Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลแบบองค์รวมในทารกแรกเกิดที่มีภาวะเสี่ยงและปัญหาสุขภาพ - Coggle…
การพยาบาลแบบองค์รวมในทารกแรกเกิดที่มีภาวะเสี่ยงและปัญหาสุขภาพ
การบาดเจ็บจากการคลอด(Birth Injuries)
ทารกที่เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บจากการคลอด
ทารกที่คลอดท่าก้น
มีขนาดตัวโต
ระยะที่ 2 ของการคลอดยาวนาน
ได้รับการช่วยคลอดด้วยคีม
เครื่องดูดสุญญากาศ
การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
ก้อนบวมโนที่ศีรษะ (Caput succedaneum)
เกิดการบวมคั่งของของเหลว
ก้อนบวมโนนี้จะข้ามรอยต่อ (suture)ของกระดูกกะโหลกศีรษะ
มีขอบเขตไม่แน่นอน
สาเหตุ
เกิดจากแรงดันที่กดลงบนศีรษะทารกระหว่างการคลอดท่าศีรษะทำให้มีของเหลวซึมออกมานอกหลอดเลือดในชั้นใต้เนื้อเยื่อหุ้มหนังศีรษะจากการใช้เครื่องสุญญากาศช่วนคลอด (V/E)
การวินิจฉัย
พบก้อนบวมในลักษณะนุ่ม กดบุ๋ม
กดไม่เจ็บเคลื่อนไหวได้
ข้ามแนวรอยต่อของกระดูกกะโหลกศีรษะ
พบทันทีหลังคลอด
อาการและอาการแสดง
พบได้บริเวณด้านข้างของศีรษะ
ก้อนบวมโนทำให้ศีรษะบวมยาวมากกว่าปกติ
แนวทางการรักษา
สามารถหายเองได้ไม่จำเป็นต้องรักษา
ก้อนโนเลือดที่ศีรษะ (Cephalhematoma )
เป็นการคั่งของเลือดบริเวณใต้เยื่อหุ้มกระดูกกะโหลกศีรษะมีขอบเขตชัดเจน ไม่ข้ามรอยต่อกระดูกกะโหลกศีรษะ
สาเหตุ
เกิดจากมารดามีระยะเวลาการคลอดยาวนาน
ศีรษะทารกถูกกดจากช่องคลอด
จากการใช้เครื่องสูญญากาศช่วยคลอด
ภาวะแทรกซ้อน
หากก้อนเลือดมีขนาดใหญ่จะเกิดภาวะ hyperbilirubinemia
อาจเกิดการติดเชื้อจากการดูดเลือดของจากก้อนโนเลือด
การวินิจฉัย
ประวัติระยะคลอดมารดาเบ่งคลอดนาน
ตรวจร่างกายพบบริเวณศีรษะทารกมีก้อนบวมโนบนกระดูกกระโหลกศีรษะลักษณะเเข็งและคลำขอบได้ชัดเจน
อาการและอาการแสดง
เห็นได้ชัดเจนภายใน 24 ชม หลังเกิด
ลักษณะบวมมีขอบชัดเจน
พบก้อนโนเลือดมีสีดำหรือสีน้ำเงินคล้ำ
แนวทางการรักษา
ถ้าไม่มีภวะเเทรกซ้อนก้อนโนเลือดจะค่อยๆหายได้เอง
ในรายที่ก้อนเลือดมีขนาดใหญ่อาจรักษาโดยการดูเลือดออก
เลือดออกใต้เยื่อบุนัตย์ตา (Subconjunctival hemorrhage )
มีจุดเลือดออกที่ตาขาว (sclera) ของทารกแรกเกิด มักพบรอย ๆ กระจกตา
สาเหตุ
เกิดจากการที่มารดาคลอดยาก
ศีรษะทารกถูกกด
หลอดเลือดที่เยื่อบุนัยต์ตาแตก ทำให้มีเลือดซึมออกมา
การวินิจฉัย
ตรวจพบมรเลือดที่ใต้เยื่อบุนัยต์ตาทารกภายหลังคลอด
แนวทางการรักษา
สามารถหายได้เองโดยใช้ระยะเวลา 2-3 สัปดาห์
