Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ ๖ การบริหารการพยาบาล, บทที่ ๖ การบริหารการพยาบาล - Coggle Diagram
บทที่ ๖ การบริหารการพยาบาล
การจัดอัตรากําลังทางการพยาบาล (Nursing Staffing)
การจัดบุคลากรเกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้
๒. การตัดสินเลือกประเภทของบุคลากรที่จะสามารถให้การพยาบาลตามที่ต้องการ
๓. การคํานวณหาจํานวนบุคลากรแต่ละประเภทการสรรหาบุคลากร
๑. การพิจารณาประเภทและจํานวนของการพยาบาล
การวางแผนจัดบุคลากรด้านการพยาบาล
๑. ปัจจัยด้านของเครื่องใช้ (Material Resources)
๒. ปัจจัยด้านบุคลากร (Manpower Resources)
กระบวนการจัดอัตรากําลังทางการพยาบาล (Staffing Process)
ขั้นตอนในการจัดอัตรากําลัง
๑. คาดคะเนความต้องการการพยาบาลของผู้ป่วย
-จํานวนเฉลี่ยผู้ป่วยต่อวัน (ADC : Average daily census)
-การแบ่งประเภทผู้ป่วย (Patient Classification Systems)
-จํานวนวันที่ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลในโรงพยาบาลหรือจํานวนวันนอน (Patient Days)
การจัดตารางการปฏิบัติงาน (Scheduling) (Scheduling)
๒.๑ การจัดแบบรวมการ (Centralized Scheduling)จัดโดยผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลฝ่ายบุคลากร
หรือผู้ตรวจการในสํานักงานบริการพยาบาล
๒.๒ การจัดแบบแยกการ (Decentralized Scheduling) วิธีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดโดย
หัวหน้าหอผู้ป่วย
การกระจายอัตรากําลัง (Staffing allocation)
๓. การมอบหมายงานเฉพาะรายผู้ป่วย (Case Method)
๔. การมอบหมายงานแบบพยาบาลเจ้าของไข้ (Primary Methods)
๒. การมอบหมายงานเป็นทีม (Tem Method)
๕. การมอบหมายงานแบบผสมผสาน (Multiple Method)
๑. การมอบหมายงานเฉพาะหน้าที่ (Functional Method)
๖. การมอบหมายแบบผู้จัดการกรณีหรือผู้จัดการการดูแลผู้ป่วย (Case management)
จุดประสงค์ของการมอบหมายงาน
๑.เพื่อกําหนดขอบเขตความรับผิดชอบและหน้าที่แต่ละคนเพื่อไม่ให้งานซ้ําซ้อน
๒.เพื่อให้การพยาบาลที่มีประสิทธิภาพตรงเวลาถูกต้องตามหลักวิชาการ
ระเบียบการมอบหมายงาน
๑. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงการมอบหมายงานต้องแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้า
๒. ตรวจสอบการมอบหมายงานทุกวันเพื่อปรับเปลี่ยนกรณีที่มีปัญหา
ระยะเวลาในการมอบหมายงาน
จํานวนวันที่ได้รับมอบหมายในแต่ละครั้ง ควรอยู่ในช่วง ๔ – ๗วัน
การนิเทศงานการพยาบาล
การนิเทศเป็นการทํางานร่วมกัน เพื่อให้งานประสบความสําเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ มีผู้นิเทศเป็นผู้ช่วยเหลือให้ความรู้ แนะนํา แนะแนว กระตุ้น สนับสนุนและให้บริการที่จําเป็นแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อความเจริญของบุคลากรในทุกด้าน
ลักษณะการนิเทศการพยาบาล
๑.ลักษณะการนิเทศที่เน้นพฤติกรรมผู้นิเทศ
๒.ลักษณะการนิเทศที่เน้นจุดประสงค์การนิเทศ
วิธีการนิเทศ
๑. การนิเทศใกล้ชิด (close supervision) เป็นการติดตามตรวจตราดูแลการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด ผู้ปฏิบัติจะอยู่ในสายตาเสมอ
๒. การนิเทศอิสระ (general supervision) เป็นการนิเทศที่ใช้วิธีสังเกตอยู่ห่าง ๆ ให้อิสระแก่ผู้ปฏิบัติได้ใช้ความคิดความสามารถของตนเองได้อย่างเต็มที่
องค์ประกอบของผู้นิเทศ
๓. ความสามารถด้านการสอน แนะนําและให้คําปรึกษา เป็นการช่วยเหลือผู้ที่รับการนิเทศได้เกิด
ความรู้ความเข้าใจงานที่ปฏิบัติ
๔. ความสามารถด้านมนุษย์ คือ ความสามารถในการเข้าใจคน รู้ว่าจะทํางานร่วมกับคนอื่น
อย่างไร
๒. ความสามารถด้านวิชาการ ผู้นิเทศการพยาบาลต้องมีความรู้ความเข้าใจผิดหลักการและทฤษฎี ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพยาบาลด้วยการเป็นผู้มีความพร้อมด้านความรู้
๔. ความสามารถด้านบริหารงาน
๑. ความสามารถด้านเทคนิค หมายถึง ความสามารถในการใช้ความรู้ต่างๆ
บทบาทของผู้นิเทศในการปฏิบัติการนิเทศ
๑.เป็นตัวกลางของการติดต่อสื่อสาร
๒.เป็นผู้สร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
หลักการนิเทศ
๒. หลักจิตวิทยาการนิเทศ
๓. หลักการเป็นผู้นํา
๑. หลักปรัชญาการนิเทศ
กิจกรรมการนิเทศทางการพยาบาล
กิจกรรมการนิเทศของหัวหน้าหอผู้ป่วย
๑.๑ แผนการนิเทศระยะยาว เป็นโครงการนิเทศกว้างๆ ที่หัวหน้าหอผู้ป่วยกําหนดไว้เป็น
๑.๒ แผนการนิเทศระยะสั้น เป็นโครงการนิเทศที่มุ่งเฉพาะการดําเนินงานในหอผู้ป่วยทุกด้าน
ระบบการดูแลผู้ป่วย
๓. ระบบการพยาบาลเป็นทีม (team nursing) ระบบนี้ต้องการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ป่วยและบุคลากรปรับปรุงคุณภาพการบริหารพยาบาลให้ดีขึ้นโดยนําพยาบาลวิชาชีพที่มีจํานวนจํากัดทํางาน
๒. ระบบการทํางานเป็นหน้าที่ (functional nursing) การมอบหมายงานจะเน้นที่หน้าที่และกิจกรรมเป็นสําคัญโดยบุคลากรแต่ละคนจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบหน้าที่๑-๒อย่างเช่นพยาบาลวิชาชีพ
๔. ระบบการพยาบาลแบบเจ้าของไข้ (primary nursing) โดยที่พยาบาลวิชาชีพ ๑คนจะทําหน้าที่เป็นตัวจักรสําคัญในการดูแลผู้ป่วยตลอดระยะเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาลตั้งแต่แรกรับเข้าไว้ในโรงพยาบาล
๑. ระบบการดูแลเป็นรายบุคคล (case method or total patient care) มีหลักการดูแลคือ พยาบา ๑ ค นจะให้การดูแลทุกอย่างสําหรับผู้ป่วยรายนั้น
๕. ระบบการจัดการด้านผู้ป่วย (Case Management) เป็นระบบที่มุ่งเน้นการดูแลที่มีคุณภาพสูงสุดและค่าใช้จ่ายที่ประหยัดคุ้มค่า
บทที่ ๖ การบริหารการพยาบาล
๑. ขอบเขตและความรับผิดชอบของผู้บริหารทางการพยาบาลในหน่วยบริการสุขภาพ
-ผู้บริหารการพยาบาล (Nurse Administration) หมายถึง พยาบาลที่ปฏิบัติงานในตําแหน่งผู้บริการ มีหน้าที่กําหนดนโยบายงานในองค์การพยาบาล
-ผู้จัดการพยาบาล (Nurse Manager) หมายถึง พยาบาลที่ปฏิบัติงานในตําแหน่งบริหาร มีหน้าที่นํานโยบายขององค์การพยาบาลไปดําเนินการให้บรรลุเป้าหมาย
โครงสร้างระบบบริการสุขภาพ
ระดับทุติยภูมิ (Secondary care level) เป็นบริการที่ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ในระดับที่สูงขึ้นเน้นการบริการรักษาพยาบาลโรคที่ยากซับซ้อนมากขึ้นได้แก่โรงพยาบาลชุมชนในระดับอําเภอ
