Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือด, นางสาวภาศินี ขจีรัมย์ รหัสนักศึกษา…
การพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือด
CARDIAC MUSCLE CELLS
Myocardial Cells เป็นเซลล์โครงร่างของหัวใจถูกกระตุ้นโดยกระแสไฟฟ้าได้
Pacemakercells เป็น Electricalcells สามารถผลิตไฟฟ้าและส่งต่อไปเซลล์อื่นได้
Automaticity สร้างกระแสไฟฟ้าได้
Excitability ตอบสนองต่อไฟฟ้าที่มากระตุ้นได้
Conductivity เป็นสื่อนำไฟฟ้า ส่งต่อจากเซลล์หนึ่งไปยังเซลล์อื่นได้
Contractility ตอบสนองต่อไฟฟ้าที่มากระตุ้นโดยการหดและยืดตัว
VENTRICULAR TACHYCARDIA
การรักษา VT แบ่งตามลักษณะทางคลินิก
1.Pulseless VT / VF (cardiac arrest)
Asinconize defibrillation 100 – 200 จูล
CPR ต่อเนื่อง
Adrenaline 1 mg IV ทุก 3-5 min
Amiodarone 300 mg IV to 5 min
2.Pulse VT
กรณีมี Pwlse
Synchronized Cardioversion 100-200 จูล
Amiodarone 150 mg IV bolus over 10 min
Then infusion 1 mg/ min in 6 hrs
จุดกำเนิดอยู่ที่ ventricle
ไม่พบ P wave
QRS กว้าง
Rate 150-250 ครั้ง /นาที
VENTRICULAR FIBRILLATION
ลักษณะ
ventricle เต้นพริ้ว ไม่สามารถบีบเลือดออกจากหัวใจได้
ไม่พบ p wave มีเพียง fibrillation wave
คลำชีพจรไม่ได้
การรักษา
• ทำ defibrillation 100-200 จูล ทันที
• ร่วมกับการทำ CPR อย่างต่อเนื่อง
• epinephrin 1 mg IV ซ้ำได้ทุก 3 – 5 นาที
ปัญหาทางการพยาบาลผู้ป่วยหัวใจเต้นผิดจังหวะ
เสี่ยงต่อ Low Cardiac Output เป็นผลจากการบีบตัวของหัวใจไม่มีประสิทธิภาพ
เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นผลมาจากเลือดในหัวใจห้องบนจับตัวกันเป็นลิ่มเลือด นำไปสู่การเกิด Emboli
เสี่ยงต่อการเกิด Cardiac arrest
ระบบไฟฟ้าของหัวใจ
SA Node -> AV Node -> Bundle of HIS -> Bundle Branches -> Purkinje Fibers
CARDIAC ACTION POTENTIAL เกิดจากการไหลเข้า-ออกของ electrolyte 3 ตัวหลัก คือ Na,K,และ Ca
Depolarization เป็นสภาวะภายในเซลล์ที่มีประจุไฟฟ้าเป็นบวกเพิ่มมากขึ้นจากการไหลของNa+, Ca++ เข้าเซลล์
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ECG WAVEFORM
เมื่อไฟฟ้าวิ่งผ่านเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจจะเกิด Depolarization และ Repolarization เกิด ECG Waveform ประกอบด้วย P Wave, QRS Complex, T Wave,U Wave
Characteristic of normal ECG
T wave
upright ใน lead I,II,V3-V6
invert ใน aVR
ventricular repolarization
P wave
กว้าง < 0.12 sec (3 ช่อง)
Upright ใน I,II,V4-V6, aVF - Invert ใน aVR
Atrial deporalization
QRS complex
กว้าง 0.06-0.12sec
Q ปกติไม่เกิน 1 mm
ventricular depolarization
QRS สูง 10 mm-25 mm
PR INTERVAL & ST SEGMENT
ST SEGMENT
วัดจากจุด J point จนถึงเริ่มต้นของ T wave
เป็นช่วงจังหวะ plateau phase ของกระแสไฟฟ้า หลังจาก Ventricle depolarization (QRS complex) แล้ว ก่อนที่จะเกิดมี Ventricular repolarization (T wave )
PR INTERVAL
วัดจากจดเริ่มต้นของ P wave จนถึงจุดเริ่มต้นของ QRS
Prolong PR interval ส่วนมากจะไม่มีปัญหาไม่ทำให้หัวใจทำงานน้อยลง แต่ถ้าเกิดขึ้นมาจากสาเหตุของ Acute MI ต้อง monitor อย่างใกล้ชิด เพราะอาจจะเกิดปัญหาของการ block ในส่วนที่ต่ำกว่าลงมา เช่น block ที่ bundle branches ทำให้หัวใจเต้นช้าลง มีผลต่อการทำงานของหัวใจ
ECG INTERPRETATION
Rhythm สม่ำเสมอหรือไม่
Heart Rate ปกติ เร็ว หรือ ช้า
มี P Wave หรือไม่ รูปร่างปกติิไหม และสัมพันธ์กับ QRS ไหม
PR interval ปกติหรือไม่ (0.12-0.2 วินาที)
QRS complex แคบหรือกว้าง รูปร่างเหมือนกันไหม
