural development)
ความผิดปกติของโครงสร้างสมองอาจมาจากการพัฒนาโครงสร้างระบบ ประสาทขณะอยู่ในครรภ์ โดยเฉพาะช่วง 20 สัปดาห์แรกของการต้ังครรภ์
อาจเกิด จากการติดเชื้อหรือจากภาวะแทรกซ้อนในระหว่างท่ีมารดาตั้งครรภ์ หรือมารดาเสพสารเสพติด เช่น แอลกอฮอล์ จะทาให้เกิดภาวะทารกติดแอลกอฮอล์ (Fetal alcohol syndrome) และนาไปสู่การมี ภาวะปัญญาอ่อน (Mental retardation) ได้
การประยุกต์ใช้ในการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
การ ดูแลให้รับประทานยาตาม แผนการรักษาของแพทย์ ติดตามการนอนหลับพักผ่อน การทากิจกรรม การรับประทานอาหาร ภาวะ โภชนาการ และการขับถ่าย ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ครบถ้วน รวมทั้งเตรียมความ พร้อมของผู้ป่วยสาหรับการบาบัดรักษาทางด้านร่างกายอื่นๆ เช่น การรักษาด้วยไฟฟ้า
นางสาวรุ่งอรุณ พรมทา
61122230011 เลขที่9