Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 กฏหมายวิชาชีพการพยาบาล, นางสาว ปิยวรรณ แสวงวงษ์ เลขที่ 71 รุ่น…
บทที่ 4 กฏหมายวิชาชีพการพยาบาล
4.4 การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ
คือ
การคุ้มครองผู้รับบริการหรือผู้บริโภค
การสงวนวิชชีพให้กับบุคลากรในวิชาชีพ
การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพให้บริการอย่างมีมาตรฐาน
มาตรการควบคุม
ผู้ประกอบวิชาชีพ
ให้มีข้อกำหนดจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
มีมาตรการลงโทษ ในกรณีที่ละเมิดข้อกำำหนดวิชาชีพ
ห้ามผู้ไม่มีสิทธิคือ ไม่มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชชาชีพ
ข้อยกเว้น ผู้ไม่มีใบอนุญาต
ประกอบวิชาชีพแต่สามารถประกอบวิชาชีพได้
การกระทำต่อตนเอง
การช่วยเหลือดูแลบุคคลอื่นให้พ้นจากความทุกข์ทรมาน
ไม่ฉีดยาหรือสารใดๆเข้าไปในร่างกาย
ไม่ให้ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
ไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนใดๆ
นักเรียน นักศึกษา ในสถาบันที่สภารับรอง ภายใต้การนิเทศจากผู้ประกอบวิชาชีพ
ผู้ประกอบโรคศิลปะ ที่ทำตามเกณฑ์การประกอบวิชาชีพตนแต่เข้าข่ายการประกอบวิชาชีพพยาบาล
ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพในประเทศของตน สภาจะออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ไม่เกิน 1 ปี
ข้อกำหนดจริยธรรมวิชาชีพ
(4 หมวด 38 ข้อ)
หมวด 2 การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวดที่ 3 การโฆษณาการประกอบวิชาชีพ
หมวด 1 หลักทั่วไป
หมวดที่ 4 ปกิณกะ
กระบวนการพิจารณาความผิดของ
ผู้ประพฤติผิดจริยธรรม
อายุความการกล่าวหา กล่าวโทษ
สภาส่งเรื่องให้อนุกรรมการจริยธรรมพิจารณา เมื่อได้ข้อมูลส่งคณะกรรมการสภาพิจารณาตัดสินว่าคดีมีมูล
กรรมการสภากล่าวโทษ ค่อสภาการพยาบาล
สภาส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการสอบสวนพิจารณาสอบสวน เมื่อได้ข้อมูลส่งคณะกรรมการสภาพิจารณาตัดสิน
ผู้เสียหาย กล่าวหาต่อสภาการพยาบาล
คณะกรรมการสภาตัดสิน
อำนาจหน้าที่ของอนุกรรมการจริยธรรมและอนุกรรมการสอบสวน
อนุกรรมการจริยธรรม
เก็บรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐานข้อเท็จจริงว่าคดีมีมูลหรือไม่
อนุกรรมการสอบสวน
สอบสวนในรายละเอียดหลังจากจากคณะกรรมการสภาตัดสินว่าคดีมีมูล
อายุความการกล่าวหา
กล่าวโทษ
มีกำหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ
มีกำหนด 1 ปี นับแต่วันรู้ตัวผู้กระทำผิด
การพิจราณาสอบสวน กฏหมายให้สิทธิ
คัดค้านการแต่งตั้งอนุกรรมการได้
โดยบุคคล
ผู้มีเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา
คู่สมรส หรือเป็นญาติเกี่ยวข้องกับบุพการี ผู้สืบสันดาน
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
หรือพี่น้องร่วมบิดามารดากับผู้ถูกกล่าวหา กล่าวโทษ
ผู้รู้เห็นเหตุการณ์
การคัดค้านต้องยื่นต่อคณะกรรมการภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันทราบคำสั่งของคณะอนุกรรมการสอบสวน หรือรับทราบเหตุแห่งการคัดค้านนั้น (ในประเด็นนี้หากมาทราบภายหลัง 7วัน สามารถคัดค้านการแต่งตั้งได้)
เรื่องขึ้นสู่การพิจารณาคดีของสภาการพยาบาล จะต้องดำเนินคดีไปจนเสร็จสิ้น การยอมความไม่มีผลต่อการพิจารณาของสภาการพยาบาล มีสิทธิเพียงนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจง และให้ปากคำ ไม่มีสิทธิแต่งตั้งทนายสู้คดี
ผลการลงมติของคณะกรรมการสภา การพิจารณาคดีเป็นคำสั่งให้นายกสภาลงนาม คำสั่งสภาถือเป็นที่สุด คือ อุทธรณ์ไม่ได้
เมื่อผู้ประกอบวิชาชีพรับทราบคำสั่งลงโทษ
การพัก ต้องหยุดประกอบวิาชาชีพันที
การครบกำหนดนับตั้งแต่วันรับทราบคำสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต
การเพิกถอนใบอนุญาตต้องส่งคืนใบอนุญาตภายใน 15 วัน ต่อเลขาธิการสภา
สภาการพยาบาลมีสิทธิเพิ่มโทษจากพักใช้เป็นเพิกถอนได้โดยอัตโนมัติ
ภายใต้เเงื่อนไข
ถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แต่ไม่หยุดประกอบวิชาชีพตามกฏหมาย เมื่อถูกศาลสั่งจำคุก เฉพาะโทษจำคุกเท่านั้นทำให้้พิกถอนใบอนุญาตโดนอัตโนมัติ
การขอขึ้นทะเบียนใหม่ภายหลัง
ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ระยะเวลาต้องพ้นโทษ 2 ปี นับวันที่สภาการพยาบาลมรคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต
ถ้าถูกปฏิเสธครั้งที่ 1 สามารถยื่นขอครั้งที่ 2 ภายหลังครบ 1 ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการสภามีคำสั่งปฏิเสธปฏิเสธคำขอครั้งแรก
พนักงานเจ้าหน้าที่
ในการปฏิบัติหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
สถานที่ที่กฏหมายกำหนด
สถานที่มีเหตุผลสมควรเชื่อว่ามีการประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์
สถานที่สอบสวนหรือเชื่อว่าทำการสอนวิชาการพยาบาล การผดุงครรภ์
สถานที่ประกอบการที่มีผู้ประกอบวิชาชีพ การผดุงครรภ์หรือการพยาบาลปฏิบัติงานอยู่
บทกำหนดโทษ
โทษทางอาญา
ต้องพ้นจากการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้วย และต้องส่งคืนใบอนุญาตต่อเลขาธิการภายใน 15 วัน ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 1000 บาท
การไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสาร ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกินน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บุคคลที่พ้นจากสมาชิกสามัญ จากการตาย ลาออก ขาดคุณสมบัติ
ผู้ไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงาน ระวางโทษไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาต จำคุกไม่เกิน 2 ปี และหรือปรับไม่เกิน 2000 บท
การเพิ่มโทษทางวิชาชีพตามกฏหมาย
มาตรา44 จากพักใช้เป็นเพิกถอน เกิดในกรณีระหว่างถูกพักใช้และเพิกถอนไปประกอบวิชาชีพหรือแสดงด้วยวิธีใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพ
มาตรา 43 การแสดงด้วยวิธีใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังนั้นระหว่างพักใช้ (เป็นโทษชั่วคราว ไม่ต้องส่งคืนในอนุญาต) ไม่สามารถแต่งชุดพยาบาลในหอผู้ป่วยได้ นอกจากนี้ระหว่างถูกพักใช้ไปปฏิบัติและถูกคำสั่งพิพากษาจำคุกด้วยกรณีอื่น เช่น ให้การพยาบาลโดยประมาทเลินเล่อ ให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตายไม่เข้าเกณฑ์การเพิ่มโทษตามมาตรา 44
บทเฉพาะกาลเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติวิชาชีพ พ.ศ.2540
ผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ตามข้อ 2 แต่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรไม่น้อยกว่า 3ปี หรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าอนุปริญญาในสาขาการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์จากสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ก่อนพระราชบญญัติวิชาชีพ พ.ศ.2540 บังคับใช้ เมื่อสภาการพยาบาลตรวจสอบหลักสูตร และผ่านการสอบความรู้แล้วมีสิทธิขึ้นทะเบียน และรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
ยกเลิกค่าธรรมเนียมเก่าและใช้อัตราค่าธรรมเนียมใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้แทน
ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันในสาขาการพยาบาล การผดุงครรภ์ และสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ หรือใบอนุญาตที่ออกตามพระราชบัญญัติวิชาชีพ พ.ศ.2528 มีอายุต่อไปอีก 5 ปี นับตั้งแต่วันที่กฏหมายบังคับใช้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการณ์ตามพระราชบัญญัตินี้
ให้กรรมการทุกประเภทตามพระราชบัญญัติวิชาชีพ พ.ศ.2528 ดำรงอยู่จนครบวาระ
ปัจจุบัน พ.ศ.2545 เมื่อครบกำหนด 5 ปี บทเฉพาะกาลที่กำหนดไว้มีผลสิ้นสุดลงใบอนุญาตทุกประเภท ได้แก่ ใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ ในสาขาการพยาบาล การผดุงครรภ์ และสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ หรือใบอนุญาตที่ออกตามพระราชบัญญัติวิชาชีพ พ.ศ.2528 มีผลสิ้นสุดลลงต้องต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ โดยครั้งแรกต้อให้โดยคงคุณสมบัติเฉพาะการเป็นสมาชิกสามัญและเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ แต่ในระหว่าง 5 ปีต่อไป(หลังพ.ศ.2545)ต้องสะสมหน่วยคะแนนความรู้ 50 หน่วยคะแนนเพิ่มด้วย
พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2540
เกณฑ์สากลของความเป็นวิชาชีพ
สามารถให้บริการแก่ผู้รับบริการได้มาตรฐานและตามบรรทัดฐานของวิชาชีพนั้น
มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ เพื่อปกป้องผู้รับบริการ
มีศาสตร์เฉพาะสาขาาของตน และมีการอบรมในระบบวิชาชีพที่ยาวนานพอสมควร ถึงขั้นอุดมศึกษา
มีเอกสิทธิ์ในการทำงาน
อาชีพนั้นมีความจำเป็นต่อสังคม
มีองค์กรวิชาชีพ ทำหน้าที่ควบคุมสมาชิกของวิชาชีพ เพื่อคุ้มครองสมาชิกและผู้รับบริการ
4.5 พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาล
กฏหมายวิชาชีพ
เป็นเกณฑ์สากลข้อหนึ่งของความเป็นวิชาชีพ อาศัยหลักเกณฑ์ของกฏหมายควบคุมสมาชิกผู้ประกอบวิชชาชีพให้ปฏิบัติตามมาตรฐานที่วิชชาชีพกำหนด
พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิชาชีพการ
พยาบาลและการผดุงครรภ์(ฉบับที่2)พ.ศ.2540
ความสำคัญของกฏหมายวิชาชีพ
เกณฑ์สากลของวิชาชีพ
3.สามารถให้บริการแก่ผู้รับบริการได้มาตรฐานวิชาชีพนั้น
4.มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ เพื่อปกป้องผู้รับบริการ
2.มีศาสตร์เฉพาะสาขาของตน และมีการอบรมในระบบวิชาชีพ
5.มีเอกสิทธิ์ในการทำงาน
1.อาชีพนั้นมีความจำเป็นต่อสังคม
6.มีองค์กรวิชาชีพ ทำหน้าที่ควบคุมสมาชิกของวิชาชีพ
นิยามคำศัพท์ที่สำคัญ
การพยาบาล
เป็นการกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือเมื่อ
เจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ
การผดุงครรภ์
การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือหญิงมีครรภ์หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด รวมถึงการตรวจ การทำคลอด การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ระยะคลอดและระยะหลังคลอด
การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ความหมาย
การปฏิบัติหน้าที่ พยาบาลต่อบุคคล
ครอบครัว ชุมชนโดยการกระทำ
1.การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ
2.การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล รวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อ
แก้ไขปัญหาความเจ็บป่วย
3.การกระทำตามวิธีที่กำหนดไว้ในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค
4.การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาลในการประเมินสภาพ
การวินิจฉัยปัญหา การวางแผน การปฏิบัติการ และการประเมินผล
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ความหมาย
การปฏิบัติหน้าที่การผดุงครรภ์ต่อหญิงมีครรภ์
หญิงหลังคลอดทารกแรกเกิด และครอบครัว
1.การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
2.การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอดและทารกแรกเกิด
3.การตรวจ การทำคลอด และการวางแผนครอบครัว
4.การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
5.ทั้งนี้โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์ และศิลปะการผดุงครรภ์ในการประเมินสภาพ การพยาบาล วินิจฉัยปัญหา การวางแผนการปฏิบัติการพยาบาล และการ ประเมินผล
พนักงานเจ้าหน้าที่
ความหมาย
ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ มีอำนาจหน้าที่
1.ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบใบอนุญาต ค้นหรือยึดหลักฐานการกระทำที่ผิดกฎหมายในสถานที่นั้นได้โดยไม่ต้องขอให้ศาลออกหมายค้น
2.ในการเข้าตรวจค้น พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัว
3.ในการตรวจค้นให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญา โดย
ให้ผู้ที่ไม่ให้ความสะดวกมีความผิด ได้รับโทษตามที่กำหนด
ความหมายของการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
การอนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมมีสิทธิในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
พ.ร.บ.สถานพยาบาลที่อนุญาตให้เปิดสถานพยาบาล
ตรวจรักษาโรคเบื้องต้นจะผ่านการบังคับใช้ผู้ปฏิบัติการพยาบาลและบุคลากรอื่นอาศัยการปฏิบัติงานภายใต้กฎหมายที่เป็นระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
กำหนดให้มีสภาการพยาบาล
ฐานะของสภาการพยาบาล(มาตรา6)
2.การตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ(พ.ร.บ.) ทำให้ไม่สามารถถูกฟ้องล้มละลายและไม่สามารถเลิกกิจการเหมือนเช่นนิติบุคคลทั่วไป
1.เป็นนิติบุคคล ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
นิติบุคคลตามกฎหมายแพ่ง
และพาณิชย์
1.เป็นบุคคลสมมุติตามกฎหมาย มีสภาพเหมือนบุคคลทั่วไป ยกเว้น สิทธิที่บุคคลจริงจะมีได้
2.นิติบุคคลทำความผิด ผู้แทนของนิติบุคคลร่วมรับผิดในฐานะตัวการ และนิติบุคคลนี้ถูกฟ้องล้มละลายได้
วัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล (มาตรา7)
อำนาจและหน้าที่ของสภาการพยาบาล (มาตรา8) รายได้ของสภาการพยาบาล(มาตรา9)
1.งบประมาณแผ่นดิน
2.ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่างๆ
3.จากการหารายได้ของสภาการพยาบาล โดยใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล
4.รายได้จากเงินบริจาค รวมทั้งดอกผลของรายได้ต่างๆ
ตราสภาการพยาบาล
ตราตามกฏหมายเป็นรูปวงกลม
เป็นนิติบุคคล
มีตะเกียงตั้งอยู่บนฐานของดอกบัว
มีคำว่าสภาการพยาบาลเหนือตะเกียงในวงกลม
มีพ.ศ. 2528 อยู่ที่ฐานของดอกบัว
สมาชิกและสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย(หมวด2มาตรา11-13)
ประเภทของสมาชิก มี 2 ประเภท
1.สมาชิกสามัญ
2.สมาชิกกิตติมศักดิ์
โรคต้องห้ามตามข้อบังคับ
ของสภาการพยาบาล
1.โรคจิต โรคประสาท
2.การติดยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรง ติดสุราเรื้อรัง
3.โรคในระยะปรากฏอาการ
เป็นที่น่ารังเกียจต่อสังคม
โรคเอดส์
โรคคุดทะราด
โรคเท้าช้าง
กามโรค
สมาชิกกิตติมศักดิ์มีคุณสมบัติ
ของสมาชิกกิตติมศักดิ์ มาตรา 11(2)
1.เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่สภาการพยาบาลเห็นสมควรเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
2.จำนวนอายุ การเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายไม่ได้กำหนด
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ(มาตรา12)
การพ้นจากสภาพสมาชิกสามัญ(มาตรา13)
1.ตาย
2.ลาออก
