Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

5.6 โรคติดเชื้อร่วมกับการตั้งครรภ์, นางสาวสุกัญญา พลเยี่ยม…

- - - - ควรได้รับวัคซีนภายใน 7 วันและให้ซ้ำภายใน 1เดือน และ 6 เดือน
      - TDF 300 mg. วันละ 1 ครั้ง จนถึง 4 สัปดาห์หลังคลอด
      - HBIG (400IU)ทันทีหรือภายใน 12 ชม. หลังคลอด
      - ติดตามตรวจดูระดับ ALT
      - ทารกแรกเกิดโดยใช้หลัก universal precaution
      - Exclusive breastfeeding หากไม่มีรอยแผล
    - - หลีกเลี่ยงการทำสูติ การเจาะน้ำคร่ำ
      - หารไวรัสในเลือดสูงกว่า200,000 IU/mL ให้TDF 300 mg. วันละ 1 ครั้ง GA28-32 สัปดาห์
- - - - การสัมผัสโรค ตรวจร่างกายว่ามีผื่นขึ้นหรือไม่
    - - IgM และ IgG specific antibody ทันทีที่มีผื่นขึ้นหรือ
        ภายใน 7-10 วันหลังผื่นขึ้น
      - ควรติดตามการเพิ่มขึ้นของระดับไตเตอร์เป็น 4 เท่าใน 2
        สัปดาห์
      - ELISA
  - - - ไข้ต่ำๆ
      - Koplik's spot จุดสีขาวเหลืองขนาดเล็กคล้ายเม็ดงาอยู่ที่กระพุ้งแก้ม
    - - ผื่นแดงเล็กๆ
      - ตุ่นนูน ผื่นแดงหรือสีชมพูขึ้นที่ใบหน้าก่อนจะลามลงมาตามผิวหนังส่วนอื่นหายไปภายใน 3 วัน
  - - - แพทย์จะแนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์
    - - แนะนำพักผ่อนให้เพียงพอ
      - แนะนำดื่มน้ำให้เพียงพอ จิบบ่อยๆ
      - แพทย์อาจพิจารณาฉีดImmunoglobulin
      - ถ้ามีไข้แนะนำให้ยาparacetamalตามแพทย์สั่ง
- - - - การตรวจ VDRL หรือ RPR
      - FTA-ABS
  - - - ระยะหลัง
        
        พบอายุมากกว่า 2 ปี
        
        แก้วตาอักเสบ ฟันหน้าแหว่งเว้าคล้ายจอบ หูหนวก จมูกยุบ หน้าผากนูน
      - ระยะแรก
        
        น้ำหนักตัวน้อย ตับม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองโต ผิวหนังฝ่ามือฝ่าเท้าพองและลอก น้ำมูกมากเสียงแหลม
        
        พบตั้งแต่คลอดถึง 1 ปี
        
        wimberger ’s sign ปลายส่วนบนกระดูก tibia กร่อนทั้งสองข้าง
  - - - ทั่วตัว ผ่ามือผ่าเท้า ไข้ปวด ตามข้อ ข้ออักเสบ น้ำเหลืองโต ผมร่วง
    - - ทําลายอวัยวะภายในเช่น หัวใจ และหลอดเลือดสมอง ตาบอด
    - - แผลริมแข็งมีตุ้มแดง
  - - - ให้ยา Benzathine penicillin G 2.4 mU IM สัปดาห์ ละครั้ง นาน 3 สัปดาห์ แบ่งฉีดที่สะโพก ข้างละ 1.2 mU
      - อาจลดอาการปวดโดยผสม 1% Lidocaine 0.5-1 ml
    - - ให้ยา Benzathine penicillin G 2.4 mU IM ครั้งเดียว แบ่งฉีดสะโพก ข้างละ 1.2 mU
      - อาจลดอาการปวด โดย ผสม 1% Lidocaine0.5-1 ml
  - - - ป้องกันการติดเชื้อโดยการดูดเมือกออกจากปากและจมูกโดยเร็ว
      - เจาะเลือดจากสายสะดือทารกเพื่อส่งตรวจการติดเชื้อซิฟิลิส
    - - สามารถให้นมได้ตามปกติล้างมือก่อนและหลังสัมผัสทารก
      - แนะนํารับประทานยาและกลับมาตามนัดติดตามผลการรักษา
      - ให้คำแนะนำการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
    - - แนะนํามาฝากครรภ์ตามนัดและติดตามผลการรักษาเมื่อครบ 6และ 12 เดือน
      - แนะนำรักษาความสะอาดและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
      - หากมีการติดเชื้อดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
      - แนะนําพาสามีมาตรวจคัดกรอง
      - ส่งคัดกรอง VDRL ครั้งแรกที่มาฝากครรภ์และตรวจซ้ำเมื่ออายุครรภ์ 28-32 สัปดาห์หรือห่างอย่าน้อย 3 เดือน
      - ดูแลด้านจิตใจ
      - อธิบายความสำคัญของการคัดกรองความสี่ยงของโรคผลต่อทารกในครรภ์
- - - - สังเกตเห็นตุ่มน้ำใสจะแตกเป็นแผลอักเสบ มีการปวดแสบปวดร้อนมาก ขอบแผลกดเจ็บค่อนข้างแข็ง
      - ลักษณะตกขาว
    - - ปัจจัยเสี่ยง ประวัติการสัมผัสผู้ติดเชื้อ
    - - -การเพาะเชื้อ (culture)จะพบmultinucleated giant cell
  - - - เน้นการใช้หลัก Universal precaution
        และหลีกเลี่ยงการทําหัตถการ
    - - สามารถให้นมได้ตามปกติ ล้างมือก่อน
        และหลังสัมผัสทารก
    - - แนะนำการดูแลแผลให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ
      - ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ 0.9% หรือสารละลาย zinc sulphate 0.25-1% วันละ2-3ครั้ง
      - ลดความไม่สบายจากการปวดแสบปวดร้อน
      - แนะนำกานั่งแช่ก้นด้วยน้ำอุ่น
      - ดูแลให้ยาต้านไวรัสตามแผนการรักษา
      - หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีแผล