Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้อเอชไอวีในเด็ก (HIV infection) - Coggle Diagram
การติดเชื้อเอชไอวีในเด็ก (HIV infection)
เป็นภาวะที่ร่างกายได้รับเชื้อเอชไอวี แล้วทำให้ T helper lymphocyte ถูกทำลายและมีจำนวนลดลง เป็นผลให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องและติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะเชื้อฉวยโอกาส
อาการและอาการแสดง
1.กลุ่มที่เกิดอาการเจ็บป่วยรวดเร็วและรุนแรง
อาจมีอาการตั้งแต่อายุ 2-3 เดือน ได้แก่ เลี้ยงไม่โต มีเชื้อราในช่องปาก อุจจาระร่วงเรื้อรัง ปอดอักเสบ เป็นต้น ทารกกลุ่มนี้ได้รับเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา และไวรัสทำลายการพัฒนาของระบบภูมิคุ้มกัน เด็กมักเสียชีวิตภายใน 1-2 ปีแรก จากภาวะแทรกซ้อนทางปอด
2.กลุ่มที่มีการดำเนินโรคแบบค่อยเป็นค่อยไป
ความรุนแรงของโรคน้อยกว่า มักปรากฏอาการเมื่อเด็กอายุหลายปี ได้แก่ น้ำหนักตัวน้อย ตับม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองโต ปอดอักเสบ ต่อมน้ำลายอักเสบ ผื่นคันบริเวณผิวหนัง เป็นต้น เชื่อว่าทารกได้รับไวรัสขณะคลอดหรือหลังคลอด เด็กกลุ่มนี้จะมีชีวิตยืนยาวกว่ากลุ่มแรก
การแพร่เชื้อ HIV จากมารดาสู่ทารก
ระหว่างการคลอด
ทารกจะสัมผัสกับเลือด น้ำคร่ำ สารคัดหลั่งในช่องคลอดของมารดา
หลังคลอด
ติดเชื้อเอชไอวีจากการสัมผัสสารคัดหลั่งของมารดาซึ่งส่วนใหญ่คือนมมารดา ดังนั้นทารกที่คลอดจากมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวี จะไม่แนะนำให้กินนมมารดา โดยให้เลี้ยงทารกด้วยนมผสมแทน
ระหว่างการตั้งครรภ์
เอชไอวีจากมารดาเข้าสู่ระบบไหลเวียนของทารกในครรภ์โดยผ่านทางรกตั้งแต่อยู่ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
การวินิจฉัยโรคติดเชื้อ HIV
1.การตรวจหาเชื้อไวรัส
เด็กอายุน้อยกว่า18 เดือน
2.การตรวจหา Anti-HIV
เด็กที่อายุมากกว่า 18 เดือน
การจำแนกโรคตามอาการแสดงของโรคในเด็ก
กลุ่ม N คือ ผู้ที่ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ
กลุ่ม B มีอาการที่ไม่อยู่ในกลุ่ม A หรือ C เช่น
ซีด (ฮีโมโกลบิน < 8 กรัม %) นิวโตรฟิวต่ำ (< 1,000 เซลล์/ ลูกบาศก์มิลลิเมตร) หรือเกล็ดเลือดต่ำ (< 100,000 เซลล์/ ลูกบาศก์มิลลิเมตร) เกิน 30 วัน
ติดเชื้อรุนแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ปอดบวม ติดเชื้อในกระแสเลือด
เป็นฝ้าขาวในปากนานเกิน 2 เดือน ในเด็กอายุ>6 เดือน
อุจจาระร่วงบ่อยๆ หรือเรื้อรัง
ตับอักเสบ
ติดเชื้อ Herpes simplex virus (HSV) และเป็นหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ หรือหลอดอาหารอักเสบก่อนอายุ 1 เดือน
มีไข้นานเกิน 1 เดือน
กลุ่ม A คือ ผู้ป่วยที่มีอาการแสดงอย่างน้อย 2 อย่างต่อไปนี้ และไม่อยู่ในกลุ่ม B หรือ C
ต่อมน้ำเหลืองโตเกิน 0.5 เซนติเมตร มากกว่า 2 ตำแหน่ง
ตับโต - ม้ามโต - ผิวหนังอักเสบ – ต่อมน้ำลายพาโรตับอักเสบ
ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนบ่อยๆหรือเรื้อรัง
กลุ่ม C คือ ผู้ป่วยที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยเอดส์ มีอาการดังต่อไปนี้
ติดเชื้อแบคทีเรียชนิดรุนแรงเกิน 2 ครั้งภายในเวลา 2 ปี เช่น septicemia เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ติดเชื้อในกระดูก ฝีที่อวัยวะภายใน
ติดเชื้อ candidiasis ในทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจส่วนล่าง
ติดเชื้อเริมที่ผิวหนังและเยื่อบุ นานเกิน 1 เดือน หรือภาวะหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ หรือหลอดอาหารอักเสบในเด็กอายุมากกว่า 1 เดือน
มีพยาธิสภาพที่สมอง
กลุ่มอาการผอมแห้งโดยไม่ทราบสาเหตุ
หลักการในการรักษาเด็กที่ติดเชื้อ HIV
การให้ยาต้านไวรัส
ให้ยากระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
การรักษาโรคติดเชื้อหรือมะเร็งที่เกิดขึ้น
การให้ยาป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาส
ให้ยารักษาโรคอื่นๆ เช่น ยาแก้คัน ยารักษาโรคปวดข้อ สเตรียรอยด์ ยากันชัก เป็นต้น
การพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อ HIV
1.เสี่ยงต่อการติดเชื้อฉวยโอกาสและแพร่กระจายเชื้อเอชไอวี
2.ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เนื่องจากเบื่ออาหาร เหนื่อย ถ่ายเหลว มีการติดเชื้อราในช่องปาก เป็นต้น
3.มีการเจริญเติบโตและพัฒนาการล่าช้า เนื่องจากมีการติดเชื้อ
4.ผู้ดูแลเด็กขาดความรู้ในการดูแลเด็ก
การดูแลเด็กที่ติดเชื้อ HIV ที่บ้าน
1.คอยติดตามอาการผิดปกติต่างๆของเด็ก
2.การปฏิบัติตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัด
3.คอยสังเกตผลข้างเคียงของการรักษา
4.การปรับภาพลักษณ์และอัตมโนทัศน์ของเด็ก
5.การยอมรับภาวะสุขภาพและการเรียนรู้ที่จะดำรงชีวิตตามสภาพที่เกิดขึ้น