3.ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 11(1)
การพ้นจากสมาชิกสามัญ การประกอบวิชาชีพสิ้นสุดลง จะต้องส่งคืนใบอนุญาตฯ ต่อเลขาธิการ ภายใน 15 วันหากไม่ส่ง มีโทษปรับไม่เกิน 1000 บาท
การขึ้นทะเบียน
เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
1.สำเร็จในประเทศ คนสัญชาติไทย
และมิใช่สัญชาติไทย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
2.สำเร็จในต่างประเทศ
คนสัญชาติไทย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตาที่กำหนด
ไม่ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
คนมิใช่สัญชาติไทย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศ 6 เดือน นับถึงวันสอบสมัครสอบวันสุดท้าย
เกณฑ์สำหรับผู้ไม่ขึ้นทะเบียน
ทันทีที่สำเร็จการศึกษา
1.สำเร็จก่อนและหลัง 6 กันยายน 2528
กรณีปฏิบัติงานโรงพยาบาลของรัฐ ครบ 2 ปี
สมัครเป็นสมาชิกสามัญและขอขึ้นทะเบียนทันทีไม่ต้องขอสอบ
ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลเอกชน ต้องผ่าน
การฝึกอบรมทางวิชาการตามที่สภาฯกำหนด
2.หลัง 24 ธันวาคม 2540
สมัครเป็นสมาชิกสามัญและขอสอบขึ้นทะเบียน
ประเภทของใบอนุญาต มี 3 ประเภท
1.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้น 1 และ 2
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้น 1 และ 2
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้น 1 และ 2
การพ้นจากการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
เงื่อนไข
1.พ้นจากการเป็นสมาชิกสามัญ
2.ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
3.ใบอนุญาตหมดอายุ
คณะกรรมการสภาการพยาบาล
ประเภทของคณะกรรมการฯ
กรรมการสภาฯ
จากการเลือกตั้ง
จำนวน16 คน
จากการแต่งตั้ง
จำนวน 16 คน
กรรมการที่ปรึกษา
จำนวนไม่เกิน 8 คน
ต้องได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ก่อน (หากเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ) หรือเลือกจากสมาชิกสามัญ
บางครั้งคระกรรมการจะมีจำนวน 33 คน หากนายกสภาการพยาบาลเลือกเลขาฯที่มาจากสมาชิกสามัญไม่ได้เลือกจากกรรมการสภาการพยาบาล
สรุปประเด็นสำคัญ เรื่อง
คณะกรรมการสภาการพยาบาล
1.นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการสภาโดยตำแหน่ง
2.ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขมีสัดส่วนมากที่สุด กรรมการสภา ที่มาจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขไม่ต้องประกอบวิชาชีพพยาบาล
3.ถ้านายกสภาฯเลือกเลขาธิการสภาจากสมาชิกสามัญ กรรมการ จะมีจำนวน 33 คน
4.การเลือกตั้งนายกสภาฯ เป็นการเลือกตั้งทางอ้อม
5.กรรมการสภาฯ เลือกคณะผู้บริหารฯ ได้แก่ นายกสภา อุปนายกสภา คนที่1 และ คนที่ 2
6.นายกสภา เลือก เลขาธิการสภา รองเลขาธิการสภา ประชาสัมพันธ์ เหรัญญิก
7.วาระของกรรมการ 4 ปี ตามวาระที่มาของกรรมการว่าแต่งตั้ง
8.นายกสภาฯถอดถอนเลขาธิการได้
กรรมการพ้นจากตำแหน่ง
ก่อนวาระได้ในกรณต่อไปนี้
1.ขาดคุณสมบัติตามมาตรา13
ตาย
ลาออก
ขาดคุณสมบัติตามมาตรา11(1)
2.ขาดคุณสมบัติตามาตรา 18
1.เป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
2.ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
3.ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
3.ลาออก
ความแตกต่างระหว่างคุณสมบัติ
ของกรรมการสภาและสมาชิกสามัญ
1.การไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
2.ไม่เคยถูกพักใช้ เพิกถอน
กรรมการจะดำรงตำแหน่งมากกว่า 2 วาระ ติดต่อกันไม่ได้
การเลือกตั้งกรรมการ
แทนตำแหน่งที่ว่างลง
กรรมการว่างลง=หนึ่งในสองหรือน้อยกว่าของกรรมการจากการเลือกตั้ง (16)มากกว่าหรือเท่ากับ 8 เลือกสมาชิกสามัญขึ้นแทน
