Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กระบวนการอนามัยชุมชนกับการวินิจฉัยชุมชนและการแก้ไขปัญหา - Coggle Diagram
กระบวนการอนามัยชุมชนกับการวินิจฉัยชุมชนและการแก้ไขปัญหา
การประเมินชุมชน
(community assessment)
ขั้นตอนการศึกษาชุมชน
การรวบรวมข้อมูล
ประเภทข้อมูล
ข้อมูลปฐมภูมิ รวบรวมข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลโดยตรง
ข้อมูลทุติยภูมิ รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่แล้ว
ประกอบด้วย
ที่ตั้งของชุมชน
ขอบเขตของชุมชน
สภาพพื้นที่ตั้งของชุมชน
สภาพอากาศในชุมชน
ประชากรในชุมชน
โครงสร้างประชากร
ความหนาแน่นของประชากร
วัฒนธรรมของชุมชน
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค
อัตราการเกิด อัตราการตาย อัตราป่วยตาย การเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อและไม่ติดต่อ
พฤติกรรมการบริโภคของชุมชน
ระบบสังคมชุมชน
ระบบการศึกษา
ระบบเศรษฐกิจ(รายได้ อาชีพหลัก อาชีพรอง)
ระบบสาธารณสุข (รพ.ระดับต่างๆ การเข้าถึงสิทธิการรักษา ศูนย์บริการสุขภาพในชมชน ฯลฯ)
ระบบสาธารณูปโภค (ประปา ไฟฟ้า ตลาด ร้านค้า แหล่งบริการต่างๆที่ตั้งอยู่ในชุมชน)
ระบบการเมือง การปกครอง( อบต. เทศบาล ฯลฯ)
ระบบวัฒนธรรมและแบบแผนการดำเนินชีวิต(ความเชื่อ และค่านิยมของชุมชน)
การเตรียมเครื่องมือ
แบบสอบถาม
แบบสัมภาษณ์
แบบสังเกต
แบบทดสอบ
แบบทดลอง
การเตรียมผู้สำรวจหรือผู้รวบรวมข้อมูล
การกำหนดกลุ่มตัวอย่าง
การกำหนดวิธีการรวบรวมข้อมูล
การบันทึกข้อมูล
การวิเคราะห์ข้อมูล
ตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ของข้อมูล
จัดประเภทข้อมูล
ลักษณะทั่วไปของชุมชน เช่น ข้อมูลประชากร ที่ตั้งชุมชน เศรษฐกิจ สังคม อาชีพ
ข้อมูลสุขภาพอนามัย เช่น อัตราเกิด อัตราตาย อัตราป่วย แบบแผนการเกิดโรค ฯลฯ
ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับโรค เช่นการได้รับภูมิคุ้มกันโรค พฤติกรรมสุขภาพ ภาวะโภชนาการ
การแจกแจงข้อมูล การใช้การแจงนับ (tally)หรือจะใช้การวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์
รวมจำนวนการแจงนับ(tally)ออกมาเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม แล้วนำมาคำนวณเป็นค่าร้อยละหรือค่าสถิติชีพ เช่น อัตรา ค่าเฉลี่ย เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับมาตรฐานหรือเกณฑ์
การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล
วัตถุประสงค์
จัดข้อมูลต่างๆให้อยู่ในรูปแบบที่เห็นและเข้าใจง่าย
ช่วยให้ผู้อ่านได้ทราบผลอย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์
เตรียมความพร้อมสำหรับการวิเคราะห์และแปลความหมายต่อไป
วิธีการนำเสนอ
การนำเสนอโดยปราศจากแบบแผน
การนำเสนอเป็นบทความ
การนำเสนอเป็นบทความกึ่งตาราง
การนำเสนอโดยมีแบบแผน
เป็นตาราง
ตารางลักษณะเดียว(ตารางทางเดียว)
ตารางสองลักษณะ(ตารางสองทาง)
ตารางซับซ้อน
กราฟ
กราฟเส้น
ฮีสโตรแกรม
รูปหลายเหลี่ยมแห่งความถี่
แผนภูมิ
แผนภูมิแท่ง
แผนภูมิแท่งเชิงเดี่ยว
แผนภูมิแท่งซับซ้อน
แผนภูมิแท่งเชิงประกอบ
แผนภูมิแรเงาซ้อนเหลื่อมกัน
แผนภูมิกงหรือวงกลม
แผนภูมิภาพ
แผนภูมิทางภูมิศาสตร์
แผนที่แบบจุด
แผนที่แบบเข็มหมุด
แผนที่แบบแรเงาหรือระบายสี
แผนภูมิเพื่อจุดประสงค์พิเศษ
แผนภูมิการไหลเวียน
แผนภูมิองค์การ
