Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย - Coggle Diagram
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย
ความหมายของกฎหมาย
กฎที่สถาบันหรือผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐตราขึ้นหรือที่เกิดขึ้นจากจารีตประเพณีอันเป็นที่ยอมรับนับถือ
ใช้ในการบริหารประเทศ เพื่อใช้บังคับบุคคลให้ปฏิบัติตาม
เพื่อกำหนดระเบียบแห่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างบุคคลกับรัฐ
ระเบียบ กฎเกณฑ์ข้อบังคับ ที่รัฐหรือผู้มีอำนาจกำหนดขึ้น เพื่อควบคุมความประพฤติ/
พฤติกรรมของมนุษย์ ที่อาจก่อให้เกิดความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย เกิดความไม่สงบขึ้นในสังคม
หากผู้ใดฝ่าฝืนย่อมต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด
ลักษณะของกฎหมายและประเภทของกฎหมาย
ลักษณะของกฎหมาย
กฎหมายต้องมีลักษณะเป็นกฎเกณฑ์
กฎหมายต้องเป็นข้อบังคับที่เป็นมาตรฐานที่ใช้วัดหรือกำหนดความประพฤติของคนในสังคมว่าถูกหรือผิดทำได้หรือไม่ได้
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔ บัญญัติว่า “ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่นหรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริตไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์”
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๖๓
บัญญัติว่า “บุตรจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา”
มาตรา ๑๕๖๔ บัญญัติว่า “บิดามารดาจำต้อง
อุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์”
กฎหมายต้องกำหนดขึ้นโดยรัฐหรือผู้มีอำนาจ
ต้องเป็นคำสั่งหรือข้อบังคับของผู้มีอำนาจในรัฐ (รัฏฐาธิปัตย์) สำหรัประเทศไทย
องค์กรที่ทำหน้าที่ออกกฎหมาย เช่น รัฐสภา รัฐบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
กฎหมายต้องบังคับใช้โดยทั่วไป
เมื่อมีการประกาศใช้แล้ว บุคคลทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายโดยเสมอภาค จะมีใครอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้
แต่อาจมีข้อยกเว้นในบางกรณี เช่น กรณีของฑูตต่างประเทศซึ่งเข้ามาประจำใน
ประเทศไทยอาจได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายภาษีอากร
หรือหากได้กระทำความผิดอาญา ก็อาจได้รับเอกสิทธิ์ตามกฎหมายระหว่างประเทศไม่ต้องถูกดำเนินคดีในประเทศไทย
กฎหมายต้องมีสภาพบังคับ
เป็นกฎเกณฑ์ที่กำหนดความประพฤติของบุคคลดังนั้นเพื่อให้บุคคลนั้นปฏิบัติตาม
จำต้องมีสภาพบังคับในกรณีที่มีการผ่าฝืนกฎหมาย หากเกณฑ์ใดไม่มี
สภาพบังคับก็ไม่ถือว่าเป็นกฎหมาย
สภาพบังคับนั้นมีทั้งผลร้ายและผลดี
สภาพบังคับที่มีผลร้าย
ประหารชีวิต คือการนำตัวผู้กระทำความผิดไปฉีดยาพิษให้ตาย
จำคุก คือ การเอาตัวไปคุมขังไว้ในเรือนจำตามกำหนดเวลาที่ศาลพิพากษา
กักขัง คือ โทษที่ให้กักตัวผู้กระทำความผิดไว้ในสถานที่กักขัง
ปรับ คือ โทษที่ผู้กระทำความผิดต้องชำระเงินตามจำนวนที่กำหนดไว้ในคำ
พิพากษาต่อศาล มิฉะนั้นต้องถูกยึดทรัพย์ใช้ค่าปรับ หรือถูกกักขังแทนค่าปรับ
ริบทรัพย์สิน คือ จะริบทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดหรือได้มาจากการกระทำความผิด
สภาพบังคับที่มีผลดี
กรณีจดทะเบียนสมรส ทำให้บุตรเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายสามารถใช้สิทธิของคู่สมรสไปลดหย่อนภาษีได
ระบบของกฎหมาย
ระบบกฎหมายจารีตประเพณี หรือระบบกฎหมายไม่เป็นลายลักษณ์อักษร (Common law system)
โดยมีระบบการพิจารณาพิพากษาคดีที่อาศัย
บรรทัดฐานจากคดีที่คล้ายคลึงกัน และผู้พิพากษาคนก่อนๆ ตัดสินคดีเดิมไว้
พระมหากษัตริย์ได้พยายาม สร้างหลักเกณฑ์การพิจารณาคดี เพื่อความเป็นธรรมในกรอบเดียวกัน โดยจัดตั้งศาลและส่งผู้พิพากษาไปตัดสินคดีทั่วประเทศจนเกิดเป็นกฎเกณฑ์ทั่วไป
