Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การสวนล้าง, นางสาว ณัฐวรรณ มูลสา เลขที่56 ห้องA รหัส623020110564 - Coggle…
การสวนล้าง
-
วิธีปฏิบัติการพยาบาลขั้นพื้นฐานเรื่องการสวนล้างกระเพาะอาหารและลำไส้
(Gastric Lavage and Intestinal Lavage)
แนวคิดสำคัญ
การล้างกระเพาะอาหารและลำไส้ หมายถึง การใส่สารละลายเข้าไปทางสายถึงกระเพาะอาหาร แล้วดูดออกหรือปล่อยให้ไหลออกทางสาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขจัดสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่เข้าไปในกระเพาะอาหารเช่น สารพิษ สารเคมี การวินิจฉัยเลือดออกในกระเพาะอาหารและการห้ามเลือด ล้างกระเพาะอาหารสำหรับการตรวจโดยการส่องกล้อง ทำให้กระเพาะอาหารว่าง และลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ในกรณีผู้ป่วยได้รับสารพิษ ควรเลือกใช้สารละลายแก้พิษ (Antidote) เข้าไปล้าง การล้างกระเพาะจะได้ประโยชน์สำหรับสารพิษที่เข้าไปไม่เกิน 4 ชั่วโมง ดังนั้นพยาบาลจึงต้องมีวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องในการให้การดูแลเรื่องการสวนล้างกระเพาะอาหาร (Gastric Lavage)
อุปกรณ์
1.เช่นเดียวกับการใส่สายทางจมูกถึงกระเพาะอาหาร ยกเว้นขนาดของสาย เลือกใช้สายที่มีขนาด
ใหญ่ หรือสายที่มี 2 หาง เช่น sump tube
2.สารละลาย ส่วนใหญ่ใช้น้ำเกลือ 0.9% NSS
3.กระบอกฉีดยาหัวต่อใหญ่ (Irriigating syringe หรือ Asepto syringe) ขนาด 50 cc
.4.ถุงมือสะอาด
5.ภาชนะใส่สารละลาย และรองรับสารละลายจากตัวผู้ป่วย
6.ผ้ารองกันเปื้อน
7.K-Y jelly หรือ Xylocain
8.Stethoscope
9.พลาสเตอร์
10.ชามรูปไต
วิธีปฏิบัติ
1.แนะนำตัว อธิบายวัตถุประสงค์ และบอกขั้นตอนการล้างกระเพาะอาหาร ให้ผู้ป่วยทราบ พร้อมจัดท่านอนราบตะแคงศีรษะไปด้านซ้าย
-
- คลุมผ้าให้ผู้ป่วยบริเวณใต้คางถึงหน้าอก
-
5.ถ้าผู้ป่วยยังไม่มีสายคาอยู่ต้องใส่สายให้ก่อน คือ
- เปิดชุดสวนล้างกระเพาะอาหาร เท Solution ใส่ภาชนะที่ใช้ล้างกระเพาะอาหาร
- วัดสายยางเตรียมใส่กระเพาะอาหาร เริ่มจากติ่งหูถึงปลายจมูกแล้วต่อไปถึงส่วนปลายของปุ่มกระดูกกลางหน้าอก Xyphoid Process
- หล่อลื่นสายยางแล้วขมวดสายไว้ด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด
- ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดใส่สายยางเข้าไปในจมูกหรือปากอย่างนิ่มนวล ระวังอย่าให้ผู้ป่วยกัดสาย
- ทดสอบสายยางว่าอยู่ในกระเพาะอาหาร
: เช็ดปลายสายด้วย 0.9 % NSS หรือน้ำต้มสุกสะอาดแล้วจุ่มปลายสายลงในแก้ว
: ฟังเสียงลมผ่านปลายสายให้อาหาร โดยใช้ Syringe Feed ดันลมเข้าไปประมาณ 15-20 มล. ในผู้ใหญ่ และในเด็ก 3-5 มล. พร้อมกับฟังด้วย Stethoscope บริเวณ Xiphoid process