ระดับตติยภูมิ (Tertiary care level) และศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง (Tertiary Care and Excellent Center) เป็นการบริการที่ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงมีความสลับซับซ้อนมากมีบุคลากรทาง การแพทย์ในสาขาเฉพาะทางสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นโรงพยาบาลศูนย์สถาบันเฉพาะทางต่างๆ
ระดับปฐมภูมิ (Primary care level) เป็นบริการที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนและชุมชนมากที่สุด มีการรักษาดูแลในภาวะที่ไม่ซับซ้อนจึงเน้นที่ความครอบคลุมมีการบริการผสมผสานทั้งในด้านการรักษาพยาบาล
๑.๑ การบริหารการพยาบาลในหน่วยบริการระดับปฐมภูมิ
๑. การวางแผน (Planning)
การจัดทําแผนกําหนดทางเลือกและเกณฑ์ปฏิบัติ ซึ่งอาจจะเป็นโครงการหรือกิจกรรมโดยพิจารณาให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
ปฏิบัติตามแผน หลังจากได้รับอนุมัติแผนงานหรือโครงการแล้ว เตรียมความพร้อมและชี้แจงทีมงานให้ทราบเกี่ยวกับแผน
วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกและประเมินศักยภาพขององค์การ โดยประเมินสถานการณ์และภาวะสุขภาพอนามัย
ประเมินผลและทบทวนแผน การประเมินผลงานพยาบาลชุมชนควรประเมินทั้งความเพียงพอประสิทธิผล ประสิทธิภาพและความเหมาะสม
กําหนดจุดมุ่งหมายขององค์กร โดยต้องทราบนโยบายด้านสุขภาพของประเทศ
๒. การจัดองค์กรการพยาบาลในชุมชน
โครงสร้างขององค์กรต้องมีการกําหนดโครงสร้างเพื่อให้ทราบว่ามีการแบ่งงานกัน
๒.๓ กระบวนการปฏิบัติงานเป็นการกําหนดระเบียบแบบแผนวิธีปฏิบัติงานในองค์กร
วัตถุประสงค์ขององค์กรหรือจุดมุ่งหมายขององค์กร
บุคคลต้องมีการกําหนดมอบหมายงานภารกิจในแต่ละบุคคล และกําหนดการประสานงานที่เหมาะสม
๓. การนําหรืออํานวยการ (Directing) การดําเนินการในองค์การจะประสบความสําเร็จหรือไม่การนําหรือการอํานวยการนับว่ามีบทบาทมาก
๔. การควบคุมกํากับงาน (Controlling)และการประเมินผลการปฏิบัติงาน การควบคุมกํากับงานพยาบาลชุมชน
๑.๒ การบริหารการพยาบาลในหน่วยบริการทุติยภูมิและตติยภูมิ
ตําแหน่งผู้บริหารการพยาบาล
๒. ผู้บริหารระดับกลาง (Middle level administration
๓. ผู้บริหารระดับต้น (First level administration)
๑. ผู้บริหารระดับสูง (Top level administration)
บทบาทหน้าที่ของผู้บริหารการพยาบาล
บทบาทหน้าที่รับผิดชอบของหัวหน้าฝ่ายการพยาบาล / หัวหน้ากลุ่มการพยาบาล
๑. รับนโยบายจากผู้อํานวยการ
๒. กําหนดปรัชญา นโยบาย วิสัยทัศน์พันธกิจและเป้าหมายทางการพยาบาล
๓. เป็นผู้นําในการจัดทําแผนกลยุทธ์แผนงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน แผนปฏิบัติการของกลุ่มการพยาบาล
บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของพยาบาลเวรตรวจการ
๒. ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่,ให้คําปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการให้บริการพยาบาลการจัดอัตรากําลังในกรณีฉุกเฉินและอื่น ๆ
๓. ตรวจเยี่ยมผู้ป่วยร่วมกับหัวหน้าเวร
