Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้อหลังช่องคลอด - Coggle Diagram
การติดเชื้อหลังช่องคลอด
สาเหตุ :<3:
สาเหตุโดยตรง :red_flag:
เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่
ก่อนแล้ว
สาเหตุส่งเสริม :red_flag:
ภาวะทุพโภชนาการ
การตรวจทางช่องคลอดบ่อยๆ
การตรวจสอบเสียงหัวใจทารกผ่านทางช่องคลอด (internal fetal heart monitoring)
ระยะเจ็บครรภ์และระยะคลอดยาวนาน
การท าคลอดโดยสูติศาสตร์หัตถการหรือ
การคลอดยาก
เทคนิคการท าคลอดไม่ถูกต้องมีการแพร่
เชื้อเข้าไปโดยตรง
ทำการล้วงรก
การติดเชื้อเฉพาะที่ :<3:
การติดเชื้อเฉพาะที่ :red_flag:
การติดเชื้อของมดลูก (metritis) :!:
พบบ่อยที่สุด แบคทีเรียเฉพาะตัวที่เยื่อบุมดลูก(decidue)
อาจเกิดขึ้นตั้งแต่ 2 - 3 ชั่วโมง ถึง 2 - 3 วันหลังคลอด
อาการและอาการแสดง
มีไข้ หนาวสั่น ครั่นเนื้อครั่นตัว
หน้าท้องแข็งเกร็ง กดเจ็บ
บริเวณมดลูกมีหนองและน้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น
เกิดขึ้นในระยะ 24 ถึง 48 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
กลุ่ม A Beta hemolytic streptococcus
น้ำคาวปลาจะมีปริมาณน้อย และไม่มีกลิ่นเหม็น
การรักษา
โดยทั่วไปแล้วรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ เช่น ampicillin โดยเริ่มให้ยา
ทางหลอดเลือดดำ 4 - 8 กรัมต่อวัน จนไม่มีไข้ 24 - 48 ชั่วโมง
แล้วเปลี่ยนเป็นชนิดรับประทาน 4 - 5 วันและรักษาตามอาการ
ภาวะแทรกซ้อน
Salphingitis
• Oophoritis
• Peritonitis
• pelvic thrombophlebitis
การพยาบาล
1.Fowler’s position
2 ให้ยาบรรเทาปวดตามแนวทางการรักษาของแพทย์
3 สังเกตอาการแสดงอื่นๆ เช่น คลื่นไส้อาเจียน ท้องอืดมากขึ้น
4 ดูแลให้มารดาได้รับความสุขสบาย
5 แนะนำมารดาเกี่ยวกับอาหาร
การติดเชื้อของแผล (Wound infection ) :!:
ความหมาย
มักเกิดขึ้นในระยะหลังคลอดเนื่องจาก
มีการฉีกขาดของผิวหนังและเยื่อบุผิว
ซึ่งท าให้เชื้อแบคทีเรียผ่านเข้าไปสู่ร่างกายได้
อาการและอาการแสดง
1.มีอาการปวด บวม แดงร้อนของแผลที่อักเสบหรือมีแผลแยก
2 ขอบแผลนูนขึ้นมาซึ่งข้างในมักมีหนอง
3 หากไม่ได้รับการรักษาจะมีไข้และรู้สึกไม่สุขสบาย
4 ถ้าส่งห้องตรวจจะพบทั้งเชื้อแบคทีเรียชนิด Aerobic และ anaerobic
5 มีน้ำลักษณะเป็นสีน้ำล้างเนื้อซึมออกจากแผล
การรักษา
1 ให้ยาปฏิชีวนะชนิดกว้าง
2 ให้ยาแก้ปวด เพราะมารดาจะปวดมาก
3 ประคบแผลด้วยความร้อนหรือให้แช่ก้น
4 ให้ตัดไหมระบายหนองออกแล้วเย็บซ่อมแผลใหม่ให้เรียบร้อย
5 ในกรณีแผลฝี เย็บแยก ให้ดูแลแผลจนไม่มีลักษณะของการติดเชื้อ
การติดเชื้อลุกลามไปนอกมดลูก :red_flag:
การแพร่กระจายไปหลอดเลือดดำ :!:
ทำให้เกิด pelvic thrombophletis, femoral thrombophletis, pyemia จาก infected
emboli หลุดไปตามกระแสโลหิต กรณีแบคทีเรียเข้าสู่กระแส
เลือดมากๆ จะท าให้ช็อกจากการติดเชื้อได้ง่าย และท าให้เกิด
ปอดและเยื่อหุ้มปอดอักเสบ เนื้อปอดตายหรือฝี ในปอด
septic pelvic thrombophletis :!:
เป็นภาวะที่วินิจฉัยได้ยาก
ส่วนมากจะส่งไปในรายที่ไข้สูงลอยทั้งที่ให้ยาปฏิชีวนะอย่าง
เพียงพอ ในรายที่เป็ น femoral thrombophletis จะพบว่ามีขาบวม
ตึง กดไม่บุ๋ม ถ้าบวมน้อยขาจะเป็นสีน้ำตาล บวมมากขาจะเป็นสีขาว
