บทละครเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง

click to edit

click to edit

click to edit

เพิ่มเติม

click to edit

ตัวละคร

ท้าวกุเรปัน: เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่มีพระอนุชาสามองค์ ได้แก่ เมืองดาหา กาหลัง สิงหัดส่าหรี นิสัยเป็นคนถือยศศักดิ์ รักเกียรติและวงศ์ตระกูล

ท้าวดาหา: เป็นพระอนุชาองค์รองของท้าวกุเรปันเป็นคนรักษาความพูด มีขัตติยะมานะ รอบคอบในการศึก หยิ่งในศักดิ์ศรี ใจร้อน

นางบุษบา: เป็นคนที่อยู่ในโอวาทของพ่อแม่แม้จะไม่พอใจในรูปร่างของจรกาแต่ก็ไม่ปฎิเสธเมื่อพ่อแม่ยกนางบุษบาให้จรกา บุษบาเป็นคนไม่เจ้ายศเจ้าอย่างแม้ตนเองจะสูงศักดิ์

ท้าวกะหมังกุหนิง: เป็นกษัตริย์เมืองกะหมังกุหนิงมีความรักต่อลูก ใจเด็ด แต่ประมาท รักลูกเท่าชีวิต ยอมทำทุกอย่างแม้ตัวเองจะตายก็ยอม

อิเหนา: เป็นโอรสของเท้ากุเลปันกับประไหมสุหรีนิหลาอระตามีลักษณะเจ้าชู้แต่มีความเป็นชายชาติทหารอย่างนักรบ เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว รอบคอบ มองการณ์ไกลตอนที่สังคามาระตารบกับวิหยาสะกำ

วิหยาสะกำ: เป็นคนเอาแต่ใจ ยึดตัวเองเป็นที่ตั้งใจเด็ด แต่ด้วยความอายุยังน้อย เลยใจร้อน ทำให้ตายก่อนวัยอันควร

คุณค่าของบทละคร

2.คุณค่าด้านวรณศิลป์

3.คุณค่าด้านสังคม

1.คุณค่าด้านเนื้อหา

ฉากตอนศึกกะหมังกุหนิงจะปรากฎฉากสู้ที่ชัดเจนของตัวละครสำคัญ มีการใช้าวุธและการตั้งค่าย

ปมปัญหาในเรื่อง เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง

click to edit

การเลือกสรรถ้อยคำ

การใช้กวีโวหาร หรือ กวีภาพพจน์

ลีลาในการแต่งคำประพันธ์

เรื่องฤกษ์ยาม

เรื่องบุญกรรม

เรื่องบุพเพนิวาสและเทพอุ้มสม

การแต่งตัวตามวันและวันที่เป็ฯมงคลแก่ผู้สวมใส่

พิธีกรรม

"ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง" หมายถึง การต่อว่าผู้อื่นทำในสิ่งที่ผิดแต่ตนกลับทำเสียเอง

พระมเหสีของกษัตริย์ในวงเทวัญ

4.ลิกู

5.เหม่มราหงี

3.มะโต

2.มะเดหวี

1.ประไหมสุหรี

click to edit

ลักษณะคำประพันธ์

ความสุนทรีของงานประพันธ์

บทละครรำเรื่องอิเหนา มีรูปแบบการแต่งกลอนบทละครซึ่งมีลักษณะบังคับเหมือนกลอนสี่สุภาพแต่ละวรรณมักจะขึ้นต้นด้วยคำว่า
"เมื่อนั้น"บัดนี้"และ"มาจะกล่าวบทไป

กลอนบทละครบรรยายและพรรณา เช่น บรรยายบุคลิกของตัวละคร
'ในลักษณะว่าจรกา รูปชั่วต่ำช้าทั้งศักดิ์ศรีทรลักษณ์พิกลอินทรีย์ดูไหนไม่มีเจิรญใจ'

การเลือกใช้ถ้อยคำที่ดีเด่นและไพเราะกินใจ เช่น การใช้คำอุปมาอุปไมย 'เสียงแหบแสบสั่นเป็นพ้นไปรูปร่างช่างกระไรเหมือนยักษา'

การสะท้อนสังคมและวัฒนธรรมไทย เช่น ประเพณ๊การแต่งตัว 'สอดใส่สนับเพลาพื้นตาด ปักเป็นรูปราชไกรสร ภูษาโจงจีบซับซ้อน ฉลององค์ทรงงอนงามพริ้ง'

ความเป็นมา

จุดมุ่งหมาย

ป้องกันการสูญหาย และ รักษาไว้เป็นมรดกของชาติสือไป

เพื่อใช้เล่นละครใน

รักษาจารีตประเพณีของพระราชสำนัก

พระองค์ทรงมีพระราชธิดาหนึ่งพระองค์และพระราชโอรสสองพระองค์ เมื่อพระราชธิดาของพระองค์ได้ทรงเสด็จออกผนวชจึงได้แบ่งราชอาณาจักรเป็นสองส่วนคือกูเรปันและดาหา

ต่อมาท้าวกุเรปันได้ทรงมีพระราชณโอรสพระองค์นึ่งและท้าวดาหาทรงมีพระราชธิดาองค์หนึ่งซึ่งทั้งสองพระองค์มีพระนามว่า อิเหนาและ บุษบา เมื่อเจริญพระชันษษ อดีตพระราชธิดาของกษัตริย์พระองค์เดิมที่เสด็จออกผนวชจึงมีพระดำริให้อิเหนาและบุษบาอภิเษกกัน เพื่อให้กุเรปันและดาหากลับมารวมเป็นราชอาณาจักรเดียวกันดังเดิม

อิเหนา เป็นวรรณคดีที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณซึ่งชาวชวาได้แต่งขึ้นเฉลิมพระเกียรติ แต่พระมหากษัตริย์ชวาพระองค์นี้นำความเจริญห้แก่ชาวชวา ซึ่งพระองค์เป็นทั้งนักรบนักปกครอง

ผู้แต่ง

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

73CC13E7-92C0-4471-A93E-318EBF14C718

เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูกรัก และตามใจทุกอย่าง กระทั่งตัวตายก็ยอม

259F7948-4873-47C1-9B72-DDCF24919DA2

CC4F2437-E635-415C-8B35-8C2EFFAA252C