Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
3.3การพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินในระบบหายใจ - Coggle Diagram
3.3การพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินในระบบหายใจ
ลักษณะและอาการแสดงของ
การได้รับบาดเจ็บบริเวณทรวงอก
กระดูกซี่โครงหัก(FracturesoftheRibs)
อาจหักเพียง1หรือหลายซี่
แต่ต้องตระหนักเสมอว่าผู้วยที่มี Fractured Ribs ต้องทำการตรวจ
ประเมินเพื่อวินิจฉัยภาวะ internal injury และภาวะ Shock เสมอ
เพราะอาจทําให้ผู้ป่วยเสียชีวิต
ภาวะอกรวน (Flail Chest)
แต่ต้องตระหนักเสมอว่าผู้ป่วยFlailChestมักเกิด
ร่วมกับ Pneumothorax เสมอ
Penetrating Chest Wounds
ผนังทรวงอกทะลุฉีกขาด มักเกิดจากถูกยิงหรือถูกแทง
Tension Pneumothorax เกิดจากการมีลมรั่วจากปอดข้างที่ได้รับ
บาดเจ็บลมรั่วจากอากาศภายนอกเข้าไปในโพรงเยื่อหมุ้ปอด
MassiveHemothoraxเกิดเลือดออกในโพรงเยื่อหุ้มปอดอย่างเฉียบพลันมากกว่า1,500 ml.หรือมากกว่า1ใน3ของปริมาณเลือดทั้งหมดของร่างกาย
Cardiactemponadeเกิดจากเลอืดเข้าไปอยู่ในโพรงเยื่อหุ้มหัวใจ(Pericardialsac)โดย เลือดอาจมาจากหัวใจเยื่อหุ้มหัวใจเส้นเลือดขนาดใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ
ภาวะฉุกเฉินรุนแรงที่เกิดจากการบาดเจ็บทรวงอก
Tissue hypoxia
เกิดภายหลังการบาดเจ็บ ทรวงอกจนทําให้เกิดการเสียเลือด
Hypercapnia ส่วนใหญ่เกิดจากการ Ventilation
ไม่เพียงพอ จากการเปลี่ยนแปลงความดัน ในช่องอก
Metabolicacidosisจากการเพิ่ม Lacticacidในร่างกายที่มาจากTissue hypoperfusion จากภาวะ Shock
การพยาบาลเบื้องต้นในผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
จากการบาดเจ็บทรวงอก
Airway เริ่มจากการฟังเสียงหายใจและค้นหาสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ ในการตรวจประเมินทางเดินหายใจส่วนบนหากเกิดการบาดเจบ็ ของกล่องสียง (Laryngeal injury)
จะฟังพบเสียงหายใจที่ผิดปกติ เช่น Stridor หรือเสียงพูดที่ผิดปกติเช่นเสียงแหบ ไอเป็นเลือด ตรวจ ร่างกายจะพบ subcutaneous emphysema บริเวณคอ และคลําพบ Crepitation
ที่ Thyroid cartilage
Breathing โดยการประเมินจากการ ดู คลํา เคาะ ฟัง เพื่อหาความผิดปกติของการหายใจ รวมถึงการโป่งพองของเส้นเลือดดําที่คอ อาการสําคัญ จะพบในการหายใจผิดปกติได้แก่ การหายใจเร็ว ลักษณะการหายใจเปลี่ยนไป การหายใจตื้นหากพบCyanosisแสดงว่าผู้ป่วยเกิดภาวะHypoxiaหากไม่พบCyanosisตอ้งประเมิน ภาวะ Hypoxia โดยวิธีอื่น เช่นการวัด SpO2 เป็นต้น
Circulation โดยคลําชีพจร ประเมินอัตรา ความแรง จังหวะความสม่ำเสมอ ผู้ป่วย Hypovolemia อาจคลําชีพจรที่ Radial และ Dorsalis pedis ไม่ได้ นอกจากชีพจรแล้วจะตรวจความดัน โลหิต
สี อุณหภูมิผิวหนัง บริเวณปลายมือปลายเท้า และประเมิน
ความโป่งพองของเส้นเลือดดําที่คอ (Neck vein)
อาจพบNeckveinแฟบในภาวะ Hypovolemiaแต่Neckveinโป่งได้จากCardiac temponade, Tension pneumothorax, Traumatic diaphragmatic injury ผู้ป่วยบาดเจ็บทรวงอกควรได้รบั การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เพราะอาจเกิด Arrhythmia จากการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหัวใจได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยเกิดภาวะ Hypoxia และ Acidosis ร่วมด้วย ผู้ป่วยที่มี ภาวะ Cardiac temponade, Tension pneumothorax, Cardiac rupture
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บทรวงอก
ทําการสํารวจขั้นต้น
ทางเดินหายใจ และการหายใจ ช่วยให้ผู้ป่วยหายใจได้สะดวก
ให้ออกซิเจน กรณีหายใจเอง ไม่ได้ให้ใส่ท่อช่วยหายใจ
ดูแลการไหลเวียน ถ้าผู้ป่วยอยู่ในภาวะ Shock ควรให้สารน้ําทางหลอดเลือดดํา หรือให้ เลือดในรายที่เสียเลือดมาก
วัดสัญญาณชีพ เพื่อดูอาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
เนื่องจาก hypoxia เป็นอาการแสดงความรุนแรงที่สุดของ
การได้รรับบาดเจ็บทรวงอก
ดังนั้นต้อง มี early interventions ไว้ป้องกันแก้ไขภาวะ hypoxia
Immediately life-threatening injuries ต้องได้รับการรักษาอย่างทันทีทันใด และด้วยวิธี ง่ายๆ เท่าที่จำเป็นเป็น
กรณีตรวจพบกระดูกซี่โครงหักแบบธรรมดา
กรณีมีแผลเปิดแล้วมีลักษณะปากแผลถูกดูดขณะ
หายใจเข้าให้สงสัยว่าเกิดภาวะ Hemothorax
กรณีซี่โครงหักหลายซี่ในจุดเดียวกันให้นอนทับด้านที่บาดเจ็บ
เพื่อให้ปอดข้างที่ดีทํางานได้เต็มที่
กรณีไม่มีการบาดเจ็บอื่นร่วมด้วยหรือไม่รู้สึกตัวให้ทําการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในท่านั่ง
กรณีตรวจพบFlailchestให้หาวิธีไม่ให้บริเวณที่เกิดการเคลอื่นไหวอาจใช้หมอน รองบริวณที่หักใช้ผ้าพันรอบทรวงอกเช่นเดียวกับ
FracturedRibsหรอืแม้แต่มือ เปล่าในกรณีที่มกีารบาดเจ็บรุนแรงอาจต้องให้การช่วยเหลือในการหายใจ
ออกซิเจน หรือช่วยฟื้นคืนชีพแล้วนําผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
กรณีตรวจพบ Penetrating Chest Wounds ให้รีบปิดแผลอย่างเร็วที่สุดป้องกันไม่ให้มีอากาศเข้าไปในchest cavityมากขึ้น วัสดุที่ใช้ปิดแผลเช่น Vaseline gauze, plastic wrap เป็นต้น
ในการปิด แผลอาจทําให้ผู้ป่วยหายใจได้ยากมากขึ้น
หากพบกรณีดังกล่าวให้เปิดรู มุมด้านหนึ่ง ของวัสดุที่ปิดแผล หลังจากนั้นให้ออกซิเจนแก่ผู้ป่วย