ST segment (elevate / depress)
T waveเป็น positive deflect หรือไม่
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (CARDIAC ARRHYTHMIAS)
เป็นอาการที่หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ อาจเต้นเร็วหรือช้าเกินไป ทำให้การสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายไม่มีประสิทธิภาพ และอาจส่งผลให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวหรือ หลอดเลือดสมองอุดตันได้
สาเหตุของหัวใจเต้นผิดจังหวะ
สาเหตุที่หัวใจ
• โรคของกล้ามเนื้อหัวใจ
• โรคของลิ้นหัวใจตีบรั่ว
• หัวใจโต หัวใจล้มเหลว
สาเหตุภายนอกหัวใจ
ภาวะเสียสมดุลอเิ ล็คโตรลัยท์ เช่น K, Mg, Ca, Na
ภาวะ hypoxia หรือ hypercapnia
การกระตุ้น ANS ทั้ง sympathetic และ parasympathetic
ได้รับยาบางชนิด ชา กาแฟ บุหรี่
การพักผ่อนไม่เพียงพอ
โรคอื่น ๆ เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ
อาการของหัวใจเต้นผิดจังหวะ
อาการอาจขึ้นกับชนิดของจังหวะหัวใจที่ผิดปกติ
• กรณีหัวใจเต้นช้า ผู้ป่วยจะมาด้วยอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม หรือหมดสติ
• บางครั้งผู้ป่วยอาจมาด้วยอาการเหนื่อย เนื่องจากจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ รบกวนการทำงานของหัวใจ ทำให้มีอาการเหนื่อยได้
• ถ้าหัวใจเต้นเร็วหรือเต้นไม่สม่ำเสมอ ผู้ป่วยอาจจะมาด้วยอาการใจสั่น
แนวทางการรักษา
การรักษาโดยฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือ Pacemaker ในกรณีหัวใจเต้นช้า
การฝังเครื่องกระตุกหัวใจ หรือ Internal Defibrillator เพื่อที่จะรักษาผู้ป่วย
การใส่สายสวนหัวใจ เพื่อให้การรักษาโดยการจี้ บริเวณวงจรไฟฟ้าที่ผิดปกติ วิธีนี้ใช้กับผู้ป่วยที่มีจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วรัว
ในกรณีที่มีจังหวะผิด ปกติที่อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ เครื่องก็จะปล่อยกระแสไฟฟ้าช็อกให้หัวใจกลับมาให้เป็นปกติได้
ให้ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ ได้แก่ Digitalis, Amiodarone, propanol
SINUS BRADYCARDIA
เหมือน NSR แต่หัวใจเต้นน้อยกว่า 60 ครั้ง/นาที
สาเหตุ
เกิดขึ้นขณะนอนหลับหรือในคนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรง
ผู้ป่วยที่มี myocardial infarction ในส่วน inferior หรือ posterior
Parasympathetic ถูกกระตุ้น เช่น อาเจียน กลั้นหายใจ การเบ่งอุจจาระ
ผู้ป่วยที่มีความดันในกะโหลกศีรษะสูง
ร่างกายขาดออกซิเจน อุณหภูมิร่างกายายต่ำ K สูง หรือ hypothyroid
ได้รับยากลุ่ม calcium channel blocker, beta blocker, digitalis, amiodarone
Significance of Sinus Bradycardia
ความดันโลหิตต่ำ
เจ็บหน้าอก
วิงเวียน หมดสติ
ปัสสาวะออกน้อย
SINUS TACHYCARDIA
พบได้บ่อย และมักเกิดจากการกระตุ้นระบบสรีรวิทยา เช่น
ออกกำลังกาย
การขาดออกซิเจน
มีไข้
การขาดเลือด
ภาวะโลหิตจาง
ภาวะ Shock
ได้รับยา เช่น Epinephrine, Atropine, Dopamie
การดื่มชา กาแฟ สูบบุหรี่ หรือ เสพโคเคน
ATRIAL FIBRILLATION (AF)
เกิดจากภาวะหัวใจห้องข้างบนสั่นพริ้ว ลักษณะคลื่นไฟฟ้าไม่มี P wave แต่พบ Fibrillation (f) wave ลักษณะเป็นเส้นหยักไปมา ไม่สม่ำเสมอ แต่รูปร่างของ QRS complex ปกติ
Atriial rate 350 – 700 ครั้ง/นาที Ventricular rate ไม่สม่ำเสมอ
สาเหตุ
โรคเกี่ยวกับหัวใจ
การผ่าตัดหัวใจ
โรคปอด เช่น COPD
ความดันโลหิตสูง
ความเครียด
Holiday Heart Syndrome
ได้รับสาร Cabon monoxide
ได้รับยากระตุ้นหัวใจ เช่น Beta stimulation
อาการ
Palpitations
Fatigue
Syncope
Dyspnea
Dizziness
Angina
นางสาวภาศินี ขจีรัมย์
รหัสนักศึกษา 61121301058