การวินิจฉัยชุมชน
(community diagnosis)
การระบุปัญหาชุมชน
ใช้หลัก 5 D ประกอบด้วย 1.ตาย (death) 2.พิการ/การไร้ความสามารถ (disability) 3.โรค (disease) 4.ความไม่สุขสบาย (discomfort) 5.ความไม่พึงพอใจ (dissatisfaction) หากพบเพียง 1 D ก็ถือว่าพบปัญหา ยิ่ง D มากยิ่งเพิ่มขนาดของปัญหา
เปรียบเทียบกับเกณฑ์หรือค่ามาตรฐานสากล เช่น องค์การอนามัยโลก หรือ จปฐ แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติ หรือแผนเมืองไทยสุขภาพดี แผนพัฒนาจังหวัด
กระบวนการกลุ่ม (nominal group process) โดยให้ชุมชน ผู้นำ หรือประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจว่าอะไรเป็นปัญหา เสนอเสียงสนับสนุนรับรองปัญหา
หลักการเขียนปัญหา
ควรระบุว่าใครรับผลของปัญหา มีจำนวนหรืออัตรามากน้อยเพียงใด
การจัดลำดับความสำคัญของปัญหา (Set Piority)
จอหน์แฮนลอน และจอร์ท พิคเค็ท(Hanlon and Pickett)
ขนาดของปัญหา พิจารณาขนาดของการเกิดโรค ความชุกของการเกิดโรค
ความรุนแรงของปัญหา พิจารณาจากความเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข การสูญเสียเศรษฐกิจ
ประสิทธิผลของการปฏิบัติการแก้ปัญหา โดยดูผลลัพธ์จากการแก้ปัญหาว่าทำได้เท่าใด จะลดปัญหานั้นได้เท่าใด
ฐานะเศรษฐกิจ การยอมรับ ทรัพยากรและกฎหมาย
สมาคมสาธารณสุขอเมริกา
(American Public Health Associated)
ระดับความตระหนักในปัญหาของกลุ่ม
จำนวนทรัพยากรที่มีอยู่สำหรับการแก้ปัญหานั้น
ความสามารถในการแก้ปัญหาของผู้ที่เกี่ยวข้อง
ความต้องการความรู้เฉพาะที่จะนำมาแก้ปัญหานั้น
จำนวนทรัพยากรที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นสำหรับการแก้ปัญหา
รองศาสตราจารย์นายแพทย์ ไพบูลย์ โล่สุนทร
อุบัติการณ์ของโรค (incidence)ดูจากจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เกิดขึ้น
ความชุกของโรค (prevalence)ดูจากจำนวนผู้ป่วยใหม่และผู้ป่วยเก่า
ความรุนแรงของโรค (virulence of disease) ดูความพิการหรือการตายมากน้อยเพียงใด
การสูญเสียทางเศรษฐกิจ (economic loss) ดูการสูญเสียเวลาทำงาน
โรคนั้นป้องกันได้ (preventability) โรคที่ป้องกันได้ต้องจัดลำดับความสำคัญไว้สูง
โรคนั้นรักษาหายได้ (treatability)
ทรัพยากรทางด้านอนามัยและอื่นๆ (health and other resources)
ความเกี่ยวข้องและความร่วมมือของชุมชน (community concern and participation)
จริยวัตร คมพยัคฆ์ ให้คะแนนแต่ละองค์ประกอบเต็ม 4 คะแนน
องค์ประกอบด้านสุขภาพอนามัย
ขนาดของปัญหา (size of problem or prevalence) ดูจำนวน อัตรา ร้อยละฯลฯ
ความรุนแรงของปัญหา (severity of problem )ดูความพิการ ดูอัตราตาย อัตราป่วยตาย การสูญเสียเศรษฐกิจ การระบาดลุกลาม ฯลฯ
ความยากง่ายในการแก้ปัญหา
ด้านวิชาการ(ความรู้ความสามรถของผู้แก้ไขปัญหา)
ด้านบริหาร (การจัดการภายในทีมเพื่อร่วมมือกันในการแก้ปัญหา รวมกำลังคน เงิน วัสดุ ทรัพยากรต่างๆ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน)
ด้านระยะเวลา (เวลาน้อยจะมีข้อจำกัดมาก)
ด้านกฎหมาย (การแก้ปัญหาต้องไม่ขัดแย้งกับกฎหมาย)
ด้านศีลธรรม (การแก้ปัญหาต้องไม่ผิดศีลธรรม)
ความวิตกกังวลต่อปัญหาของชุมชน เป็นความต้องการที่จะแก้ไขปัญหาโดยเร็วของชุมชนโดยประชาชนมีส่วนร่วมเข้าไปแก้ปัญหาด้วย
การให้ค่าคะแนน:
ขนาดของปัญหา
