Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินในระบบโครงสร้างและกล้ามเนื้อและผู้ป่วยจมน้ำ, นาย…
การพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินในระบบโครงสร้างและกล้ามเนื้อและผู้ป่วยจมน้ำ
ระบบโครงสร้างและกล้ามเนื้อ
การพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บกระดูกและข้อ
Primary survey และ Resuscitation
ผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บแล้วเกิดการเสียเลือดให้ control bleeding คือ Direct pressure ด้วย Sterile pressure dressing
ผู้ป่วยที่กระดูกผิดรูป หรือ fracture ให้ทําการ splint ให้เหมาะสม
ในระหว่างการทํา Primary survey และ Resuscitation พยาบาลควรทําการ Immobilizationเพื่อจัดกระดูกให้อยู่ในตําแหน่งที่ปกติ แล้วลดการขยับเลือนโดยการ Splint กระดูกส่วนที่หัก
ผู้ป่วยที่มีปัญหาการบาดเจ็บข้อกระดูก ให้ทําการ Splint ให้ปวดน้อยที่สุด
Secondary survey
การตรวจร่างกาย
ตรวจพบอาการปวดและกดเจ็บ มองเห็นกระดูกผิดรูป บวมผิดรูป คลําพบเสียงกระดูกขัดสีกันเมื่อขยับ
การตรวจผู้ป่วยอุบัติเหตุจะมี 3 ขึ้นตอน
การตรวจคร่าวๆ เพื่อ Screening test
กระดูกแขนขา
ให้ผู้ป่วยยกแขนขาทั้งสองข้างหากพบว่าผู้ป่วยสามารถยกแขนขาได้
ตามปกติ แสดงว่าผู้ป่วยไม่น่าจะมีกระดูกหัก
กระดูกเชิงกรานและกระดูกซี่โครง
ให้ผู้ป่วยนอนหงายออกแรงกดบริเวณ Sternumแล้วบีบด้านข้างทรวงอกทั้งสองข้างเข้าหากัน หากผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดแสดงว่าอาจเกิดการหักของกระดูกซี่โครง
กระดูกสันหลัง
กระดูกสันหลังส่วนคอให้ผู้ป่วยยกคอ หันศีรษะอย่างระมัดระวัง ในท่า
นอนหงาย ผู้ป่วยที่สามารถทําได้แสดงว่าอาจไม่มีการหักของกระดูกสันหลังส่วนคอ
ให้ผู้ป่วยนอนหงายพลิกตะแคงตัวแบบท่อนซุง ใช้มือคลําตามแนวกระดูกสันหลังตลอดแนว หากมีการบาดเจ็บกระดูกสันหลัง จะพบอาการกดเจ็บ บวมผิดรูป
การตรวจอย่างละเอียด Secondary survey จะพบ
มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ
มีเสียงกระดูกขัดกัน (Crepitus)
กระดูกผิดรูป โก่งงอ หดสั้นหรือบิดหมุน
การตรวจและรักษา Life threatening และ Resuscitation
3 การเอกซเรย์
ถ่ายเอกซเรย์ 2 ท่าในแนวตั้งฉากกัน คือ Anterior-posterior
ถ่ายเอกซเรย์ให้ครอบคลุมกระดูกส่วนที่หักรวมส่วนข้อปลายกระดูกทั้งสองด้าน
การซักประวัติ
1.2 ระยะเวลา เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการรักษา
1.3 สถานที่ เช่น อุบัติเหตุในน้ําสกปรก คูน้ํา
1.1 สาเหตุการเกิดเช่น รถยนต์ชน ถูกยิง ถูกแทง
1.4 การรักษาเบื้องต้น เช่น การใส่ Splint การใส่ traction
Definitive care
Reduction เป็นการจัดกระดูกให้เข้าที่ให้ใกล้เคียงกับภาวะปกติมากที่สุด
Retention เป็นการประคับประคองให้กระดูกอยู่นิ่งกับที่จากการจัดกระดูกเข้าที่แล้วและรอให้กระดูกติดตามธรรมชาติที่ใช้บ่อยได้แก่ Casting Traction Internal fixation External fixation
Recognition เป็นการตรวจประเมินกระดูกหัก ข้อเคลื่อน และการบาดเจ็บอื่น เพื่อเป็นแนวทางในการรักษา
Rehabilitation เป็นการฟื้นฟูสมรรถภาพของส่วนที่บาดเจ็บ รวมทั้งการฟื้นฟูดูแลจิตใจผู้ป่วยให้สามารถกลับมาเป็นปกติ
Reconstruction เป็นการแก้ไขซ่อมแซมส่วนที่สูญเสียจากการบาดเจ็บหรือภาวะแทรกซ้อนให้กลับมาใช้งานได้ดีขึ้น
Refer เป็นการส่งต่อไปรักษาที่เหมาะสม
ภาวะกระดูกหักที่คุกคามชีวิต
Major Arterial Hemorrhage
อาการ
Pulsatile bleeding บริเวณบาดแผล hematoma มีขนาดใหญ่ขึ้น คลําได้thrill ฟังได้bruit และ 6Ps
การช่วยเหลือเบื้องต้น
ควรทํา Direct pressure บริเวณบาดแผลเพื่อหยุดเลือด และ Fluid resuscitation ในรายที่กระดูกผิดรูปให้ทําการจัดกระดูกให้เข้าที่แล้วทําการ Splint
Crush Syndrome
อาการ
Dark urine, พบ Hemoglobin ได้ผลบวก เมื่อเกิดภาวะ
Rhabdomyolysis ผู้ป่วยจะมีอาการของ Hypovolemia, Metabolic acidosis, Hyperkalemia, Hypocalcemia และ DIC ได้
การช่วยเหลือเบื้องต้น
ให้ Fluid resuscitation ให้ Osmotic diuretic เพื่อรักษาระดับ Tubular volume และ Urine flow
