Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 7 การบริหารคุณภาพทางการพยาบาล, นายชญาวัต ไกรบำรุง เลขที่ 15…
บทที่ 7
การบริหารคุณภาพทางการพยาบาล
ระบบการบริหารคุณภาพ
การรับรองคุณภาพโรงพยาบาล
(Hospital Accreditation: HA)
หมายถึง การประเมินและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล
วิวัฒนาการ
เริ่มจากการตรวจรับรองโรงพยาบาล เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรมศัลยแพทย์เปลี่ยนจากการเน้นที่แพทย์ มาสู่จุดเน้นของการทำงานร่วมกันระหว่างวิชาชีพต่างๆ
กระบวนการเรียนรู้ โรงพยาบาลที่มีคุณภาพเจ้าหน้าที่ทุกคนมีใจมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างมีคุณภาพ มีการทำงานร่วมกันเป็นทีมจัดบริการโดยเน้นที่ผู้ป่วยและลูกค้าเป็นศูนย์กลางมีมาตรฐาน
หลักการ
กระบวนการเรียนรู้มิใช่การตรวจสอบ การเรียนรู้เกิดจากการประเมินและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการทบทวนผลการประเมินโดยผู้อื่นเน้นการพัฒนาศักยภาพของคน เพื่อร่วมกันปรับปรุงระบบงานการประเมินและพัฒนาใช้กรอบแนวทางซึ่งเน้นเป้าหมาย
การพัฒนาคุณภาพมีระบบป้องกันและจัดการกับความเสี่ยงมีระบบประกันคุณภาพ มีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องโดยเน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางมีระบบตรวจสอบตนเองที่น่าเชื่อถือ มีการดูแลมาตรฐานและจริยธรรมวิชาชีพมีการทำงานเป็นทีม และมีการนำองค์กรที่มีประสิทธิภาพมีทรัพยากรเพียงพอเหมาะสมกับภาระงาน
กลไกกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาคุณภาพระบบงานทั้งโรงพยาบาลอย่างมีทิศทาง ร่วมกับการเรียนรู้แลกเปลี่ยนกับที่ปรึกษาและการรับรองโดยองค์กรภายนอกการรับรองเป็นเพียงส่วนเดียวและส่วนสุดท้ายของกระบวนการ
หัวใจพัฒนาคุณภาพคือ TQM เป้าหมายคือคุณภาพที่ผู้ป่วยได้รับ
วัตถุประสงค์ของมาตรฐาน HA
มาตรฐาน HA
มาตรฐานที่ใช้การพัฒนากระตุ้น ให้มีการประเมินและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้มีการใช้กระบวนทัศน์ใหม่ใน การบริหารและพัฒนาคุณภาพ เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และมีผลงานที่ดีขึ้นเป็นลำดับ
ประโยชน์จากการรับรองคุณภาพโรงพยาบาล
ความเสี่ยงลดลงทำงานง่ายขึ้น บรรยากาศการทำงานดีขึ้น ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีขึ้น เป็นโอกาสที่ขายความฝันส่วนตัว ภูมิใจที่ทำงานในหน่วยงานที่มีระบบดี
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาลองค์กรมหาชน ได้กำหนดเครื่องมือหรือเกณฑ์ดัชนีชี้วัดเพื่อประเมินสำหรับการรับรองขั้นก้าวหน้าตามมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ฉบับเฉลิมพระเกียรติฉลองศิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี “มาตรฐานโรงพยาบาล ฉบับปีกาญจนาภิเษก”
หมวดที่ ๑ ภาพรวมของการบริหารองค์กร
หมวดที่ ๒ ระบบงานที่สำคัญของโรงพยาบาล
หมวดที่ ๓ กระบวนการดูแลผู้ป่วย
หมวดที่ ๔ ผลการดำเนินการขององค์กร
การพัฒนาคุณภาพบริการแบบเครือข่าย
(Hospital Network Quality Audit: HNQA)
เป็นระบบการรับรองมาตรฐานโรงพยาบาลที่สำนักพัฒนาระบบริการสุขภาพกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นผู้คิดริเริ่มขึ้น โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้การกำหนดมาตรฐานบริการสาธารณสุข พิมพ์แจกโรงพยาบาลต่างๆ (เล่มสีม่วง)
โรงพยาบาลต้องกำหนดสิ่งส่งมอบ (Service specification) แก่ลูกค้า ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า (Customer Focus) โดยต้องมีจุดคุณภาพ (Quality point) อย่างเหมาะสมตรงใจลูกค้าและเพื่อให้สามารถส่งมอบบริการที่มีคุณภาพตรงตามจุดคุณภาพได้หน่วยงานจึงต้องกำหนดวิธีการบริการที่เหมาะสม (Service procedure) ในทุกจุดสัมผัสบริการ (Service interface)
การประกันคุณภาพ (QA)
หลักการ Standardization ของ TQM
Documentation การทำให้เป็นลายลักษณ์อักษรหลังจากมีเหตุการณ์หรือข้อบกพร่องขึ้นแล้วให้ทำการแก้ไขข้อบกพร่อง (Correction) ทำการแก้ไขสาเหตุข้อบกพร่อง (Corrective action) และทำการแก้ไขป้องกันสาเหตุของข้อบกพร่อง (Preventive action) เมื่อได้วิธีการที่เหมาะสมก็เอามาทำเป็นลายลักษณ์อักษร
Training ฝึกอบรมสร้างความเข้าใจให้ปฏิบัติได้
Motivation จูงใจให้ปฏิบัติตามเอกสารที่กำหนด
Monitoring มีการติดตามผลดูเป็นระยะๆ ว่าเป็นไปตามที่กำหนดไว้หรือไม่
Review มีการทบทวนเอกสารเป็นระยะๆ อย่างน้อยทุก 1 ปี
ทางปฏิบัติ
เป็นรูปแบบกิจกรรมเพื่อการพัฒนาคุณภาพเป็นเครือข่าย มุ่งให้เกิดประโยชน์ต่อลูกค้าโดยตรง ทุกคนที่มีส่วนร่วมมีความสุข ประหยัดและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เกิดขึ้นโดย กลุ่มผู้อำนวยการโรงพยาบาล 6 แห่ง ร่วมกันจัดตั้งเครือข่ายขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะพัฒนาคุณภาพให้เป็นแนวทางเดียวกัน
องค์ประกอบของบริการได้คุณภาพทั้งหมด
Product content in service คือ อุปกรณ์การให้บริการที่ให้ผู้ป่วยไปด้วย
Mechanize service คือ เครื่องมืออาคารสถานที่ที่ให้บริการแล้วไม่ได้ให้ผู้ป่วยไปด้วย
Personalized service คือ การทำหัตถการ การดูแล และพฤติกรรมบริการคนทุกคนต้องเป็นผู้ปฏิบัติในกระบวนการ ให้เกิดคุณภาพได้
การพัฒนาคุณภาพโดยใช้วิธีการทำงานที่ดีจากสนามจริง (Standardization)
ควรกำหนดเป็นลายลักษณ์อักษร ฝึกผู้ใช้ให้เข้าใจ จูงใจให้คนปฏิบัติตาม เฝ้าติดตามผลว่าวิธีนั้นดีหรือไม่ และการปรับแต่งให้ตรงกับที่กำหนดวิธีการบริการที่เหมาะสม (Service procedure) คือการปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติ (Work instructions: WI)
ระบบมาตรฐาน(ISO)
มาตรฐาน ISO 9000
กล่าวถึงการจัดทำระบบคุณภาพ รวมทั้งเอกสารและการรักษาระบบนั้นให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งแสดงให้ลูกค้าเห็นได้ว่าองค์การผูกพันและยึดมั่นกับระบบคุณภาพ ผลิตสินค้าหรือส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพตามที่ลูกค้าต้องการ องค์การผู้ผลิตหรือผู้ส่งมอบ
องค์การผ่านการประเมินตามอนุกรมมาตรฐาน ISO 9000 จะได้รับอย่างต่อเนื่องก็คือ องค์การได้มีการพัฒนาตรวจสอบคุณภาพและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้การควบคุมกระบวนการต่าง ๆ อย่างมีระบบ องค์การผู้ส่งออกที่ได้รับการรับรองแล้วพบว่า การประเมินจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้จะช่วยให้เกิดการยอมรับจากต่างประเทศ
ประโยชน์ของมาตรฐาน ISO 9000
สร้างความน่าเชื่อถือและสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าแล้วยังเป็นการประชาสัมพันธ์ว่า สินค้าหรือบริการขององค์การมีคุณภาพ ISO 9000 ยังเป็นเครื่องมือที่มีคุณภาพในการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์การด้วย
เครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้องค์การผลิตสินค้าและบริการที่มีประสิทธิภาพ สามารถก้าวไปสู่ “องค์การแห่งคุณภาพ” ได้ ซึ่งในปัจจุบันตลาดมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง การเพิ่มผลผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเท่านั้น ที่จะทำให้องค์การดำเนินการอยู่ได้
ISO ย่อมาจาก (International Organization for Standardization) คือ องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน เป็นองค์กรที่ออกมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ และอุตสาหกรรม ส่วนมาตรฐานที่องค์กรนี้ออกมา
• ISO 9000 คือการจัดระบบการบริหารเพื่อประกันคุณภาพ ที่สามารถตรวจสอบได้ โดยผ่านระบบเอกสาร
• ISO 9001 เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแลทั้งการออกแบบ และพัฒนาการผลิต การติดตั้ง และการบริการ
• ISO 9002 มาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแลเฉพาะการผลิต การติดตั้ง และการบริการ
• ISO 9003 เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแลเรื่องการตรวจ และการทดสอบขั้นสุดท้าย
• ISO 9004 เป็นแนวทางในการบริหารงานคุณภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเป็นข้อแนะนำ ในการจัดการในระบบคุณภาพ ซึ่งจะมีการกำหนดย่อย ในแต่ละประเภทธุรกิจ
• ISO 14000 เป็นระบบมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นให้องค์กรมีการพัฒนาปรับปรุงสิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง
• ISO 18000 มาตรฐานระบบการจัดการ อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
• ISO 26000 สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคม
มาตรฐาน ISO 14000
แนวคิดของมาตรฐาน ISO 14000
ธุรกิจและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดการพัฒนาธุรกิจแบบยั่งยืน(Sustainable Management) โดย เฉพาะภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม
“มาตรฐาน ISO 14000” ทั้งนี้เพื่อจะช่วยนำสิ่งแวดล้อมที่ดีกลับคืนมา ขณะเดียวกันก็ช่วยลดหรือช่วยบรรเทาความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิด ขึ้นให้เบาบางลง
มาตรฐานสากลว่าด้วยการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม(Environmental Management) ขององค์การให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ทั้งในส่วนของกิจการและภายในองค์การ กระบวนการผลิตสินค้าและการจัดการเรื่องผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมองค์การธุรกิจสามารถจัดทำระบบจัดการสิ่งแวดล้อม และขอการรับรองได้โดยสมัครใจ องค์การต้องมีการประกาศนโยบายอย่างชัดเจน มีการดำเนินงานอย่างจริงจังและเป็นขั้นตอน โดยมุ่งเน้นให้องค์การมีการพัฒนาปรับปรุง ตลอดจนรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
มาตรฐาน ISO 18000
มาตรฐานที่ว่าด้วยระบบจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occupational Health and Safety Management System เรียกสั้น ๆ ว่า OH & S)
ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มีวัตถุประสงค์หลักคือ การกำหนดมาตรการป้องกันการบาดเจ็บพิการและโรคภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการประกอบอาชีพ เพื่อลดความเสี่ยงภัยที่มีต่อพนักงานและผู้เกี่ยวข้องให้เหลือน้อยที่สุด ปรับปรุงผลงานของอุตสาหกรรมเพื่อการเพิ่มผลผลิตและเกื้อ หนุนให้องค์การสามารถสร้างภาพลักษณ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมให้แพร่กระจาย และเป็นที่ยอมรับกันในตลาด
มาตรฐาน ISO 26000
ความรับผิดชอบต่อสังคมไว้ว่าเป็นความรับผิด ชอบขององค์กรในผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจและกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร (รวมถึงผลิตภัณฑ์ บริการและกระบวนการ)ที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการแสดงออกอย่างโปร่งใสและมีจริยธรรม ในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงการสร้างสุขอนามัยและสวัสดิการที่ดีกับสังคม คำนึงถึงความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย ปฏิบัติตามข้อกฏหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล บูรณาการให้เกิดขึ้นทั่วทั้งองค์กร ภายใต้ของเขตของอิทธิพลและผลกระทบ (Sphere of Influence)
นายชญาวัต ไกรบำรุง เลขที่ 15 รหัสนักศึกษา 603101015