Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ (Diseases of Urinary system) - Coggle Diagram
โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ
(Diseases of Urinary system)
วัตถุประสงค์
-อธิบายการทำงานของระบบทางเดิน
ปัสสาวะได้
บอกสาเหตุกลไกการเกิด อาการและ อาการแสดงที่เกิดขึ้นกับความผิดปกติ ของระบบทางเดินปัสสาวะได้
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ
ระบบขับถ่ายปัสสาวะส่วนบน (Upper Urinary tract)
ไตสองข้าง ( Kidney)
อวัยวะสำคัญที่สุดของระบบนี้ เป็นที่กรองเอาน้ำและของเสียออกจากโลหิตเป็นน้ำปัสสาวะ
หน่วยไต (Nephron) ทำหน้าที่สร้างปัสสาวะ
กรวยไต (renal pelvis) ส่งมาตามท่อไต
ทอไต (Ureter) นำน้ำปัสสาวะออกจากไตไปสู่กระเพาะ ปัสสาวะ
ระบบขับถ่ายปัสสาวะส่วนล่าง
(Lower urinary tract)
เป็นที่เก็บพักปัสสาวะที่สร้างจากไตและเป็นทางส่งปัสสาวะขับทิ้งออกนอกร่างกาย
ที่เก็บน้ำปัสสาวะไว้ชั่วคราว เมื่อได้จำนวนพอเหมาะจึงหดตัวบีบน้ำปัสสาวะไปสู่ท่อ ปัสสาวะ
ท่อปัสสาวะ (Urethra) เป็นทางผ่านของน้ำปัสสาวะจาก กระเพาะปัสสาวะไปสู่นอกร่างกาย
โครงสร้างของหน่วยไต (Nephron)
Renal corpuscle
Renal tubule
โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ
(Diseases of Urinary system)
Renal malformations
ความผิดปกติในปริมาณของเนื้อไต
Agenesis
ไตฝ่อหรือภาวะที่ไม่มีเนื้อไต
Renal agenesis อาจจะเป็นข้างเดียวหรือสอง ข้าง
ถ้าเป็นสองข้าง เรียกวา Potter’s syndrome
ร่วมกับปอดไม่เจริญ แขนขาผิดรูปร่าง และมีลักษณะใบหน้าที่เป็นแบบจำเพาะ ความผิดปกติในปริมาณของเนื้อไต
Potter’s syndrome ทารกในครรภ์อยู่ในภาวะขาดน้ำคร่ำทำให้ร่างกายถูกกด เป็นสาเหตุการเสียชีวิตแต่กำเนิดของทารก
แขนขาที่ผิดปกติบ่อยคือ รูปร่างผิดปกติ โก่ง บด ข้อเคลื่อน clubfoot
Potter's facies หูติดต่ำ ผิวหนังย่น จมูก งุ้ม คางเล็ก มีสันนูนเด่นที่หัวคิ้วทั้งสองข้าง
Hypoplasia
ภาวะที่ไตมีขนาดเล็กกว่าปกติ
มากกว่า ร้อยละ 50
-จำนวน renal lobule และ calyx ลดลง ด้วย แต่เนื้อไต ไม่มีความผิดปกติ
ความผิดปกติในปริมาณของเนื้อไต
Supernumerary kidney
ภาวะที่มีจำนวนไตมากกวาสอง ส่วนใหญ่จะเป็นสามไต
ไตชั้นที่เกินจะแยกออกจากไตปกติหรือเป็นภาวะ "ไตแฝด" ที่ไตสองส่วนอยู่ติดแน่นเป็นไตเดียว
ความผิดปกติในตำแหน่ง รูปร่าง และ Orientation
เมื่อทารกสร้างเซลล์ไตขึ้นมาใหม่ จะอยู่ในอุ้งเชิงกราน ต่อมามีการขยับตำแหน่งเข้าไปในช่องท้อง ขณะเดียวกันมีการหมุนตัวของไต ให้อยู่ในตำแหน่งผิดปกติ ไม่ทำให้ทารกมีอาการผิดปกติ และทารกยังคงมีชีวิตอยู่ตามปกติได้
Ectopia ภาวะที่ไตอยู่ในตำแหน่งที่ผิดปกติ เช่น ในอุ้งเชิงกราน อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง
Malrotation ภาวะที่ไตมี renal pelvis และ ureterอยู่ทางด้านหน้า
Fusion of kidneys หรือ Horseshoe kidney – การเชื่อมกันตรงกลางระหว่างเนื้อไตทั้งสองขาง
ความผิดปกติใน differentiation
Renal cystic diseases
เป็นรอยโรคที่อาจเป็นพันธุกรรมการเจริญผิดปกติหรือเกิดขึ้นภายหลัง มักก่อให้เกิดปัญหาในการวินิจฉัยแยกจากเนื้องอกของไต
Polycystic kidney disease
Adult type
พบได้บ่อย เป็นทั้งสองข้าง ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แบบ autosomal dominant