๑. ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพยาบาลนอกเวลาราชการ
บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของหัวหน้าหอผู้ป่วย
๒. กําหนดปรัชญา นโยบาย วิสัยทัศน์และพันธกิจในหน่วยงาน
๓. เป็นผู้นําในการจัดทําแผนกลยุทธ์แผนปฏิบัติงานในหน่วยงาน
๑. รับนโยบายจากกลุ่มการพยาบาล
ทีมการพยาบาล
วัตถุประสงค์ของการทํางานเป็นทีมการพยาบาล
๒. ช่วยพัฒนาความรู้และทักษะของสมาชิกทีม
๓. ช่วยแบ่งเบางานที่ไม่จําเป็นต้องให้พยาบาลรับผิดชอบและแก้ปัญหาจํานวนเจ้าหน้าที่น้อย
๑. เพื่อปรับปรุงบริการพยาบาลให้ดียิ่งขึ้น
๔. เพื่อฝึกฝนให้เป็นผู้นําที่ดี
ลักษณะเฉพาะของทีมการพยาบาล
๓. แผนงานของทีมเกิดจากความเห็นชอบร่วมกันของสมาชิก
๔. มีแผนการพยาบาล(nursing care plan) หรือแบบแผนการดูแล(care map) ซึ่งวางแผนไว้สําหรับผู้ป่วยแต่ละราย
๒. การบริหารงานภายในทีม เน้นการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม
๕. มีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างสมาชิกทีมการพยาบาล
๑. หัวหน้าทีมจะต้องเป็นพยาบาลวิชาชีพ
องค์ประกอบของทีมการพยาบาล
๒. แผนงาน ในทีมต้องมีการวางแผนงานของทีม
๓. สมาชิก
๑. ผู้นําหรือหัวหน้าทีมการพยาบาล
บทบาทหน้าที่ของหัวหน้าเวร หัวหน้าทีม และสมาชิกทีม
หัวหน้าเวร (Nurse In charge)
หัวหน้าทีม (Nurse Leader)
สมาชิกทีม (Member)
การบริหารหอผู้ป่วย
อํานาจหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้บริหารงานหอผู้ป่วย
๒. วางแผนการปฏิบัติงาน ควบคุม กํากับวินิจฉัยสั่งการและตรวจสอบ
๓. เป็นผู้นิเทศ ส่งเสริมความสามารถและการปฏิบัติการพยาบาลให้ดียิ่งขึ้น
๑. เป็นผู้บริหาร ดําเนินการงานด้านการพยาบาลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโรงพยาบาลและฝ่ายการพยาบาล
หลักการจัดหอผู้ป่วย
๒. ความปลอดภัย (safety) ต้องป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ มีไม้กั้นเตียง พื้นห้องน้ําไม่ลื่น มีราวจับแสงสว่างเพียงพอ
๓. การป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ (Infection control) ให้ถูกต้องตามหลักการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
๑. ความเป็นสัดส่วน (Privacy)จัดบริเวณและสิ่งแวดล้อมรอบเตียงให้มีพื้นที่ในการให้การพยาบาลได้สะดวกไม่เปิดเผยผู้ป่วย และญาติสามารถเยี่ยมได้ใกล้ชิด
๔. ควบคุมเสียง (noise control) ไม่ให้มีเสียงดังรบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยหัวหน้าหอผู้ป่วยจะต้องจัดเตียงสําหรับผู้ป่วย
หลักการจัดระบบงานเพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุเป้าหมาย
๒. กําหนดขอบเขตความรับผิดชอบ และแผนภูมิการทํางานของเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ เพื่อป้องกัน
การทํางานซ้ำซ้อน
3.กําหนดอัตรากําลังและประเภทของเจ้าหน้าที่แต่ละระดับ
๑. กําหนดวัตถุประสงค์การบริการผู้ป่วย โดยพิจารณาถึงความต้องการของสังคมและนโยบายของ
สถาบัน
๔. กําหนดหน้าที่รับผิดชอบ
ชื่อนางสาวพิราอร ราชคม เลขที่69 รหัสนักศึกษา 603101069