Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือด, นายมงคล เนตรสกาว เลขที่ 56 รหัส…
การพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือด
ลักษณะเชลล์หัวใจ
Excitability
ตอบสนองต่อไฟฟ้าที่มากระตุ้นได้
Conductivity
เป็นสื่อนำไฟฟ้า ส่งต่อจากเซลหนึ่งไปยังเซลอื่นได้
Automaticity
สร้างกระแสไฟฟ้าได้
Contractility
ตอบสนองต่อไฟฟ้าที่มากระตุ้นโดยการหดและยืดตัว
เชลล์กล้ามเนื้อหัวใจ
Myocardial Cells
เป็นเซลล์โครงร่างของหัวใจ
Pacemaker cells
เป็น Electrical cells สามารถผลิตไฟฟ้า และส่งต่อไปเซลล์อื่น
ระบบไฟฟ้าหัวใจ
Bundle of HIS
Bundle Branches
AV Node
Purkinje Fibers
SA Node
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ค่าปกติ
QRS complex
ventricular depolarization
กว้าง 0.06-0.12sec
Q ปกติไม่เกิน 1 mm
QRSสูง 10 - 25 mm
T wave
ventricular repolarization
upright ใน lead I,II,V3-V6
invert ใน aVR
P wave
Atrial deporalization
กว้าง< 0.12 sec (3ช่อง)
Upright ใน I,II,V4-V6, aVF
Invert ใน aVR
PR Interval & ST Segment
PR Interval
ปกติ 0.12-0.20 second.
เป็นการ delay ของไฟฟ้า ที่เดินทางมาจาก atruium ลงไปที่ ventricle
ST Segment
เป็นช่วงจังหวะ plateau phase ของกระเเสไฟฟ้า หลังจาก ventricle depolarization (QRS complex) ก่อนจะมี ventricular repolarization (T wave)
เมื่อ QRS complex สิ้นสุดกลัมมาที่เส้น Isoelectric line จุดนั้นจะเรียกว่า J point
ECG waveform
QRS Complex
T Wave
P Wave
U Wave
การเเปลความหมาย ECG
Rhythm สม่ำเสมอหรือไม่
Heart Rate ปกติ เร็ว หรือ ช้า
มี P Wave หรือไม่ รูปร่างปกติ? และ สัมพันธ์กับQRS ?
PR interval ปกติหรือไม่ (0.12-0.2 วินาที)
QRS complex แคบหรือกว้าง รูปร่างเหมือนกันไหม
ST segment (elevate / depress)
T wave เป็น positive deflect หรือไม่
ตารางกราฟ
1 ช่องใหญ่ = 5 ช่องเล็ก
1 ช่องเล็กวิ่ง 0.04 second.
1 ช่องใหญ่วิ่ง 0.20 second.
