Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติของ ระบบทางเดินอาหารในผู้สูงอายุ, เอกสารอ้างอิง,…
ความผิดปกติของ
ระบบทางเดินอาหารในผู้สูงอายุ
ภาวะท้องผูก(Constipation)
:
คือ ไม่มีการถ่ายอุจจาระต่อเนื่องกันเป็นเวลา 3 วัน
ขึ้นไป การถ่ายอุจจาระลำบาก เนื่องจากอุจจาระ
อยู่ในสภาพที่แห้ง แข็ง ต้องออกแรงเบ่ง ซึ่งมี
ความสัมพันธ์กับการบีบตัวของลำไส้ลดลง
ในผู้สูงอายุ ทำให้ผู้สูงอายุเกิดความไม่สุขสบาย
แน่นอึดอัดบริเวณทวารหนัก แต่ไม่สามารถถ่ายอุจจาระได้
ข้อบ่งชี้ว่าท้องผูกตามเกณฑ์ของ
Rome 11 criteria
หากมีอาการดังกล่าว 2 อาการขึ้นไปบ่อยกว่า
1 ใน 4 ครั้งของการถ่ายอุจจาระถือว่ามีอาการท้องผูก
ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
ถ่ายอุจจาระลำบากต้องเบ่งนาน
อุจจาระเป็นก้อนแข็ง
รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่สุดและเจ็บทวารหนัก
รู้สึกว่าการถ่ายอุจจาระไม่ออก
เนื่องจากมีสิ่งอุดกั้นทวารหนัก
สาเหตุของภาวะท้องผูก
พฤติกรรมและวิธีการดำเนินชีวิตประจำวัน
มีนิสัยการกลั้นอุจจาระเป็นประจำ
รับประทานอาหารที่มีกาก
หรือเส้นใยอาหารน้อยเกินไป
รับประทานน้ำน้อยเกินไปในแต่ละวัน
มีการใช้ชีวิตแบบนั่งๆนอนๆ
และขาดการออกกำลังกาย
มีภาวะของความเครียด
ยาบางชนิดที่ทำให้ท้องผูก
ยากลุ่ม opiates
ยาต้านการซึมเศร้า
ยากันชัก
ยาลดกรดที่มีเกลืออลูมิเนียม
โรคบางชนิดที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก
โรคของกล้ามเนื้อน้อยลง เช่น โรคเบาหวาน
โรคไตวายหรือโรคทางต่อมไร้ท่อ
โรคทางระบบประสาท
โรคของลำไส้และทวารหนัก เช่น
ลำไส้อุดตันจากมะเร็ง ไส้เลื่อน เป็นต้น
โรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดจากท้องผูก
อุจจาระเล็ดลอด
ปวดท้องเรื้อรัง
ลำไส้บวมและโป่งพอง
(acquired megacolon or megarectum)
Sigmoid volvulus
Stercoral ulceration
โรคแทรกซ้อนที่ยังไม่ได้พิสูจน์แน่ชัด
Hemorrhoid
CA colon
Melanesia coli
ชนิดของท้องผูก
ท้องผูกชนิดปฐมภูมิ
(Primary constipation)
เกิดขึ้นเองโดยไม่มีรอยโรคของระบบทางเดินอาหาร
เกิดจากพฤติกรรม เช่น การรับประทานอาหาร
ที่มีกากใยน้อย ได้รับน้ำน้อย การละเลยไม่ถ่าย
อุจจาระทันทีที่ปวด มีการออกกำลังกายน้อยตลอดจน
ผู้สูงอายุที่กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแรง เป็นต้น
ท้องผูกชนิดทุติยภูมิ
(Secondary constipation)
ได้แก่ ความเจ็บป่วยที่ทำให้รับประทานอาหารได้น้อย
การใช้ยาบางอย่างที่ทำให้ท้องผูก มีความผิดปกติ
ของลำไส้ เช่น ลำไส้อุดตัน ลำไส้กลืนกัน ความ
ผิดปกติของต่อมไร้ท่อ โรคของระบบประสาท
เช่น โรคหลอดเลือดสมองหรือการได้รับบาดเจ็บ
ของไขสันหลัง เป็นต้น
อาการและอาการแสดง
มีอาการแน่นอึดอัดในช่องท้อง ท้องอืดเฟ้อ
เบื่ออาหาร ปวดท้อง ทำให้รับประทานอาหารน้อยลง
การรับรสอาหารไม่ดี มีการผายลมบ่อย อาเจียน
และสับสน บางรายไม่รู้สึกปวดอุจจาระ
การดูแลและแก้ไขอาการท้องผูก
ดูแลให้ผู้สูงอายุได้รับอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ
ในแต่ละวัน ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย
วันละ 2,500-3,000 ซีซีและรับประทานอาหาร
พวกผักผลไม้ เช่น กล้วย ส้ม มะละกอ ผักกาด ผักบุ้ง
เป็นต้น หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารพวก
ช็อกโกแลตเนื้อสัตว์และเนยแข็ง
มีการออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้
ระบบขับถ่ายดีขึ้น โดยการเดินอย่างน้อย
