Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิดการเจ็บป่วยและปฎิกิริยาตอบสนองเมื่อเจ็บป่วย, เพื่อ,…
แนวคิดการเจ็บป่วยและปฎิกิริยาตอบสนองเมื่อเจ็บป่วย
การเจ็บป่วย
คือ
ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมภายใน-ภายนอก ไม่ได้
เกิดความผิดปกติทั้งร่างกายและจิตใจ
ภาวะที่ร่างกายขาดสมดุล
ไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ในสังคมได้ตามปกติ
พฤติกรรมการเจ็บป่วย
5 ระยะ
ระยะปรากฎอาการ (Symptom wxperience)
เริ่มเมื่อ
ตัดสินใจว่ามีอะไรบางสิ่งผิดปกติในร่างกาย
มี 3 ด้าน
ด้านความคิด(cognitive aspects)
การตอบสนองทางอารมณ์(emotional response)
ด้านร่างกาย(symptom experience)
2.ระยะตัดสินใจว่าป่วย(assumption of the sick role)
ยอมรับว่าป่วยและต้องการการดูแลจากผู้อื่น
ปรึกษากับคนที่ตนไว้วางใจ
**คำแนะนำส่วนใหญ่มักให้พบแพทย์
แนวโน้มทำตามคำแนะนำ
การรักษาเริ่มต้น
3.ระยะเข้ารับการรักษาจากแพทย์(Medical care contact stage)
ผู้ป่วยเข้ารับการวินิจฉัยโรค,พยากรณ์โรค
วางแผนรับการรักษาจากแพทย์
เข้าสู่บทบาท
ผู้ป่วย
ผู้ป่วยถูกตรวจร่่างกาย ให้การรักษาตามแผน
4.ระยะบทบาทผู้ป่วย(dependent patiente role stage)
ผู้ป่วยตัดสินใจอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาล + .การให้ความร่วมมือ
อาการแสดง
ต้องการหายจากโรค
ปัญหามาก เรื่องเยอะ ไม่น่ารัก
สูญเสียความเป็นตัวเอง
ต้องการข้อมูลการรักษาที่เพียงพอ
5.ระยะพักฟื้นและฟื้นฟูสุขภาพ (recovery and rehabilitation)
คิดว่าตนเองเป็นคนปกติทั่วไป
เชื่อมโยงเข้าสู่โกลคนปกติ
ออกจากบทบาทผู้ป่วย
กลับบ้านมาดูแลตนเองที่บ้าน
*
ผู้ป่วยที่ต้อการอยู่ในบทบาทผู้ป่วยตลอดเวลา
คนแกล้งป่วย = (Malingerers)
ภาวะจิตสังคมของการเจ็บป่วย(โรคร้ายแรง)
1.shock and denial
ตกใจและปฏิเสธความจริง
ปฏิเสธว่าตนไม่ได้เป็นโรคนั้นๆ
โทษว่าแพทย์ตรวจผิด
เอะอะโวยวาย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
กังวลมาก สับสน ซึมเฉย
อาจไปหาแพทย์หลายคนเพื่อให้ยืนยันว่าตนไม่ป่วย
2.anxiety, anger
กังวล สับสน และโกรธ
ความคิดสับสน รู้สึกอึดอัดและหาทางออกไม่ได้
รู้สึกโกรธที่ตนต้องเผชิญกับปัญหาที่ร้ายแรง
โทษว่าเป็นความผิดของแพทย์หรือผู้อื่น
ต่อต้านการตรวจและคำแนะนำของแพทย์
โกรธญาติและคนอื่นๆ
bargaining
ต่อรอง
ต่อรองว่าตนอาจจะไม่เป็นโรคร้ายแรง
