Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 1 การดูแลเด็กเมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล - Coggle Diagram
บทที่ 1
การดูแลเด็กเมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ระยะเฉียบพลันและระยะวิกฤต
1.Separation Anxiety
ภาวะวิตกกังวลจากการพลัดพราก
มี 3 ระยะ
ระยะ ประท้วง
ร้องไห้เสียงดังกรีดเสียงร้อง
การดูแลเด็กในระยะประท้วง
ให้เด็กมีของรักหรือของคุ้นเคยไว้ติดตัว หรือมอบของเล่นประจาตัวเช่น ผ้าเช็ดหน้า
ไว้กับเด็ก
ระยะ ปฏิเสธ
การปฏิเสธบิดามารดา
เด็กจะสร้างสัมพันธภาพอย่างผิวเผินกับเจ้าหน้าที่พยาบาล
การดูแลเด็กในระยะปฏิเสธให้บิดามารดาได้แสดงบทบาทในการดูแลบุตร
ระยะหมด หวัง
เศร้าซึม
การดูแลเด็กในระยะหมดหวัง ปลอบโยน อยู่ใกล้ชิต กอดโยกกล่อมเด็ก
วัยทารก
วัยทารก (อายุแรกเกิด-1ปี) วัยทารกเป็นวัยที่มีข้อจากัดในการรับรู้จะมีปฏิกิริยาไม่มากนัก
วัยหัดเดิน
วัยหัดเดินหรือวัยเตาะแตะ (อายุ 1-3 ปี) เด็กวัยนี้มีความ ผูกพันกับมารดามาก
วัยก่อนเรียน
กลัว สูญเสียความสมบูรณ์ของร่างกายกลัวอวัยวะต่างๆ ถูกตัดขาด
วัยเรียน
กลัวร่างกายได้รับบาดเจ็บ เริ่มกลัวความตาย
วัยรุ่น
(อายุ 12-21 ปี) วัยรุ่นพัฒนากลไกการปรับตัวต่อความเครียดได้ดีกว่าเด็กวัย
กระตุ้นและปิดโอกาสให้เด็กได้พูดเกี่ยวกับความกังวลความกลัวความสงสัย
2.Pain ภาวะความเจ็บปวด
วัยก่อนเรียน
การดูแล ช่วยโดยเล่นบทบาทสมมุติ ครอบครัวมีส่วนร่วมในการทำหัตถการ
วัยเรียน
การดูแล ช่วยโดยอธิบายทำความเข้าใจอยู่คุยขณะทำหัตถการ
วัยหัดเดิน
การดูแล ช่วยโดยเล่นบทบาทสมมุติ ครอบครัวมีส่วนร่วมในการทำหัตถการ
วัยรุ่น
การดูแล ช่วยโดยอธิบายเป็นเหตุผลแบบผู้ใหญ
วัยทารก
กดเจ็บ ร้องเสียงดัง
การดูแล ช่วยเหลือโดยอุ้ม สัมผัส ทำหัตถการ
3.Stress and coping
ความเครียดและการเผชิญกับความเครียด
ความเครียด (Stress) เด็กจะเกิดความเครียดได้เมื่อเผชิญกับ
เหตุการณ์ที่ทำให้เด็กสูญเสียการควบคุม
การจัดการกับความเครียด (Coping)
เปิดโอกาสให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กป่วย
โดยให้กำลังใจเด็กและพ่อแม่อธิบายให้ครอบครัวเข้าใจเกี่ยวกับโรคที่เด็กเป็นอย
Family Centered Care/สิทธิเด็ก
การดูแลโดยใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
Family Centered Care
บทบาทของครอบครัวต่อเด็กเจ็บป่วย
มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเจ็บป่วยมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาการการเจริญเติบโตของเด็กแต่ละวัย
สัมพันธภาพเละความรู้สึกระหว่างเด็กป่วยเละสมาชิกในกรอบครัว
มีความรู้ในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
การปรับตัวของเด็กป่วยและสมาชิกในครอบครัว
บิดามารดาต้องมีความรู้ความเข้าใจในการเจ็บป่วยของเด็กเกี่ยวกับสาเหตุการ
เจ็บป่วยการได้รับการดูแลเละการรักษา
การติดต่อกับผู้ให้บริการแก่เด็กและครอบครัว
บทบาทของพยาบาลในการดูแลครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
ป้องกันภาวะวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้และส่ง
เสริมให้เด็กและครอบครัวดูแลการเจ็บป่วยขั้นต้นได้
มีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่วยเด็กและสมาชิกในครอบครัว
มีความรู้เกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการปกติ
รวมทั้งระบบของครอบครัว
4.ประสานและส่งต่อกับพยาบาลในชุมชนเกี่ยวกับการดูแลเด็กป่วยและสมาชิกในครอบครัว
ส่งเสริมทางด้นจิตสังคมให้เด็กและสมาชิกครอบครัวมีการปรับตัวต่อภาวะวิกฤตได้
สิทธิเด็ก
สิทธิขั้นพื้นฐานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
1.สิทธิการมีชีวิตอยู่รอด
2.สิทธิในการพัฒนา
3.สิทธิในการได้รับการคุ้มครอง
4.สิทธิในการมีส่วนร่วม
ระยะเรื้อรังและระยะสุดท้าย
ระยะเรื้อรัง (Chronic stage)
วัยทารก สร้างความไว้วางใจและเรียนรู้โดยผ่านประสาทสัมผัส
วัยหัดเดิน พยาบาลควรแนะนำพ่อแม่ให้อิสระแก่เด็กทั้งที่บ้านและโรงพยาบาล
วัยก่อนเรียน พยาบาลควรส่งเสริมให้เด็กประสบความสำเร็จตามพัฒนาการของเด็ก
วัยเรียนให้เด็กมีส่วนร่วมในการดูแลตนเองและการตัดสินใจ
วัยรุ่น ให้วัยรุ่นมีส่วนร่วมในการรักษาพยาบาลร่วมให้คำยินยอมในการรักษา
ระยะสุดท้าย (End stage)
1) ระยะตกใจและปฏิเสธ (Shock & denial) มักเริ่ม ด้วยตกใจ ตัวชา
ไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้รับทราบ งง พูดไม่ออก ท าอะไรไม่ถูก
2) ระยะโกรธ (Anger) โกรธตัวเอง บุคคลรอบข้างโยน ความผิดกล่าวโทษคนอื่นหงุดหงิด
แสดงอาการไม่พอใจ หรืออาจนิ่งเฉย
3) ระยะต่อรอง (Bargaining) จะเริ่มยอมรับและตระหนักถึงความจริงที่หลีกหนีไม่ได้
แต่จะขอต่อรองยืดเวลาตายออกไป
4) ระยะซึมเศร้า (Depression) เกิดจากความเสียใจ ทุกข์กับสิ่งต่างๆ ที่ต้องสูญเสียจะ
แสดงอาการเสียใจร้องไห้ซึม ไม่สนใจดูแลตนเอง
5) ระยะยอมรับ (Acceptance) เป็นการยอมรับความจริงในธรรมชาติแห่ง
ชีวิตไม่ใช่ยอมรับข่าวว่าเป็นจริงแต่เป็นการยอมรับการสูญเสียโดยสมบูรณ์