Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
รูปแบบและ เครื่องมือในการบำบัดทางการพยาบาลจิตเวช, นางสาวทิวารัตน์ เขียวพรม…
รูปแบบและ เครื่องมือในการบำบัดทางการพยาบาลจิตเวช
นิเวศน์บำบัด
องค์ประกอบของนิเวศน์บำบัด
โครงสร้าง
ลักษณะทางกายภาพของสิ่งแวดล้อม สิ่งอำนวย ความสะดวกภายในหอผู้ป่วย
บรรทัดฐานทางสังคม
ระเบียบ
แบบแผนความประพฤติ
ความปลอดภัย
ความปลอดภัยด้านร่างกายและจิตใจ
การดูแลให้สิ่งแวดล้อมมีความปลอดภัยโดยการเก็บสิ่งของที่สามารถนำมาทำร้ายตนเองได้
ความสมดุล
การจำกัดสิทธิและพฤติกรรมของผู้ป่วยจิตเวช
แนวคิดและหลักการ
นิเวศน์บำบัดเริ่มมีบทบาทสำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวช โดยเริ่มจากการผสมผสานแนวคิดวิธีการดูแลหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน
แนวคิดการรักษาด้านสังคม
แนวคิดการรักษาด้านพฤติกรรม
แนวคิดการรักษา
ความสำคัญ
การรักษาด้วยนิเวศน์บำบัดเป็นหนึ่งในการรักษาผู้ป่วยโรคทางจิตเวชที่ต้องกระทำควบคู่ไปกับการรักษา
วิธีการจำกัดสิทธิและพฤติกรรมผู้ป่วย
การจำกัดด้วยวาจา
เรียกชื่อผู้ป่วยด้วยน้ำเสียงที่ดัง ชัดเจน
การจำกัดขอบเขต
2.1. การผูกยึดผู้ป่วย
แนวทางการผูกยึดผู้ป่วย
ประเมินหลังจากได้ให้การแก้ไขเบื้องต้น
พิจารณาเลือกวิธีการที่เหมาะสมในการผูกยึด
แก้ไขเบื้องต้นก่อนการตัดสินใจผูกยึด
ปฏิบัติการผูกยึดอย่างรวดเร็วถูกต้องตรงตามหลักการ
ประเมินพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น
ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงจากการผูกยึด
2.2 การนำเข้าห้องแยก
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับการผูกยึดหรือนำเข้าห้องแยก
การพยาบาลขณะผูกยึดหรือนำเข้าห้องแยก
การพยาบาลภายหลังการผูกยึดหรือนำเข้าห้องแยก
การพยาบาลก่อนการผูกยึดหรือนำเข้าห้องแยก
การใช้ยา
การใช้ยาเพื่อควบคุมอาการทางจิตเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอในการรักษาผู้ป่วยจิตเวช
กลุ่มกิจกรรมบําบัด
ข้อดีของการจัดกลุ่มกิจกรรมบำบัด
1.พยาบาลสามารถประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยที่เข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมบำบัดได้ครบถ้วนทุกคน
2.ผู้ป่วยยังจะมีประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันกับสมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ ด้วยกัน
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
ข้อด้อยของการจัดกลุ่มกิจกรรมบำบัด
1.ผู้ป่วยบางรายอยู่โรงพยาบาลช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทำให้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม ได้จำนวนครั้งไม่มากนัก
2.เรื่องส่วนตัวบางเรื่องที่ผู้ป่วยคุยกันภายในกลุ่มอาจจะถูกนำไปคุยภายหลังกลุ่มกิจกรรมเสร็จสิ้น
ประโยชน์ของการจัดกลุ่มกิจกรรมบำบัดต่อผู้ป่วยจิตเวช
ลดการมีพฤติกรรมแยกตัว และการหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องต่างๆ ที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความจริง
ได้รับการยอมรับ การสนับสนุน และการให้กำลังใจจากผู้นำกลุ่ม และสมาชิกภายในกลุ่ม
ได้เรียนรู้และฝึกทักษะการสร้างสัมพันธภาพ ทักษะการสื่อสารกับบุคคลอื่น
ขั้นตอนการจัดกลุ่มกิจกรรมบำบัด
ขั้นดำเนินการ
2.1 ขั้นเริ่มต้นกลุ่ม
2.2 ขั้นดำเนินการกลุ่ม
2.3 ขั้นสิ้นสุดกลุ่ม
ขั้นประเมินผล
3.1 บรรยากาศกลุ่ม
3.2 กระบวนการกลุ่ม
3.3 เนื้อหา
3.4 บทบาทผู้นำกลุ่มและผู้ช่วยผู้นำกลุ่ม
ขั้นเตรียมการ
การเตรียมการเพื่อวางแผนการจัดกลุ่ม
องค์ประกอบของการจัดกลุ่มกิจกรรมบำบัด
3.ผู้นำกลุ่มกิจกรรมบำบัด (leader)
4.ผู้ช่วยผู้นำกลุ่ม (co-leader)
2.สถานที่ (setting)
5.สมาชิกกลุ่ม (members)
1.กิจกรรม (activity)
ลักษณะของผู้ป่วยในกลุ่มกิจกรรมบำบัด
Uninvolved patient
3.Hostile patient
1.Dominant patient
Distracting patient
บทบาทพยาบาลในนิเวศน์บำบัด
2.เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ป่วย
3.วางแผนจัดกลุ่มกิจกรรมบำบัดต่างๆ เพื่อส่งเสริม ฟื้นฟูสมรรถภาพหรืออาการของผู้ป่วยจิตเวช
1.เป็นผู้วางแผน ออกแบบสิ่งแวดล้อมภายในหอผู้ป่วยให้มีความเหมาะสม ปลอดภัย
4.ให้ความรู้เรื่องต่างๆ แก่ผู้ป่วยและครอบครัว
5.จำกัดสิทธิหรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
จิตบําบัด
ความหมายของจิตบําบัด
การรักษาความผิดปกติทางด้านจิตใจหรืออารมณ์ด้วยวิธีการพูดคุยกับผู้ป่วย หรือ บางวิธีอาจไม่ใช้วาจา (Nonverbal communication) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ป่วยรู้จักตนเอง เข้าใจตนเอง เข้าใจ ผู้อื่น ยอมรับตนเองและผู้อื่น
รูปแบบจิตบําบัด
จิตบําบัดแบบหยั่งเห็น
1.2 เพื่อแก้ไขกลไกทางจิตที่ทำให้เกิดพยาธิสภาพ
1.3 เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจความจริงของชีวิต
1.1 เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งของจิตใจเฉพาะเรื่อง (ในระดับจิตไร้สํานึก)
จิตบําบัดแบบประคับประคอง
2.2 เพื่อแก้ปัญหาหรือความขัดแย้งระดับจิตรู้สํานึก
2.3 เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยทนต่อภาวะตึงเครียด
2.1 เพื่อบรรเทาอาการโดยแก้ปัญหาเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง
2.4 เพื่อช่วยเพิ่มพลังและประคับประคองให้แก่การทำงานของจิต
วิธีการของจิตบําบัด
ให้ความเชื่อมั่น ให้กําลังใจ (Reassurance)
ให้การสนับสนุน (Encouragement)
ให้แนวทาง การแนะแนว (Guidance)
การหันความสนใจไปสู่ภายนอก (Externalization of Interest)
การจัดการกับสิ่งแวดล้อม (Environment manipulation)
การแนะนํา (Suggest) เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดการยอมรับและคล้อยตาม
การชักชวน จูงใจ (Persuasion)
การระบายอารมณ์ (Ventilation)
การลดความอ่อนไหวหรือลดพฤติกรรมอ่อนไหวลง (Desensitization)
วิธีการบำบัดตามทฤษฎีของโรเจอร์ส
แสดงความเอื้ออาทรใส่ใจ
ให้ผู้ป่วยเกิดแรงจูงใจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างของตน
ให้การยอมรับ
ให้ผู้ป่วยสำรวจตนเองและเปิดเผยเรื่องราวประสบการณ์
ให้ความจริงใจ
ให้ผู้ป่วยพิจารณาจนเกิดความเข้าใจและยอมรับสภาพปัญหาตามความเป็นจริงและกำหนดเป้าหมายตลอดจน หาแนวทางในการแก้ปัญหา
สร้างบรรยากาศให้การช่วยเหลือ
ให้ผู้ป่วยปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด
ลักษณะของจิตบําบัด
จิตบําบัดรายบุคคล
เป็นกระบวนบําบัดที่ใช้การมีสัมพันธภาพระหว่างผู้บําบัด และผู้รับการบําบัดโดยผู้บําบัดต้องใช้ ทักษะต่าง ๆ เพื่อให้ผู้รับการบําบัดลดความวิตกกังวลและได้รับกําลังใจ
จิตบําบัดกลุ่ม
เป็นการบําบัดทางจิตในผู้ที่มีปัญหาจิตใจ อารมณ์ และพฤติกรรม
ชนิดของจิตบําบัดกลุ่ม
Therapeutic Social Club (กลุ่มพบปะสังสรรค์)
Repressive interaction group (กลุ่มปลุกเร้าความเก็บกด)
Didactic group (กลุ่มการสอน)
Free-interaction group (กลุ่มแสดงออกอย่างเสรี)
Psychodrama (กลุ่มละครจิตบำบัด)
วิธีการ (Methods)
Nondirective Methods (วิธีการแบบไม่นำทาง)
ระยะเวลาที่ใช้ครั้งละ75 - 90 นาที อาทิตย์ละ 1-3 ครั้ง
Directive Methods (วิธีการแบบนำทาง)
การดำเนินกลุ่มจิตบำบัด
ระยะกลาง ดำเนินการ
เป็นปัญหาในปัจจุบัน เมื่อเร็วๆ นี้
กลุ่มไถ่ถามหารายละเอียดของปัญหา
นำปัญหาเข้าสู่ความสนใจของกลุ่ม
นำเหตุการณ์ในกลุ่มมาวิเคราะห์และแก้ไข
เวลาที่ใช้ 4 ใน 6 ของเวลาทั้งหมด
ระยะสุดท้าย
สรุปปัญหาและข้อเสนอแนะ
สรุปการเรียนรู้กับกลุ่ม
เวลาที่ใช้ 1 ใน 6 ของเวลาทั้งหมด
ระยะเริ่มต้นกลุ่ม
อุ่นเครื่อง
ทำความรู้จักซึ่งกันและกัน
กลุ่มรู้วัตถุประสงค์ กฏเกณฑ์กติกา
เวลาที่ใช้ 1 ใน 6 ของเวลาทั้งหมด
องค์ประกอบ
การรับผิดชอบตนเอง (Self Responsibility)
สร้างความหวัง (Instillation of Hope)
การเข้าใจตนเอง (Self Understanding)
การเห็นประโยชน์ของผู้อื่น (Altruism)
การได้ระบาย (Expression)
มีความสามัคคีของกลุ่ม (Group Cohesiveness)
ทุกคนมีสิทธิที่จะป่วยเหมือนกัน
พฤติกรรมบําบัด
หลักการของพฤติกรรมบําบัด
หลักการของพฤติกรรมบำบัด อาศัยพื้นฐานทางทฤษฎีการเรียนรู้ของนักจิตวิทยา กลุ่มพฤติกรรมนิยม (Behaviorism) ในกลุ่ม Associationist โดยมีความเชื่อว่า “การเรียนรู้เกิดจากเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการ ตอบสนอง”
ลักษณะของทฤษฎีการเรียนรู้
การเรียนรู้โดยการวางเงื่อนไขแบบการกระทำ
การเรียนรู้ทางสังคม
การเรียนรู้ด้วยการวางเงื่อนไขแบบดั้งเดิม
ขั้นตอนในการทำพฤติกรรมบําบัด
เก็บข้อมูลและทำ
ตั้งวัตถุประสงค์ร่วมกับผู้ป่วยว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมใด
2.1 จุดประสงค์นั้นตรงกับความต้องการของผู้ป่วย
2.2 ผู้ป่วยเต็มใจรักษา
2.3 จุดประสงค์นั้นสามารถดำเนินการให้บรรลุได้โดยมีเกณฑ์ในประเมินตรงกำหนดในรูปพฤติกรรมที่ชัดเจน
2.4 ร่วมกับผู้ป่วยในการเลือกกลวิธีในการรักษาว่าแบบใดเหมาะสมที่สุด
2.5 ดำเนินตามที่วางแผน
2.6 การประเมินผลและยุติการรักษา เทคนิคและวิธีการของพฤติกรรมบําบัด
1.Self Monitoring การควบคุมและรายงานผลตนเอง เป็นการประเมินตนเองตรวจสอบพฤติกรรมที่เป็นปัญหา
2.Reimforcement เป็นการเพิ่มความถี่ของพฤติกรรมโดยการให้แรงเสริมทางบวกหรือลดแรงเสริมลบทันทีที่เกิดพฤติกรรมที่พึงพอใจ
3.Punishment เป็นการลดความถี่ของพฤติกรรมโดยการให้สิ่งที่ไม่พึงปรารถนาหรือลดสิ่งเร้าที่ พึงพอใจ
4.Shaping Teachique
4.1 Sucessive approximation
4.2 Chaining
5.Modeling technique ยึดถือเทคนิคการลดความกลัวหรือความวิตกกังวลโดยการให้ดูตัวต้นแบบ อาจใช้หลัก relaxation เข้าช่วยได้ด้วย
6.Assertive training เป็นการฝึกให้ผู้ป่วยกล้าแสดงออกถึงความรู้สึกที่ควรจะแสดงออกในสังคม
การนำพฤติกรรมบำบัดไปใช้ในการรักษาต่อไปนี้
เด็กปัญญาอ่อน (Mental retardation) ให้แรงเสริมบวก หรือลดแรงเสริมลบ เพิ่มพฤติกรรมที่ต้องการ ลดพฤติกรรมที่ต้องการ การทำโทษ หรือลดสิ่งเร้าที่พึงพดใจ
Obesity
ผู้ป่วย Depend on Alcohol, Drug abuse
Phobia
Conduct behavior
Psychogenic pain
Schizophrenia paronoid sociopathy
การบําบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT)
ซึ่งดั้งเดิมออกแบบเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า แต่ปัจจุบันใช้รักษาอาการทางจิตอื่น ๆ ด้วย ซึ่งมีประสิทธิผลโดยแก้ปัญหาปัจจุบันและเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมที่ไร้ประโยชน์
CBT มีสมมติฐานว่า การปรับความคิดที่เป็นการปรับตัวผิด (maladaptive) จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงทางการแสดงออกของอารมณ์ (affect) และพฤติกรรม
กระบวนการรักษา CBT
1.การประเมิน (psychological assessment)
2.การเปลี่ยนความคิดที่ใช้อธิบายเหตุการณ์ (Reconceptualization)
3.การฝึกทักษะ (Skills acquisition)
4.การสร้างเสถียรภาพของทักษะ (Skills consolidation) และการฝึกประยุกต์ใช้ทักษะ (application training)
5.การประยุกต์ใช้โดยทั่วไป (generalization) และการธำรงรักษา (maintenance)
6.การประเมินหลังการบำบัดและการติดตาม
การบำบัดพฤติกรรม
การบำบัดความคิด
การรวมกันของการบำบัดทางพฤติกรรมและทางความคิด
แม้ว่าวิธีการบำบัดพฤติกรรมจะได้ผลกับโรคประสาท (neurotic disorder) หลายอย่าง แต่ก็มีผลน้อยต่อโรคซึมเศร้า (Major depressive disorder) พฤติกรรมนิยมก็เริ่มที่จะลดความนิยมในช่วงที่เรียกว่า "การปฏิวัติทางความคิด" (cognitive revolution)
นางสาวทิวารัตน์ เขียวพรม รหัส612701037 เลขที่37