ประเทศที่ใช้กฎหมายระบบจารีตประเพณี ได้แก่ ประเทศอังกฤษ และประเทศที่มีชาว
อังกฤษอพยพไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนใหม
ประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย เป็นต้น
ระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร หรือระบบประมวลกฎหมาย (Civil law system)
แหล่งกำเนิดจากชาวโรมัน ซึ่งได้รับการจัดระบบอย่างดีในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน (Justinian) โดยนำ ค าพิพากษาของศาล และการตีความของนักปราชญ์ทางกฎหมาย จนได้กฎหมายที่ได้รับการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
พิจารณาคดีของศาลจะพิจารณาจากหลักเกณฑ์ทั่วไปสู่การพิจารณาเฉพาะเรื่อง
โดยการตีความต้องพิจารณาตามตัวบทกฎหมาย
ในภาคพื้นยุโรปได้นำหลักเกณฑ์ของระบบนี้มาร่างเป็นประมวลกฎหมาย
ของประเทศฝรั่งเศส เบลเยี่ยม อิตาลี เยอรมัน เดนมาร์ก ออสเตรีย สเปน สวิสเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ไทย จีนเป็นต้น
ประเภทของกฎหมาย
กฎหมายที่แบ่งตามสิทธิประโยชน์ และความสัมพันธ์ของบุคคล
กฎหมายมหาชน (Public Law)
เป็นกฎหมายที่บัญญัติความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน
รัฐเป็นฝ่ายปกครองที่มีอำนาจเหนือกว่าประชาชน
กฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นแม่บทและเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศ
กฎหมายปกครอง เป็นกฎหมายที่ก าหนดการปกครองประเทศ รองจากรัฐธรรมนูญ
กฎหมายเอกชน (Private Law)
เป็นกฎหมายที่บัญญัติความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนกับเอกชน
กฎหมายแพ่ง เป็นกฎหมายที่บัญญัติเกี่ยวกับวิถีชีวิตประจ าวันของประชาชน โดย
บัญญัติถึงฐานะของบุคคล ครอบครัว มรดก หนี้สิน และกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินต่างๆ
กฎหมายพาณิชย์ เป็นกฎหมายที่บัญญัติเกี่ยวกับการค้าขาย หุ้นส่วน บริษัท
กฎหมายระหว่างประเทศ (International Law)
แผนกคดีเมือง เป็นกฎหมายที่กำหนดความสัมพันธ์ของรัฐเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่มหาชน (Public rights and duties)
ท้ั้งในเรื่องเขตแดน การฑูต การทำสนธิสัญญา หรือกรณีพิพาท
แผนกคดีบุคคล เป็นกฎหมายที่กำหนดความสัมพันธ์ของบุคคลต่างรัฐในทางแพ่ง
เกี่ยวกับความประพฤติ สิทธิและหน้าที่ เช่น สัญชาติ ภูมิลำเนา การสมรส การทำนิติกรรม
แผนกคดีอาญา เป็นกฎหมายที่กำหนดความสัมพันธ์ในคดีอาญาของบุคคลที่เกิดขึ้นโดย
ประชาชนของประเทศหนึ่ง หรือการกระทำผิดที่ต่อเนื่องในหลายประเทศ
กฎหมายที่แบ่งโดยแหล่งกำเนิดของกฎหมาย
กฎหมายภายใน
เป็นกฎหมายที่องค์กรของรัฐที่มีอำนาจในการบัญญัติกฎหมาย บัญญัติขึ้น
ใช้ภายในประเทศ
กฎหมายภายนอก
เป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นโดยองค์การระหว่างประเทศ เช่น
สหประชาชาติ หรือ เกิดจากความตกลงระหว่างประเทศ
กฎหมายที่แบ่งโดยเจตนารมณ์และเนื้อหาของกฎหมาย
กฎหมายระเบียบราชการ กฎหมาย การเงินการคลัง กฎหมายธุรกิจ กฎหมายสาธารณะสุข กฎหมายอุตสาหกรรม
กฎหมายที่แบ่งโดยลักษณะการใช้กฎหมาย
กฎหมายสารบัญญัติ เป็นกฎหมายที่กำหนดสิทธิหรือหน้าที่ที่ให้บุคคลปฏิบัติ เช่น กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายอาญา กฎหมายคุ้มครองแรงงาน
กฎหมายวิธีสบัญญัติ เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีการพิจารณาคดีของศาล เช่น วิธีพิจารณา
ความแพ่ง วิธีพิจารณาความอาญ
ลำดับชั้นหรือศักดิ์ของกฎหมาย
รัฐธรรมนูญ (Constitutional Law)
เป็นกฎหมายที่มีศักดิ์สูงสุด กำหนดรูปแบบการ
ปกครองประเทศ และวางระเบียบอำนาจสูงสุดของรัฐหรืออำนาจอธิปไตย
อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ
เป็นกฎหมายแม่บทของกฎหมายปกครองประเทศ ซึ่งกฎหมายอื่นจะขัดแย้งไม่ได้
