Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคกลากน้ำนม (Pityriasis alba), big, pityriasis - Coggle Diagram
โรคกลากน้ำนม (Pityriasis alba)
กลากน้ำนม จะพบในเด็กอายุประมาณ 3-16 ปี ลักษณะผื่นเป็นรอยด่างขาวราบขอบเขตไม่ชัดเจน ไม่มีขุยหรืออาจมีขุยบาง ๆ ไม่มีอาการใด ๆ มักพบตามใบหน้า ลำตัว คอ หรือแขนขา จำนวนอาจมีวงเดียว หรือหลาย ๆ วงก็ได้
สาเหตุ
ไม่ทราบแน่ชัด แต่อาจเกิดจากการแพ้แสงแดด แพ้คลอรีน อาการนี้พบบ่อยในเด็กที่ว่ายน้ำในสระกลางแดดจ้า
กลุ่มบุคคลที่เสี่ยงต่อการเป็นกลากน้ำนมได้ง่าย
เด็กและวัยรุ่นในช่วงอายุ 6-12 ปี พบการเกิดโรคได้ประมาณ 2-5% โดยเฉพาะในเด็กที่มีประวัติเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังและการอักเสบของผิวหนังที่มีอาการคันร่วมด้วย
เด็กที่อาบน้ำอุ่นบ่อย ๆ
ผู้ที่โดนแดดบ่อย ๆ โดยไม่ทาครีมกันแดด
การวินิจฉัยโรคกลากน้ำนม อาจำทำได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
การตรวจด้วยแสงอัลตราไวโอเลต (Wood Lamp Examination) เป็นการใช้ไฟส่องไปยังบริเวณผิวหนังที่เป็นรอยด่างด้วยเครื่องมือพิเศษ หากพบว่าเป็นโรค จะทำให้มองเห็นผิวบริเวณนั้นเรืองแสง
การขูดตัวอย่างผิวหนังส่งตรวจ (Skin Scraping) โดยแพทย์จะขูดเอาตัวอย่างผิวบริเวณที่เป็นรอยด่างส่งไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูชนิดของเชื้อรา
การตัดชิ้นเนื้อ (Skin Biopsy) โดยตัดชิ้นผิวหนังที่เป็นรอยด่างบางส่วนออกมาตรวจวิเคราะห์ ซึ่งช่วยให้ทราบว่าเกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังและจำนวนเม็ดสีที่ลดลง แต่มักไม่ต้องตรวจถึงขั้นนี้
การรักษาโรคกลากน้ำนม
โดยทั่วไปโรคกลากน้ำนมสามารถหายได้เอง แต่อาจใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปีจนกว่าสีผิวจะกลับมาเป็นปกติ
ทามอยส์เชอไรเซอร์หรือครีมทาผิวบริเวณที่เป็นรอยด่าง เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ไม่แห้ง ลอกเป็นขุยมากขึ้น
ในรายที่เกิดอาการคันรุนแรง อาจต้องใช้ยาทาผิวช่วยบรรเทา ซึ่งมีทั้งแบบมีสเตียรอยด์อ่อน ๆ และไม่มีสเตียรอยด์เป็นส่วนผสม เช่น ยาไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) ยาพิเมโครลิมัส (Pimecrolimus) ยาทากลุ่มต้านแคลซินูริน (Calcineurin Inhibitors) ทาโครลิมัส (Tacrolimus)
ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกชนิดสำหรับผิวแพ้ง่าย
ไม่ควรอาบน้ำที่มีอุณหภูมิอุ่นเกินไป และเลือกใช้สบู่ที่อ่อนโยนต่อผิว
ภาวะแทรกซ้อนของโรคกลากน้ำนม
โรคกลากน้ำนมแทบไม่พบภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยอาจพบปัญหาเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกที่ตัวโรคส่งผลให้เกิดความไม่สวยงามบนผิวหนัง รวมทั้งผิวหนังที่จะไวต่อแสงแดดมากขึ้นเมื่อต้องโดนแสงแดดเป็นเวลานาน
การป้องกันโรคกลากน้ำนม
โรคกลากน้ำนมไม่สามารถป้องกันได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากสาเหตุการเกิดมาจากหลายปัจจัย แต่สามารถลดความเสี่ยงของโรคได้โดยการดูแลผิวให้ชุ่มชื่นด้วยการทาครีมอยู่เสมอ ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดเป็นประจำ เพื่อช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้าย และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว