Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

โรคระบบทางเดินหายใจ - Coggle Diagram

- - - - ประกอบด้วย Rhino-viruses เป็น สำคัญ เชื้อชนิดอื่นๆมี Adenoviruses, Respiratory syncytial virus
  - - - การติดเชื้อที่จมูก
      - โรคภูมิแพ้
      - ภาวะอื่น ๆ ได้แก่ ความผิดปกติของ mucopolysaccharide , การแพ้ยา เช่น Aspirin, การอุดตัน mechanical obstruction
  - - - มีหน้าที่ทำให้ลมหายใจอบอุ่น ชุ่มชื้น ช่วย กรองอากาศในรูจมูก และช่วยให้เสียงพูดมีความก้อง
    - - สาเหตุเกิดจากมีเชื้อโรคเข้าไปทำให้เยื่อบุอักเสบ ซึ่งอาจเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา
        
        การตดิเชื้อของระบบทางเดนิหายใจตอนบน(Upper respiratory tract infection) ระยะแรกเกิดจากเชื้อไวรัส โรคหวัดทำให้เยื่อบุจมูกอักเสบ
        
        การติดเชื้อของฟัน โดยเฉพาะฟันกรามน้อยและฟัน กรามแถวบน พบว่า ประมาณร้อยละ 10 ของการ อักเสบของ Maxillary sinusสาเหตุจากฟันผุ
        
        โรคตดิเชื้ออื่นๆเช่นไข้หวดัใหญ่โรคหัด โรคไอกรน
        
        การว่ายน้ำ ดำ น้ำเกิดการสำลักน้ำเข้าไปในจมูก และในไซนัสได้ อาจมีเชื้อโรคเข้าไปด้วย
        
        การกระทบกระแทกอย่างแรงบริเวณใบหน้า
        
        การกระทบกระแทกอย่างแรงบริเวณใบหน้า
    - - เป็นหนอง เรียก empyema -เป็น mucous เรียก mucocele
  - - - หลอดคอ(Pharynx) ยาวประมาณ 5นิว้ ติดต่อทั้งช่องปากและช่องจมูก แบ่งเป็นหลอดคอส่วนจมูก กับ หลอดคอส่วนปาก โดยมีเพดานอ่อนเป็นตัวแยกสองส่วนนี้ออกจากกัน
    - - การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ต่อมามีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
        
        ได้แก่ Beta Streptococcus group A คออักเสบจากเชื้อ Beta Streptococcus group A
        
        ไม่มีน้ำามูกหรือไอหรือน้ำตาไหล มีไข้สูง เจ็บคอ ครั่นเนื้อครั่นตัวตรวจพบคอแดง ต่อมทอนซิลจะมีหนอง ลิ้นไก่บวม ต่อมน้ำเหลืองโต
  - - - วัยเริ่มหนุ่มสาว หลอดเสียงเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ชาย เนื่องจากสายเสียง (Vocal cord) ซึ่ง อยู่ภายในหลอดเสียงยาวและหนาอย่างรวดเร็ว ทำให้ เสียงแตกพร่า
      - สาเหตุ
        
        1.การตดิเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรีย
        
        2.โรคภูมิแพ้
        
        3.การได้รับสารเคมีหรือสารพิษบางอย่าง เช่น ควันบุหรี่
        
        4.การใช้เสียงมากเกินไป
        
        5.การเกิดกรดไหลย้อนในกระเพาะอาหาร
        Laryngeal polyp เป็นตุ่มนูนที่ยื่นขึ้นมาจากผวิของ vocal cord เกดิจากการระคายเคืองเรื้อรัง ทำ ให้เสียงแหบ
- - - - หมายถึง การใช้ O2
      - ภายในไมโทคอนเดรียของเซลล์ เพื่อสร้างพลังงานในรูป ATP
  - - - ฐานของปอดแต่ละข้างจะใหญ่และ วางแนบสนิทกบักระบังลม
      - ระหว่างปอด 2 ข้าง พบว่ามีหัวใจอยู่ ปอดข้างขวา จะโตกว่าปอดข้างซ้ายเล็กน้อย และมีอยู่ 3 กลีบ ส่วนข้าง ซ้ายมี2 กลีบ
      - หน้าที่ของปอด การนำก๊าซ CO2 ออกจากเลือด และนำออกซิเจนเข้าสู่เลือด ปอดมีรูปร่างใหญ่ มีลักษณะยืดหยุ่นคล้าย ฟองน้ำ
    - - เป็นเยื่อบางและละเอียดอ่อน เปียกชื้น และเป็นมันลื่น หุ้มผิวภายนอกของปอด
        เยื่อหุ้มปอดซึ่งมี 2ชั้น ระหว่าง 2ชั้นนี้มีของเหลวอยู่เล็กน้อย เพื่อลดแรงเสียดสี ระหว่าง เยื่อหุ้มมีโพรงว่าง เรียกว่า ช่องระหว่างเยื่อหุ้มปอด
    - - ภาวะน้ำในเยื่อหุ้มปอดเป็นการสะสมของของเหลวระหว่างชั้น ของเยื่อหุ้มปอดกับภายในช่องอก น้ำในเยื่อหุ้มปอด มีอยู่ 2ประเภท
        