**อาจจะกลับไปสู่ระยะปฏิเสธความจริงได้อีก
มีความหวังว่าจะมีการตรวจละเอียดที่พบว่าตนไม่เป็นโรคร้าย ยืดเวลายอมรับความจริง
depress
ซึมเศร้า และหมดหวัง
หมดหวัง
เมื่อเริ่มยอมรับความจริงของการเป็นโรคร้าย
จำนนต่อเหตุผลแต่จิตใจของผู้ป่วยยังไม่สามารถยอมรับได้
รู้สึกอ้างว้าง พูดและทำสิ่งต่างๆ น้อยลง
ชอบอยู่คนเดียว เหม่อลอย
อารมณ์ซึมเศร้า
กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
อาจมีความรู้สึกอยากตาย
**อาการรุนแรงอาจมีประสาทหลอน หูแว่ว ระแวง
acceptance
ยอมรับความจริง
อาการเศร้าลดลง
ซักถามถึงรายละเอียดของโรคที่เป็นและวิธีรักษา
เริ่มรับฟังคำแนะนำของแพทย์ ให้ความร่วมมือในการักษา
ปัจจัยที่มีผลต่อการปรับตัวผู้ป่วย
สิ่งแวดล้อม
ความช่วยเหลือจากครอบครัว
ค่านิยม ประเพณี
เสรษฐกิจ
การวินิจฉัยภาวะจิตสังคม
โรค
การรักษา และ ผลการรักษา
การสูญเสียอวัยวะ , สมรรถภาพ
อาการ ตำแหน่งโรค ระยะโรค
ความช่วยเหลือ และท่าทีของบุคลากรทางการแพทย์
ผู้ป่วย
วัยของผู้ป่วย
ความสัมพันธ์กับผู้อื่น
บุคลิกภาพการการปรับตัว
ประเภทการป่วย
4 ประเภท
ป่วยเฉียบพลัน(Acute illness)
ลักษณะทั่วไป
รุนแรง
รักษาหายได้ใน2-3สัปดาห์ หรือถึง 3เดือน
เกิดขึ้นทันที รวดเร็ว
ตัวอย่าง
การติดเชื้อต่างๆ
ไข้หวัดใหญ่
อาหารเป็นพิษ
ปอดอักเสบ
ป่วยเรื้อรัง(Crhonic illness)
ลักษณะทั่วไป
เมื่อเริ่มอาการ ไม่มีอาการ
อาการจะรุนแรงขึ้นเมื่อไม่ได้รักษา
**เกิดต่อเนื่องนานเกิน 6 เดือน
ต้องรักษาต่อเนื่อง **ไม่หายขาด เฉียบพลันได้
ตัวอย่าง
โรคกลุ่มNCD
ความดันโลหิต
เบาหวาน
มะเร็ง
ป่วยวิกฤต(Crisis illness)
เกิดขึ้นได้
คาดการณ์ล่วงหน้า
ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า
อื่นๆ
ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
คุกคามชีวิต
ดูแลใกล้ชิด
คุกคามต่อชีวิต
เสี่ยง
ภาวะ Life Treatening
ป่วยฉุกเฉิน(Emergency illness)
อาการทั่วไป
รุนแรง รวดเร็วทันที
**ต้องรับการรักษาทันที
ถ้าไม่ทันการ อาจพิการหรือเสียชีวิต
ตัวอย่าง
อุบัติเหตต่างๆ
อาการชัก
แน่น หายใจไม่ออก ลำบาก
ช็อค หมดสติ โคม่า
สิ่งที่พยาบาลพึงกระทำ
ปลอบใจ ประคองอารมณ์ผู้ป่วย
บอกว่าพร้อมจะช่วยเหลือทุกๆเรื่อง
บอกวิธีรักษาที่จะช่วยผู้ป่วยให้ผู้ป่วยฟัง
ดูแลรักษาตามอาการ
บอกผู่ป่วยว่าเป็นอะไร
บอกวิธีรับมือกับโรคที่ผู้ป่วยเผชิญอยู๋
ให้ความช่วยเหลือระยะสุดท้าย
เพื่อ
มั่นใจว่าป่วยจริง
ขอคำแนะนำว่าควรทำไงต่อ
ต้องป้องกันภาวะแทรกซ้อน