Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 5 การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดา และทารกที่มีปัญหาสุขภาพร่วมกับ…

- - - - การเสียเลือดหลังคลอด
      - การคลอดยาก
      - น้ำคร่ำมากกว่าปกติ
      - การคลอดก่อนกำหนด
      - การติดเชื้อ
      - ความดันโลหิตสูงจากการตั้งครรภ์
      - Diabetic nephropathy
      - Diabetic retinopathy
    - - Abortion
      - Malformation
      - Fetal death or Stillbirth
      - Macrosomia
      - IUGR
    - - ภาวะน้ำดีในเลือดสูง
      - ภาวะเลือดแดงข้น
      - ความผิดปกติของหัวใจ
      - ภาวะแคลเซี่ยมในเลือดต่ำ
      - ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำในทารก
      - การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
      - ภาวะหายใจลำบาก
- - - - หากผลการตรวจตั้งแต่ 140-199 mg/dlจะนัด1 สัปดาห์มาตรวจวินิจฉัยเบาหวาน
      - หากผลการตรวจตั้งแต่ 200 mg/dl จะวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์เลย
  - - - ถ้า FBS มากกว่า 92 มก./ดล. แต่น้อยกว่า 126 มก./ดล. ให้วินิจฉัยเป็นเบาหวานขณะ
        ตั้งครรภ์ถ้าปกติทั้งหมด ให้ตรวจด้วย 75 กรัม OGTT ซ้ำในช่วงอายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์
- - - - การให้คำปรึกษาก่อนการตั้งครรภ์
        
        ความจำเป็นที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลโดยการฉีดอินซูลิน 3-5 ครั้ง
        
        การตรวจระดับน้ำตาลด้วยตนเอง
        
        ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นต่อมารดาและบุตร โดยเฉพาะถ้าควบคุมเบาหวานไม่ดี
        
        ข้อห้ามในการตั้งครรภ์ ถ้ามีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น nephropathy with azotaemia, severe hypertension, ischemic heart disease
      - สภาพทางเศรษฐกิจและสังคม
      - การประเมินพยาธิสภาพต่างๆของหญิงตั้งครรภ์
      - การควบคุมระดับกลูโคสให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีก่อนการตั้งครรภ์
      - การออกกำลังกาย
    - - ควบคุมระดับน้ำตาลให้คงที่
      - การควบคุมอาหาร
      - การให้โฟลิกควรให้ต่อเนื่องเพื่อป้องกันภาวะ Neural tube defect
      - ส่งปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อประเมินหา Diabetic retinopathy และเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
    - - ความต้องการพลังงานจะเพิ่มขึ้นใน ไตรมาสที่ 2
      - ควรมีการอัลตราซาวด์เมื่ออายุครรภ์ 18-20 สัปดาห์
      - อัลตราซาวด์เมื่ออายุครรภ์ 24 สัปดาห์ เพื่อประเมินการเจริญเติบโตของทารก
    - - ความต้องการพลังงานจะเพิ่มขึ้น
      - นัดตรวจครรภ์ทุกสัปดาห์เพื่อติดตามดูระดับน้ำตาลในเลือด
      - อัลตราซาวด์ในช่วงอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ เพื่อประเมินภาวะ macrosomia, IUGR และปริมาณน้ำคร่ำ
      - การตรวจภาวะสุขภาพทารกก่อนคลอด
    - - ต้องควบคุมระดับน้ำตาลให้คงที่ระหว่าง 80-110 mg/dl
      - ให้ Intermediated acting insulin ก่อนนอน
      - เริ่มต้นสารน้ำเป็น normal saline ก่อน
      - เมื่อเข้าสู่ Active phase ถ้าระดับน้ำตาลต่ำกว่า 70 mg/dl เปลี่ยนสารน้ำเป็น5% dextrose เริ่มต้นที่ 100-150 cc/hr จนกว่าระดับน้ำตาลจะถึง 100 mg/dl
      - ตรวจระดับน้ำตาลทุก 1 ชั่วโมง เพื่อใช้ในการปรับอินซูลิน และสารน้ำ
      - ให้ regular insulin 1.25 unit/hr เมื่อระดับน้ำตาลสูงกว่า 100 mg/dl
      - แนะนำให้ผ่าตัดคลอดในรายที่ประเมินน้ำหนักมากกว่า 4,500 กรัม
    - - ถ้ายังตรวจพบเบาหวานภายหลังคลอดบุตร แนะนำให้ฉีดอินซูลิน และสามารถให้นมบุตรได้ตามปกติ เนื่องจากอินซูลินไม่สามารถผ่านทางน้ำนมได้
      - การคุมกำเนิด
        
        มีความเสี่ยงของ vascular disease ควรหลีกเลี่ยงยาเม็ดคุมกำเนิดที่มี estrogen
        
        ไม่มีความเสี่ยงของ vascular disease อาจใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มี estrogen และ progesterone ขนาดต่ำสุด
        
        การใช้ Progesterone ชนิดกินหรือฉีด
        
        Levonorgestrel IUD
        
        วิธีที่คุมกำเนิดที่ดีคือการใช้ Barrier methods ส่วนในรายที่มีบุตรเพียงพอแล้ว ให้ทำหมัน
  - - - การควบคุมอาหาร คาร์โบไฮเดรต 55% โปรตีน 20% ไขมัน 25%
      - การออกกำลังกาย
      - การรักษาด้วยอินซูลิน
      - การติดตามสุขภาพทารกในครรภ์
      - การกำหนดเวลาคลอด
        
        GDM class A1 ควรให้คลอดเมื่อครรภ์ครบกำหนด
        
        GDM class A2 ควรให้คลอดก่อนอายุครรภ์ 38 wks.
    - - การรักษาด้วยอินซูลินระหว่างคลอด
    - - การรักษาด้วยอินซูลินระยะหลังคลอด
      - การดูแลทารกแรกคลอด
        เจาะเลือดดูระดับน้ำตาลเมื่อ
        1 hr. หลังคลอดและก่อนอาหาร4 มื้อแรกเป็นเวลา 24 hr.
        
        ต่ำกว่า 40 mg/dl ถือว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำต้องรีบให้การช่วยเหลือทันที เช่น ให้นมหรือ D5W ทางปาก
        
        ต่ำกว่า 25 mg/dl ให้ D 10 W ทางหลอดเลือดดำ
        bolus dose ทันที ตามด้วยการให้แบบ infusion
      - มารดาที่ให้นมบุตรอาจจะมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ 30-45 นาทีหลังการให้นมบุตร อาจป้องกันโดยการดื่มนมสัก 1 แก้ว ก่อนหรือระหว่างให้นมบุตร
      - การคุมกำเนิด
      - การให้คำแนะนำก่อนกลับบ้าน เน้นการควบคุมน้ำหนัก อาหารและการออกกำลังกาย