แพทย์จะพิจารณาให้ Sodium bicarbonate เพื่อช่วย
ลด Myoglobin ที่ไปทําลาย Tubular system
ในระหว่างการให้สารน้ําและยาจะประเมิน Urine output
ให้ได้ 100 cc./ชั่วโมง จนกว่าปัสสาวะจะใส (clear myoglobinuria)
Major Pelvic disruption with Hemorrhage
การช่วยเหลือเบื้องต้น
Control bleeding โดยการทํา Stabilization pelvic ring
จาก external counter pressure และ Fluid resuscitation
อาการ
ขาข้างที่ผิดปกติจะสั้น
Scrotum และ Perineum บวม มีแผลฉีกขาดบริเวณ
Perineum และ Pelvic
ระบบไหลเวียนจะพบความดันโลหิตต่ํา
จมน้ำ
พยาธิสภาพที่เกิดขึ้นภายหลังการจมน้ํา
น้ําจืดจะมีความเข้มข้นน้อยกว่า เลือด(พลาสมา)
น้ําอยู่ในปอดจํานวนมากก็จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดทันทีทําให้ปริมาตรของเลือดที่ไหลเวียนเพิ่มจากเดิม (hypervolemia)
มีผลทําให้ระดับเกลือแร่ในเลือดลดลง
หัวใจเต้นผิดจังหวะ
น้ําทะเลที่สําลักอยู่ในปอด จะดูดซึมน้ําเลือด (พลาสมา) จากกระแสเลือดเข้าไปในปอด
เกิดภาวะปอดบวมน้ํา (pulmonary edema) ระบบไหลเวียนมีปริมาตรลดลง (hypovolemic) และระดับเกลือแร่ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
หัวใจเต้นผิดจังหวะ
อาการ
อาเจียน กระวนกระวาย
ไอมีฟองเลือดเรื่อ ๆ
มีอาการปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก
พบภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันเลือดต่ํา หรือภาวะช็อก
มีอาการหมดสติ และหยุดหายใจ
ปัจจัยที่มีผลต่อพยาธิสภาพของผู้จมน้ํา
อุณหภูมิของร่างกายหลังจมน้ํา
อุณหภูมิในร่างกายจะลดลง ทําให้หัวใจเต้นผิดปกติและตายได้
ช่วงเวลาที่จมอยู่ใต้น้ํา
สภาพผู้ป่วยก่อนจมน้ํา
สุขภาพผู้จมน้ํา
การรับประทานอาหารที่ที่อิ่มใหม่ๆ
Diving reflexes
การมึนเมาจากสุรา
การสูดหายใจเข้าปอดเต็มที่ก่อนจทน้ํา
ความรู้ในการว่ายน้ํา
อายุ
การช่วยฟื้นคืนชีพได้เร็วและถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
CPR ภายใน 10 นาที โอกาสรอด 90%
CPR ภายใน 5 นาที โอกาสรอด 96%
การปฐมพยาบาล
ถ้าคลําชีพจรไม่ได้ หรือหัวใจหยุดเต้น ให้ทําการนวดหัวใจทันที
ถ้าผู้ป่วยยังหายใจได้เอง หรือช่วยเหลือจนหายใจได้แล้ว ควรจับผู้ป่วยนอนตะแคงข้าง และศีรษะหงายไปข้างหลัง เพื่อให้น้ำไหลออกทางปาก
ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทําการเป่าปาก ช่วยหายใจทันที
ใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความอบอุ่น อย่าให้ผู้ป่วยกินอาหารและดื่มน้ำทางปาก
กรณีที่คนจมน้ำรู้สึกตัวดี สําลักน้ำไม่มาก
ปลอบโยนให้คลายความตกใจ
ดูแลร่างกายให้อบอุ่น
กระตุ้นให้หายใจลึกๆ
แนะนำให้ไปพบแพทย์เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
ควรส่งผู้ป่วยที่จมน้ำไม่ว่าจะมีอาการหนักเบาเพียงใด ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทุกราย
การเปลี่ยนแปลงพยาธิสรีรภาพ
การเปลี่ยนแปลงของเกลือแร่และกรดด่างในเลือด
acidosis
PO2 metabolic acidosis
PCO2 respiratory acidosis
น้ำจืดเกิด hyponatremia, hypochloremia, hyperkalemia
น้ำเค็มเกิด hypernatremia, hyperchloremia, hypermagnesemia
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในร่างกาย
T 35 - 32 องศา สับสน หัวใจเต้นเร็ว
T 32 - 28 องศา เกร็ง หัวใจเต้นช้า หายใจช้า
T 37 - 35 องศา หนาวสั่น ทรงตัวไม่อยู่
T 28 - 25 องศา หมดสติ หัวใจเต้นผิดปกติ
T 25 - 21 องศา หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น
การเปลี่ยนแปลงระบบประสาท การจมน้ำทําให้เกิด cerebral hypoxia เกิดภาวะสมองบวมตามมา และภาวะ circuratory arrest ทําให้ cerebral perfusion ลดลง ทําให้สมองขาดเลือด Ischemic brain
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินหายใจและปอด มีภาวะ Pulmonary congestion หรือ edema
1.2 ผู้ป่วยที่ไม่มีการสําลักน้ำ จะพบภาวะสมองขาดออกซิเจน และเกิด neurogenic pulmonary edema ตามมา
1.1 ผู้ป่วยมีการสูดสําลักสารน้ำเข้าไปจะเกิดพยาธิสรีรภาพกับปอดอย่างรุนแรง
นาย พิชยุตม์ อยู่ประเสริฐ 6001210637 sec B