1 นาที = 300 ช่องใหญ่ = 1500 ช่องเล็ก
การติด ECG
V3
ระหว่าง V2 กับ V4
V4
Intercostal 5 ตัดกับ midclavicular line
V2
Intercostal 4 ซ้าย
V5
Intercostal 5 ตักกับ anterior axillary line
V1
Intercostal 4 ขวา
V6
Intercostal 5 ตัดกับ midaxillary line
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Cardiac arrhythmias)
ความหมาย
เป็นอาการที่หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ อาจเต้นเร็วหรือช้าเกินไป
สาเหตุ
สาเหตุที่หัวใจ
โรคของลิ้นหัวใจ ตีบ รั่ว
หัวใจโต หัวใจล้มเหลว
โรคของกล้ามเนื้อหัวใจ
สาเหตุภายนอกหัวใจ
ภาวะเสียสมดุลอิเล็คโตรลัยท์
ภาวะ hypoxia หรือ hypercapnia
การกระตุ้น ANS
ได้รับยาบางชนิด ชา กาแฟ บุหรี่
อาการ
เวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม หรือหมดสติ
เหนื่อย
ใจสั่น
การรักษา
ให้ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ ได้แก่ Digitalis, Amiodarone, propanol
การใส่สายสวนหัวใจ
ฝัง เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือ Pacemaker
ฝังเครื่องกระตุกหัวใจ หรือ Internal Defibrillator
หัวใจเต้นผิดจังหวะที่สำคัญ
Sinus Tachycardia
สาเหตุ
การออกกำลังกาย
ขาดออกซิเจน
มีไข้
ขาดน้ำ ขาดเลือด
ช็อก
ดื่มชา กาเเฟ สูบบุหรี่ เสพโคเคน
อาการ
หัวใจเต้นเร็วกว่า 100 ครั้งต่อนาที
ลักษณะ ECG
ระยะเวลาที่เกิด P wave ตามด้วย R wave เกิดขึ้นสม่ำเสมอ ประมาณ 2.5 ช่องใหญ่
อัตราการเกิด P wave เเละ R wave คือ 300/2.5 = 120 ครั้งในหนึ่งนาที
P wave ที่มีรูปร่างเหมือนกัน เเละเป็น upright positive deflection
Atrial fibrillation
พยาธิสภาพ
เกิดมาจากไฟฟ้าที่มาจากหัวใจข้างบนมากมายหลายเเห่ง
ลักษณะ ECG
ไม่มี P wave
มี Fibrillation (f) wave เป็นเส้นหยักไปมา ไม่สม่ำเสมอ
QRS complex ปกติ
Atrial rate 350-700 bpm.
Ventricular rate ไม่สม่ำเสมอ
มากกว่า 100 bpm.
เรียกว่า Uncontrolled Atrial Fibrilation หรือ Atrial Fibrilation with rapid ventricular response
น้อยกว่า 100 bpm.
เรียกว่า Controlled Atrial Fibrilation หรือ Atrial Fibrilation with slow ventricular response
สาเหตุ
โรคกล้ามเนื้อหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคลิ้นหัวใจ
COPD
HT.
เครียด
ดื่มสุรา สูบบุหรี่
อาการ
cardiac output ลดลง
เจ็บหน้าอก
จับตัวเป็นก้อนของเลือด
ใจสั่น
หัวใจเต้นเร็ว
ความดันโลหิตต่ำ
ทนกิจกรรมน้อยลง
อ่อนล้า มึนงง ปวดศรีษะ
Atrial flutter
ลักษณะ ECG
เกิด Atrium depolarization มี wave form คล้ายฟันเลื่อย (Flutter wave)
ไม่มี p wave, แต่เป็น Flutter wave
Atrial rate 250-450 ครั้ง/นาที
จังหวะของ atrium สม่ำเสมอ แต่จังหวะของ ventricle ไม่แน่นอน
สาเหตุ
เกิดจาก Ventricular rate ที่เร็วมาก ทำให้หัวใจบีบตัวเร็ว ไม่มีเวลาเพียงพอให้เลือดไหลจากหัวใจห้องบนลงมาห้องล่าง จึงทำให้ปริมาตรเลือดในหัวใจห้องล่างก่อนหัวใจบีบตัวมีน้อย ส่งผลให้เลือดถูกบีบออกจากหัวใจน้อยลง
พยาธิ
ไฟฟ้าเกิดมาจากRt. Atrium และไหลหมุนวนกลับ (re-entry circuit)
อาการ
Low cardiac output
Ventricular tachycardia
การรักษา