หากต้องการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกรัฐธรรมนูญ ต้องปฏิบัติตามวิธีที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด และประมวลกฎหมาย
พระราชบัญญัติ(พรบ.) (Act)
กฎหมายที่ออกโดยฝ่ายนิติบัญญัติหรือรัฐสภา โดย
ผู้ที่สามารถเสนอร่างกฎหมายนี้ คือ คณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อกฎหมายผ่านขั้นตอนการออกกฎหมายจากรัฐสภา นายกรัฐมนตรีจะนำทูลเกล้าฯ เพื่อให้
พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา จึงถือว่ากฎหมายมีผลบังคับใช้
กรณีวุฒิสภาไม่เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติที่สภาผู้แทนราษฎรนำเสนอ ให้วุฒิสมาชิกยับยั้งพระราชบัญญัตินั้นไว้ และส่งคืนให้สภาผู้แทนราษฎร
ประมวลกฎหมาย (Code of Law)
เป็นการรวบรวมบทบัญญัติของกฎหมายลายลักษณ์
อักษรในเรื่องเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ให้มาอยู่ในหมวดเดียวกันอย่างเป็นระบบ
ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
พระราชกำหนด (Royal Enactment)
เป็นกฎหมายที่รัฐธรรมนูญมอบอำนาจให้แก่
ฝ่ายบริหาร เพื่อออกข้อบังคับในกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วน
เป็นประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
พระราชกฤษฎีกา (Royal Decree)
เป็นกฎหมายที่กำหนดรายละเอียดที่เป็นหลักย่อยของ
พระราชบัญญัติหรือพระราชกำหนด
พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีออกโดย
ฝ่ายบริหารที่อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญหรือพระราชบัญญัติ
ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากฝ่ายนิติบัญญัติมีอำนาจใช้บังคับประชาชนทั่วไป แต่ไม่สามารถมีบทกำหนดโทษ และถ้ากฎหมายแม่บทถูกยกเลิก พระราชกฤษฎีกาจะถูกยกเลิกไปโดยปริยาย
กฎกระทรวง (Ministerial Regulation)
เป็นกฎหมายที่ออกโดยฝ่ายบริหาร คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ ซึ่งออกตามความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีและอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติ
อออกกฎหมายเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ในการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัตินั้นๆ โดยไม่
ต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากรัฐสภา แต่ต้องผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จึงใช้บังคับกับประชาชนทั่วไป
ระเบียบ และข้อบังคับ (Rule/Regulation/Discipline)
เป็นกฎหมายที่ออกโดยหัวหน้าหน่วยงานองค์กร ผ่านความเห็นชอบจากผู้บริหารหน่วยงานหรือคณะกรรมการ
เพื่อกำหนดรายละเอียดวิธีปฏิบัติงาน โดยอาศัยตามพระราชบัญญัติ
ประกาศและคำสั่ง (Announcement/Command)
เป็นกฎหมายที่ออกโดยหัวหน้าหน่วยงาน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในหน่วยงาน
อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติ หรือเพื่อปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติ เช่น ประกาศสภาการพยาบาลเรื่องห้ามมิให้ยาหรือสารละลายทางหลอดเลือดดำ
อื่นๆ: ข้อบังคับท้องถิ่น เป็นกฎหมายที่ออกโดยองค์กรปกครองตนเอง เช่น ข้อบัญญัติ
กรุงเทพมหานคร ข้อบัญญัติเมืองพัทยา ข้อบัญญัติจังหวัด และเทศบัญญัติ ซึ่งมีผลบังคับใช้เฉพาะพื้นที่เท่านั้น
ลักษณะของระบบศาลไทย
ระบบศาลเดี่ยว
เป็นระบบที่ให้ศาลยุติธรรมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาททุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคดี
แพ่ง คดีอาญา คดีปกครอง หรือคดีประเภทอื่นๆ
ประเทศที่ใช้ระบบนี้ได้แก่กลุ่มประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายจารีตประเพณี (CommonLaw) เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกาเป็นต้น
ระบบศาลคู่
เป็นระบบที่ให้ศาลยุติธรรมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทเฉพาะคดีแพ่งและคดีอาญาเท่านั้น
ข้อพิจารณาของระบบศาลคู่ คือ การแยกระบบของผู้พิพากษาและการแยกองค์กรศาลปกครองออกจากระบบศาลยุติธรรม
ประเทศที่ใช้ระบบศาลคู่ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร (Civil Law) เช่นฝรั่งเศสเบลเยี่ยม สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน
ระบบศาลของประเทศไทย
เป็นระบบศาลคู่ แยกเป็นอิสระจากกัน มีผู้พิพากษาหรือตุลาการของแต่ละ
ศาลโดยเฉพาะ จะย้ายจากศาลหนึ่งไปดำรงตำหน่งในอีกศาลหนึ่งไม่ได้
ศาลของประเทศไทย
ศาลรัฐธรรมนูญ
เป็นองค์กรตุลาการที่จัดตั้งขึ้นครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
ไทย พุทธศักราช 2540 แทนคณะตุลาการรัฐธรรมนูญที่ยุบเลิกไป
มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช2550
ศาลยุติธรรม
เป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง เว้นแต่คดีที่รัฐธรรมนูญหรือ
กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลอื่น
ศาลยุติธรรมมีรูปแบบการพิจารณาคดีด้วย “ระบบกล่าวหา” ที่มี
ผู้พิพากษาเป็นคนกลางทำหน้าที่ตัดสินคดีความ
ศาลชั้นต้น (Civil court/Court in the First instance)
เป็นศาลยุติธรรมที่พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นแรก เมื่อมีการฟ้องร้องและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ศาลแพ่ง เป็นศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งทั้งปวงและ
คดีอื่นใดที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมอื่น
ศาลอาญา เป็นศาลชั้นต้นซึ่งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงในเขต
ท้องที่กรุงเทพมหานคร นอกจากท้องที่ที่อยู่ในเขตของศาลอาญากรุงเทพใต้
ศาลอุทธรณ์ (Appeal Court)
เป็นศาลลำดับที่สูงกว่าศาลชั้นต้น มีองค์คณะ
ผู้พิพากษาอย่างน้อย 3 คน เพื่อพิจารณาตัดสินคดีที่ศาลชั้นต้นได้ตัดสินแล้ว
ซึ่งการตัดสินคดีของศาลอุทธรณ์จะเป็นไปในลักษณะยืนตาม แก้ไขกลับหรือยกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น มิใช่เป็นการพิจารณาคดีใหม่
ศาลอุทธรณ์ยังมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องขออุทธรณ์ของ
คู่กรณี หากคู่กรณียังไม่พอใจคำตัดสินในชั้นอุทธรณ์ สามารถฎีกาได้
ศาลฎีกา (Supreme Court)
เป็นศาลยุติธรรมสูงสุด มีประธานศาลฎีกาซึ่งเป็นประมุข
ของตุลาการศาลยุติธรรม เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด
ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีที่อุทธรณ์คำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์แล้วแต่กรณี ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการอุทธรณ์ฎีกา
การวินิจฉัยชี้ขาดของศาลฎีกาถือเป็นที่สุดหรือเป็นคดีแดง ซึ่งคู่กรณีไม่สามารถนำกลับมาฟ้องร้องได้
ศาลปกครอง (Administrative Court)
มีการจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง
และวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
มีฐานะเทียบเท่าศาลยุติธรรมที่มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณา
พิพากษาคดีในทางปกครองเป็นคดีพิพาทระหว่างหน่วยงานราชการหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือราชการส่วนท้องถิ่น
เป็นศาลที่ใช้ระบบไต่สวน โดยในแต่ละคดีจะมีการพิจารณาโดยองค์คณะของ
ตุลาการ ต่างจากศาลยุติธรรมซึ่งใช้ระบบกล่าวหา
เป็นศาลที่จัดตั้งขึ้นใหม่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ศาลทหาร
ได้มีขึ้นเป็นของคู่กันมาตั้งแต่มีการทหารไว้ป้องกันประเทศ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบบศาลทหารไทยปรากฏตามกฎหมายลักษณะขบฎศึก
มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาพิพากษาคดีที่ทหารกองประจำการกระทำผิด ตามกฎหมายพระธรรมนูญศาลทหาร