กรรมการว่างลง มากกว่าหนึ่งในสอง (16) คือ มากกว่า 8 คน ต้องจัดให้สมาชิกสามัญเลือกตั้งกรรมการขึ้นแทนภายใน 90 วัน
ถ้าอายุกรรมการเหลือต่ำกว่า 90 วัน ให้รอเลือกตั้งใหญ่พร้อมกัน
หน้าที่กรรมการบริหาร
สภาการพยาบาล
นายกสภาฯ
1.ดำเนินกิจการของสภาการพยาบาล
2.เป็นผู้แทนสภาในกิจการต่างๆ
3.เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการเลขาธิการสภา
เลขาธิการสภา
1.ควบคุมรับผิดชอบงานธุรการทั่วไป
2.ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่สภาฯ
3.รับผิดชอบในการดูแลทะเบียนต่างๆ
4.ควบคุมทรัพย์สินของสภาฯ
5.เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
สภานายกพิเศษ
1.รักษาการตามพระราชบัญญัติ(มาตรา 5)
2.แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
3.ออกกฎกระทรวงและกำหนดค่าธรรมเนียมต่างๆ(มาตรา 5)
4.ให้ความเห็นชอบมติของคณะกรรมการในเรื่อง
1.การออกข้อบังคับสภาฯ
2.การกำหนดงบประมาณของสภาฯ
3.การให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพ
4.การวินิจฉัยชี้ขาด ขั้นลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพ
การดำเนินกิจการของ
คณะกรรมการสภาฯ
1.การประชุมของคณะกรรมการ
สภาการพยาบาล
เรื่องทั่วไป กรรมการอย่างน้อย=16คน (หนึ่งในสอง)
เรื่องสำคัญ ที่ใช้กรรมการเต็มคณะมี 2 กรณี
ก.การให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพ เพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา11(1) ข้อ ค ง จ
ข.การพิจารณาทบทวนการลงมติ
ในเรื่องที่สภานายกพิเศษยับยั้งมติของสภาการพยาบาล (จะต้องมีคำสั่งไม่เห็นชอบภายใน15วัน นับแต่ได้รับทราบมติของสภาฯไม่อย่างนั้นมตินั้น จะมีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติ)เมื่อมติสภาฯถูกยับยั้ง คณะกรรมการสภาฯต้องเรียกประชุม คณะกรรมการเต็มคณะภายใน 30 วัน
หาก กรรมการสภายืนยันมติเดิมด้วยเสียง 2/3ของทั้งหมด ให้มตินั้นมีผลบังคับใช้ (จำนวน กรรมการเต็มคณะคือทุกคนมาประชุมทั้งหมด)
2.การลงมติ
กรรมการ 1 คน มี 1 เสียง
2.1เรื่องทั่วไป ถือเสียงข้างมาก ถ้าเสียงเท่ากันให้ประธานชี้ขาด
2.2เรื่องสำคัญ คะแนนเห็นชอบ จะต้องมี 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งคณะ คือ ไม่ต่ำกว่า 22 เสียง
การประชุมของกรรมการสภาฯ ต้องเป็นการประชุมลับ บุคคลภายนอกจะ
เข้าได้ต้องมีหนังสือเชิญจากสภาหรือประธานในที่ประชุมอนุญาต
3.การขอความเห็น
ชอบจากสภานายกพิเศษ
3.1สภานายกพิเศษ เห็นด้วย
อาจมีคำสั่งเห็นชอบ หรือไม่แทงคำสั่งใดๆใน15วัน ถือว่าเห็นชอบ
3.2สภานายกพิเศษ ไม่เห็นชอบ
แทงคำสั่งไม่เห็นชอบ ต้องภายใน15วัน
3.3การลงมติแย้งสภานายกพิเศษ
ต้องทำภายใน30วัน
ใช้กรรมการสภาเต็มคณะลงมติด้วยเสียง 2/3
4.การพ้นจากตำแหน่ง
ของกรรมการที่ปรึกษา
กรรมการที่ปรึกษาจากกรรมการชุดใดพ้นจากตำแหน่งตามวาระกรรมการชุดนั้น
นางสาว ปิยวรรณ แสวงวงษ์ เลขที่ 71 รุ่น 36/1 612001072
อ้างอิง : อาจารย์ ธิดารัตน์ ขาวเงินยวง.(2563).วิชาจริยศาสตร์และกกฏหมายวิชาชีพทางการพยาบาล.บท4.5พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาล.สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2563 จาก
https://drive.google.com/file/d/1zCHXoxObthF1SOx5PsaT7S_gDQJqW-Pq/view
อาจารย์ ธิดารัตน์ ขาวเงินยวง.(2563).วิชาจริยศาสตร์และกกฏหมายวิชาชีพทางการพยาบาล.บท4.4การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ.สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2563 จาก
https://drive.google.com/file/d/16XVE8-6CzxcD5HM6M3WBdZl5UPc358Xb/view