ไตจะมีขนาดใหญ่ขึ้น บางครั้งหนักได้ถึง4 Kg
ผิวนอกตะปุ่มตะป่ำ หน้าตัดประกอบดวย cyst ขนาด ใหญ 3-4 Cm
Infantile type
พบได้ตั้งแต่ทารกแรกคลอด มักจะเสียชีวิตใน ระยะแรกๆ ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แบบ autosomal recessive
ไตมีขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง ผิวหนังนอกเรียบ หน้าตัดพบ cyst ทั้งที่ cortex และ medulla ทำให้เนื้อมีลักษณะพรุนแบบฟองน้ำ
Medullary cyst
Medullary sponge kidney
มีการขยายใหญ่เป็นถุงของ collecting tubule ของ medulla
พบในผู้ใหญ่ ไตยังทำงานปกติ
Uremic Medullary cystic disease
เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ มักมีอาการ ตั้งแต่เด็ก
พบcyst อยู่ในบริเวณ Medulla
มี cortical tubular atrophy และ interstitial fibrosis ร่วมด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุของ ภาวะไตวายในระยะต่อมา
Simple cyst
อาจพบ cyst เดียวหรือหลายอัน ขนาดอาจจะ เล็กหรือใหญ่
พบอยู่ในบริเวณ cortex เกิด dilatation ของ tubule อาจทำให้มีเลือดออก หรือ calcification ในภายหลัง
Glomerular diseases
พยาธิสภาพที่เกี่ยวข้องกับภมิคุ้มกัน
Glomerulonephritis (GN)
การอักเสบภายนอกไตที่มีผลต่อไตเป็นภาวะแพ้ภูมิตนเอง (autoimmunity) เช่น Malaria, Syphilis, Hepatitis และ Systemic Lupus Erythematosus (SLE)
กลไกการเกิด
Ag + Ab > Ag – Ab complex >เข้าสู่ glomerulus ถูกกรองติดอยู่ภายใน glomerulus > Ag – Ab complex เป็นเหมือนสิ่งแปลกปลอม
กระตุ้นComplement system เพื่อเร่งปฏิกริยาการอักเสบ
กระตุ้น neutrophil และ monocyte ทำการย่อยสลาย Ag – Ab complex ,collagen fiber และเส้นใยเจลาติน > รูกรองที่ผนัง glomerulus ขยายใหญ่ขึ้น > โปรตีนและเม็ดเลือดแดงผ่านรูกรองได้ >พบโปรตีนในปสสาวะ (Proteinuria) และเลือดในปัสสาวะ (Hematuria)
พยาธิสภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
พบไดบ่อย โรคไตจากเบาหวาน หรือจากการรักษาเบาหวาน เช่น การใช้ยา กลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย (sulfonylurea) ทำใหเกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ เกิดภาวะขาด ADH ตามมา
ภาวะที่พบไดบ่อยในผู่ปวยเบาหวาน เช่น การตืดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ความดันโลหิตสูง การติดเชื้อในกระแสเลือด
กลไกการเกิด
การกรองเพิ่มขึ้น (hyperfiltration) กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดน เลือดเข้าโกลเมอรูลัส มีระดับน้ำตาลภายในเซลล์ลดลง ทำให้ขาดพลงงานในการหดตัว เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด
การเปลี่ยนแปลงกลไกการทำงานของ Renin โรคไตจากเบาหวานจะพบ prorenin เพิ่มขึ้น และการหลั่งเรนินเข้าสู่กระแสเลือดลดลง เกิดภาวะ hyperkalemia ภาวะกรดเกิน และภาวะน้ำเกินตามมา
Tubulo-interstitial diseases
เป็นกลุ่มของโรคที่มีความผิดปกติในรูปร่างและ หน้าที่ของ tubule และ interstitium ของไต
เกดจากสาเหตุหลายอย่างได้แก่ ยา การติดเชื้อ immunological reaction
Chronic interstitial nephritis
พบ interstitial fibrosis , tubular atrophy และ mononuclear cell infiltration
