Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
:check: เรื่องการสวนล้าง :check:, นางสาวดรุณี ชื่นชุ่ม เลขที่42 ห้องA …
:check:
เรื่องการสวนล้าง
:check:
การล้างตา
เพื่อขจัดฝุ่นละออง :red_flag: สารเคมี ล้างพิษหรือสิ่งแปลกปลอมออกจากตา บรรเทาอาการเจ็บปวด ล้างตาเตรียมความสะอาดก่อนผ่าตัด
อุปกรณ์
ชุดล้างตาไร้เชื้อ (sterile) 1 ชุด
.สารละลายน้ำเกลือ (NSS)
สำลีไร้เชื้อ (sterile)
ผ้ายางไว้สำหรับรองใต้ศีรษะผู้ป่วย
ชามรูปไต
(Set IV และเสา IV กรณีประเมินแล้วผู้ป่วยต้องการล้างตาในปริมาณมาก)
วิธีปฏิบัติ
1.แนะนำตัว บอกขั้นตอนและวัตถุประสงค์
ล้างมือ เตรียมอุปกรณ์
จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนหงายไม่หนุนหมอน ใช้ผ้ายางรองใต้ศีรษะผู้ป่วย นำชามรูปไตรองใต้หางตาผู้ป่วยข้างที่ต้องการจะล้าง จัดให้ส่วนเว้าของชามรูปไตกระชับกับส่วนโค้งของใบหน้า บอกให้ผู้ป่วยเอียงใบหน้ามาข้างที่จะล้าง
ล้างมือ เปิดชุดล้างตาไร้เชื้อ (sterile) เทน้ำยาล้างตาลงในถ้วยใบเล็กใช้ syringe ดูดน้ำยาจากถ้วยใบเล็ก หรือใช้ Set IV ต่อกับ NSS ล้างตาให้ผู้ป่วย
ใช้หัวแม่มือและนิ้วชี้ข้างที่ไม่ถนัดค่อยๆเปิดหนังตาบนและล่างของผู้ป่วย
ใช้มือข้างที่ถนัดจับ syringe แล้วค่อยๆดันน้ำยาให้ไหลจากหัวตาเป็นสายตลอดเวลา พร้อมทั้งให้ผู้ป่วยกลอกตาขณะทำการล้างตาจนสะอาด
7.บอกให้ผู้ป่วยหลับตา ใช้สำลีซับเบาๆจากหัวตามาหางตา
8.นำอุปกรณ์ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ และล้างมือ
9.เขียนบันทึกทางการพยาบาล
จุดเน้นสำคัญ
:<3:
ห้ามล้างตาในผู้ป่วยที่ตาได้รับบาดเจ็บ
ห้ามล้างตาในผู้ป่วยหลังผ่าตัด
อย่าพุ่งน้ำบนกระจกตาโดยตรง
ล้างข้างที่สะอาดก่อนเสมอ
การล้างหู
:red_flag: เพื่อล้างสิ่งที่ไม่ต้องการ หรือเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากหู
อุปกรณ์
น้ำต้มสุกสะอาด หรือ น้ำสะอาด
syringe 10-20 cc 1 อัน และเข็มพลาสติก (medicut หรือ iv catheter) เบอร์ 18
ชามรูปไต 1 ใบ
ผ้ายางหรือผ้ารองกันเปื้อน
สำลี 2 ก้อน
เครื่องตรวจหู (otoscope)
อุปกรณ์ถ่างรูหู (ear speculum)
วิธีปฏิบัติ
1.แนะนำตัว อธิบายวัตถุประสงค์
2.ล้างมือ เตรียมอุปกรณ์
3.จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านั่งเอียงศีรษะไปด้านตรงกันข้ามกับข้างที่จะล้างเล็กน้อย ใช้ผ้ายางหรือผ้ารองกันเปื้อนวางบริเวณคอและไหล่ของผู้ป่วย
4.เครื่องตรวจหูที่ใส่อุปกรณ์ถ่างรูหู ส่องดูในรูหูผู้ป่วย เพื่อดูขนาดและลักษณะของขี้หู หรือสิ่งแปลกปลอม
