Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคระบบทางเดินหายใจ - Coggle Diagram
โรคระบบทางเดินหายใจ
โรคของปอด
อวัยวะที่เกี่ยวข้อง
ปอด (Lung)
ปอดมีอยู่สองข้างวางอยู่ในทรวงอก รูปร่างคล้ายกรวย มีปลายหรือยอดชี้ขึ้นไปข้างบนและไปสวมพอดีกับช่องเปิดแคบๆของทรวงอก ช่องเปิดแคบประกอบด้วยซีโครงบนของกระดูกสันอกและกระดูกสันหลัง ฐานของปอดแต่ละข้างจะใหญ่และวางแนบสนิทกับกระบังลม ระหว่างปอด 2 ข้าง พบว่ามีหัวใจอยู่ ปอดข้างขวาจะโตกว่าปอดข้างซ้ายเล็กน้อย และมีอยู่ 3 กลีบ ส่วนข้างซ้ายมี 2 กลีบ
หน้าที่
- การนำคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเดิอด และนำออกซิเจนเข้าสู่เลือด
- ปอดมีรูปร่างใหญ่ มีลักษณะยึดหยุ่นกคล้ายฟองน้ำ
หลอดลม (Trachea)
เป็นส่วนที่ต่อจากหลอดเสียง ยาวลงไปในทรวงอก ลักษณะรูปร่างของหลอดลม เป็นหลอด กลมๆประกอบด้วย กระดูกอ่อนรูปวงแหวน หรือรูปตัว U มีอยู่ 20 ชิ้น วางอยู่ทางด้านหลังของหลอดลมช่องว่างระหว่างกระดูกอ่อนรูปตัว U ที่วางเรียงต่อกันมีเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อเรียบมายึดติดกัน
ถุงลมแฟบ (Atelectasis)
เป็นภาวะถุงลมแฟบ โดยที่ไม่เคยขยายตัวเลยหรือเคยขยายตัวเล้วกลับแฟบลงภายหลังถ้าเกิดขึ้นกับเนื้อปอดปริมาณมากจะทำให้ขาดออกซิเจน ทำให้ติดเชื่อได้ง่ายเนื่องจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ เช่น เสมหะ สิ่งแปลกปลอม
-
ถุงลมโป่งพอง (Emphysema)
- ปกติแล้วพื้นที่ในปอดจะมีถุงลมเล็กๆกระจายอยู่เต็มทั่วไป เพื่อทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเป็นโรคที่เนื้อปอดค่อยๆเสื่อมสภาพจากการได้รับควันบุหรี่
- สารไนโตรเจนไดออกไซด์ในควันบุหรี่ จะทำลายเนื้อเยื่อในปอดและถุงลมให้ฉีกขาด และรวมตัวกลายเป็นถุงลมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เกิดโรคถุงลมโป่งพอง ทำให้พื้นที่ผิวเนื้อเยื่อภายในซึ่งเป็นที่รับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายมีขนาดเล็กลงจึงต้องหายใจเร็วขึ้น เพื่อให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพียงพอ
-
หอบหืด
(Bronchial Asthma)
ภาวะที่ทางเดินหายใจมีการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆมากเกินไปทำให้มีการหดเกร็งของหลอดลมมีเสมหะเพิ่มขึ้น มีอาการหายใจลำบากได้ยินเสียงวี๊ดเกิดขึ้นอาการเหล่านี้อาจหายได้เองหรือสามารถกลับเป็นปกติได้หรือหายเมื่อได้รับยาขยายหลอดลม
สาเหตุ
1.Extrinsic asthma
เกิดจากการแพ้สารภายนอก เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ อาหารต่างๆ antigen เหล่านี้จะกระตุ้นให้มีการสร้าง IgE มาเกาะติดที่ Mast cell เมื่อ Mast cell แตกออกจะหลั่งสารเคมีออกมาทำให้หลอดลมบวม เกร็งและมีสารคัดหลั่ง
2.Intrinsic asthma
เกิดจากองค์ประกอบที่เป็นสาเหตุอยู่ภายในร่างกายปริมาณ IgE ไม่สูงเกิดจากการติดเชื้อของทางเดินหายใจหรือสาเหตุอื่นๆเช่น การออกกำลังกายกับสูบบุหรี่ อากาศเย็น อากาศเป็นพิษและ การมีออกซิเจนในกระแสเลือดน้อย
-
-
ปอดอักเสบ
(Pneumonia)
- เป็นการอักเสบของเนื้อปอด มีการบวม หนองขังเกิดอาการหายใจหอบ เหนื่อยอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
-
-
สาเหตุ
- เชื้อไวรัส พบมากกว่าร้อยละ 42 เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรค ได้แก่ (respiratory syncytial virus)(parainfluenza)(influenza)(adenovirus) โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักเกิดมากในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีสูงถึงร้อยละ 90
- เชื้อแบคทีเรีย ร้อยละ 60 โดยเฉพาะในเด็กอายุน้อยกว่า 3 เดือน ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ Streptococcus pneumoniae และ เชื้อ enteric bacilli เด็กอายุ 3 เดือนถึง 5 ปี ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อStreptococcus pneumoniae และ เชื้อ Haemophilus influenza
- ปอดบวมจากการสำลัก (aspirated pneumonia) เกิดจากการสำลักอาหารหรือสิ่งแปลมปลอมเข้าไปในปอด จนทำให้เกิดอาการปอดบวมอย่างรุนแรงที่เรียกว่า Mendelson’s syndrome
- ปอดบวมจากสาเหตุอื่น เช่น ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยรังสีจนทำให้เกิดอาการบวม (radiation pneumonia) จากสารพิษและสารเคมี (chemical pneumonia) เช่นกระบวนการสูตรแอมโมเนียหรือไอกรด
- สาเหตุจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ปรสิตหรือสิ่งแปลกปลอม การสูดดมสารเคมีหรือการสำลักเศษอาหารหรือน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร
-
-
-
-
ไซนัสอักเสบ (Sinusitis)
Sinus
Sinus หรือโพรงอากาศข้างจมูกเป็นกลุ่มของ ช่องอากาศในกะโหลกและใบหน้าอยู่โดยรอบจมูกและมี และมีทางติดต่อกับช่องจมูก
-
-
สาเหตุ
-
- การติดเชื้อการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจตอนบน (Upperrespiratory tract infection) ระยะแรกเกิดจากเชื้อไวรัส โรคหวัดทำให้เยื่อบุจมูกอักเสบ และอาจอักเสบต่อเนื่องเข้าไปถึงในไซนัส ต่อมาอาจมีการติดเชื้อจากแบคทีเรียร่วมด้วยโดยทั่วไปจะหายได้เป็นปกติ ถ้าติดเชื้อรุนแรงอาจมีการทำลายเยื่อยุจมูกและเยื่อบุไซนัส ทำให้มีการบวมและมีพังผืด เกิดการอุดตันของรูเปิดระหว่างไซนัสกับโพรงจมูก ก็อาจจะทำให้การอักเสบกลายเป็นการอักเสบเรื้อรังได้
- การติดเชื้อของฟัน โดยเฉพาะฟันกรามน้อยและฟันกรามแถวบน พบว่าประมาณร้อยละ 10 ของการอักเสบของ Maxillary sinus สาเหตุจากฟันผุ (เพราะ ผนังด้านล่างของ Maxillary sinus จะติดกับรากฟัน) บางรายแสดงอาการชัดเจนภายหลังที่ไปถอนฟันแล้ว เกิด รูทะลรุ ระหว่าง Maxillary sinus และเหงือกขึ้น
- โรคติดเชื้ออื่นๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ โรคหัด โรคไอกรน
- การว่ายน้ำ ดำน้ำ เกิดการสาลักน้ำเข้าไปในจมูกและในไซนัสได้ อาจมีเชื้อโรคเข้าไปด้วย ทำให้เกิดการอักเสบได้ สารคลอรีนในสระว่ายน้ำเป็น สารเคมีที่ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุไซนัสได้
- การกระทบกระแทกอย่างแรงบริเวณใบหน้า ทำให้ไซนัสโพรงอันใดโพรงหนึ่งแตกหัก ช้ำ บวมหรือมีเลือดออกภายในโพรงทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้
- มีสิ่งแปลกปลอมในจมูก มีสิ่งแปลกปลอมในจมูก ก่อการอุดตันโพรงจมูกเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อทั้งในโพรงจมูกและในไซนัส
- รูเปิดของ sinus มีขนาดเล็กลงเมื่อมีการอักเสบ จึงอาจตีบหรือตันได้ง่าย
- exudate มักขังอยู่ภายใน เป็นหนองเรียก empyema เป็น mucous เรียก mucocele
ระบบหายใจ
การหายใจเข้า
กล้ามเนื้อกะบังลมคลายตัวจะยกตัวสูงขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับกระดูกซี่โครงลดต่ำลง ทำให้ปริมาตรในช่องอกลดลง ความดัน เพิ่มขึ้น มากกว่าความดันของอากาศภายนอก อากาศจึงเคลื่อนที่ออกจากปอด
การหายใจออก
กล้ามเนื้อกะบังลมหดตัวและกล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครงดึงกระดูกซี่โครงให้ยกตัวขึ้น ปริมาตรของช่องอกที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความดัน ในช่องอกลดลง ส่งผลให้อากาศจากภายนอกเคลื่อนที่เข้าสู่ปอด
โครงสร้างระบบหายใจ
- conducting division ตั้งแต่ nasal cavity, pharynx, larynx, trachea, bronchi, bronchiole, terminal bronchiole
Conducting division
หน้าที่
- ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของอากาศ
- ให้ความชื้นแก่อากาศที่จะเข้าปอด
- อุ่นอากาศที่จะเข้าสู่ปอด
- ทำความสะอาดอากาศ
-
- Respiratory division ตั้งแต่ respiratory bronchiole, alveolar duct, alveolar sac, alveoli
คออักเสบ (Pharyngitis)
หลอดคอ (Pharynx)
ยาวประมาณ 5 นิ้ว ติดต่อทั้งช่องปากและช่องจมูกแบ่งเป็นหลอดคอส่วนจมูกกับหลอดคอส่วนปาก โดยมีเพดานอ่อนเป็นตัวแยกสองส่วนนี้ออกจากกัน
เป็นโรคที่พบบ่อยในระบบทางเดินหายใจ สาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียต่อมามีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนส่วนใหญ่ได้แก่ Beta Streptococcus group A เยื่อบุ pharynx จะอักเสบมากขึ้นและถูกคลุมด้วย exudate
-
-
-
ไข้หวัด (Common cold)
- เป็นการติดเชื้อของจมูกและคอ บางคร้ังเรียก Upper respiratory tract infection
URI เกิดจากเชื้อไวรัสรวมเรียกว่า Coryza viruses ประกอบด้วย Rhino-viruses เป็นสำคัญเชื้อชนิดอื่นๆมี Adenoviruses, Respiratory syncytial virus เมื่อเชื้อเข้าสู่จมูกและคอจะทำให้เยื่อจมูก บวม และ แดง มีการหลั่งของเมือกออกมาแม้ว่าจะเป็นโรคที่หายเองใน 1 สัปดาห์
- exudate ที่เป็นน้ำหรือมูกใสเรียก Catarrhal inflammation
- exudate ที่มีลักษณะข้นหรือเป็นหนอง เรียก Purulent inflammation