Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด, นาย พงศ์ศิริ พรมจารี รหัส…
การพยาบาลมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด
การติดเชื้อหลังคลอด
ความหมาย
การติดเชื้อแบคทีเรียภายหลังคลอดที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ระยะหลังคลอดไปจนถึงระยะ 6 สัปดาห์หลังคลอด โดยมีสาเหตุจากการคลอดเท่านั้น
สาเหตุ
ปัจจัยเสี่ยงทั่วไป
การไม่ได้ฝากครรภ์
เศรษฐฐานะต่ำ
การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการตั้งครรภ์
มีการอักเสบของมดลูก
ภาวะทุพโภชนาการ โดยเฉพาะกลุ่มที่ขาดสารอาหาร
ประวัติเป็นโรคเบาหวาน
Anemia
ปัจจัยที่เกี่ยวกับการคลอด
ระยะเวลาของการคลอดที่ยาวนาน
การคลอดทางช่องคลอด
การทำหัตถการในมารดาที่มีครรภ์เสี่ยงสูง
การมีบาดแผลฉีกขาดของช่องทางคลอด
จำนวนครั้งของการตรวจภายใน
การล้วงรก
prolonged rupture of membranes
การมีเศษรกและเยื่อหุ้มรกค้างในโพรงมดลูก
การแพร่กระจายเชื้อ
ภายหลังการคลอดรก ตำแหน่งที่รกเกาะจะเป็นแผลนูนสีแดงคล้ำซึ่งเกิดจากเส้นเลือดภายในเป็น thrombi อุดอยู่ และเป็นบริเวณเพาะเชื้อโรคได้ง่ายในระหว่างการคลอดปากมดลูกมักจะมีรอยฉีกขาดซึ่งก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไป นอกจากนี้แผลที่ช่องคลอด ปากช่องคลอดและฝีเย็บ ก็เป็นบริเวณที่ติดเชื้อได้บ่อย
ตำแหน่งการเกิด
การติดเชื้อบริเวณฝีเย็บ (Localizied infection)
สาเหตุ
เกิดจากการปนเปื้อนของแบคทีเรีย ขณะคลอด
การวินิจฉัยการวินิจฉัย
มีไข้หลังวันที่ 2 ของการคลอด เจ็บแผลฝีเย็บมาก แผลมีการอักเสบ บวมแดง บางครั้งเป็นฝีหนอง และแผลจะแยกออกจากกัน อาจมีอาการปัสสาวะลาบาก และปัสสาวะไม่ออกได้
การรักษา
โดยให้ยาปฏิชีวนะ
เปิดแผลให้กว้างขึ้นเพื่อให้ฝีหนองไหลออกได้สะดวก
การให้ยาแก้ปวดและใส่สายสวนปัสสาวะในกรณีที่ปัสสาวะลำบาก
การอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometritis , Metritis)
การวินิจฉัย
ตรวจร่างกาย
กดเจ็บที่มดลูกหรือปีกมดลูกทั้งสองข้าง หรือข้างใดข้างหนึ่ง
เป็น parametritis เมื่อตรวจทางทวารหนัก
พบระดับยอดมดลูกโตกว่าที่ควรจะเป็น
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
leukocytosis ตั้งแต่ 15,000 - 30,000 cell
neutrophils สูงขึ้น
อาการและอาการแสดง
การที่มีไข้หนาวสั่นมักพบร่วมกับภาวะ bacteremia และชีพจรเต้นเร็ว
ปวดท้องน้อย น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น แต่ถ้าเกิดจากเชื้อ beta- hemolytic streptococci น้ำคาวปลาอาจน้อยและไม่มีกลิ่น
มีไข้สูง อุณหภูมิมากกว่า 38.3 องศาเซลเซียส
การรักษา
ให้ยาปฏิชีวนะโดยคำนึงถึงชนิดของยาให้ตรงกับเชื้อ
สาเหตุ
ถุงน้าคร่าแตกก่อนการเจ็บครรภ์จริง
การเจ็บครรภ์คลอดที่ยาวนาน
การตรวจภายใน
การผ่าตัดที่มดลูก
การตรวจ Internal electrical monitoring
การอักเสบของเยื่อบุในอุ้งเชิงกราน (Parametritis , Pelvic cellulitis)
การวินิจฉัย
หนาวสั่น มักเป็นเกิน 7 วันขึ้นไป
กดเจ็บที่ท้องน้อย อาจเป็นด้านใดด้านหนึ่ง
มีไข้สูง 38.9 - 40 องศาเซลเซียส
ตรวจภายในพบมดลูกโต และ เคลื่อนไหวได้น้อย
หากเป็นมากอาจพบ ฝีหนองที่เหนือ poupart’s ligament และที่ cul de sac ได้
การรักษา
ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดโดยให้พวก broad - spectrum antibiotic เลือกให้เมื่อผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ชี้ชัดว่าติดเชื้อตัวใด
สาเหตุ
การติดเชื้อลุกลามที่ช่องคลอด
การอักเสบของเยื่อบุช่องท้อง (Peritonitis)
การวินิจฉัย
อาการและอาการแสดง
กดเจ็บผนังหน้าท้อง
มีไข้สูง อุณหภูมิ 39 - 40.5 องศาเซลเซียส
มีอาการท้องอืด หน้าท้องโป่งตึง ปวดท้อง
ชีพจร 160 ครั้ง/นาที
อันตรายจะเพิ่มมากขึ้น ถ้าพบมีฝีหนองร่วมด้วยที่ cul de sac , subdiaphragmatic space
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
พบเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด
การรักษา
งดน้าและอาหารทางปาก
ให้สารต้านจุลชีพหลายอย่างรวมกัน ให้เหมาะสม
ให้ gastric suction เพื่อลด distension
ผ่าตัด ถ้าอาการไม่ดีขึ้นอาจต้องตัดมดลูกล้างเอาหนองออก และแก้ไขการอุดตัน
ให้ยาแก้ปวด
ให้สารน้าทางหลอดเลือดดาให้เพียงพอ
สาเหตุ
แผลผ่าตัดในมดลูกแยก หรือเนื้อเน่าเปื่อย
การอักเสบของเยื่อบุในอุ้งเชิงกราน
มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก
ฝีที่ท่อนำไข่และรังไข่แตก
การพยาบาล
การอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูก
ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษาเน้นการรับประทานยาให้ครบถ้วน
พักผ่อนมากที่สุด
งดการมีเพศสัมพันธุ์ และงดสวนล้างช่องคลอด
ดูแลให้รับประทานอาหารให้เพียงพอ
จัดให้นอนท่า fow ler’s ช่วยให้น้าคาวปลาไหลสะดวก
ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจได้รับสารน้าทางหลอดเลือดดา ร่วมกับ oxytocin
ให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษา
แยกหญิงหลังคลอด
ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ และล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ
การอักเสบของเยื่อบุในอุ้งเชิงกราน
ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
สังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาการอย่างใกล้ชิด
จัดท่าให้นอน Semi - fowler
ดูแลให้ได้รับน้ำ ประมาณวันละ 3,000 - 4,000 มิลลิลิตร
ให้กาลังใจ
แนะนาการปฏิบัติตัว ขณะอยู่โรงพยาบาลและเมื่อกลับบ้าน
ติดเชื้อบริเวณฝีเย็บ
ดูแลทาความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
เมื่อแผลติดดีขึ้น ความเจ็บปวดน้อยลง ให้นั่งแช่ก้นวันละ 2 - 3 ครั้ง
ติดตามประเมินแผลฝีเย็บทุกวัน
ดูแลให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษา
กระตุ้นให้ลุกเดินบ่อย ๆ
แนะนาให้เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ เมื่อชุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปื้อนหนอง
ให้กาลังใจ
ตรวจและบันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
การอักเสบของเยื่อบุช่องท้อง
ให้นอนท่า semi-fowler
ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวินะ และสารน้าทางหลอดเลือดดา ตามแผนการรักษา
ตรวจและบันทึกสัญญาณชีพ
ประเมินเสียงการเคลื่อนไหวของลำไส้
ดูแลให้ยาแก้ปวด ตามแผนการรักษา
นะนาและระมัดระวังเทคนิคปราศจากเชื้อ
ให้การพยาบาลตามอาการ
ให้กาลังใจ ลดความวิตกกังวล
ภาวะมดลูกไม่เข้าอู่
สาเหตุ
มีเศษรก หรือเยื่อหุ้มรกค้างในโพรงมดลูก
มีการอักเสบติดเชื้อของเยื่อบุโพรงมดลูก
ความตึงตัวของการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูกไม่ดี
มารดาหลังคลอดที่ไม่ได้เลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา
ในรายที่มีมดลูกคว่าหลัง หรือคว่าหน้ามากจนทาให้น้าคาวปลาไหลไม่สะดวก
มีเนื้องอกของมดลูก
การวินิจฉัย
มีภาวะเลือดออกมาก
ระดับยอดมดลูกไม่ลดต่ำลง
น้าคาวปลา สีไม่จางลงภายใน 2 สัปดาห์หลังคลอด
ความหมาย
มดลูกหยุดการยุบตัวลง (arrest) หรือมีความผิดปกติของระดับยอดมดลูก ขนาดและลักษณะ โดยไม่สามารถกลับสู่สภาพปกติเหมือนก่อนคลอดได้ตามระยะเวลา
การรักษา
ให้ยาช่วยการบีบตัวของมดลูก
ให้ยาปฏิชีวนะถ้ามีการอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูก
ขูดมดลูก
กิจกรรมการพยาบาล
ดูแลให้กระเพาะปัสสาวะว่าง
ให้นอนคว่าใช้หมอนรองใต้ท้องน้อย
คลึงมดลูกให้หดรัดตัวก่อนวัดระดับยอดมดลูก
ภาวะผิดปกติด้านจิตใจหลังคลอด
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum depression)
การรักษา
การรักษาทางจิต แบบรายบุคคล หรือรายกลุ่ม
การใช้กลุ่มช่วยในการรักษา หรือให้คู่สมรสบุคคลในครอบครัวมีส่วนร่วม
โดยการให้ยา เช่น Isocarboxazind
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
สนับสนุนและสร้างความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองให้แก่หญิงหลังคลอด
สาเหตุ
มารดาที่มีประวัติซึมเศร้าหลังคลอด หรือมีภาวะเจ็บป่วยหลังคลอด
มีความรู้สึกสองฝักสองฝ่ายในการตั้งครรภ์
มารดาหลังคลอดครรภ์แรก เนื่องจากขาดประสบการณ์การเลี้ยงดูบุตร
ขาดการประคับประคองจากญาติ คู่สมรส หรือสังคม
ขาดสัมพันธภาพกับบิดา มารดา หรือ คู่สมรส
มีความรู้สึกขาดความพึงพอใจในตนเอง
มีความเครียดทางจิตใจ เช่น ปัญหาชีวิตสมรส
ประสบการณ์การคลอดลาบาก การบาดเจ็บจากการคลอด
มีความเครียดทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
มีประสบการณ์จากการคลอดในครรภ์ก่อน ๆ ไม่ดี เช่น บุตรเสียชีวิตทุกคน
อาการและอาการแสดง
ด้านร่างกาย
ซึมเศร้าอย่างรุนแรง ร้องไห้ถี่ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ไม่มีสมาธิ ไม่สนใจตนเอง ไม่มีความรู้สึกทางเพศ ควบคุมตนเองไม่ได้ ถ้ารุนแรงจะคิดช้า พูดช้า
ด้านจิตใจ
มีอารมณ์และความรู้สึก ท้อแท้ สิ้นหวัง มองโลก ในแง่ร้าย หดหู่ หม่นหมอง วิตกกังวล รู้สึกไร้ค่าไม่มีความหมาย ไม่มีคนต้องการ
ระดับ
ระยะที่ 2
เกิดในช่วง 1 - 3 เดือนหลังคลอด หญิงหลังคลอดต้องมีการปรับตัวในบทบาทของการเป็นมารดา
ระยะที่ 3
อาจเกิดได้ในระยะเวลา 1 ปีหลังคลอด หญิงหลังคลอดได้พยายามปรับตัวแล้วแต่ยังรู้สึกสองฝักสองฝ่ายต่อการเป็นมารดา อยากทาหน้าที่ให้ดีที่สุด
ระยะที่ 1
เกิดในระยะแรกหลังคลอด วันที่ 3 -10 มีอาการซึมเศร้า เสียใจ สูญเสีย
กิจกรรมการพยาบาล
ให้โอกาสหญิงหลังคลอดได้ซักถาม และมีส่วนร่วมในการเตรียมตัว
ดูแลให้มารดาหลังคลอดได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
ให้มารดาได้รับความสุขสบายด้านร่างกาย
อธิบายให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายแจะจิตใจหลังคลอด
ดูแลช่วยเหลือและให้คาแนะนาการปฏิบัติตนในระยะหลังคลอด และการเลี้ยงดูบุตร
ส่งเสริมให้กาลังใจให้มารดารู้สึกว่าเป็นบุคคลสำคัญในการดูแลทารก
แนะนาสามี และญาติ ให้กำลังใจแก่มารดา ให้ความสนใจ เอาใจใส่ประคับประคอง
จัดกลุ่มสอนเกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตรหลังคลอด บทบาทการเป็นบิดามารดา
อธิบายให้ทราบถึงอาการแสดงของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
สังเกตอาการดูแลอย่างใกล้ชิดสังเกตอาการดูแลอย่างใกล้ชิด
รายงานแพทย์เพื่อส่งต่อเมื่อมีอาการแสดงรุนแรง ได้แก่ ปฏิเสธบุตรตนเองก้าวร้าวกับบุตร
อารมณ์เศร้าหลังคลอด (Postpartum bluesอารมณ์เศร้าหลังคลอด (Postpartum blues)
สาเหตุ
การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนของต่อมไร้ท่อโปรเจสเตอโรน ลดลงอย่างรวดเร็ว
ความเครียดทางจิตใจในระยะหลังคลอด
การตั้งครรภ์และการคลอด โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์แรก
มีแนวโน้มในการเกิดภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอด
หญิงที่มีความวิตกกังวลสูง
หญิงที่มีความเป็นคนเจ้าระเบียบ
หญิงที่มีวุฒิภาวะไม่สมบูรณ์
ความเครียดจากสังคมและสิ่งแวดล้อม
อาการและอาการแสดง
ร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ มีความรู้สึกวิตกกังวลท้อแท้ ตื่นเต้น ความรู้สึกไว เงียบขรึม มีอารมณ์เศร้า เหงา สับสน อารมณ์รุนแรง สีหน้าไม่สุขสบาย อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร อาการจะเป็นอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ หลังคลอดและจะหายเองหรืออาจมีอาการรุนแรงขึ้น ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม
การพยาบาล
ส่งเสริมให้บุคคลในครอบครัวโดยเฉพาะคู่สมรสช่วยให้กาลังใจ ดูแล
คอยสังเกตและบันทึกอาการด้านอารมณ์ของมารดาหลังคลอด
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลบุตร และตนเองในระยะหลังคลอด
โรคจิตหลังคลอด (Postpartum psychosis)
อาการและอาการแสดง
อาการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มีอาการรุนแรงทันที ได้แก่ รู้สึกยุ่งยากใจ กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย สับสน ไม่มีเหตุผล สมาธิสั้น ความจำเสีย ตัดสินใจไม่ได้ หลงผิด และหวาดระแวง ประสาทหลอน
ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะเริ่มมีอาการโรคจิตประเภทใดประเภทหนึ่ง ได้แก่ จิตเภท (schizophrenia) ,โรคจิตซึมเศร้า (psychotic depressive reaction) ,โรคจิตเนื่องจากสมองพิการ (toxic psychosis)
การรักษา
การรักษาทางกาย ได้แก่ การให้ยา antipsychotics และยา sedative , การช็อคไฟฟ้า
การรักษาทางจิต ได้แก่ การทำจิตบำบัด
การรักษาโดยการแก้ไขสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การให้มีการสนับสนุนทางสังคม
สาเหตุ
มีประวัติเป็น manic-depressive
มารดาที่มีภาวะเครียดจากการตั้งครรภ์
มารดาที่มีประวัติเป็นโรคจิตหลังคลอด
มารดาที่มีบุคลิกภาพแปรปรวนอยู่ก่อนการตั้งครรภ์
มีประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัวด้วยโรคทางจิตเวช
มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ตลอดระยะการตั้งครรภ์
การพยาบาล
ให้ความเป็นกันเอง ความใกล้ชิด เพื่อให้มารดาเกิดความไว้วางใจ
รับฟังหญิงหลังคลอดให้ระบายความรู้สึก
ดูแลให้ได้รับความต้องการพื้นฐานประจำวัน
ส่งเสริมและกระตุ้นให้เข้ากลุ่มจิตบำบัด
อธิบายให้สามีและญาติเข้าใจและทราบถึงวิธีการรักษา
ส่งเสริมให้มารดาของหญิงหลังคลอดในการดูแลใกล้ชิด
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
ให้ความสนใจทุกกิจกรรมและคำพูด
ในรายที่อาการรุนแรงควรส่งต่อเพื่อให้คาปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ทางสุขภาพจิต
การดูแลต่อที่บ้าน พยาบาลควรให้ความช่วยเหลือประคับประคองด้านจิตใจให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะของโรค การรักษา
แนะนาแหล่งให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ สถานบริการด้านสาธารณสุขในชุมชน
ติดตามเยี่ยมหลังคลอด
การคั่งของเลือดที่แผลฝีเย็บ
ความหมาย
การฉีกขาดของหลอดเลือดดำบริเวณช่องคลอดและอวัยวะสืบพันธ์ภายนอก ทำให้เลือดคั่งค้าง
การวินิจฉัย
จากการซักประวัติ
ปวดฝีเย็บร้าวไปที่ทวารหนัก
ปวดหน่วงลงก้น
เอามือสัมผัสขอบแผล/รอบๆแผล รู้สึกปวดมาก
จากการตรวจร่างกาย
ฝีเย็บบวม มีสีม่วงคล้ำ
คลำได้ก้อนใต้ผิวหนัง บริเวณใต้ฝีเย็บ
สาเหตุ
ช่องคลอดได้รับการบาดเจ็บ
ตัดฝีเย็บไม่ดี
เย็บซ่อมแซมแผลไม่ดี เช่น เย็บไม่ถึงก้นแผล
บีบคลึงมดลูกรุนแรง ทำให้เลือดคั่งที่ Connective tissue ใต้เยื่อบุช่องท้อง และ broad ligament
การรักษา/การพยาบาล
ตรวจประเมินแผลฝีเย็บตามหลัก REEDA
Ecchymosis : ห้อเลือด
Discharge : สิ่งคัดหลั่งไหลออก
Edema : บวม
Approximation : การชิดของขอบแผล
Redness : แดง
ก้อนมากกว่า 3 ซม. ประคบเย็น ก้อนยังเพิ่มขนาด
ให้รายงานแพทย์เพื่อเปิดแผล
กรณี Small vulva hematoma ก้อนน้อยกว่า 3 ซม. ใช้การประคบเย็น
V/S เพื่อประเมินภาวะ Shock
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดดำ
จัดท่านั่ง/นอน ป้องกันการกดทับ
บริเวณที่มี Hematoma
แนะนำการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงเพืี่อส่งเสริมปัจจัยการสร้างเม็ดเลือดแดง
เต้านมอักเสบเต้านมเป็นฝี
หัวนมแตก หรือเป็นแผล
สาเหตุ
บุตรดูดเฉพาะหัวนมโดยไม่ได้ให้เหงือกของทารกกดลงบนลานนม
ให้ดูดนมข้างเดียวกันตลอด
ทารกดูดนมแรงและนานเกินไป
ารดึงหัวนมออกจากปากบุตรไม่ถูกวิธี
Colostrum ที่ถูกบีบออกมา
ปล่อยให้หัวนมเปียกชื้นอยู่ตลอด
การรักษา
ทายาเพื่อช่วยให้แผลหายดีขึ้น
kamillosan cream
unquentum boric acid
การพยาบาล
ทาความสะอาดหัวนมและเต้านมด้วยการอาบน้าธรรมดา ไม่ฟอกสบู่ ไม่เช็ดหัวนม
ให้ทารกดูดนมข้างที่เจ็บน้อยก่อน
อุ้มบุตรให้นมในท่าที่ผ่อนคลาย
แนะนาวิธีให้นมบุตร อย่างถถูกวิธี
หลังการให้ทารกดูดนมแต่ละครั้ง ควรเช็ดหัวนมให้สะอาด
บีบน้ำนมออกเล็กน้อยแล้วทาหัวนมและรอบ
ถ้าเป็นรุนแรงอาจให้ทารกดูดนมโดยใช้ nipple shield ครอบหัวนมไว้และให้ทารกดูดหัวนม
ดูแลผิวหนังบริเวณหัวนมและเต้านมให้ชุ่มชื้น
การติดเชื้อของเต้านม (Mastitis)
การวินิจฉัย
บริเวณเต้านมแดง ร้อน แข็งตึงใหญ่ ปวดเต้านมมาก กดเจ็บ มีการคั่งของน้านม น้านมออกน้อยลง
มีไข้สูง 38.3 - 40 องศาเซลเซียส
การรักษา
ตรวจดูอาการและอาการแสดง
ให้ยาแก้ปวด
ถ้ามีหนองเกิดขึ้นให้ทา incision and drainage
เมื่อแผลที่หัวนมหายเป็นปกติพยายามหลีกเลี่ยงมิให้เกิดอาการบวม
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อ staphylococcus aureus เชื้อเข้าทางบาดแผลหรือหัวนมที่แตก
การพยาบาล
แนะนาการทาความสะอาดหัวนมให้เพียงพอ
ดูดนมข้างที่มีการติดเชื้อ จนกว่าการอักเสบจะหาย
ลดการกระตุ้นเต้านมและหัวนมบริเวณที่มีการติดเชื้อ
แนะนาการสวมเสื้อชั้นใน หรือพันผ้า
ลดความกลัว ความวิตกกังวล ให้กาลังใจ
นาย พงศ์ศิริ พรมจารี รหัส 602701059