        1.น้ำในเยื่อหุ้มปอดที่เป็นของเหลวใส (Transudative pleural effusion) มีสาเหตุเกิดจากหัวใจล้มเหลวไตวาย ตับแข็ง
        
        2.น้ำในเยื่อหุ้มปอดที่เป็นของเหลวขุ่น มักเกิดจากการอักเสบ เช่น การติดเชื้อในปอด วณัโรค มะเร็งปอด
    - - 1.Open pneumothorax
        
        ภาวะลมคั่งในช่องเยื่อหุ้มปอดชนิดที่มีบาดแผลเป็นแบบ sucking chest wound ทำให้ช่องเยื่อหุ้ม ปอดเปิดติดต่อโดยตรงกบัอากาศภายนอก ถ้าขนาดรูบาดแผลใหญ่
        
        ขณะหายใจเข้า อากาศจากภายนอกจะไหลผ่านเข้าสู่ ช่องเยื่อหุ้มปอดทางบาดแผล ตามแรงดันลบของช่อง เยื่อหุ้มปอด
        
        ขณะหายใจออก จะมีอากาศถูกดันออกจากช่องเยื่อหุ้ม ปอดเล็กน้อย ทำให้มีอากาศค้างเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในช่องเยื่อหุ้มปอดไปกดปอดด้านที่มีพยาธิสภาพให้แฟบ
        Open Pneumothorax ลมเข้าได้ และออกได้ ไม่มี mediastenal shif
      - 2.Tension pneumothorax
        
        เกิดจากมีแผลฉีกขาด ที่ผนังอกทะลุเข้าสู่ช่องเยื่อหุ้มปอด โดยบาดแผล มีลักษณะเฉียงแฉลบ ปากแผลทำหน้าที่คล้ายลิ้นหรือประตูที่เป็น one way valve ทำให้ปอดแฟบ mediastinum เคลื่อนไปด้านตรงข้าม เลือดดำไหลกลับลดลง และกดปอดด้านตรงข้าม
        
        Tension pneumothorax เวลาหายใจเข้าลมจะผ่านแผลรั่วเข้าสู่ช่อง เยื่อหุ้มปอดได้
        
        เวลาหายใจออกแรงดันในช่องเยื่อหุ้มปอด จะลดลง จะทำ ให้ปากแผลทำหน้าที่คล้ายลิ้นปิดช่องเยื่อหุ้มปอด ลมออกสู่ภายนอกไม่ได้
        
        Tension pneumothorax ลมเข้าได้ แต่ออกไม่ได้ มี mediastenalshift
- - - - เป็นทางเดินของอากาศ
      - ให้ความชื้นแก่อากาศที่จะผ่านเข้าปอด
      - 3.อุ่นอากาศที่จะผ่านเข้าส่ปอด
      - 4.ทำความสะอาดอากาศ
- - - - เป็นการอักเสบของเนื้อปอด มีการบวม หนองขัง เกิดอาการหายใจหอบ เหนื่อย อาจมีอันตรายถึง ชีวติ สาเหตุจากเชื้อไวรัสแบคทีเรีย เชื้อรา ปรสิต หรือ สิ่งแปลกปลอมการสูดดมสารเคมี หรือการสำลัก เศษอาหารหรือน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร
      - Lobar pneumonia เป็นปอดบวมที่ปอดกลบีใด กลีบหนึ่ง มักเกดิจากเชื้อ Pneumococci Bronchopneumonia เป็นรอบๆ หลอดลมส่วนปลายและกระจัดกระจายไปมากกว่ากลีบใดกลีบหนึ่งของปอด
      - สาเหตุ
        