:ดูด (content)ในกระเพาะอาหารถ้ามีสายคาอยู่แล้วต้องตรวจสอบตำแหน่งของปลายสายว่าอยู่ในกระเพาะอาหาร
(ด้วยวิธีดังกล่าว)
-
7.หักพับสายแล้วต่อกระบอกฉีดยาเข้ากับสาย แล้วปล่อยสายที่หักพับ ค่อยๆดันสารละลายเข้าไปและดูดออก ทำซ้ำไปเรื่อยๆจนกว่าจะพบว่าสารละลายที่ไหลออกเจือจางลง ใสใกล้เคียงกับสีปกติ จึงหยุด
-
-
-
จุดเน้นสำคัญ
-
2.จุดควรระวังและมีการพลาดบ่อย
-การล้างกระเพาะอาหารอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น บาดเจ็บมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร
-
การสวนล้างลำไส้
แนวคิดสำคัญ
การสวนล้างลำไส้ เป็นวิธีการหนึ่งในกระบวนการล้างพิษของการแพทย์ทางเลือกซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แม้ในคัมภีร์ไบเบิลก็ระบุถึงการสวนล้างลำไส้ ฮิปโปเครติสถือเอาการสวนล้างลำไส้เป็นการรักษาโรควิธีหนึ่ง ในยุโรปและอเมริกาถือเป็นแขนงหนึ่งของวิชาวารีบำบัด (Hydrotherapy) ซึ่งปัจจุบันมีแพทย์ที่ใช้การสวนล้างลำไส้ในการรักษาโรคต่างๆโดยเฉพาะมะเร็ง หรือช่วยในการเตรียมผ่าตัด โดยปัจจุบันนิยมวิธีการฉีดของเหลวเข้าร่างกายผ่านทางช่องทวารหนักเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายขับของเสียออกมา ซึ่งเป็นน้ำยาสำเร็จรูป
อุปกรณ์
1.หม้อหรือถุงพลาสติก ที่ใส่น้ำยาสำหรับล้างน้ำยาที่ใช้อาจใช้น้ำอุ่น น้ำเกลือหรือน้ำกลั่น ให้อุ่นประมาณ 103-105 องศาฟาเรนไฮต์ จำนวนที่ใช้ประมาณ 1,000 – 2,000 cc
2.สายยางที่ต่อปลายหม้อสวนใช้สายยางเบอร์ 22 หรือ 24
3.Clamp
4.น้ำยาหล่อลื่นหรือปัจจุบันนิยมใช้น้ำยาสำเร็จรูป และถุงมือสะอาด ในเอกสารฉบับนี้ผู้เขียนขอกล่าวถึงวิธีที่นิยมในปัจจุบัน
วิธีปฏิบัติ
- แจ้งวัตถุประสงค์ อธิบายขั้นตอน จัดท่าท่าที่เหมาะสมโดยนอนตะแคงซ้าย ใช้ผ้ายางรองบริเวณก้น
- ล้างมือ สวมถุงมือสะอาด หล่อลื่นทวารด้วยน้ำยาหล่อลื่น
- นำน้ำยาสำเร็จรูปค่อยๆ สอดเข้าไปในรูทวารหนัก บีบน้ำยา จนหมดขวด
- จัดท่าสุขสบายให้ผู้ป่วย เก็บอุปกรณ์ ล้างมือ
- เขียนรายงานลงในรายงานให้การพยาบาล (nurse's notes) เกี่ยวกับผลของการพยาบาล
จุดเน้นสำคัญ
- การเปิดเผยส่วนล่างของผู้ป่วยเป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติควรคำนึงถึงความรู้สึกของผู้ป่วยอย่างมาก เพราะผู้ป่วยจะเขินอายและวิตกกังวล จึงควรให้การปกปิดร่างกาย เปิดเฉพาะส่วนที่จำเป็น กั้นม่านให้มิดชิด คลุมผ้าให้รู้สึกอบอุ่นไม่โล่งเปลือย และทำความสะอาดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเมื่อสวนอุจจาระแล้วเสร็จ
-
-
-
-