Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติของทางเดินอาหาร - Coggle Diagram
ความผิดปกติของทางเดินอาหาร
ท้องผูก (Constipation)
Cause
พฤติกรรมและแบบแผนการดำเนินชีวิต
มีนิสัยการกลั้นอุจจาระเป็นประจำ
รับประมานอาหารที่มีกากใยน้อย
ขาดการออกกำลังกาย
มีภาวะความเครียด
ยาบางชนิด
ยากลุ่ม Opiates
ยาต้านเศร้า
ยากันชัก
ยาลดกรดที่มีเกลืออลูมิเนียม
โรคประจำตัว
โรคทางระบบประสาท
โรคของลำไส้และทวารหนัก
การเคลื่อนไหวของร่างกายน้อยลง
อาการและอาการแสดง
การไม่ถ่ายอุจจาระต่อเนื่อ 3 วันขึ้นไป หรืออุจจาระแห้ง แข็ง ต้องออกแรงเบ่ง
อึดอัด แน่นท้อง ท้องอืด มีไข้ อาเจียน สับสน
รับประมานอาหารได้น้อยลง
พร่องโภชนาการ
มีภาวะซีด
ภาวะแทรกซ้อน
sigmoid volvulus มีการบีบตัวของ Sigmoid colon ที่ยาวและขยายใหญขึ้น เนื่องจากการกินอาหารที่มีไพเบอร์สูง หรือท้องผูกเรื่้อรัง
ลำไส้บวมและพอง (Acquired megacolon or megaredctum)
ปวดท้องเรื้อรัง
Stercoral ulceration เกิดบาดแผลที่ลำไส้ใหญ่ มีอุจจาระที่ค่อนข้างแข็งที่ลำไส้ใหญ่
การพยาบาล
ถ้าผู้สูงอายุไม่มีการจำการดื่มน้ำกระตุ้นให้ดื่มน้ำให้เพียงพอและสม่ำเสมอ ประมาณวันละ 2000 ml/day
ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญ ปัจจัย และ ปัญหา ของการท้องผูกเพื่อให้ผู้สูงอายุได้ตระหนักถึงภาวะท้องผูก
แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ฝรั่ง มะละกอ กล้วย ผักตำลึง ผักบุ้ง ผักคะน้า
แนะนำให้เคี้ยวข้าวให้ละเอียดก่อนกลืน
แนะนำให้ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงการกลั้นอุจจาระ
ฝึกการขับถ่ายให้เป็นนิสัย
กระตุ้นผู้สูงอายุให้มีการเคลื่อนไหวและออกกำลังกายเป็นประจำ
จัดสิ่งแวดล้อมให้ สะอาด สะดาวก มีความเป็นส่วนตัวในเวลาขับถ่าย
หากต้องใช้ยาระบาย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ท้องเสีย (Diarrhea)
อาการ
ถ่ายเป็นน้ำมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป หรือถ่ายเป็นมูกปนเลือด 1 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 24 ชั่วโมง
ในบางรายอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อ่อนเพลีย รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว และมีไข้
Caese
เฉียบพลัน
การติดเชื้อ ซึ่งพบได้บ่อยกว่าสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากเชื้อไวรัส บิด ไทฟอยก์ อหิวาต์ มาลาเรีย พยาธิบางชนิด เช่น ไทอาร์เดีย พยาธิแส้ม้า
อาหารเป็นพิษ โดยการปะปนของเชื้อโรคที่อยู่ในอาหาร
สารเคมี เช่น สารตะกั่ว สารหนูไนเตรท ยาฆ่าแมลง ทำให้อาเจียน ปวดท้องรุนแรง และชักร่วมด้วย
ยา เช่น ยาถ่าย ยาระบาย ยาปฏิชีวนะ
พืชพิษ เช่น เห็ดพิษ กลอย
เรื้อรัง
การที่มีอาการท้องร่วงติดต่อกันเกิน 3 สัปดาห์ หรือเป็นๆ หายๆ นานหลายๆ เดือน หรือเกือบทั้งปี
อารมณ์ ความเครียด
การติดเชื้อ เช่น บิด อะมีบา วัณโรคลำไส้ และพยาธิแส้ม้า
โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน คอพอกเป็นพิษ
ขาดน้ำย่อย สำหรับย่อยน้ำตาลที่อยู่ในนม จึงทำให้เกิดอาการท้องเสียหลังดื่มนม
ความผิดปกติของการดูดซึมอาหารที่ลำไส้
เนื้องอก มะเร็งลำไส้ หรือมะเร็งตับอ่อน
ยา เช่น รับประทานยาถ่าย หรือยาลดกรดเป็นประจำ
สาเหตุอื่นๆ เช่น ผ่าตัดกระเพาะอาหาร ทำให้การย่อยอาหารผิดปกติ การฝังแร่อาจทำให้เกิดอาการท้องเดินเรื้อรังได้
อาการแทรกซ้อน
ภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการช็อก ภาวะเลือดเป็นกรด ภาวะเกลือแร่ในร่างกายต่ำ
ภาวะขาดน้ำเล็กน้อย ผู้ป่วยจะกระหายน้ำ และอ่อนเพลียเล็กน้อย ชีพจรและความดันโลหิตปกติ
ภาวะขาดน้ำปานกลาง ผู้ป่วยจะอ่อนเพลียมาก ตาลึก ปากแห้ง ผิวหนังเหี่ยว ชีพจรเบาแต่เร็ว ความดันโลหิตต่ำ
ภาวะขาดน้ำรุนแรง ผู้ป่วยจะอ่อนเพลียมาก ลุกนั่งไม่ได้ ไม่ค่อยรู้สึกตัว กระสับกระส่าย ตัวเย็น มือเย็น เท้าเย็น ความดันต่ำมาก ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย ปากแห้ง ลิ้นแห้ง หายใจเร็ว
ภาวะย่อยน้ำตาลแล็กโทสบกพร่อง
โรคลำไส้แปรปรวน
การพยาบาล
ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังรับประทานอาหารหรือสัมผัสกับอาหาร หลังการเข้าห้องน้ำ หรือจับสิ่งสกปรกอื่น ๆ เพื่อป้องกันแพร่กระจายของเชื้อโรค
เลือกรับประทานอาหารอย่างระมัดระวัง เช่น รับประทานของร้อน อาหารที่สะอาด สดใหม่ หลีกเลี่ยงผักผลไม้สดที่ล้างไม่สะอาด เนื้อสัตว์ดิบ และผลิตภัณฑ์ประเภทนม
ไม่ควรวางอาหารทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนาน ๆ ควรเก็บเข้าตู้เย็น เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
ควรทำความสะอาดบริเวณที่มีการเตรียมอาหารให้ถูกสุขลักษณะ รวมถึงการล้างมือให้สะอาด ขณะเตรียมอาหาร
ช่วยเหลือให้ไปห้องน้ำได้ทัน เพราะส่วนมากจะกลั้นอุจจาระไม่ได้
จัดท่าให้สุขสบายขณะขับถ่าย ควรให้นั่งถ่ายบนโถส้วม ไม่ควรนั่งยอง ๆ ช่วยเหลือทำความสะอาดหลังการขับถ่ายด้วยการชำระด้วยน้ำและซับให้แห้งทุกครั้ง
ดูแลผิวหนังบริเวณทวารหนักและฝีเย็บให้สะอาดแห้งอยู่เสมอ ให้นอนพักบนเตียง ให้ยาตามแผนการรักษาของแพทย์ (ถ้ามี)
ในระยะแรกอาจงดอาหาร เพื่อไม่กระตุ้นลำไส้ให้เคลื่อนไหวมากทำให้เสียน้ำและเกลือแร่มาก ให้ดื่มสารละลายผงเกลือแร่ น้ำหวานหรือน้ำอัดลมโดยเขย่าฟองให้หมดก่อนแล้วเติมเกลือเล็กน้อย
เมื่ออาการดีขึ้นไม่อาเจียนให้อาหารอ่อนย่อยง่ายกากน้อย รสอ่อน ไม่มีไขมัน ดื่มน้ำทดแทนการสูญเสียอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร
ถ้ามีอาการอาเจียนหรือถ่ายเหลวมากควรพบแพทย์เพื่อพิจารณาให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ สังเกตภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ เช่น กระหายน้ำมาก ผิวขาดความตึงตัว ใจสั่น ปวดท้อง เป็นตะคริว ซึม สับสน