เส้นประสาทที่มาเลี้ยงใบหน้าบาดเจ็บ (Facial nerve palsy )
เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 บาดเจ็บ จากการใช้คีมช่วยคลอด (forceps extraction)
สาเหตุ
มารดามีภาวะคลอดยากหรือทารกได้รับบาดเจ็บจากการคลอด
ภาวะแทรกซ้อน
ประวัติมารดามีระยะที่ 2 ของการคลอดยาวนานหรือคลอดโดยการใช้คีมช่วยคลอด
อาการและอาการแสดง
กล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาตจะอ่อนแรง
ไม่สามารถปิดตาได้
เมื่อร้องไห้มุมปากจะเบี้ยว ไม่สามารถเคลื่อนไหวปากกข้างนั้นได้
กล้ามเนื่อจมูกแบนราบ
ใบหน้าสองข้างทารกไม่สมมาตรกัน
แนวทางการรักษา
ไม่มีการรักษาเฉพาะ
ส่วนใหญ่อาการจะหายไปเอง
ควรหยดน้ำตาเทียมเพื่อป้องกันจอตาถูกทำลาย
อัมพาตที่แขน (Brachial plexus palsy)
อุบัติการณ์
ส่วนใหญ่พบในทารกที่มีขนาดใหญ่ (macrosomia)
สาเหตุ
การทำคลอดไหล่ที่รุนแรง
การทำคลอดศีรษะที่ปิดวิธี
การทำคลอดแขนที่อยู่เหนือศีรษะในรายทารกใช้ก้นเป็นส่วนนำ
Erb – Duchenne paralysis
เส้นประสาทคอคู่ที่ 5 และ 6 (cervical nerve 5 – 6) ได้รับบาดเจ็บ กล้มเนื่อที่ได้รับการกระทบกระเทือน คือกล้ามเนื้อต้นแขน (deltoid) biceps และ brachioradialis
อาการและอาการแสดง
แขนข้างที่บาดเจ็บอ่อนแรงทั้งแขน
Klumpke’ s paralysis
เส้นประสาทคอคู่ที่ 7,8 และและเส้นประสาทที่มาเลี้ยงทรวจอกคู่ที่ 1 (C7,8 – T1) ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ทารกมืองอ มือบิดเข้าใน
Horner’s syndrome
รูม่านตาหด (miosis)
หนังตาตก (ptosis)
ตาหวำลึก (enophthalmos)
ต่อมเหงื่ยที่บริเวณใบหน้าทำงานได้ไม่ดี
Combined หรือ Total brachial plexus injury
เส้นประสาทคอคู่ที่ 5 และและเส้นประสาทที่มาเลี้ยงทรวจอกคู่ที่ 1 ได้รับบาดเจ็บ (C5 – T1)
ส้นประสาทคอคู่ที่ 3 และ 4 (C3 – C4) ถูกทำลายร่วมด้วยทำให้มีอัตพาตกระบังลม (paralysis of diaphragm)
ภาวะแทรกซ้อน
เกิดกล้ามเนื่อแขนลีบ
อาการและอาการแสดง
กล้ามเนื้อทั้งแขนและมือของทารกอ่อนแรง
กระดูกหักในทารก (Fracture)
กระดูกไห้ปลาร้าหัก (Fracture clavicle)
มีอัมพาตเทียม (pseudoparalysis)
(ไม่มี moro reflex)
กล้ามเนื้อ (sternocleidomastiod muscle) หดเกร็ง
การหักของกระดูกแขน (humerus) หรือกระดูกขา
ได้ยินเสียงกระดูกหักขนาดทำคลอด
บริเวณที่มีกระดูกหักมีสีผิดปกติ
ข้อสะโพกเคลื่อน (hip dislocation)
หัวกระดูกขาหลุดออกจากเบ้าสะโพก
เส้นเอ็นถูกยืดออกเป็นผลทำให้หัวกระดูกต้นขาถูกรั้งสูงขึ้น