Acute interstitial nephritis
พบ interstitial edema ร่วมกับ leukocytic infiltration และ tubular necrosis
Tubular diseases
โรคที่สำคัญ คือ Acute tubular necrosis (ATN)
ชนิดของ Acute tubular necrosis (ATN)
มี 3 ระยะ
ระยะที่ 1 Oliguric phase เกิดในช่วงแรก เมื่อมการตายของ renal tubule ทำให้ renal cell หลุดมาอุดตันทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะออกนอย และมีอาการบวม
ระยะที่ 2 Diuretic phase เกิดในช่วงกลาง เมื่อผ่านไป tubular cell ที่ตายมีการสลายไปและมีการสร้าง cell ใหม่ cell ใหม่ที่สร้างไม่สามารถดูดกลับน้ำได้เต็มที่ ปัสสาวะจึงออกมาก
ระยะที่ 3 Recovery phase เกิดในช่วงหลัง เมื่อนานเข้า tubular cell สามารถดูด น้ำกลับได้ปกติ ปัสสาวะจึงมีปริมาณ ปกติ
-Nephrotoxic type : ได้รับสารพิษ
-Ischemic type : shock
เป็นภาวะที่มีการถูกทำลายอย่างเฉียบพลันของ Renal tubule
เกิดจากการขาดเลือดไปเลี้ยงไตเป็นเวลานาน
Urinary tract infection
กรวยไตอักเสบ( Pyelonephritis) อาจเกิดเพียงข้างเดยวหรือเกิดพร้อมกันทั้งสองข้าง แบ่งเป็น
Acute Pyelonephritis
เกิดทันที และรุนแรงแต่เมื่อได้รับการรักษา จะหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์
มีอาการไตบวมโต มีเลือดคั่งมากขึ้น พบจุดหนองกระจายเป็นทางจากผิว ลึกลงไปในส่วน cortex,medulla และ renal pelvis Acute Pyelonephritis
รายที่รุนแรง เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือใน รายที่มีการอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะร่วมดวย อาจมีการตายของ renal papilla เรียกวา Renal papillary necrosis
Chronic Pyelonephritis
เป็นการอักเสบไม่รนแรง แต่เป็นๆหายๆ
ไตจะมีขนาดเล็กลง ผิวขรุขระ เนื่องจากรอยแผลเป็น (scar) รูป “U” ที่เกิดจากการทำลายของเนื้อไตแล้ว แทนที่ด้วย fibrosis รวมกบ deformity ของ calyx ที่อยู่ ใกล้เคียง
เกิดจากการควบคุมสาเหตุของโรคไม่ได้ เช่น นิ่วในไตเรื้อรัง หรือ ต่อมลูกหมากโต
นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
Urolithiasis , urinary calculi
ประกอบด้วย amorphous crystalloid ได้แก่ uric acid, calcium , oxalate และ magnesium phosphate
ปัจจัยส่งเสริม ได้แก่
crystalloid conc เพิ่มขึ้นในปัสสาวะ : ปัสสาวะน้อย
crystalloid ตกตะกอนมากขึ้น : การคั่งของปัสสาวะ
Foreign bodies : แบคทีเรีย
Nephrocalcinosis
ภาวะที่มีcalcium สะสมในเนื้อไต
Nephrocalcinosis เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดนิ่วในไต
สาเหตุเกิดจาก Hypercalcemia
กลไกการเกิด
การมีระดับแคลเซียมในเลือดสูง เมื่อเลือดกรองที่ไต แคลเซียมส่วนหนึ่งจะถูกดึงไวในกระดูกเพื่อใช้ ส่วนที่เหลือจะถูกขับ ออกทางปัสสาวะ เมื่อเลือดมีแคลเซียมสูง ร่างกายขับแคลเซียมออกไม่หมด เกิดการตกตะกอนของแคลเซียมในเนื้อไต
Urinary tract obstruction
ภาวะที่มีการอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ
สาเหตุ
1.ความพิการแต่กำเนิด
2.การอุดกั้นจากรอยโรคที่เกิดขึ้นภายหลัง
ความผิดปกติของระบบประสาทที่ควบคุมการ ทำงานของกระเพาะปัสสาวะ
ผลจาก Urinary tract obstruction
ทำให้ทางเดินปัสสาวะส่วนที่อยู่เหนือตำแหน่งที่มีการอุดตันขึ้นไปขยายตัว (dilatation)
มีโอกาสเกิดนิ่วและการติดเชื้อเพิ่มขึ้น และทำลายเนื้อไตอย่างถาวร
Hydronephrosis
ภาวะที่มี dilatation ของ renal pelvis และ Calyx ร่วมกับมี Progressive atrophy ของเนื้อไต
สาเหตุจากการอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ
อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง
ความผิดปกติในส่วนของ Ureter
ความผิดปกติในส่วนของ Ureter พยาธิสภาพที่สำคัญ คือ
-การอุดกั้น
-เนื้องอก
-vesicoureteral reflux
Ureteric Obstruction
สาเหตุ
-นิ่วที่หลุดมาจากส่วนของไต
-หลอดไตตีบ(stricture) อาจเป็นมาแตกำเนิดหรือเป็นผลจากการอักเสบ
-เนื้องอกของ Ureter
-เนื้องอกของอวัยวะใกล้เคียง เช่น ปากมดลูกและมดลูก
:
การอุดกั้นนี้ทำให้ปัสสาวะที่สร้างแล้วขับถ่ายออก จากร่างกายไม่ได้หรือได้น้อย ทำให้เกิดHydronephrosis ของไตข้างนั้น แต่ถ้าการอุดกั้นเกิดในส่วนล่างของหลอดไต อาจเกิดการ โป่งพองของ Ureter (Hydroureter)
Vesicoureteral refiux
เป็นความผิดปกติที่เกิดจากมีการไหลย้อนกลับ ของน้ำปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะเข้าไปใน หลอดไตและ renal pelvis
พบมากในเดก อาจทำใหม่การติดเชื้อและเป็น สาเหตุหนึ่งของ pyelonephritis
สาเหตุ
-การทำศัลยกรรมทางการแพทย์
-การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
-มีความผิดปกติของ sphincter
-มีการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะส่วนที่ออกจาก กระเพาะปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ(Cystitis)
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
มักจะเกิดในผู้หญิงเนื่องจากท่อปัสสาวะสั้น และรูเปิดของท่อปัสสาวะอยู่ใกล้ทวารหนัก ทำให้เชื้อสามารถเข้าไปในท่อปัสสาวะได้
สาเหตุ
-การกลั้นปัสสาวะ
-หลังการกระเทือนหรือหลังการมีเพศสัมพันธ์
-เกิดการอักเสบของท่อปัสสาวะ
-มีสิ่งแปลกปลอมในท่อทางเดินปัสสาวะ
ท่อปัสสาวะ
ผู้ชายจะมีขนาดยาวเฉลี่ยประมาณ 20 cm ผู้หญิงจะมีขนาดสั้นกว่ามาก ยาวเพียงประมาณ 4 cm ผู้ชายและผู้หญิงจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากัน 3-4 มม
ท่อปัสสาวะอักเสบ
เป็นการบาดเจ็บ อักเสบ บวม ของเซลล์เยื่อเมือกบุท่อปัสสาวะ เกิดจากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อยคือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากเชื้อแบคทีเรีย
พบได้ในทุกอายุ แต่มักได้สูงในวัยที่มีเพศสัมพันธ์สูง ช่วงอายุ 20-35 ปี ผู้หญิงมีโอกาสติดเชื้อสูงกว่าผู้ชาย
สาเหตุของ Urethritis
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
-ติดเชื้อจากโรคหนองใน หรือโกเนีย
ติดเชื้อจากที่ไม่ใช่หนอง เช่น โรคเริม โรคซิฟิลิสจากการติดเชื้อ HIV
การติดเชื้อที่ไม่ใช่เพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อ E. coli (Staphylococcus) หรือ เชื้อ Pseudomonas ซึ่งอาจติดต่อผ่านทางลำไส้ (อุจจาระ) หรือทางไต หรือทางกระเพาะปัสสาวะ
สาเหตุที่ไม่ใช่จากการติดเชื้อ
การบาดเจ็บจากท่อปัสสาวะ จากการสวนปัสสาวะ เช่น ในการผ่าตัด การใส่คาท่อ
อาการที่เป็นท่อปัสสาวะอักเสบ
มีหนองออกจากปลายท่อปัสสาวะ (ปลายอวัยวะเพศ) กรณีเพศชาย
อาจะคลำได้ต่อมน้ำเหลืองขาหนีบโต เจ็บข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง