Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบาดเจ็บจากการคลอด (Birth injury) - Coggle Diagram
การบาดเจ็บจากการคลอด (Birth injury)
1.การบาดเจ็บที่ศีรษะ (Cranial injury)
1.3 Subconjunctival and retinal hemorrhage
คือ การมีเลือดออกที่บริเวณเยื่อบุตา เกิดจากการมีแรงดันภายในทรวงอกเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันขณะทรวงอกของทารกผ่านช่องทางคลอดหรือช่องทางคลอดบีบรัดที่ศีรษะ ทําให้เส้นเลือดฝอยแตก
หายได้เองภายใน 2-3สัปดาห์
1.4 หนังศีรษะหรือใบหน้าเป็นรอยแดง (Erythema) พอง (bleb), แผลถลอก (abrasion)
สาเหตุเกิดจากการคลอดโดยใชเ้ครื่องดูดหรือคีม ไม่มีการรักษาเฉพาะยกเว้น bleb หรือแผลถลอกที่หนังศีรษะอาจใช้ยาต้านจุลชีพ ชนิดขี้ผึ้งทา
1.2Cephalhematoma
เกิดจากกะโหลกศีรษะของทารกกดหรือกระแทกกระดูกเชิงกรานหรือกระดูก promontory of sacrum ของมารดา
การรักษาพยาบาล
อธิบายให้มารดาทราบว่าการเกิดสามารถหายได้เองเองภายใน 3 เดือน ให้มารดาดูแลทารกในการป้องกันภาวะตัวเหลือง สังเกตอาการซีดเจาะ hematocrit ดูแลอาการและรักษาความสะอาดให้ดีอยู่เสมอให้ทารกนอนตะแคงด้านตรงข้ามกับก้อนโน
1.1Caput succedaneum
สาเหตุ: ศีรษะถูกกดโดยตรงกับปากมดลูกที่ยังเปิดไม่หมดเป็นเวลานาน
การรักษาพยาบาล:
อธิบายให้บิดามารดาของทารกเข้าใจเพื่อคลายความวิตกกังวลว่าอาการนี้หายไปได้เองภายใน 2-3 วันแรก
1.5 เลือดออกในกะโหลกศีรษะ (Intracranial hemorrhage)
คือ การคลอดก่อนกำหนด การได้รับอันตรายรุนแรงจากการคลอด trauma ภาวะขาดออกซิเจนเป็นเวลานาน อาการและอาการแสดง moro reflex น้อยหรือไม่มีเลย ร่างกายอ่อนปวกเปียกเซื่องซึม ร้องเสียงแหลม หายใจผิดปกติกระหม่อมโป่งตึง ชัก ดูดกลืนไม่ดี T ต่ำ
การพยาบาล
ให้พักผ่อนเพียงพอ ดูแลให้หายใจสะดวกและได้รับออกซิเจนเพียงพอ ดูแลให้ได้รับสารน้ำและอาหารเพียงพอ ป้องกันการชัก ป้องกันการติดเชื้อ ดูแลทารกด้านจิตใจ อธิบายให้บิดาและมารดาของทารกเข้าใจ
1.6 Subaponeurotic hemorrhage (Subgaleal hemorrhage; SGH)
ก้อนเลือดที่ศีรษะ เป็นภาวะที่มีเลือดสะสมใต้ช่องว่างของเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างพังผืดของกะโหลกศีรษะ (Galea aponeurotic) กับเยื่อหุ้มกะโหลกศีรษะ (Periosteum)
อาการ การบวมปรากฏหลังเกิดหลายชั่วโมง รอยบวมข้ามรอยต่อส่วนกลางศีรษะ (Suture line) มีลักษณะนุ่ม(Fluctuant)
1.7 Molding
การเกยกันของกระดูกกะโหลกศีรษะ (molding of the skull bones)