นำ syringe ต่อกับเข็มฉีดยาพลาสติก ดูดน้ำอุ่นจนเต็มกระบอกสูบ
6.ใช้มือข้างหนึ่งดึงใบหูผู้ป่วยไปข้างหลังและขึ้นข้างบน สอดปลายเข็มเข้าไปในรูหูประมาณครึ่งนิ้ว แล้วฉีดน้ำอุ่นเข้าไปในรูหู โดยฉีดไปทางด้านหลังของรูหูและค่อนไปทางข้างบน เอียงศีรษะให้น้ำไหลออก และคอยสังเกตสิ่งแปลกปลอมที่หลุดออกมา ล้างต่อไปจนสะอาด
7.เมื่อเสร็จแล้วใช้สำลีเช็ดบริเวณหู และซับน้ำที่เหลือค้างอยู่บริเวณหูให้แห้ง
8.นำอุปกรณ์ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ และล้างมือ
9.เขียนบันทึกทางการพยาบาล
จุดเน้นสำคัญ
:<3:
1.ขณะล้างหูอย่าสอดปลายเข็มไปลึกเกินครึ่งนิ้ว
ไม่ล้างหูในคนที่มีแก้วหูทะลุฉีกขาด
3.ไม่ควรฉีดน้ำเข้าไปตรงๆ เพราะอาจเกิดอันตรายต่อแก้วหูได้
4.น้ำที่ใช้ควรมีอุณหภูมิพอเหมาะ
๓ การสวนล้างกระเพาะอาหาร ลำไส้
อุปกรณ์ (สวนกระเพาะอาหาร)
เช่นเดียวกับการใส่สายทางจมูกถึงกระเพาะอาหาร
ยกเว้นขนาดของสาย เลือกใช้สายที่มีขนาด ใหญ่ หรือสายที่มี 2 หาง เช่น sump tube
สารละลาย ส่วนใหญ่ใช้น้ำเกลือ 0.9% NSS
กระบอกฉีดยาหัวต่อใหญ่ (Irriigating syringe หรือ Asepto syringe) ขนาด 50 cc.
ถุงมือสะอาด
ภาชนะใส่สารละลาย และรองรับสารละลายจากตัวผู้ป่วย
ผ้ารองกันเปื้อน
K-Y jelly หรือ Xylocain
Stethoscope
พลาสเตอร์
ชามรูปไต
วิธีปฏิบัติ
แนะนำตัว อธิบายวัตถุประสงค์ และบอกขั้นตอนพร้อมจัดท่านอนราบตะแคงศีรษะไปด้านซ้าย
.ล้างมือ เตรียมอุปกรณ์
คลุมผ้าให้ผู้ป่วยบริเวณใต้คางถึงหน้าอก
ล้างมือ สวมถุงมือ
ถ้าผู้ป่วยยังไม่มีสายคาอยู่ต้องใส่สายให้ก่อน คือ
เปิดชุดสวนล้างกระเพาะอาหาร เท Solution ใส่ภาชนะที่ใช้ล้างกระเพาะอาหาร
วัดสายยางเตรียมใส่กระเพาะอาหาร เริ่มจากติ่งหูถึงปลายจมูกแล้วต่อไปถึงส่วนปลายของปุ่มกระดูกกลางหน้าอก Xyphoid Process
หล่อลื่นสายยางแล้วขมวดสายไว้ด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด
ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดใส่สายยางเข้าไปในจมูกหรือปากอย่างนิ่มนวล ระวังอย่าให้ผู้ป่วยกัดสาย
ทดสอบสายยางว่าอยู่ในกระเพาะอาหาร
: เช็ดปลายสายด้วย 0.9 % NSS หรือน้ำต้มสุกสะอาดแล้วจุ่มปลายสายลงในแก้ว
: ฟังเสียงลมผ่านปลายสายให้อาหาร โดยใช้ Syringe Feed ดันลมเข้าไปประมาณ 15-20 มล. ในผู้ใหญ่ และในเด็ก 3-5 มล. พร้อมกับฟังด้วย Stethoscope บริเวณ Xiphoid process
: ดูด Content ในกระเพาะอาหาร ถ้ามีสายคาอยู่แล้วต้องตรวจสอบตำแหน่งของปลายสายว่าอยู่ในกระเพาะอาหาร (ด้วยวิธีดังกล่าว)
