Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เมตาบอลิซึมของกรดไขมัน Metabolismof Fatty Acid, แคตาบอลิซึมของกรดไขมัน …
เมตาบอลิซึมของกรดไขมัน
Metabolismof Fatty Acid
ไขมันส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของไตรเอซิลกลีเซอรอล
(triacylglycerol) หรือไตรกลีเซอไรด์(triglyceride)
โดยไตรเอซิลกลีเซอรอล 1 กรัม จะให้พลังงานประมาณ
38 kJ ซึ่งให้พลังงานมากกว่าโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต
เกือบ 2เท่า
ในการที่จะย่อยไตรเอซิลกลีเซอรอลนั้น
ไตรเอซิลกลีเซอรอลจะต้องเปลี่ยนจากรูปที่ไม่ละลาย
น้ำไปเป็นรูปของไมเซลล์(micelles) โดยต่อมน้ำดีจะ
หลั่งน้ำดีไปคลุกเคล้ากับไตรเอซิลกลีเซอรอลที่
ลำไส้เล็กทำให้เอนไซม์ไลเปส (water –soluble lipase)
ทำหน้าที่ย่อยไตรเอซิลกลีเซอรอลแล้วจะได้เป็น
▪ กรดไขมันอิสระ (free fatty acids)
▪ กลีเซอรอล (glycerol)
ประมาณ 95% ของพลังงานทั้งหมดของ
ไตรเอซิลกลีเซอรอลจะยังคงอยู่ในรูปของสายโซ่
ของกรดไขมัน
กรดไขมันจากการย่อยอาหารจะถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็กแล้ว
สังเคราะห์ขึ้นใหมเ่ป็น triacylglycerol
กรดไขมัน ถูกส่งไปส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
โดยอาศัยไปกับ serum albumin
การออกซิไดซ์กรดไขมันที่มีจำนวนคาร์บอนเป็นเลขคี่
การออกซิไดซ์กรดไขมันที่มีจำนวน C เป็นเลขคี่เหมือน
กับการออกซิไดซ์กรดไขมันที่มีจำนวนคาร์บอนเป็นเลขคู่
คือ เริ่มจากปลายด้านที่มีหมู่คาร์บอกซิล
แต่ในการออกซิไดซ์ครั้งสุดท้ายจะเหลือ
fatty acyl-CoA ที่มีจำนวนคาร์บอน 3 อะตอม
คือ propionyl-CoA
propionyl-CoA จะถูกเปลี่ยนเป็น succinylCoA และ
succinyl-CoA ก็จะเข้าสู่วัฏจักรกรดซิตริกต่อไป
การสังเคราะห์กรดไขมัน
(Fatty Acid Synthesis)
การสังเคราะห์กรดไขมัน เกิดขึ้นที่ไซโตพลาสของ
เซลล์ตับ กล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อไขมัน
การสังเคราะห์กรดไขมัน จะเริ่มต้นจาก Acetyl CoA
แล้วค่อย ๆ เพิ่มจำนวนคาร์บอนขึ้นครั้งละ 2อะตอม
จนได้กรดไขมันที่มีจำนวนคาร์บอนตามต้องการ
การสังเคราะห์กรดไขมัน จะสังเคราะห์ เมื่อเซลล์มี
พลังงานเพียงพอและมี Acetyl CoA เหลือใช้แต่
เอนไซม์ที่ใ่ช้สังเคราะห์มีอยู่ในไซโตพลาส ดังนั้นจึง
จำเป็นต้องนำเอา Acetyl CoA ออกมาจาก
ไมโตคอนเดรียก่อน
▪ การสังเคราะห์กรดไขมันในไซโตพลาสมเริ่มต้นจาก
อะซิติลโคเอ
▪ รอบแรกได้เป็น Butyryl-ACP
(ACP;AcylCarrier Protein)
▪ เพิ่มจำนวน C รอบละ 2 C จนมี 16C (Palmitate)
▪ มากกว่า 16 C จะสร้างใน ER หรือไมโครโซม
NADPH
นิโคตินาไมด์อะดินีนไดนิวคลีโอไทด์ฟอสเฟต
เป็นโคแฟกเตอร์ที่ใช้ในการสังเคราะห์
กรดไขมัน นิวคลีโอไทด์และกรดนิวคลีอิก
ซึ่งต้องใช้ NADPH เป็นตัวให้อิเล็กตรอน
NADPH ต่างจาก NADH ตรงที่มีหมู่ฟอสเฟตเพิ่มที่
คารบ์อนตำแหน่งที่ 2 ของน้ำตาลไรโบส
ซึ่งจับกับเบสอะดีนีน
เมตาบอลิซึมของคีโตนบอดี
(Ketone Bodies Metabolism)
สารคีโทนบอดีส์เป็นกลุ่มของสารประกอบที่สังเคราะห์
ได้ในร่างกายเมื่อมีเมแทบอลิซิมของไขมันเพิ่มขึ้นมาก
จะมีสารคีโทนบอดีส์สังเคราะห์จากแอซีทิลโคเอมากขึ้น
กว่าปกติ เรียกว่าภาวะคีโตซีส(ketosis)
มีฤทธิ์เป็นกรดประกอบด้วย แอซีโตน กรดแอซีโตแอซีติก
และกรดบีตา-ไฮดรอกซีบิวทิริก
เมื่อร่างกายต้องการพลังงานจะสลายคีโตนบอดี้
ที่เก็บไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
ได้เป็น acetyl CoA เข้าสู่ CTA -cycle
แคตาบอลิซึมของกรดไขมัน
(Catabolism of fatty acids)
การกระตุ้นกรดไขมัน
(Fatty acid activation steps)
การพากรดไขมันเข้าสู่ไมโตคอนเดรีย
(Acyl carnitine shuttle)
ปฏิกิริยาเบต้าออกซิเดชัน
(ß-oxidation)
Dehydrogenation ได้ 1FADH2= 1.5ATP
Hydration
Dehydrogenation ได้ 1NADH2+= 2.5ATP
Acylation ตัดพันธะที่ตำแหน่งเบต้า
(สั้นลง 2 C)
8 Acetyl-CoA =
(3NADH + 1FADH2+ 2 GTP) x 8 (TCA cycle)
การออกซิไดซ์กรดไขมันoleate ที่มี 18 C
และมี 1 พันธะคู่ (บนคาร์บอนตำแหน่งที่ 9)