Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระราชบัญญัติวิชาชีพพยาบาล และการควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ, นางสาวชลธิชา…
พระราชบัญญัติวิชาชีพพยาบาล
และการควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ
การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ
จุดประสงค์
การคุ้มครองผู้รับบริการหรือผู้บริโภค
การสงวนวิชาชีพให้กับบุคลากรในวิชาชีพ
การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพให้บริการอย่างมีมาตรฐาน
มาตรการควบคุม
ห้ามผู้ไม่มีสิทธิคือไม่มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
ให้มีข้อกำหนดจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
มีมาตรการลงโทษ ในกรณีทีละเมิดข้อกำหนดวิชาชีพ ระบุสาระของการดำเนินการสอบสวน การตัดสิน และโทษ
ข้อยกเว้น
ผู้ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแต่สามารถประกอบวิชาชีพได้
การกระทำต่อตนเอง
การช่วยเหลือดูแลบุคคลอื่นให้พ้นจากความทุกข์ทรมานในเงื่อนไขดังนี้
ไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนใดๆ
ไม่ฉีดยาหรือสารใดๆ เข้าไปในร่างกาย
ไม่ให้ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
นักเรียน นักศึกษา ในสถาบันที่สภาฯรับรอง ภายใต้การนิเทศจากผู้ประกอบวิชาชีพ
ประกอบโรคศิลปะ ที่ทำตามเกณฑ์การประกอบวิชาชีพตนแต่เข้าข่ายการประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ
ในประเทศของตน สภาจะออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ไม่เกิน 1 ปี
ข้อกำหนดจริยธรรมวิชาชีพ (4หมวด 38ข้อ)
หมวดที่ 1 หลักทั่วไป
หมวดที่ 2 การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวดที่ 3 การโฆษณาการประกอบวิชาชีพ
หมวดที่ 4 ปกิณกะ
กระบวนการพิจารณาความผิดของผู้ประพฤติผิดจริยธรรม
ผู้เสียหาย กล่าวหา ต่อสภาการพยาบาล
กรรมการสภากล่าวโทษ ต่อสภาการพยาบาล
อายุความการกล่าวหา กล่าวโทษ
สภาฯส่งเรื่องให้อนุกรรมการจริยธรรมพิจารณาเมื่อได้ข้อมูลส่งคณะกรรมการสภาพิจารณาตัดสินว่าคดีมีมูล
สภาฯส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการสอบสวนพิจารณา สอบสวน เมื่อได้ข้อมูลส่งคณะกรรมการสภาพิจารณาตัดสิน
คณะกรรมการสภาตัดสิน
อำนาจหน้าที่ของอนุกรรมการจริยธรรมและอนุกรรมการสอบสวน
อนุกรรมการจริยธรรม มีหน้าที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐานข้อเท็จจริงว่าคดีมีมูลหรือไม่ แล้วนำหลักฐานพร้อมความคิดเห็นส่งให้คณะกรรมการสภาตัดสิน หากคณะกรรมการสภาตัดสินว่าคดีมีมูลให้อนุกรรมการสอบสวนดำเนินการสอบสวนในรายละเอียด ในทำนองเดียวกันอนุกรรมการสอบสวนไม่มีหน้าที่ตัดสิน เมื่อรวบรวมข้อมูลพร้อมกับความคิดเห็นแล้วจะส่งให้กรรมการสภาพิจารณาตัดสินต่อไป
อายุความ
การกล่าวหา กล่าวโทษ มีกำหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ และมีกำหนด 1 ปี นับแต่วันรู้ตัวผู้กระทำผิด
ประเด็นที่ 1
เกิดเหตุวันที่ 1 มกราคม 2541 รู้ตัวผู้กระทำผิดวันที่ 1 มกราคม 2542 ดังนั้นอายุความจะมีอยู่ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2542
ประเด็นที่ 2
เกิดเหตุวันที่ 1 มกราคม 2541 รู้ตัวผู้กระทำผิดวันที่ 10 มกราคม 2541 ดังนั้นอายุความจะมีอยู่ถึงวันที่ 9 มกราคม 2542
ประเด็นที่ 3
เกิดเหตุวันที่ 1 มกราคม 2541 รู้ตัวผู้กระทำผิดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2543 ดังนั้นอายุความจะมีอยู่ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2543
การพิจารณาสอบสวน กฎหมายให้สิทธิคัดค้านการแต่งตั้งอนุกรรมการ
ต้องยื่นต่อคณะกรรมการภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันทราบคำสั่งของคณะอนุกรรมการสอบสวน หรือรับทราบเหตุแห่งการคัดค้านนั้น
เมื่อเรื่องขึ้นสู่การพิจารณาคดีของสภาการพยาบาล จะต้องดำเนินคดีไปจนเสร็จสิ้น การยอมความไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีของสภาการพยาบาล
ผลการลงมติของคณะกรรมการสภาฯ ในการพิจารณาคดีจะทำเป็นคำสั่งให้นายกสภาลงนามคำสั่งสภาถือเป็นที่สุด คือ อุธรณ์ไม่ได้
เมื่อรับทราบคำสั่งลงโทษ ถ้าเป็น
การพักใช้ต้องหยุดประกอบวิชาชีพทันที
การครบกำหนดนับแต่วันรับทราบคำสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต
การเพิกถอนใบอนุญาตต้องส่งคืนใบอนุญาตภายใน 15 วัน
ต่อเลขาธิการสภา
การขอขึ้นทะเบียนใหม่ภายหลังถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ระยะเวลาต้องพ้น 2 ปี นับแต่วันที่สภาการพยาบาลมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต (ไม่ใช่วันที่รับทราบคำสั่ง)
ถ้าถูกปฏิเสธครั้งที่ 1 สามารถยื่นขอครั้งที่ 2 ภายหลังครบ 1 ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการสภาฯมีคำสั่งปฏิเสธคำขอครั้งแรก
โดยบุคคลต่อไปนี้
ผู้รู้เห็นเหตุการณ์
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ผู้มีเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา
คู่สมรส หรือเป็นญาติเกี่ยวข้องกับบุพการี ผู้สืบสันดาน
พี่น้องร่วมบิดามารดากับผู้ถูกกล่าวหา กล่าวโทษ
บทกำหนดโทษ
โทษทางอาญา
ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาต จำคุกไม่เกิน 2 ปี และ/หรือปรับไม่เกิน 2000 บาท
บุคคลที่พ้นจากสมาชิกสามัญ(พ้นจากการเป็นสมาชิกสามัญ ได้จากการตาย ลาออก ขาดคุณสมบัติ)
ต้องพ้นจากการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้วยและต้องส่งคืนใบอนุญาตต่อเลขาธิการภายใน 15 วัน ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 1000 บาท (มีเฉพาะโทษปรับอย่างเดียว)
การไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสาร ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงาน ระวางโทษไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับโทษทางวิชาชีพ ประกอบด้วย ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ เพิกถอน
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาล
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 ที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่2) พ.ศ.2540
ความสำคัญของกฎหมายวิชาชีพ
อาชีพนั้นมีความจำเป็นต่อสังคม
มีศาสตร์เฉพาะสาขาของตน และมีการอบรมในระบบวิชาชีพ (ทั้งการศึกษาและการฝึกงาน)ที่ยาวนานพอสมควร ถึงขั้นอุดมศึกษา
สามารถให้บริการแก่ผู้รับบริการได้มาตรฐานและตามบรรทัดฐานของวิชาชีพนั้น
มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ เพื่อปกป้องผู้รับบริการ
มีเอกสิทธิ์ในการทำงาน
มีองค์กรวิชาชีพ ทำหน้าที่ควบคุมสมาชิกของวิชาชีพ รวมทั้งการผลักดันในแง่กฎหมาย เพื่อคุ้มครองสมาชิกและผู้รับบริการ
นิยามศัพท์
การพยาบาล
เป็นการกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค ทั้งนี้ โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาล
การผดุงครรภ์
การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลิด และทารกแรกเกิด รวมถึงการตรวจ การทำคลอด การส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกันความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอดและระยะหลังคลอดรวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค ทั้งนี้โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการผดุงครรภ์
การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ
การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล รวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อแก้ไขปัญหาความเจ็บป่วย การบรรเทาอาการของโรค การลุกลามของโรค และการฟื้นฟูสภาพ
การกระทำตามวิธีที่กำหนดไว้ในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค
การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
ทั้งนี้ โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาลในการประเมินสภาพ การวินิจฉัยปัญหา การวางแผน การปฏิบัติการ และการประเมินผล
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอดและทารกแรกเกิด เพื่อป้องกันความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด
การตรวจ การทำคลอด และการวางแผนครอบครัว
การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
ทั้งนี้โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์ และศิลปะการผดุงครรภ์ในการประเมินสภาพการพยาบาล วินิจฉัยปัญหา การวางแผน การปฏิบัติการพยาบาล และการประเมินผล
การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการอนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมมีสิทธิในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
กำหนดให้มีสภาการพยาบาล ฐานะของสภาการพยาบาล (มาตรา6)
เป็นนิติบุคคล ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
การตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ (พ.ร.บ.) ทำให้ไม่สามารถถูกฟ้องล้มละลาย และไม่สามารถเลิกกิจการเหมือนเช่นนิติบุคคลทั่วไป (แตกต่างจากนิติบุคคลทั่วไป)
นิติบุคคลตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เป็นบุคคลสมมุติตามกฎหมาย มีสภาพเหมือนบุคคลทั่วไป ยกเว้น สิทธิที่บุคคลจริงจะมีได้ เช่น การจดทะเบียนสมรส เป็นต้น
นิติบุคคลทำความผิด ผู้แทนของนิติบุคคลร่วมรับผิดในฐานะตัวการ และนิติบุคคลนี้ถูกฟ้องล้มละลายได้
วัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล (มาตรา7)
อำนาจและหน้าที่ของสภาการพยาบาล (มาตรา8)
รายได้ของสภาการพยาบาล(มาตรา9)
งบประมาณแผ่นดิน
ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่างๆ
จากการหารายได้ของสภาการพยาบาล โดยใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล เช่น จัดสวัสดิการให้สมาชิก
รายได้จากเงินบริจาค รวมทั้งดอกผลของรายได้ต่างๆ
ประเภทของสมาชิก
สมาชิกสามัญ
สมาชิกสามัญมีคุณสมบัติของสมาชิกสามัญ มาตรา 11(1)
สมาชิกกิตติมศักดิ์
สมาชิกกิตติมศักดิ์มีคุณสมบัติของสมาชิกกิตติมศักดิ์ มาตรา 11(2)
เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่สภาการพยาบาลเห็นสมควรเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
จำนวนอายุ การเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายไม่ได้กำหนด
โรคต้องห้ามตามข้อบังคับของสภาการพยาบาล
โรคจิต โรคประสาท
การติดยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรง ติดสุราเรื้อรัง
โรคในระยะปรากฏอาการเป็นที่น่ารังเกียจต่อสังคม หรือเป็นอุปสรรคต่อการประกอบวิชาชีพ เช่น โรคคุดทะราด โรคเอดส์ กามโรค โรคเท้าช้าง โรคเรื้อนในระยะติดต่อ
การพ้นจากสภาพสมาชิกสามัญ (มาตรา13)
ตาย
ลาออก
ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 11(1)
จะต้องส่งคืนใบอนุญาตฯ ต่อเลขาธิการ ภายใน 15 วัน นับแต่ทราบการขาดสมาชิกภาพ(มาตรา 31 วรรค 3) หากไม่ส่ง มีโทษปรับไม่เกิน 1000 บาท
การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
สำเร็จในประเทศ คนสัญชาติไทยและมิใช่สัญชาติไทย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
สำเร็จในต่างประเทศ
คนสัญชาติไทย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตาที่กำหนด
ไม่ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
คนมิใช่สัญชาติไทย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศ 6 เดือน นับถึงวันสอบสมัครสอบวันสุดท้าย
เกณฑ์สำหรับผู้ไม่ขึ้นทะเบียนทันทีที่สำเร็จการศึกษา
สำเร็จก่อนและหลัง 6 กันยายน 2528
หลัง 24 ธันวาคม 2540 (สมัครเป็นสมาชิกสามัญและขอสอบขึ้นทะเบียน)
กรณีปฏิบัติงานโรงพยาบาลขอรัฐ ครบ 2 ปี สมัครเป็นสมาชิกสามัญและขอขึ้นทะเบียนทันทีไม่ต้องขอสอบ
ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลเอกชน ต้องผ่านการฝึกอบรมทางวิชาการตามที่สภาฯกำหนด
ประเภทของใบอนุญาต
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้น 1 และ 2
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้น 1 และ 2
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้น 1 และ 2
การพ้นจากการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
พ้นจากการเป็นสมาชิกสามัญ
ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ใบอนุญาตหมดอายุ
นางสาวชลธิชา คล่องแคล่ว รุ่น 36/1 เลขที่ 28 612001029