1 = ขนาดของปัญหามากกว่า 0-25
2 = ขนาดของปัญหามากกว่า 25-50
3 = ขนาดของปัญหามากกว่า 50-75
4 = ขนาดของปัญหามากกว่า 75-100
ความรุนแรง
1= มีภาวะเสี่ยง เจ็บป่วยเล็กน้อยรักษาหาย
2 = เจ็บป่วยเรื้อรัง สูญเสียเงินรักษามาก ก่อให้เกิดการระบาด/ติดต่อ
3 = เกิดความพิการ/ทุพพลภาพ
4 = ตาย
ความยากง่าย
1 = ปัญหานั้นแก้ไขได้ยากมากๆ
2 = ปัญหานั้นแก้ไขได้ยาก
3 = ปัญหานั้นแก้ไขได้ง่าย
4 = ปัญหานั้นแก้ไขได้ง่ายมากๆ
(อย่าลืม ด้านวิชาการ ด้านบริหาร ด้านระยะเวลา ด้านกฎหมาย ด้านศีลธรรมให้นำมาคิดด้วยเสมอ )
ความวิตกกังวลของปัญหา
1 = จำนวนประชาชนที่มีความกังวลต่อปัญหา 0 - 25
2 = จำนวนประชาชนที่มีความกังวลต่อปัญหา มากกว่า 25 - 50
3 = จำนวนประชาชนที่มีความกังวลต่อปัญหา มากกว่า 50 - 75
4 = จำนวนประชาชนที่มีความกังวลต่อปัญหา มากกว่า 75 -100
การระบุสาเหตุ
และทำโยงใยสาเหตุของปัญหา
ชนิดของสาเหตุ
สาเหตุทางตรง
สาเหตุทางอ้อม
ชนิดของโยงใยสาเหตุของปัญหา
โยงใยสาเหตุทางทฤษฎี (Theoretical Web of causation)
โยงใยสาเหตุที่เกิดขึ้นจริง (Causal Web of causation)
การวางแผนแก้ไขปัญหา
(planning)
ครอบคลุม
เรื่องของการเตรียมการ
เรื่องของการกระทำอย่างจงใจ
เรื่องของการจัดกระทำเพื่อผลในอนาคต
ลักษณะของแผนที่ดี
มีความชัดเจน
มีความสมบูรณ์
มีความแม่นตรง
มีความครอบคลุม
มีความยืดหยุ่น
มีความเป็นพิธีการ
มีความง่ายในการปฏิบัติ
มีความประหยัด
ประเภท
แผนระดับสูง
แผนระดับปฏิบัติการหรือแผนปฏิบัติการ
แผน(Plan)
แผนงาน หรือชุดโครงการ(Program)
โครงการ(Project)
ประกอบด้วย
ชื่อโครงการ
ต้องบ่งบอกว่าจะทำสิ่งใดบ้าง โครงการที่จัดขึ้นนั้นทำเพื่ออะไร
หลักการและเหตุผล
ทำแล้วได้อะไร ถ้าไม่ทำจะเกิดผลสียอย่างไร ให้สะท้อนความจำเป็นของการจัดทำโครงการ แสดงสถิติข้อมูลและเหตุผลรองรับที่มีน้ำหนักสมเหตุสมผล เพื่อให้ผู้บริหารเห็นควรให้การสนับสนุนโครงการ
วัตถุประสงค์
หลักการเขียน
S : Senible (เป็นไปได้ )
M : Measurable (วัดได้)
A : Attainble (ระบุสิ่งที่ต้องการ)
R : Reason (เป็นเหตุเป็นผล)
T : Time (เวลา)
ชัดเจน ปฏิบัติได้และวัดและประเมินผลได้ เขียนให้เป็นรูปธรรม
เป้าหมาย
ระบุสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นวัดได้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
วิธีดำเนินการ หรือกิจกรรม หรือขั้นตอนการดำเนินงาน
กำหนดกิจกรรมอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ระบุใคร ทำอะไร
ระยะเวลาการดำเนินงานโครงการ
ระบุระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนเสร็จสิ้นโครงการนิยมระบุ วัน-เดือน-ปี ที่เริ่มต้นและเสร็จสิ้น การระบุจำนวน ความยาวของโครงการ
งบประมาณ
การประเมินผล
ประสิทธิผล (Effectiveness)
ประสิทธิภาพ(Efficiency)
ความพอเพียง(Sufficiency)
ความเหมาะสม(Appropriateness)
ความเสมอภาค (Equality)
บอกแนวทางการติดตามประเมินผลควรทำอย่างไร ในระยะเวลาใด และใช้วิธีการอย่างไรจึงจะเหมาะสม โดยระบุวิธีการ และเกณฑ์ที่ใช้ในการวัด
ผลที่คาดว่าจะได้รับ/ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
ผลตอบแทนที่คาดว่าจะ ได้รับจากการดำเนินงานโดยตรงและโดยอ้อม
ผู้รับผิดชอบโครงการ
ระบุตัวบุคคลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบในการเสนอและดำเนินโครงการ