Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ, asthma06, 22, 33, 44, 55, 66,…
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
อัตราการหายใจของเด็กในแต่ละวัย
ต่ำกว่า 2 เดือน ไม่เกิน 60 ครั้ง/นาที
2-12 เดือน ไม่เกิน 50 ครั้ง/นาที
1-5 ปี ไม่เกิน 40 ครั้ง/นาที
ลักษณะการหายใจ
การหายใจปีกจมูกบาน (nasal flaring)
เป็นการหายใจลำบาก หายใจเข้าปีกจมูกบานทั้ง 2 ข้าง เพื่อช่วยขยายท่อทางเดินหายใจ
หายใจเข้ามีการยุบลง(retraction)
มีการยุบลง (retraction) ของกระดูกหน้าอก(sternal retraction) (costal
retraction) และ (subcostal retraction)
เสียงหายใจผิดปกติ
stridor sound
เกิดจากการมีการตีบเเคบชองบริเวณกล่อเสียงหรือหลอดลม ได้ยินตอนหายใจเข้าเเละออก
crepitation sound
เป็นเสียงแตกกระจายเป็นช่วงๆเกิดจากทางเดินหายใจมีน้ำหรือเสมหะ
rhonchi sound
เป็นเสียงที่เกิดจากการไหลวนของอากาศเข้าไปทางเดินหายใจที่ตีบเเคบกว่าปกติ จากเสมหะอุดตัน เยื่อบุทางเดินหายใจบวม
wheezing
เป็ นเสียงที่มีความถี่สูงหรือเสียงหวีด ได้ยินชัดในหายใจออก เกดิจากหลอดลมฝอยเกิดการบีบเกร็ง
เสมหะ
กลไกการสร้างเสมหะ
กระบวนการสร้างสารมูก Mucous
การพัดโบกของขนกวัด Cilia
กลไกการไอ Cough Reflex
เมื่อมีการติดเชื้อเกิดขึ้น mucus gland จะสร้าง mucous มากขึ้น ทำให้มีเสมหะมากขึ้น เซลล์เยื่อบุหลอดลมและทำลาย Cilia ทำให้ จำนวน Cilia ลดลง เสมหะจึงไม่ถูกพัดออกจากทางเดินหายใจ
การเพิ่มน้ำในผู้ป่วยที่มีเสมหะ
เพิ่มความชุ่มชื่นทางเดินหายใจ เสมหะขับออกได้ดี
Cilia พัดโบกได้ดีขึ้น ขับเสมหะได้ง่าย
เสมหะเหนียว หมายถึง เสมหะคล้ายเเป้งเปียก รวมกันเป็นก้อน
เสมหะไม่เหนียว หมายถึง เสมหะมีลักษณะเป็นเมือกเหลว มี ความยืดและความหนืดนอ้ยไม่รวมตัวกันเป็นก้อน
Croup
เป็นกลุ่มอาการอุดกลั้นทางเดิน หายใจส่วนบนบริเวณกล่องเสียง (larynx)และส่วนท่ีอยู่ใต้ลงมา
สาเหตุจากมีการอักเสบบริเวณ
ฝาปิดกล่องเสียง(acute epiglottitis)
กล่องเสียง (acute laryngitis)
กล่องเสียง หลอดลมใหญ่ และหลอดลม ฝอยในปอด (Laryngotracheobronchitis
อาการ
ส่วนใหญ่จะพ่น Adrenaline ตhองใส่ Endotracheal tube
ไม่ตอบสนองต่อการพ่นยาทั่วไป
อาการน้ำลายไหล (drooling)
ไข ้เจ็บคอ หายใจลำบาก Dyspnea
ไอเสียงก้อง Barking cough
inspiratory stridor หายใจเข้ามีเสียงฮืด
ปัญหาสำคัญ
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องจากมีการอุดกลั้นทางเดินหายใจ
Tonsilitis / Pharyngitis
สาเหตุ
การติดเชื้อ แบคที่เรีย ไวรัส เช่น Beta Hemolytic streptococcus gr. A
อากา
ร ไข ้ปวดศีรษะ ไอ เจ็บคอ ในรายที่มีตุ่มใสหรือแผลตื้นที่ คอหอย หรือเพดานปาก
แนะนำที่สำคัญคือ
ให้กิน ยา Antibiotic ใหค้รบ 10 วัน เพื่อป้องกัน ไข้รูห์มาติค และ หัวใจรูห์มาติค หรือ กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน AGN
การผ่าตัดต่อมทอนซิล (tonsillectomy)
ข้อบ่งชี้
การติดเชื้อเรื้อรัง (chronic tonsillitis)
มีไข้, เจ็บคอ, เจบ็คอมากเวลากลืนหรือกลืนลำบาก
การอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน ทำใหเ้กิดอาการนอนกรน (snoring)หรือมีภาวะหยดุหายใจขณะ หลับ (obstructive sleep apnea)
สงสัยว่าเป็นมะเร็งของต่อมทอนซิล
การดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด Tonsillectomy
หลังผ่าตัดควรให้เด็กนอนตะแคงไปดา้นใดด้านหน่ึง เพื่อสะดวกต่อการ ระบายเสมหะ
การกลืนติดต่อกันเป็นข้อบ่งชี้ว่ามีเลือดออก โดยทั่วไปจะเกิด ภายใน 6-8 ชั่วโมงแรก
เมื่อเด็กรู้ตัวดี จัดให้เด็กอยู่ในท่านั่ง 1-2 ชั่วโมง ให้อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ รับประทานของเหลวในรายที่ปวดแผล ให้ใช้กระเป๋าน้ำแข็งวางรอบคอ
หลังการผ่าตัด 1-2 วันแรก เพดานอ่อน หรือผนังในคออาจบวมมาก ขึ้นได้ ทำให้หายใจอึดอัดไม่สะดวกจึงควรนอนศีรษะสูง
หลีกเลี่ยงการแปรงฟันเขา้ไปในช่องปากลึกเกินไป
ควรรับประทานอาหารอ่อน
โดยปกติ หลังผ่าตดัประมาณ 2-4 สัปดาห์ แผลจะหายเป็นปกติ
ไซนัสอักเสบ(Sinusitis)
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ทำให้เกิดการบวมของเยื้อบุในโพรงอากาศ เกิดภาวะอุดตันช่องระบายของโพรงอากาศ เกิดการคั่งของสารคัดหลั่ง
ระยะของโรค
Acute sinusitis ระยะของโรคไม่เกิน 12 สัปดาห์
Chronic sinusitis อาการจะต่อเนื่องเกิน 12 สัปดาห์
อาการ
มีไข้สูงมากกว่า 39 ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว มีน้ำมูกไหล โดยมีน้ำมูกใสหรือข้นเขียวเป็นหนอง ร่วมกับอาการไอ ลม หายใจมีกลิ่นเหม็นปวดบริเวณหน้าผาก และหัวคิ้วมาก
การดูแลรักษา
antibiotic ตามแผนการรักษา
ยาแก้แพ ้เฉพาะในรายที่ไซนัสอักเสบเรื้อรัง
ให้ยาSteroid เพื่อลดอาการบวม ลดการคั่งของเลือดที่จมูก
การล้างจมูก
ทำให้โพรงจมูก สะอาด ป้องกันการลุกลามของเชื้อโรค บรรเทาอาการคัดแน่นจมูก
ล้างจมูกวนัละ 2-3 ครั้ง
ใช้ 0.9% NSS เนื่องจากมีคุณสมบัติ ช่วยลดความเหนียวของน้ำมูกและทำใหเ้ชื้อโรคไม่เจริญเติบโต
หอบหืด Asthma
เป็นภาวะที่มีการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ทำให้เยื่อบุผนังหลอดลม มี ปฏิกริยาตอบสนองต่อสารภูมิแพ้มากกว่าปกติ
1.ทำให้หลอดลมหดเกร็งตัว(Brochospasm)
2.ทำให้หลอดลมตีบแคบลง (Stenosis) เยื่อบุภายในหลอดลม บวม 3.สร้างเมือกเหนียว (Hypersecretion) ทำให้ ช่องทางเดินอากาศในหลอดลมแคบลง
การดูแล
ให้ยาขยายหลอดลม ให้ออกซิเจน ลด activity
ยาลดอาการบวม เช่น Dexa
ไม่ใช้วิธิีการเคาะปอดในเด็กที่เป็น Asthma ที่กำลังหอบ
การรักษาหอบหืด
ยาขยายหลอดลม ( Relievers )
ยาพ่นกลุ่ม Corticosteroids
ยาลดการบวม และการอักเสบของหลอดลม
อาการ
หวัดไอ มีเสมหะ ถ้าไอมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะมีเสียง Wheezing มักจะมีอาการอาเจียนร่วมด้วย
ความรุนแรงของหอบหืด
ขั้นเล็กน้อย - เริ่มไอ และ/หรือ มีเสียงวี้ด แต่ยังเล่นซนได้ตามปกติ
ขั้นปานกลาง - ตื่นกลางคืนบ่อยๆ วิ่งเล่นซนไม่ค่อยได้
ขั้นรุนแรง - กระสับกระส่ายจนนอนไม่ได ้เล่นซนไม่ได ้เหนื่อย
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่
ควันบุหรี่
ตัวไรฝ่นุ
ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
อากาศเย็น
หลอดลมอักเสบ( Bronchitis) หลอดลมฝอยอักเสบ(Bronchiolitis
เนื่องจากมีการอักเสบและอุดกล้ั้นของหลอดลม จากเชื้อไวรัส ทำลายเนื้อเยื่่อ ของหลอดลมฝอยทำให้เกิดอาการ อักเสบ บวม และมีการคั่งของเสมหะ
อาการ
เริ่มจาก ไข้หวัด ต่อมาเริ่มไอเป็น ชุดๆ ร้องกวน หายใจเร็ว หอบ หายใจมี ปีกจมกูบาน ดูดนมหรือน้ำได้น้อย
การรักษา
ให้ยาลดไข ้ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสบ
ให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
ดูแลปัญหาการติดเชื้อ
ปอดบวม Pneumonia
สาเหตุ
สำลักสิ่งแปลกปลอม ติดเชื้อ แบคทีเรีย ไวรัส
อาการ
ไข ้ไอ หอบ ดูดนน้ำ ดูดนมน้อยลง ซึม
การรักษา
ดูแลให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
ดูแลเรื่องไข ้Clear airway suction
ดูแลแก้ไขปัญหาพร่องออกซิเจน
การพยาบาล
เด็กโตต้องสอนการไออย่างถูกวิธี กระตุ้นใ้หด้ื่มน้ำมากๆ
ทำ Postural drainage
Postural drainage โดยการเคาะปอด และ Suction
ให้ผู้ปู่วยนอนศีรษะสูง หรือนอนทัข้างที่มีพยาธิสภาพ
ให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจน
การจัดท่านอนเพื่อช่วยระบายเสมหะ
อยู่ส่วนหน้า Anterior ให้จัดท่านอนหงาย
อยู่ส่วนหลังPosterior ให้นอนคว่ำ
อยู่ด้านซ้ายให้จัดท่านอนตะแคงขวา ถ้าอยู่ด้านขวาให้นอนตะแคงซ้าย
อยู่ส่วนบนนอนหัวสูง อยู่ส่วนล่างนอนหัวต่ำ
นางสาวณิชา ถาวรวงษ์ เลขที่41 รหัสนักศึกษา 612001042 รุ่น 36/1