สาเหตุ: เกิดจากทารกมีการปรับขนาดของศีรษะ เพื่อให้สามารถผ่านช่องคลอดของมารดาได้
อาการ ทารกที่เกิดท่าศีรษะเป็นส่วนนำ ทำให้ศีรษะมีรูปร่างยาว
ภาวะนี้จะหายได้เองภายใน 2-7 วัน หลังคลอด
อันตรายหรือการบาดเจ็บที่ทารกได้รับในระยะคลอดและในขณะทำการคลอด หรือเกิดจากการบาดเจ็บจากเครื่องมือ (mechanism trauma) ในการทำคลอด ทารกอาจเสียชีวิติ หรือมีความพิการได้
สาเหตุ
:pencil2: ทารกคลอดก่อนกำหนด (Precipitate labor)
:pencil2:ผู้ทำคลอดไม่ชำนาญ
:pencil2:ทารกตัวโต (Macrosomia)
:pencil2:การคลอดท่าก้น (Breech presentation)
:pencil2:ส่วนนำทารกมีขนาดใหญ่กว่าเชิงกราน (CPD)
:pencil2:การคลอดยาก (Dystocia)
:pencil2: การคลอดยาวนาน (Prolong labor)
:pencil2:การใช้สูติศาสตร์หัตถการ เช่น forceps extraction, vacuum extraction
อาการชอกช้ำ เส้นเลือดฝอยแตก
และผิวหนังมีอาการบวม และชา เลือด(Ecchymosis & petechai &edema)
สาเหตุ
1.มาจากการใช้คีมช่วยคลอด
2.คีมกดกะโหลกศีรษะทำให้เกิดรอยช้ำที่ขอบตา
การรักษาพยาบาล
มักจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน
กระดูกหัก (Skeletal injuries)
:check:กระดูกต้นแขนหัก (fracture of humerus)
ไหล่ของทารกอาจเคลื่อนไหวได้ช้า ๆหรือไม่ได้เลยเพราะเจ็บ คลำรอยหักได้ชัดเจน ไม่พบ moro reflex ทารกจะร้องเมื่อขยับเขยื้อน
การรักษาพยาบาล
ตรึงบริเวณที่หักให้อยู่นิ่งกับที่ 7-10 วัน กระดูกจะติดกันเป็นปกติ
มักพบในรายที่คลอดติดไหล่
:check:กระดูกต้นขาหัก (fracture of humerus)
มักพบในการคลอดท่าก้น ท้องแรกคลอดยาก ใช้แรงดึงมาก เด็กจะร้องกวน ต้นขาบวม ไม่ยอมขยับ
การรักษาพยาบาล
สามารถรักษาได้โดย Skin traction และเข้าเฝือก 3-4 สัปดาห์
:check:กระดูกไหปลาร้าหัก
(fracture of clavicle)
มักเกิดในเด็กตัวโตคลอดติดไหล่ หรือคลอดท่าก้น
การรักษาพยาบาล
กระดูกหักที่ไม่แยกจากกัน ไม่จำเป็นต้องใส่เฝือก
กระดูกจะเชื่อมต่อเองเป็นปกติได้ภายใน 4-6 สัปดาห์
กระดูกหักแยกจากกันต้องใส่เฝือกชั่วคราวหรือไม่ให้แขนมีการเคลื่อนไหว โดยใช้ bandage
พันแขนติดอกประมาณ 10 วัน เมื่อกระดูกเริ่มติดดีจึงปล่อยให้ทารกเคลื่อนไหวแขนข้างนั้นได้
อาการ
อาจไม่มีอาการถ้ากระดูกไม่แยกจากกัน แต่ถ้ากระดูกแยกจากกัน (complete fracture) เมื่อคลำจะพบกระดูกแยกหรืออาจเกยกัน เด็กจะเจ็บปวดร้องกวน
พบอาการบวม ห้อเลือด (ecchymosis) ตรงที่ได้รับบาดเจ็บ
ทารกไม่ขยับแขนข้างที่กระดูกไหปลาร้าหัก แขน 2 ข้างเคลื่อนไหวไม่เท่ากัน เมื่อทดสอบ Moro reflex ทารกยกแขนข้างที่ดีเท่านั้น
การบาดเจ็บบรเิวณสันหลัง (spine and spinal cord injury)
การบาดเจ็บของเส้นประสาทส่วนปลาย (Peripheral nerve injury)
:pen:ความผิดปกติของเส้นประสาทที่เลี้ยงใบหน้า (Facial nerve palsy)
อัมพาตของประสาทกล้ามเนื้อแขนส่วนบน (Erb’s palsy หรือ Erb – Duchene paralysis) เกิดจากการได้รับอันตรายต่อส่วนบนของเส้นประสาทระดับคอที่บริเวณ C5 - C6 เสียหน้าที่เป็นอัมพาตแขนข้างนั้นส่วนบนขยับเขยื้อนไม่ได้
จัดแขนของทารกให้อยู่ในท่ายอมแพ้ (Abduction 90 degree/external rotation of shoulder/flexion elbow 90 degree) ไม่ให้เคลื่อนไหวเป็นพักๆ
อัมพาตของประสาทกล้ามเนื้อแขนส่วนล่าง (Klumpke paralysis) เกิดจากการได้รับอันตราย เส้นประสาทไขสันหลังบริเวณ C7- C8 และ T1 ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณมือของเด็กขยับไม่ได้ กล้ามเนื้อมือเป็นอัมพาต wrist drop งอมือและกำมือไม่ได้ grasp reflex ของทารกจะหายไปให้ส่วนที่ได้รับอันตรายไม่เคลื่อนไหว
จัดแขนให้อยู่ในท่ากางหมุนออก ศอกงอตั้งฉากกับลำตัวโดยยกแขนระดับศีรษะท่ายอมแพ้
:pen: Phrenic nerve paralysis
เกิดจากประสาทไขสันหลังระดับคอที่ 3,4,5 (C 3,4,5) ได้รับอันตราย ทำให้เกิดการอัมพาตของกระบังลม โดยตรวจพบอาการหายใจหอบและเร็ว เขียว ปอดข้างที่ไม่มี Phrenic nerve มาเลี้ยงจะเคลื่อนไหวได้น้อย และอาจได้ยินเสียงการหายใจเบามาก
:pen:การบาดเจ็บบริเวณกลุ่มประสาท Brachial (Brachial Plexus injury) :
-เกิดอัมพาตชั่วคราวของกล้ามเนื้อหน้า โดยทั่วไปมักเป็นด้านเดียว
-เกิดเนื่องจากเส้นประสาทที่ควบคุมความรู้สึกของใบหน้า ซึ่งได้แก่ เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 (facial nerve) ถูกกดหรือได้รับความกระทบกระเทือนจากการคลอดยาก
การรักษาพยาบาล
ในรายที่เส้นประสาทขาด ต้องได้รับการทำศัลยกรรมซ่อมประสาท (Neuroplasty)
ดูแลเกี่ยวกับการได้รับนม
เกิดกับทารกที่คลอดท่าก้นแล้วติดศีรษะ และผู้ทำคลอดออกแรงดึง หมุนตัวทารกรุนแรงเกินไป
2.การบาดเจ็บของอวยัวะภายใน(viscera)
การบาดเจ็บของอวยัวะในช่องท้อง เช่น ตับแตก ม้ามแตก สาเหตุเกิดการกดบรเิวณอวยัวะภายในช่องท้องระหวา่งการท้าคลอดศีรษะในท่าก้น ถ้าตับแตกมากจะมีเลือดออกในช่องท้องทารก
อาการ
ดูดนมไม่ดี
หายใจหอบ หัวใจเต้นเร็ว ช็อกและอาจเสียชีวิตได้ ถ้าไม้ได้รับเลือด และการผ่าตัดรักษาอย่างทันท่วงที
ซีด