การช่วยเหลือ
ผู้ป่วยที่จมน้ำ

ความหมาย 🚩

การจมน้ำ(Drowning)

การที่จมลงใต้น้ำแล้วหายใจเอาน้ำเข้าไปในปอดมีผลต่อร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้มักเกิดกับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นหรืออยู่ในภาวะซึ่งช่วยเหลือตนเองไม่ได้ การจมน้ำในน้ำจืดจะใช้เวลาประมาณ 3-4 นาที และในน้ำเค็มจะใช้เวลาประมาณ 7-8 นาที

อาการและอาการแสดง 🏴

มีฟองน้ำลายรอบบริเวณริมฝีปากและรูจมูกหายใจช้าลง ชีพจรเบาคลำไม่ชัดเจน ซีด หมดสติ

ระยะของคนจมน้ำ

1.เกิดอาการตกตะลึงเริ่มรู้ตัวว่าจะไม่รอดชีวิตถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือ

2.ตะเกียกตะกาย พยายามดิ้นรน

3.ว่ายน้ำได้เองโดยอัตโนมัติ แต่ทำได้ในระยะเวลาสั้้น แล้วจะเริ่มจมน้ำ

4.เริ่มมีอาการหยุดหายใจเกิดขึ้น เนื่องจากได้พยายามกลั้นหายใจไว้ตั้งแต่ระยะที่ 1-3 แล้ว

5.ขณะสูดลมหายใจอีกครั้งหนึ่งจะเริ่มสำลักและกลืนน้ำเข้าไป

ุ6.เกิดการไอ และอาเจียน

7.พยายามกระเสือกกระสนถีบตนเองให้จมูกพ้นน้ำแล้วสูดหายใจเข้าไปซึ่งอาจเป็นเฮือกสุดท้าย

8.สำลักน้ำเข้าปอด

9.พ่นน้ำลายออกมาเป็นฟอง และมีเลือดปนออกมา

10.ชัก ไม่รู้สติ

11.เสียชีวิต แล้วจมน้ำลงไป

วิธีการช่วยเหลือ

1.ตะโกน

เมื่อพบเห็นคนจมน้ำให้ตะโกนเพื่อขอความช่วยเหลือ

2.โยน

หาสิ่งของที่สามารถลอยน้ำได้ โยนให้กับคนที่ก้าลังจมน้ำ เช่นถังแกลลอน ห่วงชูชีพ 25611016_๑๘๑๐๒๔_0002

3.ยื่น

หาอุปกรณ์ยื่นให้คนที่ก้าลังจมน้ำจับ เช่น ไม้ เชือก เสื้อ กางเกง 25611016_๑๘๑๐๒๔_0001

4.สาวไม้

หลังจากคนที่กำลังจมน้ำจับอุปกรณ์แล้วให้ดึงคนจมน้ำดึงเข้าหาฝั่ง

การปฐมพยาบาล

1.โทรศัพท์แจ้งหมายเลข 1669 หรือหน่วยพยาบาลใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด

2.ห้ามจับผู้ประสบภัยอุ้มพาดบ่า กระโดดหรือวิ่งรอบสนาม เพื่อเอาน้ำออก

3.จับคนจมน้ำนอนบนพื้นราบ แห้งและแข็ง

4.ตรวจดูว่ารู้สึกตัวหรือไม่ โดยใช้มือทั้ง 2 ข้างจับไหล่เขย่าพร้อมเรียกดังๆ

5.กรณีรู้สึกตัว เช็ดตัวให้แห้งเปลี่ยนเสื้อผ้าละห่มผ้า และนำส่งโรงพยาบาลทุกราย

6.กรณีไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนอง : ช่วยหายใจ โดยเปิดทางเดินหายใจ โดยการกดหน้าผาก เชยคาง และเป่าปากโดยวางปากครอบปากผู้ป่วย บีบจมูก เป่าลมเข้า ให้หน้าอกผู้ป่วยยกขึ้นครอบปากผู้ป่วย บีบจมูก เป่าลมเข้า ให้หน้าอกผู้ป่วยยกขึ้น(เป่าปาก 2 ครั้ ง)

7.กดนวดหัวใจ วางสันมือกึ่งกลางหัวนมทั้ง 2ข้าง ต่อมากดหน้าอกให้ยุบไปประมาณ 1ใน3ของความหนาของหน้าอกความเร็ว 100 ครั้ง/นาทีนวดหัวใจ 30 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก2 ครั้ง ทำไปจนจะรู้สึกตัว และหายใจได้เอง

8.จับผู้ป่วยนอนตะแคงข้าง ศีรษะหงายไปข้างหลัง เพื่อให้น้ำไหลออกทางปาก ใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความอบอุ่น งดน้ำและอาหาร และนำส่งโรงพยาบาลทุกราย