เทสารละลายใส่ภาชนะรองรับ ใช้กระบอกฉีดยาดูดสารละลาย 50 cc
หักพับสายแล้วต่อกระบอกฉีดยาเข้ากับสาย แล้วปล่อยสายที่หักพับ ค่อยๆดันสารละลายเข้าไปและ
ดูดออก ทำซ้ำไปเรื่อยๆจนกว่าจะพบว่าสารละลายที่ไหลออกเจือจางลง ใสใกล้เคียงกับสีปกติ จึงหยุด
จัดให้ผู้ป่วยนอนตะแคงซ้ายหรือขวาศีรษะต่ำ 15 องศา หากไม่มีข้อห้ามอื่น
นำอุปกรณ์ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ และล้างมือ
เขียนบันทึกทางการพยาบาล
จุดเน้นสำคัญ
:<3:
ห้ามล้างกระเพาะอาหารในผู้ป่วยที่รับประทานสารพิษประเภทกัดกร่อนอย่างแรง
ห้ามล้างกระเพาะอาหารในผู้ป่วยได้รับสารพิษพวกไอระเหย
อุปกรณ์ (สวนลำไส้)
1.หม้อหรือถุงพลาสติก ที่ใส่น้ำยาสำหรับล้างน้ำยาที่ใช้อาจใช้น้ำอุ่น น้ำเกลือหรือน้ำกลั่น ให้อุ่นประมาณ 103-105 องศาฟาเรนไฮต์ จำนวนที่ใช้ประมาณ 1,000 – 2,000 cc
2.สายยางที่ต่อปลายหม้อสวนใช้สายยางเบอร์ 22 หรือ 24
3.Clamp
4.น้ำยาหล่อลื่น
วิธีปฏิบัติ
แจ้งวัตถุประสงค์ อธิบายขั้นตอน จัดท่าท่าที่เหมาะสมโดยนอนตะแคงซ้าย ใช้ผ้ายางรองบริเวณก้น
2. ล้างมือ สวมถุงมือสะอาด หล่อลื่นทวารด้วยน้ำยาหล่อลื่น
นำน้ำยาสำเร็จรูปค่อยๆ สอดเข้าไปในรูทวารหนัก บีบน้ำยา จนหมดขวด
จัดท่าสุขสบายให้ผู้ป่วย เก็บอุปกรณ์ ล้างมือ
5. เขียนรายงานลงในรายงานให้การพยาบาล (nurse's notes) เกี่ยวกับผลของการพยาบาล
การสวนล้างลำไส้
มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยขับถ่ายสิ่งที่อยู่ในลำไส้ใหญ่คือของเหลวอุจจาระแก๊ส เพื่อล้างส่วนล่างของทางเดินอาหาร เตรียมผ่าตัด
การสวนปัสสาวะ
:red_flag:
แบ่งตามเทคนิคได้ 2 ชนิด ได้แก่ การสวนปัสสาวะชนิดเป็นครั้งคราว และการสวนปัสสาวะชนิดคาสายปัสสาวะ
อุปกรณ์
ชุดสวนปัสสาวะพร้อมน้ำยาชำระอวัยวะสืบพันธุ์/0.9 %NSS
ชุดการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์พร้อมน้ำสบู่/น้ำสะอาด/ น้ำยาชำระอวัยวะสืบพันธุ์
ถุงมือปราศจากเชื้อ,ถุงมือสะอาด,
4.น้ำยาหล่อลื่น/ KY-jelly
ภาชนะหรือถุงสำหรับใส่สำลีที่ใช้แล้ว
ผ้าปิดตา
หม้อนอน
ถ้าสวนค้างเพิ่ม
สายสวนปัสสาวะ (Foley’s Catheter)
กระบอกฉีดยาดูดน้ำกลั่นจำนวนตามชนิดของสายสวนนั้นๆ พร้อมถาดรอง
พลาสเตอร์/อุปกรณ์สำหรับตรึงยึดสายสวนปัสสาวะ
ถุงรองรับปัสสาวะพร้อมที่แขวน
วิธีปฏิบัติ
แนะนำตัว อธิบายจุดประสงค์และวิธีการสวนปัสสาวะให้ผู้ป่วยและญาติทราบ
ล้างมือและเตรียมจัดอุปกรณ์
จัดสิ่งแวดล้อมและจัดท่านอนผู้ป่วย
