Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Metabolism of Fatty Acid 2, ชื่อ-สกุล - Coggle Diagram
Metabolism of Fatty Acid 2
ปฏิกิริยาเบต้าออกซิเดชัน ของกรดไขมันไม่อิ่มตัว
การออกซิไดซ์กรดไขมัน ทีมี18 C และมี 1 พันธะคู่ (บนคาร์บอนตำแหน่งที่9)
ในขั้นแรก oleate จะถูกเปลี่ยนเป็น oleoyl-CoA (C-18) ซึ่งจะถูกส่งไปยังผนังของไมโทคอนเดรียในรูป
ของ oleoyl-carnitine และจะเปลี่ยนกลับมาเป็น oleoyl-CoA เหมือนเดิมเมื่ออยู่ในแมทริกซ์(-2ATP)
จากนั้น oleoyl-CoA ก็จะถูกออกซิไดซ์ 3 ครั้ง ได้ 3 acetyl-CoA และ coenzyme A ester ของกรดไขมัน
ไม่อิ่มตัวที่มี 12 คาร์บอน
ในการออกซิไดซ์ครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นต าแหน่งของพันธะคู่ที่มีการจัดเรียงตัวแบบซิส เอนไซม์ enoyl-CoA isomerase ก็จะเปลี่ยน dodecenoyl-CoA (C12) จากซิส-ไอโซเมอร์มาเป็นทรานส์-ไอโซเมอร์
และเข้าสู่กระบวนการออกซิเดชันต่ออีก 5 ครั้งได้เป็น 6 acetyl-CoA
ดังนั้น oleoyl-CoA จะถูกออกซิไดซ์ทั้งหมด 8 ครั้งและได้ 9 acetyl-CoA
การออกซิไดซ์กรดไขมันที่มี 18 คาร์บอนและมี 1พันธะคู่ (oleate)
การออกซิไดซ์กรดไขมันที่มีจำนวนคาร์บอนเป็นเลขคี่
แต่ในการออกซิไดซ์ครั้งสุดท้ายจะเหลือ fatty acyl-CoA ที่มีจ านวนคาร์บอน 3 อะตอม คือ propionyl-CoA
การออกซิไดซ์กรดไขมันที่มีจ านวน C เป็น เลขคี่ เหมือนกับการออกซิไดซ์กรดไขมันที่มี จ านวนคาร์บอนเป็นเลขคู่ คือ เริ่มจากปลาย ด้านที่มีหมู่คาร์บอกซิล
propionyl-CoA จะถูกเปลี่ยนเป็น succinyl-CoA และ succinyl-CoA ก็จะเข้าสู่วัฏจักรกรด ซิตริกต่อไป
(Fatty Acid Synthesis)
การสังเคราะห์กรดไขมัน เกิดขึ้นที่ไซโตพลาสมของเซลล์ตับ กล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อไขมัน
การสังเคราะห์กรดไขมัน จะเริ่มต้นจาก Acetyl CoA แล้วค่อย ๆ เพิ่มจ านวนคาร์บอนขึ้นครั้งละ
2 อะตอม จนได้กรดไขมันที่มีจ านวนคาร์บอนตามต้องการ
การสังเคราะห์กรดไขมัน จะสังเคราะห์เมื่อเซลล์มีพลังงานเพียงพอ และมี Acetyl CoA เหลือใช้ แต่เอนไซม์ที่ใช้สังเคราะห์มีอยู่ในไซโตพลาสม ดังนั้นจึงจ าเป็นต้องน าเอา Acetyl CoA ออกมาจากไมโตคอนเดรียก่อน
(Fatty Acid Synthesis)
การสังเคราะห์กรดไขมันในไซโตพลาสม่าเริ่มต้นจากอะซิติลโตเอ
รอบแรกได้เป็น Butyryl-ACP
เพิ่มจำนวน C รอบละ2 Cจนมี 16 C (Palmitate)
มากกว่า 16 C จะสร้างในERหรือไมโครโซม
NADPH
❑NADPH ต่างจาก NADH ตรงที่มีหมู่ฟอสเฟตเพิ่ม ที่คาร์บอนต าแหน่งที่ 2 ของน ้าตาลไรโบสซึ่งจับ กับเบสอะดีนีน
นิโคตินาไมด์อะดินีนไดนิวคลีโอไทด์ฟอสเฟต เป็นโคแฟกเตอร์ที่ใช้ในการสังเคราะห์ กรดไขมันนิวคลีโอไทด์และกรดนิวคลีอิก ซึงต้องใช้ NADPH เป็นตัวให้อิเล็กตรอน
(Ketone Bodies Metabolism)
❑สารคีโทนบอดีส์เป็นกลุ่มของสารประกอบที่สังเคราะห์ได้ในร่างกายเมื่อมีเมแทบอลิซึมของไขมันเพิ่มขึ้นมาก จะมีสารคีโทนบอดีส์สังเคราะห์จากแอซีทิลโคเอมากขึ้นกว่าปกติ เรียกว่าภาวะคีโตซีส (ketosis)
สารกลุ่มนี้มีฤทธิ์เป็นกรดประกอบด้วย แอซีโตน กรดแอซีติก และกรดบีตา-ไอดรอกซีบิวทิริก
❑กรณีที่ร่างกายได้รับกลูโคสน้อย เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ขาดอินซูลินที่ล าเลียงกลูโคสเข้าสู่เซลล์ เซลล์ต้อง สลายกรดไขมันเพื่อใช้สร้างพลังงาน ปริมาณ acetyl CoA จะสูงขึ้น
เมื่อรา่งกายต้องการพลังงานจะสลายยคีโตนบอดี้ที่เก็บไว้ตามส่งวนต่างๆของร่างกาย
ชื่อ-สกุล
นางสาวปทุมพร เอราวรรณ์
รหัสนักศึกษาา622801038
เลขที่37