Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ (Diseases of Urinary system), 623601175…

- - - - เป็นทีเก็บนาปสสาวะไว้ชัวคราว
      - เป็นทีเก็บนาปสสาวะไว้ชัวคราว
    - - เป็นทางผ่านนาปสสาวะไปกระเพาะปสสาวะ
      - ท่อปสสาวะมีความแตกต่างกันระหว่างชายและหญิง
- - - - ไตฟอหรือภาวะทีไม่มีเนือไต
      - renal agenesis
      - potter's syndrom
        
        เกิดจากทารกในครรภ์อยู่ในภาวะขาดนาคราทําให้การแบ่งตัวผิดปกติ
        
        แขนขาผิดปกติ คือมีการโก่ง บิด ข้อเคลือน
        
        potter's facies หูติดตา ผิวหนังย่น จมูกงุ้ม คางเล็ก มีสันนูนเด่นทีหัวคิวทังสองข้าง
    - - ภาวะทีไตมีขนาดเล็กกว่าปกติมากกกว่าร้อยละ 50
      - จํานวน renal lobule และ calyx ลดลงแต่เนือไตไม่มีความผิดปกติ
    - - ภาวะทีมีจํานวนไตมากกว่าสองข้างส่วนใหญ่เปนสามไต
      - ไตส่วนเกินจะแยกออกจากไตปกติหรือเปนภาวะไตแฝด
  - - - อาจเปนข้างเดียวหรือสองข้าง
      - ภาวะทีไตอยู่ในตําแหน่งผิดปกติ
      - อยู่ทีอุ้งเชิงกราน
    - - ภาวะทีไตมี renal pelvis และ ureter อยู่ทางด้านหน้า
    - - เป็นการเชือมกันตรงกลางระหว่างเนือไตทังสองข้าง
- - - - ไตบวมโตมีเลือดคังมาก
      - เกิดทันทีและรุนแรง
      - ในผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือในรายทีมีการอุดกันของทางเดินปสสาวะร่วมด้วยจะมีการตาวของ renal papilla
    - - เป็นการอักเสบไม่รุนแรง
      - ไตจะมีขนาดเล็กลง ผิวขรุขระ เนืองจากรอยแผลเปน รูปตัว U
- - - - ไตจะมีขนาดใหญ่ขึน
      - มักเป็นทังสองข้าง
      - ถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมแบบ atosomal dominant
      - ผิวนอกของไตจะตะปุมตะปา หน้าตัดประกอบด้วย cyst ใหญ่ 3-4cm
    - - ไตมีขนาดใหญ่ทังสองข้าง
      - พบได้ตังแต่ทารกแรกเกิด
      - ถ่ายทอดพันธุ์กรรมแบบ atosomal recessive
      - เนือไตมีักษณะพรุนเหมือนฟองนา
  - - - มีการขยายใหญ่เปนถุงของ collecting tubule ของ medulla
      - ไตยังทํางานได้ปกติ
    - - โรคทีถ่ายทอดทางพันธุ์กรรม มีอาการตังแต่เด็ก
      - พบ cyst อยู่ในบริเวณ medulla
- - - - Ishemic type
        
        shock
      - Nephrotoxix type
        
        ได้รับสารพิษ
    - - ระยะที 1 Oliguric phase
        
        ปัสสาวะออกมาน้อย
        
        มีการตายของ renal tubule ทําให้ renal cell หลุดมาอุดตันทางเดินปัสสาสะวะ
      - ระยะที 2 Diuretic phase
        
        tubule cell ทีตายมีการสลายไปและมีการสร้าง cell ใหม่
        
        cell ไม่สามารถดูดน้ำกลับได้เต็มที ทําให้ปสสาวะออกมามาก
      - ระยะที 3 Recovery phase
        
        ปัสสาวะมีปริมาณปกติ
        
        สมารถดูดนากลับได้ปกติ
- - - - พบ
        
        mononuclear cell infiltration
        
        tubular atrophy
        
        interstitial fibrosis
    - - พบ tubular necrosis
      - พบ interstitial edema ร่วมกับ leukocytic
- - - - การอักเสบภายนอกไตทีมีผลต่อไตส่วนใหญ่เปนภาวะแพ้ภูมิตนเอง
  - - - การกรองเพิ่มขึน
      - การเปลียนแปลงกลไกการทํางานของ rinin
    - - การใช้ยากลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย
      - ทําให้เกิดภาวะโซเดียมในเลือดตา จึงเกิดภาวะขาดADH
    - - การติดเชือในระบบทางเดินปสสาวะ
      - ความดันโลหิตสูง
      - การติดเชือในกระแสเลือด