ล้างมือ เปิดชุดการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ สอดหม้อนอน
ใช้ Forceps คีบสำลีทำความสะอาดตำแหน่งต่างๆ
ซับให้แห้ง (ถ้าใช้น้ำสบู่ต้องราดตามด้วยน้ำสะอาด) และเลื่อนหม้อนอนออก
ล้างมือเปิดชุดสวนปัสสาวะ ฉีกอุปกรณ์ลงในชุดสวนปัสสาวะ
เทน้ำยา 0.9%NSS
สวมถุงมือสะอาดปราศจากเชื้อ หล่อลื่นปลายสายสวน หญิง 1-3 นิ้ว ชาย 5-8 นิ้ว หรือสาย Foley’s catheter
ปูผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลาง ใช้ชายผ้าต่อกับน้ำห่อชุดสวนปัสสาวะ
ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก สอดปลายสายสวนปัสสาวะ หรือสาย Foley’s catheter เข้าในท่อปัสสาวะ
Inflate balloon catheter 10 cc ด้วย STW พร้อมทดสอบไม่ให้สายเลื่อนหลุด ติดปลาสเตอร์เพื่อตรึงสาย Foley’s catheter ให้อยู่กับที่ (เพศหญิงติดขาด้านใน เพศชายติดบริเวณเหนือหัวเหน่า)
แขวน Urine bag ต่ำกว่าระดับเอว ประเมินปริมาณปัสสาวะและสังเกตลักษณะของน้ำปัสสาวะ
นำอุปกรณ์ใช้แล้วไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ถอดถุงมือและล้างมือ
การสวนล้างกระเพาะปัสสาวะด้วยระบบเปิด
การสวนล้างกระเพาะปัสสาวะต่อเนื่องตลอดเวลา
อุปกรณ์
สายสวนปัสสาวะโฟเล่ย์ (Foley catheter ) ชนิด 3 หาง
ชุดให้สารน้ำ
สารน้ำสวนล้างปราศจากเชื้อที่ใช้สวนล้างกระเพาะปัสสาวะตามแผนการรักษา เช่น น้ำเกลือ 0.9% จำนวน 1,000 cc
สำลี และน้ำยาฆ่าเชื้อ
ถุงมือสะอาด 1 คู่
วิธีปฏิบัติ
แนะนำตัว อธิบายวัตถุประสงค์ และบอกขั้นตอนการล้างกระเพาะปัสสาวะ ให้ผู้ป่วยทราบ
ล้างมือ เตรียมอุปกรณ์ไปที่เตียงผู้ป่วย กั้นม่าน
จัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่าที่สุขสบาย และพยาบาลอยู่ในท่าที่สามารถหยิบจับสายสวนปัสสาวะได้สะดวก
ล้างมือ และสวมถุงมือสะอาด
ต่อชุดให้สารน้ำกับขวดน้ำยาสวนล้าง ไล่อากาศที่อยู่ในสายชุดให้สารน้ำออกจนหมด แล้วต่อเข้ากับปลายสายสวนปัสสาวะชนิด 3 หาง ดูแลให้น้ำยา
สวนล้างหยดเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะด้วยอัตราการไหลตามแผนการรักษาโดยทั่วไปประมาณ 60-80 มิลลิลิตรต่อชั่วโมง
.จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่สุขสบาย และนำอุปกรณ์ไปล้างทำความสะอาด
เทน้ำที่สวนล้างที่อยู่ในถุงรองรับปัสสาวะทุก 4 ชั่วโมง หรือเมื่อจำนวนน้ำประมาณ 3 ใน 4 ส่วนของถุงปัสสาวะ
บันทึกการสวนล้างกระเพาะปัสสาวะในบันทึกทางการพยาบาล โดยระบุวัน เวลา ชนิดและจำนวนสารน้ำที่สวนล้าง จำนวนและลักษณะสารน้ำที่ไหลออกมา อาการและอาการแสดงและความสุขสบายของผู้ป่วย