Pulseless VT / VF (cardiac arrest)
defibrillation 100-200 จูล
CPR ต่อเนื่อง
Amiodarone 300 mg IV to 5 min
Adrenaline 1 mg IV ทุก 3-5 min
Pulse VT
Synchronized Cardioversion 100-200 จูล
Amiodarone 150 mg IV bolus over 10 min
Then infusion 1 mg/ min in 6 hrs
อาการ
Rate 150-250 ครั้ง/นาที
ลักษณะ ECG
จุดกำเนิดอยู่ที่ ventricle
QRS กว้าง
ไม่พบ P wave
Sinus bradycardia
สาเหตุ
เกิดขึ้นขณะนอนหลับ หรือ ในคนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรง
ผู้ป่วยที่มี myocardial infarction ในส่วน inferior หรือ posterior
Parasympathetic ถูกกระตุ้นเช่น อาเจียน กลั้นหายใจ การเบ่งอุจจาระ
ผู้ป่วยที่มีความดันในกะโหลกศีรษะสูง
ร่างกายขาดออกซิเจน อุณหภูมิร่างกายต่ำ K+สูง หรือ hypothyroid
ได้รับยากลุ่ม calcium channel blocker, beta blocker, digitalis, amiodarone
อาการ
ตัวเย็นชา
เจ็บหน้าอก
วิงเวียน หมดสติ
ปัสสาวะน้อยลง
ลักษณะ ECG
ระยะเวลาที่เกิด P wave ตามด้วย R wave เกิดขึ้นสม่ำเสมอ
อัตราการเกิด P wave เเละ R wave น้อยกว่า 60 ครั้งในหนึ่งนาที
P wave ที่มีรูปร่างเหมือนกัน เเละเป็น upright positive deflection
Ventricular fibrillation
อาการ
ลักษณะ ventricle เต้นพริ้ว ไม่สามารถบีบเลือดออกจากหัวใจได้
การรักษา
ทำ defibrillation 100-200 จูล ทันที
ร่วมกับการทำ CPR อย่างต่อเนื่อง
epinephrin 1 mg IV ซ้ำได้ทุก 3 – 5 นาที
ลักษณะ ECG
ไม่พบ p wave มีเพียง fibrillation wave
การแก้ไขภาวะ low cardiac output
V = Volume
ให้ IV fluid/blood
H = Heart
ใช้ยา
กลุ่ม anti-arrhythmia เช่น Amiodarone หรือ ทำ cardioversion
R = Rate
ให้ยา digitalis, beta-blocker,
S = Stroke
ใช้ยาขยายหลอดเลือด
ใช้ยากลุ่ม Inotropics
Coronary Artery Disease
กลุ่มอาการโรคหลอดเลือดหัวใจ
กลุ่มอาการเจ็บหน้าอกคงที่ (Stable angina)
เจ็บหน้าอกเป็นๆหายๆไม่รุนแรง ระยะเวลา 3-5 นาที
กลุ่มอาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute coronary syndrome)
เจ็บหน้าอกรุนแรงเฉียบพลัน หรือเจ็บขณะพัก (Rest angina) และเจ็บนานมากกว่า 20 นาที
2.1 Non ST elevation acute coronary syndrome
ถ้าอาการไม่รุนแรง อาจมีภาวะ Unstable angina
คลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็น ST depression และ/หรือ T wave inversion
หากมีอาการนาน> 30 นาที จะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันชนิด NSTEMI, Non-Q MI
2.2 ST elevation acute coronary syndrome
เกิดการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน
พบ ST segment elevate อย่างน้อย 2 leads ต่อเนื่องกัน หรือเกิด LBBB ขึ้นมาใหม่
หากไม่ได้รับการเปิดเส้นเลือดอย่างรวดเร็ว จะทำให้เกิด Acute ST elevation myocardial infarction (STEMI or Acute transmural MI or Q-wave MI)
เเนวทางการรักษา
กลุ่ม STEMI
พิจารณาเปิดเส้นเลือดหัวใจที่อุดตันอย่างเร่งด่วน ด้วยวิธีให้ยาละลายลิ่มเลือด (thrombolytic agent)ภายใน 30 นาที หรือ primaryPCI ภายในเวลา120 นาที
ควรรักษาผู้ป่วยด้วยยาต้านเกล็ดเลือดทุกราย
