Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะท้องผูก (Constipation), นางสาวดารณี วริสาร เลขที่ 6 ห้อง A, ศิรินุช…
ภาวะท้องผูก (Constipation)
ปัจจัยเสี่ยง
ความเครียด ความวิตกกังวล
โรคและภาวะที่สัมพันธ์กับการเกิดท้องผูก ได้แก่โรคไตเช่นไตวาย ยูรีเมีย โรคทางระบบประสาทเช่นโรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง multiple sclerosis โรคของระบบต่อมไร้ท่อ
อายุที่มากขึ้นคนที่อายุมากกว่า 55 ปีขึ้นไป
การเข้าห้องน้ำไม่สะดวก เช่น ห้องน้ำอยู่ไกล สายตาพร่ามัว ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน อัมพาต
การเคลื่อนไหวร่างกายได้น้อยลง ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวน้อยลง
ความหมาย
ท้องผูก หมายถึง การเคลื่อนไหวของลำไส้น้อยลงทำให้มีการขับถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์โดยมีลักษณะอุจจาระแข็งแห้งก้อนใหญ่ผิดปกติ และถ่ายลำบากและหรือการมีแรงต้านการเคลื่อนไหวของลำไส้ทำให้ผู้นั้นต้องออกแรงเบ่งการขับถ่ายอุจจาระเพิ่มขึ้น (Hinrichs & Huseboe, 2001: เมธี เมมะสุวรรณดิษฐ์, 2543) เมื่อเกิดอาการท้องผูกจะทำให้บุคคลรู้สึกไม่สุขสบายมีอาการปวดท้อง ปวดบริเวณกันหรือทำให้ผู้ที่มีริดสีดวงทวารอยู่มีอาการเพิ่มมากขึ้น
สาเหตุของภาวะท้องผูก
ยาบางชนิด
ยากลุ่ม Opiates
ยาต้านการซึมเศร้า
ยากันชัก
ยาลดกรดที่มีเกลืออลูมิเนียม
โรคประจำตัว
โรคของลำไส้และทวารหนัก
การเคลื่อนไหวของร่างกายลดลง
โรคทางระบบประสาท
พฤติกรรมและแบบแผนการดาเนินชีวิตประจาวัน
รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อยเกินไป
ขาดการออกกาลังกาย
นิสัยการกลั้นอุจจาระเป็นประจำ
อาการและอาการแสดง
ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์หรือน้อยกว่าปกติที่เคยเป็น
รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่ออก หรือถ่ายได้ไม่สุด
อึดอัด แน่นท้อง ท้องอืด
ถ่ายอุจจาระออกได้ยาก ต้องใช้แรงเบ่งมากหรือใช้มือช่วยล้วง อาจมีอาการเจ็บขณะถ่ายอุจจาระร่วมด้วย
อุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง เป็นเม็ดเล็ก ๆ
ท้องอืด ปวดท้อง หรือปวดเกร็งบริเวณหน้าท้อง
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดจากภาวะท้องผูก
Stercoral ulceration
ยังไม่มีการพิสูจน์แน่ชัด
CA Colon
Melanesia coli
Hemorrhoid
Sigmoid volvulus
การดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะท้องผูก
กรณีที่อุจจาระอัดแน่นให้ทาการล้วง (Evacuation) ด้วยความนุ่มนวล
ไม่ควรใช้ยาระบายติดต่อกันเกิน 1 สัปดาห์ และควรมีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง
ปรับพฤติกรรมการขับถ่ายให้เป็นเวลาในแต่ละวัน ไม่ควรมีการอั้นอุจจาระหรือรีบร้อนในการขับถ่าย
การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
แนะนำการบดเคี้ยวอาหารอย่างละเอียด
ดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตร เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะการขาดน้ำ และไม่ทำให้อุจจาระแข็งจนเกินไป
รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงอย่างน้อย 18-30 กรัมต่อวัน โดยเฉพาะผักและผลไม้สด ธัญพืช หรือเติมสารเพิ่มปริมาณ (Bulking Agents) ในอาหารที่รับประทาน เช่น รำข้าวสาลี เพื่อช่วยให้อุจจาระมีความอ่อนตัวมากขึ้นและง่ายต่อการขับถ่าย
จัดสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตร มีความเป็นส่วนตัว ให้เวลาในการขับถ่าย
ออกกำลังกายด้วยการเดินเป็นระยะเวลา 10-15 นาที วันละหลาย ๆ ครั้ง เพื่อฝึกกล้ามเนื้อให้ทำงานได้เป็นปกติ
นางสาวดารณี วริสาร เลขที่ 6 ห้อง A
ศิรินุช จันทรังกุล. (2558). การส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2563,/จาก/
https://www.slideshare.net/sirinoot1/57-41636815
ชมพูนุช พูมพิจ. ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร.สืบค้นจากเอกสารประกอบการสอนวิชา การพยาบาลผู้สูงอายุ