Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และการจำแนกผู้ประสบสาธารณภัย (Triage)…
การพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และการจำแนกผู้ประสบสาธารณภัย (Triage)
การพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บกระดูก และข้อ
Primary survey และ Resuscitation :fire:
ปัญหาสำคัญ
การเสียเลือด
เกิดภาวะ Hypovolemic หรือ Hemorrhage shock
การ Control bleeding ดีที่สุด :!!:
Direct pressure ด้วย Sterile pressure dressing
กระดูกผิดรูป หรือ Fracture
ให้ทำการ Splint ให้เหมาะสม
ให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ
ให้ออกซิเจน
ระหว่างการทำ Primary survey และ Resuscitation ควรทำการ Immobilization โดยการ Splint กระดูกส่วนที่หัก
Splint ให้ครอบคลุมข้อบน และข้อล่างของตำแหน่งที่กระดูกหัก :!!:
Secondary survey :fire:
การซักประวัติ :!:
1.1 สาเหตุการเกิด
1.2 ระยะเวลา
1.3 สถานที่
1.4 การรักษาเบื้องต้น
การตรวจร่างกาย
2.1 การตรวจ และรักษา Life threatening และ Resuscitation
2.2 การตรวจคร่าวๆ เพื่อ Screening test
กระดูกซี่โครง
หากผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดแสดงว่าอาจเกิดการหักของกระดูกซี่โครง
กระดูกเชิงกราน
ถ้ากระดูกหักผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บปวด
2.3 การตรวจอย่างละเอียด Secondary survey
การเอกซเรย์
3.1 ถ่ายเอกซเรย์ 2 ท่าในแนวตั้งฉากกัน
3.2 ถ่ายเอกซเรย์ให้ครอบคลุมกระดูกส่วนที่หัก
Definitive care :fire:
Recognition
ตรวจประเมินกระดูกหัก ข้อเคลื่อน และการบาดเจ็บอื่น
Reduction
จัดกระดูกให้เข้าที่
หมอทำเท่านั้น :!!:
Retention
การประคับประคองให้กระดูกอยู่นิ่งกับที่จากการจัดกระดูกเข้าที่แล้ว
Immobilization การประคองปลายทั้งสองด้านของกระดูกที่หักให้นิ่งที่สุด
Rehabilitation
ฟื้นฟู
Reconstruction
ซ่อมแซมส่วนที่สูญเสีย
Refer
ภาวะกระดูกหักที่คุกคามชีวิต :fire:
Major Pelvic disruption with Hemorrhage :!!:
คำนึงถึงภาวะ unstable pelvic fracture จากการฉีกขาดของอวัยวะภายใน
อาจมีการบาดเจ็บของเส้นเลือด เส้นประสาทร่วมด้วย
ตรวจร่างกาย
ดู
พบ Scrotum และ Perineum บวม
มีแผลฉีกขาดบริเวณ Perineum และ Pelvic
คลำ
พบกระดูก Pelvic แตก
PR examination พบ high-riding prostate gland
มีเลือดออกบริเวณ Urethral meatus
การเคลื่อนไหว
ขาข้างที่ผิดปกติจะสั้น
ระบบไหลเวียนจะพบความดันโลหิตต่ำ
เอกซเรย์ในรายที่สงสัย โดยการส่ง film pelvic AP view
การช่วยเหลือเบื้องต้น
ให้ Fluid resuscitation
อาจต้อง consult แพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทางในกรณีที่ผู้ป่วยยังมี Hemodynamic abnormality
Major Arterial Hemorrhage
การฉีกขาดของหลอดเลือด
อาจเป็น Blunt trauma หรือ Penetrating wound
มีการเสียเลือดจำนวนมาก และเกิด Hypovolemic shock ได้
ลักษณะของการบาดเจ็บหลอดเลือดแดง เรียกว่า Hard signs :!!:
Pulsatile bleeding
hematoma มีขนาดใหญ่ขึ้น
คลำได้ thrill
ฟังได้ bruit
6Ps
Pain
Pallor
Poikilothermia
Paresthesia
Paralysis
Pulselessness
การช่วยเหลือเบื้องต้น
ควรทำ Direct pressure
ให้ Fluid resuscitation
Crush Syndrome
การบาดเจ็บกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ บริเวณ thigh และ calf muscle
ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อขาดเลือด และตายแล้วปล่อย Myoglobin
เกิดภาวะ Rhabdomyolysis :!!:
Creatinin kinase สูง
Renal failure
DIC
เสียชีวิตได้
อาการที่พบ
Dark urine
Hemoglobin ได้ผลบวก
มีอาการของ Hypovolemia , Metabolic acidosis , Hyperkalemia , Hypocalcemia และ DIC ได้
การช่วยเหลือเบื้องต้น
ให้ Fluid resuscitation
ให้ Osmotic diuretic เพื่อรักษาระดับ Tubular volume และ Urine flow
ให้ Sodium bicarbonate เพื่อช่วยลด Myoglobin ที่ไปทำลาย Tubular system :!!:
ในระหว่างการให้สารน้ำ และยา จะประเมิน Urine output ให้ได้ 100 cc/ชั่วโมง จนกว่าปัสสาวะจะใส
สิ่งที่มีความสำคัญในการรักษาแขนขา :fire:
ปริมาณการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงส่วนปลายเพียงพอ
กระดูกหักข้อเคลื่อนอาจทำให้หลอดเลือดฉีกขาด หรืออุดตันได้
การฉีกขาดของหลอดเลือดที่มีการเสียเลือดมาก อาจทำให้เกิด Hemorrhagic shock ได้
การขาดเลือดของเนื้อเยื่อส่วนปลายจนส่งผลให้สูญเสียการทำงานของเส้นประสาท
เกิดการเน่าตายของเนื้อเยื่อส่วนปลาย โดยเฉพาะการขาดเลือดนานกว่า 6 ชั่วโมง
ต้องรีบให้การช่วยเหลือ
การพยาบาลผู้ป่วยจมน้ำ
คนที่จมน้ำมักตายภายใน 5 - 10 นาที
อาจตายจากภาวะแทรกซ้อนในภายหลังได้
คนที่จมน้ำ มักตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจมากกว่า การเปลี่ยนแปลงของระดับเกลือแร่ และปริมาตรของเลือด
อาการ :red_flag:
หมดสติ
หยุดหายใจ
หัวใจอาจหยุดเต้น (คลำชีพจรไม่ได้)
ถ้าไม่หมดสติ
ปวดศีรษะ
เจ็บหน้าอก
อาเจียน
กระวนกระวาย
ไอมีฟองเลือดเรื่อๆ แสดงว่ามีภาวะปอดบวมน้ำ
หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
หัวใจเต้นผิดจังหวะ
BP ต่ำ หรือช็อก
ปัจจัยที่มีผลต่อพยาธิสภาพของผู้จมน้ำ :red_flag:
สภาพผู้ป่วยก่อนจมน้ำ
อุณหภูมิของร่างกายหลังจมน้ำ
ช่วงเวลาที่จมอยู่ใต้น้ำ
การช่วยฟื้นคืนชีพได้เร็ว และถูกต้อง
CPR ภายใน 10 นาที โอกาสรอด 90%
CPR ภายใน 5 นาที โอกาสรอด 96%
การเปลี่ยนแปลงพยาธิสรีรภาพ :red_flag:
ระบบทางเดินหายใจ และปอด
มีภาวะ Pulmonary congestion หรือ edema
Tonicity ของสารน้ำ
Hypotonic solution : การจมน้ำจืด
เกิดภาวะ Atelectasis :!!:
Hypertonic solution : การจมน้ำทะเล
เกิด Pulmonary damage :!!:
ไม่มีการสำลักน้ำ
จะพบภาวะสมองขาดออกซิเจน
เกิด neurogenic pulmonary edema
การเปลี่ยนแปลงระบบประสาท
cerebral perfusion ลดลง
ทำให้สมองขาดเลือด (Ischemic brain)
การเปลี่ยนแปลงระบบไหลเวียนเลือด และหัวใจ
น้ำจืดจะมีความเข้มข้นน้อยกว่าเลือด
เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก (hemolysis) ได้
น้ำทะเลจะมีความเข้มข้นมากกว่าเลือด
หัวใจเต้นผิดปกติ
หัวใจวาย
ช็อก
การเปลี่ยนแปลงของเกลือแร่ และกรดด่างในเลือด
Acidosis
น้ำจืด
hyponatremia
hypochloremia
hyperkalemia
น้ำเค็ม
hypernatremia
hyperchloremia
hypermagnesemia
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในร่างกาย
T ของร่างกายลดต่ำลงตาม T ของน้ำที่ผู้ป่วยแช่อยู่
ในเด็กอุณหภูมิของร่างกายจะลดลงเร็วกว่าผู้ใหญ่มาก
ผลกระทบจากอุณหภูมิของร่างกายต่ำ
T 37 - 35 องศา
หนาวสั่น ทรงตัวไม่อยู่
T 35 - 32 องศา
สับสน หัวใจเต้นเร็ว
T 32 - 28 องศา
เกร็ง หัวใจเต้นช้า หายใจช้า
T 28 - 25 องศา
หมดสติ หัวใจเต้นผิดปกติ
T 25 - 21 องศา
หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น
การปฐมพยาบาล :red_flag:
กรณีที่คนจมน้ำรู้สึกตัวดี สำลักน้ำไม่มาก
กระตุ้นให้หายใจลึกๆ
ปลอบโยนให้คลายความตกใจ
ดูแลร่างกายให้อบอุ่น
แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ
ทำการเป่าปาก ช่วยหายใจทันที
ถ้าคลำชีพจรไม่ได้ หรือหัวใจหยุดเต้น
ให้ทำการ CPR ทันที
ถ้าผู้ป่วยยังหายใจได้เอง
ควรจับผู้ป่วยนอนตะแคงข้าง และศีรษะหงายไปข้างหลัง เพื่อให้น้ำไหลออกทางปาก
ใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วย เพื่อให้เกิดความอบอุ่น
NPO
ควรส่งผู้ป่วยที่จมน้ำไม่ว่าจะมีอาการหนักเบาเพียงใด
ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทุกราย :!!:
นางสาวจุฑามาศ ดำแดงดี 6001210781 เลขที่ 39 Sec. A