การรักษา
ให้ heparin ถ้าตอบสนองได้ดีภายใน 48 - 72 ชั่วโมง
จะเป็ นการยืนยันการวินิจฉัยและจะต้องให้ต่อไปจนครบ 10 วัน
ถ้าไม่ตอบสนองต่อการรักษาต้องท าผ่าตัดทางหน้าท้อง
ในราย femoral thrombophletis ให้ยาปฏิชีวนะ ยาระงับ
ปวด บางรายอาจให้ heparin ให้นอนยกขาสูง ห้ามเดินจนกว่า
อุณหภูมิ จะลดลงมาแล้ว 1 สัปดาห์
การพยาบาลสตรีติดเชื้อหลังคลอด :<3:
การพยาบาลเพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังคลอด :red_flag:
1.1 แนะนำการปฏิบัติตัวระหว่างการตั้งครรภ์ให้มี
สุขภาพแข็งแรง มารับบริการฝากครรภ์ตามนัด
1.2 ควรดูแลให้ผู้คลอดได้พักผ่อน และได้รับสารน้ำ
อย่างเพียงพอ
1.3 บุคลากรสุขภาพในช่องคลอดควรผูกผ้าปิดปากปิด
จมูกและใช้อุปกรณ์ที่สะอาดปราศจากเชื้อ
1.4 ระมัดระวังป้องกันการบาดเจ็บและชอกช้ำของ
ช่องทางคลอด
1.5 ทันทีหลังคลอด ควรเปลี่ยนเสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน
และสิ่งอื่นที่ปนเปื้อนเลือด ปัสสาวะ หรืออุจจาระ
1.6 กระตุ้นให้ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนและ
หลังเปลี่ยนผ้าอนามัยและการขับถ่าย
1.7 แนะน าการท าความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ที่ถูกวิธี
ป้องกันการน้ำเชื้อ E.coli จากทวารหนักไปอู่แท้ฝีเย็บหรือเข้าไป
ในช่องคลอด
1.8 กระตุ้นให้ดื่มน้ำมากๆรับประทานอาหารที่มี
คุณค่าทางโภชนาการสูง
1.9 รักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาด
การพยาบาลทั่วไป :red_flag:
1) แยกมารดาที่ติดเชื้อออกจากมารดาหลังคลอดทั่วไป
2) ประเมินสัญญาณชีพและสังเกตอาการ
3) ดูแลให้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ดูแลความสุขสบายและ
เช็ดตัวเพื่อลดไข้
4) ดูแลให้ได้รับสารอาหารที่มีพลังงานสูง วิตามินและ
โปรตีน และสารน ้าอย่างเพียงพอ
5) ดูแลความสะอาดของร่างกายและสิ่งแวดล้อม
6) ดูแลการได้รับยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวดลดไข้และยาอื่นๆ
7) ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การพยาบาลเฉพาะ :red_flag:
กรณีที่มีการอักเสบที่บริเวณฝีเย็บและปากช่องคลอด :!:
ข้อที่1
ชำระล้างบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกและฝีเย็บด้วย
น้ำยาเชื้ออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และเน้นใช้สบู่และน้ำตาล้าง
ภายหลังการขับถ่ายทุกครั้ง รวมทั้งการเปลี่ยนผ้าอนามัยเมื่อ
เปียกชุ่ม จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้
ข้อที่2
ให้ hot sitz bath ด้วยน ้าลายด่างทับทิม วันละ
2 - 3 ครั้งๆ ละ 10 - 15 นาที และอบแผลฝี เย็บด้วย infra red
light วันละ 2 - 3 ครั้งๆ ละ 3 - 5 นาที เพื่อช่วยลดการอักเสบ
ติดเชื้อและแผลหายเร็วขึ้น
กรณีที่มีการอักเสบเยื่อบุโพรงมดลูก :!:
ข้อที่1
สังเกตการหดตัวรัดตัวของมดลูกอย่างน้อยทุก 8
ชั่วโมง ถ้าพบว่ามดลูกหดตัวไม่ดี ต้องคลึงมดลูกเพื่อขับก้อน
เลือดและน้ำคาวปลาที่คั่งค้างออกให้หมด
ข้อที่2
แนะนำให้มารดานอนคว่ำ ใช้หมอนรองบริเวณ
ท้องน้อย เพื่อให้น้ำคาวปลาไหลได้สะดวก อย่างน้อยวันละ 2
ครั้งๆ ละ 30 นาที
3.จัดให้นอนท่า Foeler’s position เพื่อส่งเสริมการไหล
ของน้ำคาวปลา
4) ควรวัดสัญญาณชีพและสังเกตภาวะแทรกซ้อนจาก
การขูดมดลูก
5) ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
กรณีที่มีการอักเสบที่เยื่อบุช่องท้อง :!:
1.จัดให้นอนท่า Fowler’s position
ข้อที่2
กรณีที่มีอาการท้องอืดและแน่นท้องมากอาจจะใช้
continuous gastric suction เพื่อดูดเอา gastric content สังเกต
ลักษณะและปริมาณของ gastric content
ข้อที่3
กรณีที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาปฏิชีวะนะ
แพทย์อาจเจาะเอาหนองออกทาง cul-de-sac หรือผ่าตัด
ระบายเอาหนองออกทางหน้าท้อง ให้การดูแลเช่นเดียวกับ
ผู้ป่ วยก่อนและหลังผ่าตัดทั่วไป
มดลูกเข้าอู่ช้า (Sub involution) :<3:
ความหมาย :!:
เป็ นภาวะที่กระบวนการกลับคืนสู่สภาพเดิมของมดลูกใช้
เวลานาน หรือกระบวนการนั้นหยุดไปก่อนที่มดลูกจะกลับคืนสู่สภาพ
เดิมอย่างสมบูรณ์
อาการและอาการแสดง :!:
น้ำคาวปลาออกนานหรือมากกว่าปกติ น ้าคาวปลาเป็นสีแดง
(persistent red lochia) มีกลิ่นเหม็น (foul lochia) อุณหภูมิร่างกายสูง
และอาจเกิดการตกเลือดระยะหลัง (late PPH)
การพยาบาลเพื่อป้องกันมดลูกเข้าอู่ช้า :!:
การทำคลอดรก ตรวจให้แน่ใจว่ารกคลอดครบ
ส่งเสริมให้น้ำคาวปลาไหลสะดวก เช่น กระตุ้นให้ลุกจากเตียง
โดยเร็วให้ลูกเดินบ่อยๆ ให้นอนคว่ำ เป็นต้น
ส่งเสริมให้เลี้ยงทารกด้วยน้ำนมมารดา
ถ้าไม่มีอาการกดเจ็บที่มดลูก น ้าคาวปลาไม่มีกลิ่นเหม็น มีเลือดออก
น้อย ให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกตามแผนการรักษา
ถ้ามีอาการกดเจ็บ อุณหภูมิสูง และน ้าคาวปลามีกลิ่นเหม็น ให้สงสัย
ว่าเยื่อบุมดลูกอักเสบ
กรณีที่มีเศษรกค้าง จ าเป็ นต้องขูดมดลูกเพื่อเอาเศษรกออก
Septic pelvic Thrombophlebitis :<3:
มักติดเชื้อหลังคลอดในวันที่14-15 หลังคลอด
สาเหตุ
มีการเพิ่มไฟบริเจน
หลอดเลือดดำส่วนปลายขยายตัว
มารดาถูกจำกัดกิจกรรม
การพยาบาล
การอักเสบของหลอดเลือดด าบริเวณผิว (SVT)
มีประวัติเส้นเลือดด ําโป่งพอง (Varicosities)
• มักเกิดขึ้นกับหลอดเลือด Saphenous vein
• เริ่มมีอํากํารแสดงวันที่ 3-4 หลังคลอด
• มีอํากํารร้อนและแดงเฉพําะที่หลอดเลือดที่มี
ควํามผิดปกติเท่ํานั้น
• บวมแข็งกดเจ็บบริเวณขาข้างที่หลอด
เลือดด าอุดตัน
การอุดตันของหลอดเลือดด าชั้นลึก (DVT)
มีป ระวัติกํา รเกิดคว ํามผิดปกติของลิ่มเลือด
(Thrombosis)
• มักเกิดขึ้นกับหลอดเลือดด ํา Femoralvein, pelvic
vein
• เริ่มมีอํากํารแสดงประมําณวันที่ 10 หลังคลอด
• มีไข้หนําวสั่น ซีด เย็น ขําบวม หรือเรียกว่ํา Milk
leg
• ผลตรวจ Homan’s signให้ผลบวก เจ็บปวด
บริเวณเท้า ขาจนถึงขาหนีบ
การรักษาพยาบาล
การอักเสบของหลอดเลือดด าบริเวณผิว (SVT)
ให้นอนพักยกเท้ําสูงกว่ําระดับ
หัวใจ
• สวมถุงน่องที่เป็นผ้ํายืด
• ประคบด้วยควํามร้อน
• ให้ยําแก้ปวดตํามควํามต้องกําร
การอุดตันของหลอดเลือดด าชั้นลึก (DVT)
จ ํากัดกํารเคลื่อนไหวโดยนอนพักบนเตียงโดยยก
เท้ําสูงกว่ําระดับหัวใจ
• ใช้ควํามร้อนชื้นประคบ (Moist heat)
• ใช้ยําทํางหลอดเลือดด ํา เช่น Heparin Warfarin
หรือให้ยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะถ้ามีไข้สูง
• เจําะเลือดเพื่อตรวจหํา PT , PTT
• ไม่สวมถุงน่องที่เป็นผ้ายืดเพื่อประคองบริเวณ
ขาก่อนมี Ambulation
• ให้ยํา Warfarin กลับไปรับประทานต่อที่บ้าน