วันละ 20-30 นาที เพื่อจะช่วยกระตุ้นการบีบตัว
ของลำไส้และสามารถขับเอากากอาหาร
ออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น
ฝึกนิสัยการขับถ่ายให้เป็นเวลา
หลีกเลี่ยงการใช้ยาระบายต่อเนื่อง
ยาวนาน โดยที่ไม่จำเป็น
แนะนำให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำผลไม้และน้ำผักให้มาก
เพราะน้ำจะทำให้อุจจาระนุ่มและออกง่าย
ไม่ควรดื่มกาแฟและแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้
อุจจาระแห้งและขับถ่ายออกมาลำบากมากขึ้น
ภาวะท้องเสีย (Diarrhea)
คือ มีอาการถ่ายเป็นน้ำ ถ่ายเหลว ถ่ายมูก
หรือมูกปนเลือด ถ้าผู้สูงอายุถ่ายหนัก
เกิน 2 ครั้ง อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง
และบางรายอาจถึงขั้นชีวิตได้ จากการสูญเสียน้ำ
และเกลือแร่ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
สาเหตุของภาวะท้องเสีย
ชนิดเฉียบพลัน
การติดเชื้อแบคทีเรีย ที่มักปนเปื้อนในน้ำ
หรืออาหาร
อาหารเป็นพิษ
สารเคมี เช่น สารตะกั่ว ยาฆ่าแมลง
ทำให้อาเจียน ปวดท้องรุนแรง
ยา เช่น ยาถ่าย ยาระบาย ยาปฏิชีวนะ
พืชพิษ เช่น เห็ดพิษ กลอย
ชนิดเรื้อรัง
อารมณ์ ความเครียด
ความผิดปกติของการดูดซึมอาหารที่ลำไส้
ยา เช่น รับประทานยาถ่าย หรือยาลดกรดเป็นประจำ
โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน คอพอกเป็นพิษ
เนื้องอก มะเร็งลำไส้ หรือมะเร็งตับอ่อน
สาเหตุอื่นๆ เช่น ผ่าตัดกระเพาะอาหาร
ทำให้การย่อยอาหารผิดปกติ การฝังแร่
อาจทำให้เกิดอาการท้องเดินเรื้อรังได้
อาการและอาการแสดง
มีการถ่ายอุจจาระเหลว เป็นน้ำมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป
ถ่ายบ่อยกว่าปกติ หรือถ่านเป็นมูกปนเลือด 1 ครั้ง
หรือมากกว่านั้นภายใน 24 ชั่วโมง อาจะมีอาการอื่น
ร่วมด้วย เช่น ปวดท้อง ท้องอืด คลืนไส้
อ่อนเพลีย และมีไข้
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ เป็นสาเหตุของ
อาการช็อก ภาวะเลือดเป็นกรด
ภาวะเกลือแร่ในร่างกายต่ำ
การดูแลและแก้ไขอาการท้องเสีย
ถ้าอาการท้องเสียมีอาการไม่มาก
แนะนำให้ถ่ายอุจจาระออกมาจนหมด
หลีกเลี่ยงการรับประทานยาหยุดถ่าย
เพราะจะทำให้ของเสียหรือเชื้อโรคจะยังคง
สะสมอยู่ในลำไส้
ระหว่างที่มีอาการ แนะนำให้ผู้สูงอายุ
หลรกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีผลิตภัณฑ์นม
เป็นส่วนประกอบ งดอาหารรสจัดและของหมักดอง
รับประทานอาหารอ่อนๆย่อยง่าย เช่น ข้าวต้มหรือโจ๊ก
หากมีอาการถ่ายบ่อยจนร่างกายอ่อนเพลีย
ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย
หลังท้องเสีย 1 สัปดาห์ ควรระวังเรื่องอาหาร
การกินให้มากขึ้น เพราะอาจจะท้องเสียซ้ำอีกได้
หากทานอาหารที่ไม่สะอาด หรือรสจัด
เอกสารอ้างอิง
คณาจารย์ ภาควิชาเภสัชวิทยา.บรรณาธิการ.
เภสัชวิทยา1
.
พิมพ์ครั้งที่7.กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เท็กซ์แอนด์เจอร์นัล,2545
โรงพยาบาลแมคคอร์มิค.(2017).
โรคท้องร่วง(Diarrhea)
,
แหล่งข้อมูล :
https://www.mccormickhospital.com/web/articles/blogs/
%20(Diarrhea)fbclid=IwAR2C9S8CqsT6VYIWOJNO32DTfdVP4rBpsi8
vM_kJ-Cfw5ZdYSKYrXdl4GvQ
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล.(2563).
ดูแลเบื้องต้นเมื่อท้องเสีย
,
แหล่งข้อมูล :
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1033
นางสาวชุตันันท์ ยาทองไชย เลขที่ 78
นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตชั้นปีที่ 2 ห้อง A