        1.เชื้อไวรัส พบมากกว่าร้อยละ 42 ให้เกิดโรค ได้แก่ เรสไปราทอรี ซินไซเทยี ไวรัส (respiratory syncytial virus) พาราอินฟูลเอนซา (parainfluenza) อินฟูลเอนซา (influenza) และอะดีโน ไวรัส (adenovirus) โดยเฉพาะ respiratory syncytial virus มักเกิดมากในเด็กอายุต่ำากว่า 1ปี
        
        เชื้อแบคทีเรีย ของโรคปอมบวมมากที่สุด โดยเฉพาะ ในเด็กอายุน้อยกว่า 3เดือน เกิดจากเชื้อ Streptococcus pneumoniae และ เชื้อ enteric bacilli เด็กอายุ 3 เดือนถึง 5 ปี ส่วนใหญ่เกดิจากเชื้อ Streptococcus pneumoniae และ เชื้อ Haemophilus influenza
        
        ปอดบวมจากการสำลัก (aspirated pneumonia) เกิดจากการสำลักอาหารหรือสิ่งแปลมปลอม เข้าไปในปอด
        
        4.ปอดบวมมาจากสาเหตุอื่น เช่นการรับการรักษาจากรังสี จึงทำให้ปอดบวมจากรังสั
    - - เกิดจาก Mycobacterium tuberculosis ซึ่งเป็น acid fast bacilli เชื้อในเสมหะกระจายโดยการหายใจ สามารถเกิดพยาธิสภาพกับอวัยวะทุกแห่งของร่างกาย
      - 1.Primary Pulmonary Tuberculosis
        
        เกิดขึ้นในรายที่รับเชื้อวณัโรคในครั้งแรก ตำแหน่งที่เชื้อเข้าไปสู่ทำให้เกิดรอยโรคครั้งแรกมักเป็น บริเวณเนื้อปอดที่อากาศถ่ายเทได้มากที่สุด เมื่อเชื้อเข้าไปจะถูกจับกินโดย alveolar macrophage
        
        ถ้าเชื้อไม่ตายและเพิ่มจำนวนมากขึ้นอาจกระตุ้นให้มี การอักเสบเฉียบพลัน ถ้าบริเวณเนื้อตายมีขนาดเล็ก ถูกกำจัดโดย macrophage รอบๆ และแทนที่ด้วย fibrous tissue
      - 2.Post Primary Pulmonary Tuberculosis
        
        การเกิดโรคหลังจากได้รับเชื้อมาก่อนส่วนใหญ่จะเกดิจากเชื้อที่ สงบอยู่ในอวัยวะต่างๆ จากการแพร่กระจายครั้งแรก เกิดการ แบ่งตัวเพิ่มขึ้น ส่วนน้อยเกิดจากการรับเชื้อเข้าไปใหม่ รอยโรคที่เนื้อปอดมักเป็นบริเวณ Apex หรือ subapical
        
        การเกิดโรคหลังจากได้รับเชื้อมาก่อนส่วนใหญ่จะเกดิจากเชื้อที่ สงบอยู่ในอวัยวะต่างๆ จากการแพร่กระจายครั้งแรก เกิดการ แบ่งตัวเพิ่มขึ้น ส่วนน้อยเกิดจากการรับเชื้อเข้าไปใหม่ รอยโรคที่เนื้อปอดมักเป็นบริเวณ Apex หรือ subapical
  - - - เป็นภาวะถุงลมแฟบโดยที่ไม่เคยขยายตัวเลย หรือเคยขยายตัวแล้วกลับแฟบลงภายหลัง ถ้าเกิดขึ้นกับเนื้อปอดปริมาณมากจะทำให้ขาดออกซิเจน ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายเนื่องจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ เช่น เสมหะ สิ่งแปลกปลอม
    - - ภาวะที่มีการคั่งของสารน้ำในถุงลมของเนื้อปอด ทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซได้ตามปกติ เกิดภาวะการหายใจล้มเหลว
      - สาเหตุ
        
        จากหัวใจซีกซ้ายล้มเหลว ทำให้ไม่สามารถบีบไล่ เลือดออกจากระบบไหลเวียนในปอดได้ทัน เกดิการบาดเจ็บต่อเนื้อปอดหรือระบบหลอดเลือด ของปอด
    - - เป็นโรคที่เนื้อปอดค่อยๆ เสื่อมสมรรถภาพจาก การได้รับควันบุหรี่ สารไนโตรเจนไดออกไซด์ในควันบุหรี่
      - จะทำลายเนื้อเยื่อใน ปอดและในถุงลมให้ฉีกขาดทีละน้อย และ รวมตัว กลายเป็นถุงลมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เกิดโรคถุงลมโป่งพอง
      - ทำให้พื้นที่ผิวเนื้อเยื่อภายในปอด ซึ่งเป็นที่รับออกซิเจน เข้าสู่ร่างกายมีขนาดเล็กลง จึงต้องหายใจเร็วขึ้น เพื่อให้ ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพียงพอ
    - - เกิดจากการติดเชื้อเรื้อรัง ภูมิแพ้ ฝุ่นละอองและการสูบบุหรี่เป็นเวลานาน เยื่อบุหลอดลมจะหนา มี mucous secreting gland จำนวนมาก
      - มีการหลั่งเมือก (เสมหะ) ออกมามากกว่าปกติ เป็นเหตุให้หลอดลมมีลักษณะตีบแคบลง ทำให้ลม หายใจเข้าออกได้ยาก
      - วินิจฉัยผู้ป่วยว่าเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรังต่อเมื่อ มีอาการไอมีเสมหะติดต่อกันทุกวันนานกว่า 6 เดือนขึ้นไป หรือเป็นอยู่อย่างน้อยปีละ 3เดือน ติดต่อกนั 2ปีขึ้นไป
    - - ภาวะที่ทางเดินหายใจมีการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น ต่างๆมากเกนิไป ทำให้มีการหดเกร็งของหลอดลม มี เสมหะเพิ่มขึ้น มีอาการหายใจลำบากมาก ได้ยินเสียง Wheezing and severe dyspnea
      - สาเหตุ
        
        1.Extrinsic asthma เกิดจากการแพ้สารภายนอก เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ อาหารต่างๆ
        
        2.Intrinsic asthmaเกิดจากองค์ประกอบที่เป็นสาเหตุอยู่ภายในร่างกายเช่น การสูบบุหรี่ และการมีออกซิเจนในกระแสเลือดน้อย
      - มีอาการหอบหืด หลอดลมจะมีขนาดตีบลงเนื่องจาก
        
        1.มีการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบทางหลอดลม
        
        2.เยื่อบุหลอดลมจะหนาขึ้นกว่าปกติ
        
        3.มีเสมหะเป็นมูก
    - - ภาวะที่หลอดลมขนาดเล็กเกิดการพองตัวอย่างถาวร และเกิดการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุผิวและผนังของ หลอดลม
      - สาเหตุ
        
        มักเกดิจากการติดเชื้อของปอด
        
        การอุดกั้นของหลอดลม เช่น มีสิ่งแปลกปลอม อยู่ในหลอดลม มีก้อนเนื้องอกหรือมะเร็งมากด หลอดลม
      - อาการ
        
        อาการ มีไอเรื้อรัง เสมหะเป็นหนองจำนวนมากและมีกลิ่นเหม็น มักจะได้ยินเสียง crepitationและเสียง rhonchi อาจพบนิ้วปุ้ม (clubbing of fingers)
        ภาวะนิ้วปุ้มหรือนิ้วกระบอง เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการ เจริญเติบโตและสร้างเนื้อเยื่อเล็บ จากการที่ในร่างกายมีสารที่ชื่อว่าVascular Endothelial Growth Factor (VEGF) มากกว่าปกติ
        
        ทำให้หลอดเลือดฝอยส่วนปลายของร่างกาย เกิดการขยายตัวและเพิ่มจำนวน หน้าที่ในการสร้างเล็บ ข้อและกระดูกบริเวณนั้นมีเลือดดมามากขึ้นก็จะะมีการขยายตัวมากขึ้นตาม ไปด้วย ทำให้ปลายนิ้วนั้นพองขยายออกดู เหมือนกระบอง