จุดเน้นสำคัญ
:<3:
พยาบาลต้องประเมินลักษณะการไหล ปริมาณและลักษณะของสารน้ำและปัสสาวะที่ไหลออกมาเป็นระยะ
เครื่องมือต้องสะอาดปราศจากเชื้อ
ประเมินปริมาณการไหลเข้าออกของสารน้ำ และสังเกตสีของปัสสาวะ
อุปกรณ์
ชุดสวนล้างกระเพาะปัสสาวะที่ปลอดเชื้อ 1 ชุด
กระบอกสวนล้างขนาด 50 cc
น้ำยาที่ใช้ได้แก่ 0.9% NSS
ถุงมือปราศจากเชื้อ 1 คู่
สำลี และน้ำยาฆ่าเชื้อ
วิธีปฏิบัติ
แนะนำตัว อธิบายวัตถุประสงค์ และบอกขั้นตอนการล้างกระเพาะปัสสาวะ ให้ผู้ป่วยทราบ
ล้างมือ เตรียมอุปกรณ์ไปที่เตียงผู้ป่วย กั้นม่าน
จัดท่านอนหงาย และเลื่อนตัวผู้ป่วยมาใกล้ขอบเตียงด้านที่พยาบาลยืนอยู่
ล้างมือ เปิดชุดสวนล้างด้วยเทคนิคปลอดเชื้อ เทน้ำยาใส่ลงในถ้วย ปลดสายสวนที่ต่อกับถุงรองรับปัสสาวะออก หุ้มห่อปลายข้อต่อของถุงด้วยก๊อส
สวมถุงมือ หยิบกระบอกสวนล้างดูดน้ำยาแล้วนำมาต่อกับปลายสายสวน ค่อยๆ ปล่อยให้น้ำยาไหลเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะอย่างช้าๆ ครั้งละประมาณ 50 cc แล้วค่อยๆดูดน้ำยาที่ใส่เข้าไปออกมา ซึ่งต้องมีจำนวนเท่ากับที่ใส่เข้าไปล้าง และทำต่อเช่นนี้อีกจนน้ำยาที่เข้าไปไหลออกมาใสสะอาด
ถ้าผู้ป่วยปวดมากหรือน้ำยาที่ใส่เข้าไปไม่ไหลออกมาต้องหยุดทำทันทีและรายงานแพทย์
ภายหลังสวนล้างเสร็จแล้ว ใช้สำลีชุบน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดบริเวณข้อต่อสายสวน และถุงรองรับปัสสาวะแล้วนำมาต่อเข้าด้วยกัน
จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่สุขสบาย และนำอุปกรณ์ไปล้างทำความสะอาด
บันทึกการสวนล้างกระเพาะปัสสาวะในบันทึกทางการพยาบาล โดยระบุวัน เวลา ชนิด
การดูแลผู้ป่วย Peritoneal dialysis
:red_flag:
อุปกรณ์การทำ CAPD
อุปกรณ์ในการล้างมือ ได้แก่ สบู่เหลวหรือแอลกฮอล์เจล ผ้าเช็ดมือ
Mask
น้ำยาล้างไตตามแผนการรักษา
พลาสเตอร์
เสาแขวนน้ำยา
กรรไกรปลายมน
โต๊ะวางอุปกรณ์
70% แอลอฮอล์ ก๊อซ สำลี
ตัวหนีบสีน้ำเงิน (Out port clamp) 2 อัน จุกปิดสีขาว (minicap) แบบ Twin bag
เครื่องชั่งน้ำหนักขนาด 3-5 กิโลกรัม
คุณสมบัติของผู้ที่จำเป็นต้องรักษาด้วย CAPD
ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะที่ 5 ที่มีอาการอย่างน้อย 1 อาการ ดังนี้
อาการของเสียคั่ง
มีภาวะน้ำเกินที่ไม่สามารถรักษาด้วยการจำกัดน้ำและเกลือ หรือยาขับปัสสาวะ
ภาวะทุพโภชนาการ serum albumin ต่ำกว่า 3.5 กรัม/ดล.