ยาละลายลิ่มเลือด มี 2 กลุ่ม คือกลุ่ม fibrin non-specific agents เช่น Streptokinase และ กลุ่ม fibrin specific agents เช่น Alteplase (tPA) ยากลุ่มหลังมีข้อดีกว่าคือ ไม่ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านฤทธิ์ยา ไม่ทำให้BPลดต่ำลง
ควรพิจารณาให้การรักษาด้วยยา heparin และ ยาบรรเทา อาการเจ็บเค้นอกตามข้อบ่งชี้เป็นรายๆ
ข้อบ่งชี้การให้ยาละลายลิ่มเลือด คือผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงเฉียบพลันชนิด ST-segment elevation เป็นภายในเวลา 12 ชั่วโมง
กลุ่ม NSTEMI และ unstable angina
ควรให้ยาต้านเกร็ดเลือด 2 ชนิด ร่วมกัน เช่น ให้aspirin ร่วมกับ clopidogrel
ให้ยาlow molecular weight heparin เช่น Enoxaprin เป็นเวลา 3-5 วัน ร่วมกับยากลุ่มnitrates, beta-blockers เพื่อบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก
ติดตามอาการเปลี่ยนแปลง และคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นระยะ หากยังเจ็บหน้าอกมากหรือมี cardiogenic shock, หัวใจล้มเหลว, หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง ควรพิจารณาขยายหลอดเลือดหัวใจ หรือส่งผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลที่มีความพร้อม
พิจารณาให้ยากลุ่ม narcotics หรือ analgesics ในรายจำเป็นตามข้อบ่งชี้
ปัจจัยเสี่ยง
พฤติกรรมเสี่ยงที่สำคัญ
พฤติกรรมสูบบุหรี่
โรคประจำตัว : HT DM
มีภาวะแทรกซ้อน
ปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้ เช่น อายุ เพศ ประวัติครอบครัว เชื้อชาติ
ปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนได้ เช่น ความดันโลหิตสูง Cholesterolสูง
การวินิจฉัยโรค
การซักประวัติอาการเจ็บหน้าอก
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
การตรวจ cardiac markers ได้แก่ troponin, cardiac enzyme
การฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ (coronary angiography; CAG)
การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนของหัวใจ (echo cardiography)
EKG ในกลุ่ม ACS
ST segment ยกสูงกว่า Iso-electric line เรียกว่า ST elevation
ST segment ต่ำกว่า Iso-electric line เรียกว่า ST depression
การใช้ยาละลายลิ่มเลือด (Streptokinase)
ข้อห้าม
มีประวัติ hemorrhagic stroke
มีประวัติ nonhemorrhagic stroke ใน 1 ปีที่ผ่านมา
ตรวจพบเลือดออกในอวัยวะภายใน เช่น ทางเดินอาหาร
ได้รับบาดเจ็บรุนแรง / เคยผ่าตัดใหญ่ภายในเวลา 4 สัปดาห์
สงสัยว่าอาจมีหลอดเลือดแดงใหญ่แทรกเซาะ
BP > 180/110 mmHg ที่ไม่สามารถควบคุมได้
มีภาวะเลือดออกง่ายผิดปกติหรือได้รับยากลุ่ม warfarin (INR > 2)
ได้รับการกู้ชีพ (CPR) นานเกิน 10 นาที
ตั้งครรภ์
การเฝ้าระวัง
สังเกตอาการเจ็บแน่นหน้าอก อาการเหนื่อยของผู้ป่วย และอาการอื่นๆ
ติด Monitorเพื่อติดตามสัญญาณชีพและ EKG อย่างใกล้ชิด
ติดตามEKG 12 lead ทุก 30 นาที
ควรส่งต่อผู้ป่วยเพื่อทำการขยายหลอดเลือดหัวใจในสถานพยาบาลที่มีความพร้อมโดยเร็วที่สุด หากอาการเจ็บหน้าอกไม่ดีขึ้น และไม่มีสัญญานของการเปิดหลอดเลือดภายในช่วงเวลา 90-120 นาที
นายมงคล เนตรสกาว เลขที่ 56 รหัส 612501059