วิธีปฏิบัติเปลี่ยนน้ำยาระบบ ANDY-DISC
เตรียมอุปกรณ์ จัดสิ่งแวดล้อม สวม Mask
ล้างมือ
เตรียมโต๊ะที่เปลี่ยนน้ำยาให้สะอาด โดยใช้ 70% แอลกอฮอลฉีดพ่นทำความสะอาด
ใช้ผ้าก๊อซ สำลี เช็ดโต๊ะไปในทางเดียวกัน และขอบโต๊ะทุกครั้งที่ต้องเปลี่ยนน้ำยา
ตรวจสอบถุงน้ำยา โดยวางบนโต๊ะ ดูวันหมดอายุ เปอร์เซ็นต์ ปริมาตร สภาพของสายน้ำยา ทดสอบการรั่วของถุงน้ำยา
ฉีกถุงหุ้มน้ำยาภายนอกออก ยกถุงส่องดูว่าน้ำยามีสิ่งแขวนลอยหรือสิ่งผิดปกติ นำน้ำยามาชั่งที่ตาชั่ง
ทำความสะอาดแท่นยึด (organizer) ด้วยสำลีชุบ 70% แอลกอฮอล์ แล้ววางที่โต๊ะที่ทำความสะอาดแล้ว
วางจานหมุนลงในแท่นยึดแยกสายของถุงน้ำยาใหม่ออก วางถุงน้ำยาเปล่าลงในภาชนะรองรับโดยให้ระดับต่ำกว่าช่องท้อง
หมุนข้อต่อออกจากฝาเปิดอันเก่าจากนั้นหมุนข้อต่อเข้ากับปลายท่อจานหมุนแทนสำรวจเข็มชี้จานหมุนอยู่ตำแหน่ง 1 จุดพร้อมกับเปิดตัวหนับสายส่งน้ำยาจากช่องท้องสู่น้ำเปล่าจนหมด ใช้เวลา 10-15 นาที
หมุนจานตามเข็มนาฬิกาให้อยู่ตำแหน่ง 2 จุด เพื่อให้น้ำยาถุงใหม่ล้างข้อต่อสาน 5 วินาทีและหมุนตามเข็มนาฬิกาไปถึง 3 จุดเพื่อปล่อยน้ำยาเข้าช่องท้องจนหมด หมุนเข็มไปที่จุด 4 เพื่อปิดระบบ (บันทึกเวลาน้ำยาเข้า)
เปิดซองบรรจุฝาปิดหยิบออกจากซอง สอดเข้า
ไปในช่องที่อยู่ด้านซ้ายของแท่นยึดให้ลึกที่สุด
หมุนฝาครอบฝาปิดอันใหม่ออก หมุนข้อต่อออกจากจานหมุนและต่อกับฝาปิดอันใหม่พร้อมชั่งน้ำหนักน้ำยาถุงที่ปล่อยออก ตรวจดูลักษณะของน้ำยา
ลงบันทึกพร้อมเทน้ำยาที่ใช้แล้วใส่ชักโครก ถุงพลาสติกและขยะแยกทิ้งในถัง
จุดเน้นสำคัญ
:<3:
ผู้ป่วยที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ มีสิ่งแปลกปลอมในช่องท้องก่อนเริ่มทำการล้างไตทางช่องท้องแบบต่อเนื่อง
ป่วยที่ควรห้ามรับการรักษาด้วยการทำ CAPD ได้แก่ ผู้ป่วยมีรอยโรคบริเวณผิวหนังหน้าท้องที่สายล้างช่องท้อง
เฝ้าระวังเรื่องการป้องกันการติดเชื้อจากการเปลี่ยนน้ำยาล้างไตโดยยึดหลักสะอาด
ประเมินปริมาณการไหลเข้าออกของสารน้ำ และสังเกตสีของน้ำยาล้างไต
แนะนำผู้ป่วยเรื่องการรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มโปแตสเซียมในร่างกาย
นางสาวดรุณี ชื่นชุ่ม เลขที่42 ห้องA
623020110424
:star: :star: