Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายวิชาชีพการพยาบาล, นางสาว ณัฐธกานต์ ศรีสวัสดิ์ รุ่น 36/1 เลขที่ื 37…
กฎหมายวิชาชีพการพยาบาล
4.4การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ
สถานที่ที่กฎหมายกำหนด
2.สถานที่มีเหตุผลสมควรเชื่อว่ามีการประกอบวิชาชีพการพยาบาลการผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและผดุงครรภ์
3.สถานที่สอบสวนหรือเชื่อว่าทำการสอนวิชาการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
1.สถานที่ประกอบการที่มีผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและผดุงครรภ์ปฏิบัติงานอยู่
การคัดค้านการแต่งตั้งอนุกรรมการสอบสวน
ต้องยื่นต่อคณะกรรมการภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันทราบคำสั่งของคณะอนุกรรมการสอบสวน
การพิจารณาคดีผู้ประกอบวิชาชีพมีสิทธิเพียงนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงและมาให้ปากคำ ไม่มีสิทธิแต่งตั้งทนายความขึ้นต่อสู้ทางคดีได้
ผลการลงมติของคณะกรรมการสภาฯ ในการพิจารณาคดีจะทำเป็นคำสั่งให้นายกสภา ลงนามคำสั่งสภาถือเป็นที่สุด คือ อุธรณ์ไม่ได้
อายุความการกล่าวหา กล่าวโทษ
มีกำหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ
มีกำหนด 1ปี นับแต่วันรู้ตัวผู้กระทำผิด
การพิจารณาสอบสวน โดยบุคคลต่อไปนี้
ผู้รู้เห็นเหตุการณ์
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ผู้มีเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา
คู่สมรส หรือเป็นญาติเกี่ยวข้องกับบุพการี ผู้สืบสันดาน
พี่น้องร่วมบิดามารดากับผู้ถูกกล่าวหา กล่าวโทษ
ผู้ประกอบวิชาชีพรับทราบคำสั่งลงโทษ
เป็นการพักใช้ต้องหยุดประกอบวิชาชีพทันที
การครบกำหนดนับแต่วันรับทราบคำสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต
การเพิกถอนใบอนุญาตต้องส่งคืนใบอนุญาตภายใน 15 วัน ต่อเลขาธิการสภา
มาตรา43(ภายใต้มาตรา27)
บุคคลที่ได้รับคำสั่งพักใช้ หรือเพิกถอนต้องหยุดประกอบวิชาชีพ
อำนาจหน้าที่ของอนุกรรมการจริยธรรมและอนุกรรมการสอบสวน
อนุกรรมการจริยธรรม มีหน้าที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐานข้อเท็จจริงว่าคดีมีมูลหรือไม่
การขอขึ้นทะเบียนใหม่ภายหลังถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ระยะเวลาต้องพ้น 2 ปี
ถ้าถูกปฏิเสธครั้งที่ 1 สามารถยื่นขอครั้งที่ 2 ภายหลังครบ 1 ปี
กระบวนการพิจารณาความผิดของผู้ประพฤติผิดจริยธรรม
3.อายุความการกล่าวหา กล่าวโทษ
1.ผู้เสียหาย กล่าวหา ต่อสภาการพยาบาล
4.สภาฯส่งเรื่องให้อนุกรรมการจริยธรรมพิจารณา
5.สภาฯส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการสอบสวนพิจารณา
6.คณะกรรมการสภาตัดสิน
2.กรรมการสภากล่าวโทษ ต่อสภาการพยาบาล
บทกำหนดโทษ
โทษทางอาญา
3.ต้องพ้นจากการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้วยและต้องส่งคืนใบอนุญาตต่อเลขาธิการภายใน15 วัน ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 1000 บาท (มีเฉพาะโทษปรับอย่างเดียว)
4.การไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสาร ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.บุคคลที่พ้นจากสมาชิกสามัญ(พ้นจากการเป็นสมาชิกสามัญ ได้จากการตาย ลาออก ขาดคุณสมบัติ)
5.ผู้ไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงาน ระวางโทษไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับโทษทางวิชาชีพ ประกอบด้วย ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ เพิกถอน
1.ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาต จำคุกไม่เกิน 2 ปี และ/หรือปรับไม่เกิน 2000 บาท
ข้อยกเว้น ผู้ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแต่สามารถประกอบวิชาชีพได้
3.นักเรียน นักศึกษา ในสถาบันที่สภาฯรับรอง
4.ผู้ประกอบโรคศิลปะ
2.การช่วยเหลือดูแลบุคคลอื่นให้พ้นจากความทุกข์ทรมานในเงื่อนไข
ไม่ฉีดยาหรือสารใดๆเข้าไปในร่างกาย
ไม่ให้ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
ไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนใดๆ
5.ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯในประเทศของตน สภาจะ
ออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ไม่เกิน 1 ปี
1.การกระทำต่อตนเอง
ข้อกำหนดจริยธรรมวิชาชีพ (4หมวด 38ข้อ)
หมวดที่ 1 หลักทั่วไป
หมวดที่ 2 การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวดที่ 3 การโฆษณาการประกอบวิชาชีพ
หมวดที่ 4 ปกิณกะ
มาตรการควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ
2.ให้มีข้อกำหนดจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
3.มีมาตรการลงโทษ ในกรณีทีละเมิดข้อกำหนดวิชาชีพ
1.ห้ามผู้ไม่มีสิทธิคือไม่มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
จุดประสงค์
2.การสงวนวิชาชีพให้กับบุคลากรในวิชาชีพ
3.การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพให้บริการอย่างมีมาตรฐาน
1.การคุ้มครองผู้รับบริการหรือผู้บริโภค
บทเฉพาะกาลเพิ่มเติม(พระราชบัญญัติวิชาชีพฯ พ.ศ.2540)
3.ผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ตามข้อ 2 แต่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรไม่น้อยกว่า 3 ปี
4.ยกเลิกค่าธรรมเนียมเก่าและใช้อัตราค่าธรรมเนียมใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้แทน
2.ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันในสาขาการพยาบาล การผดุงครรภ์และสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์
5.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการณ์ตามพระราชบัญญัตินี้
1.ให้กรรมการทุกประเภทตามพระราชบัญญัติวิชาชีพฯ พ.ศ.2528 ดำรงอยู่จนครบวาระ
กฎหมายวิชาชีพฯ
เป็นเกณฑ์สากลข้อหนึ่งของความเป็นวิชาชีพ มีความจำเป็นต่อทุกวิชาชีพ
เอาศัยหลักเกณฑ์ของกฎหมายควบคุมสมาชิกผู้ประกอบวิชาชีพให้ปฏิบัติตามมาตรฐานที่วิชาชีพกำหนดรวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อถือ
พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์(ฉบับที่2)พ.ศ.2540
เกณฑ์สากลของความเป็นวิชาชีพ
1.อาชีพนั้นมีความจำเป็นต่อสังคม
2.มีศาสตร์เฉพาะสาขาของตน และมีการอบรมในระบบวิชาชีพ
3.สามารถให้บริการแก่ผู้รับบริการได้มาตรฐานและตามบรรทัดฐานของวิชาชีพนั้น
4.มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ เพื่อปกป้องผู้รับบริการ
5.มีเอกสิทธิ์ในการทำงาน
6.มีองค์กรวิชาชีพ ทำหน้าที่ควบคุมสมาชิกของวิชาชีพรวมทั้งการผลักดันในแง่กฎหมายขข
4.5พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาล
พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์(ฉบับที่2)พ.ศ.2540
ความสำคัญของกฎหมายวิชาชีพ
เกณฑ์สากลของความเป็นวิชาชีพ
3.สามารถให้บริการแก่ผู้รับบริการได้มาตรฐานและตามบรรทัดฐานของวิชาชีพนั้น
4.มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ เพื่อปกป้องผู้รับบริการ
2.มีศาสตร์เฉพาะสาขาของตน และมีการอบรมในระบบวิชาชีพ
5.มีเอกสิทธิ์ในการทำงาน
1.อาชีพนั้นมีความจำเป็นต่อสังคม
6.มีองค์กรวิชาชีพ ทำหน้าที่ควบคุมสมาชิกของวิชาชีพ
นิยามศัพท์ที่สำคัญ
การพยาบาล
เป็นการกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย
การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาล
การผดุงครรภ์
การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลิด
ทารกแรกเกิด รวมถึงการตรวจ การทำคลอด การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์
ระยะคลอดและระยะหลังคลอดรวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการผดุงครรภ์
กำหนดให้มีสภาการพยาบาล ฐานะของสภาการพยาบาล(มาตรา6)
1.เป็นนิติบุคคล ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
2.การตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ(พ.ร.บ.) ทำให้ไม่สามารถถูกฟ้องล้มละลายและไม่สามารถเลิกกิจการเหมือนเช่นนิติบุคคลทั่วไป
การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ความหมาย
การปฏิบัติหน้าที่ พยาบาลต่อบุคคล ครอบครัว ชุมชน โดยการกระทำ ดังต่อไปนี้
1.การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ
2.การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล
3.การกระทำตามวิธีที่กำหนดไว้ในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค
4.การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
5.อาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาลในการประเมินสภาพ การวินิจฉัยปัญหา การวางแผน การปฏิบัติการ และการประเมินผล
การดำเนินกิจการของคณะกรรมการสภาฯ
3.การขอความเห็นชอบจากสภานายกพิเศษ
3.1สภานายกพิเศษ เห็นด้วย
อาจมีคำสั่ง เห็นชอบ หรือไม่แทงคำสั่งใดๆใน15วัน ถือว่าเห็นชอบ
3.2สภานายกพิเศษ ไม่เห็นชอบ
แทงคำสั่งไม่เห็นชอบ ต้องภายใน15วัน
3.3การลงมติแย้งสภานายกพิเศษ
ต้องทำภายใน30วัน ใช้กรรมการสภาเต็มคณะลงมติด้วยเสียง 2/3
4.การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการที่ปรึกษา
กรรมการที่ปรึกษาจากกรรมการชุดใดพ้นจากตำแหน่งตามวาระกรรมการชุดนั้น
2.การลงมติ กรรมการ 1 คน มี 1 เสียง
2.1เรื่องทั่วไป ถือเสียงข้างมาก ถ้าเสียงเท่ากันให้ประธานชี้ขาด
2.2เรื่องสำคัญ คะแนนเห็นชอบ จะต้องมี 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งคณะ
การประชุมของกรรมการสภาฯ ต้องเป็นการประชุมลับ บุคคลภายนอกจะเข้าได้ต้องมีหนังสือเชิญจากสภา
5.การเข้าแทนตำแหน่งของกรรมการสภาที่ว่างลงก่อนครบวาระ
1.การประชุมของคณะกรรมการสภาการพยาบาล
1.1เรื่องทั่วไป กรรมการอย่างน้อย=16คน (หนึ่งในสอง)
1.2เรื่องสำคัญ ที่ใช้กรรมการเต็มคณะมี 2 กรณี
ก.การให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพ เพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา11(1)
ข.การพิจารณาทบทวนการลงมติ
สภานายกพิเศษ
2.แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
3.ออกกฎกระทรวงและกำหนดค่าธรรมเนียมต่างๆ(มาตรา 5)
1.รักษาการตามพระราชบัญญัติ(มาตรา 5)
4.ให้ความเห็นชอบมติของคณะกรรมการในเรื่อง
1.การออกข้อบังคับสภาฯ
2.การกำหนดงบประมาณของสภาฯ
3.การให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพ
4.การวินิจฉัยชี้ขาด ขั้นลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพ ขั้นพักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาตฯ
วัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล (มาตรา7) อำนาจและหน้าที่ของสภาการพยาบาล (มาตรา8) รายได้ของสภาการพยาบาล(มาตรา9)
2.ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่างๆ
3.จากการหารายได้ของสภาการพยาบาล
1.งบประมาณแผ่นดิน
4.รายได้จากเงินบริจาค รวมทั้งดอกผลของรายได้ต่างๆ
นิติบุคคลตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
1.เป็นบุคคลสมมุติตามกฎหมาย มีสภาพเหมือนบุคคลทั่วไป ยกเว้น สิทธิที่บุคคลจริงจะมีได้
2.นิติบุคคลทำความผิด ผู้แทนของนิติบุคคลร่วมรับผิดในฐานะตัวการ และนิติบุคคลนี้ถูกฟ้องล้มละลายได้
ตราสภาการพยาบาล
การเป็นนิติบุคคลต้องมีตราตามกฎหมายเป็นรูปวงกลม มีตะเกียงตั้งอยู่บนฐานของดอกบัว
มีคำว่าสภาการพยาบาลเหนือตะเกียงในวงกลม มีคำว่า พ.ศ.2528 อยู่ที่ฐานของดอกบัว
สมาชิกและสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย(หมวด2มาตรา11-13)
ประเภทของสมาชิก มี 2 ประเภทดังนี้
1.สมาชิกสามัญ
2.สมาชิกกิตติมศักดิ์
สมาชิกสามัญมีคุณสมบัติของสมาชิกสามัญ มาตรา 11(1)
โรคต้องห้ามตามข้อบังคับของสภาการพยาบาล
1.โรคจิต โรคประสาท
2.การติดยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรง ติดสุราเรื้อรัง
3.โรคในระยะปรากฏอาการเป็นที่น่ารังเกียจต่อสังคม
โรคคุดทะราด
โรคเอดส์
กามโรค
โรคเรื้อนในระยะติดต่อ
โรคเท้าช้าง
สมาชิกกิตติมศักดิ์มีคุณสมบัติของสมาชิกกิตติมศักดิ์ มาตรา 11(2)
1.เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่สภาการพยาบาลเห็นสมควรเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
2.จำนวนอายุ การเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายไม่ได้กำหนด
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ(มาตรา12) การพ้นจากสภาพสมาชิกสามัญ(มาตรา13) มีดังนี้
1.ตาย
2.ลาออก
3.ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 11(1)
การพ้นจากสมาชิกสามัญ การประกอบวิชาชีพสิ้นสุดลง
จะต้องส่งคืนใบอนุญาตฯ ต่อเลขาธิการ ภายใน 15 วัน
มีโทษปรับไม่เกิน 1000 บาท ซึ่งเป็นโทษปรับอย่างเดียว
ไม่มีโทษจำคุกต่างจากโทษตามมาตราอื่นๆ ซึ่งจะมีทั้งโทษปรับและจำคุก
หน้าที่กรรมการบริหารสภาการพยาบาล
นายกสภาฯ
2.เป็นผู้แทนสภาในกิจการต่างๆ
3.เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการเลขาธิการสภา
1.ดำเนินกิจการของสภาการพยาบาล
เลขาธิการสภา
1.ควบคุมรับผิดชอบงานธุรการทั่วไป
2.ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่สภาฯ
3.รับผิดชอบในการดูแลทะเบียนต่างๆ
4.ควบคุมทรัพย์สินของสภาฯ
5.เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
พนักงานเจ้าหน้าที่
ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ มีอำนาจหน้าที่ดังนี้
2.ในการเข้าตรวจค้น พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัว พนักงานเจ้าหน้าที่ให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการแอบอ้าง
3.ในการตรวจค้นให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญา
1.ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบใบอนุญาต
การเลือกตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลง
กรรมการว่างลง มากกว่าหนึ่งในสอง (16)
ถ้าอายุกรรมการเหลือต่ำกว่า 90 วัน ให้รอเลือกตั้งใหญ่พร้อมกัน
กรรมการว่างลง=หนึ่งในสองหรือน้อยกว่าของกรรมการจากการเลือกตั้ง
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ความหมาย
การปฏิบัติหน้าที่การผดุงครรภ์ต่อหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอดทารกแรกเกิด และครอบครัว โดยกระทำดังต่อไปนี้
1.การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
2.การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอดและทารกแรกเกิด
3.การตรวจ การทำคลอด และการวางแผนครอบครัว
4.การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
5.อาศัยหลักวิทยาศาสตร์ และศิลปะการผดุงครรภ์ในการประเมินสภาพการพยาบาล วินิจฉัยปัญหา การวางแผนการปฏิบัติการพยาบาล และการประเมินผล
การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
1.สำเร็จในประเทศ คนสัญชาติไทยและมิใช่สัญชาติไทย
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
2.สำเร็จในต่างประเทศ
คนสัญชาติไทย
ไม่ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตาที่กำหนด
สอบขึ้นทะเบียน
คนมิใช่สัญชาติไทย
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศ 6 เดือน นับถึงวันสอบสมัครสอบวันสุดท้าย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
ประเภทของใบอนุญาต มี3ประเภท
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้น 1 และ 2
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้น 1 และ 2
1.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้น 1 และ 2
การพ้นจากการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
1.พ้นจากการเป็นสมาชิกสามัญ
2.ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
3.ใบอนุญาตหมดอายุ
คณะกรรมการสภาการพยาบาลประเภทของคณะกรรมการฯ
กรรมการสภาฯ จากการแต่งตั้ง จำนวน 16 คน
3.กรรมการที่ปรึกษา จำนวนไม่เกิน 1 ใน 4 ของกรรมการ
1.กรรมการสภาฯ จากการเลือกตั้ง จำนวน 16 คน
สรุปประเด็นสำคัญ เรื่อง คณะกรรมการสภาการพยาบาล
2.ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขมีสัดส่วนมากที่สุด
3.ถ้านายกสภาฯเลือกเลขาธิการสภาจากสมาชิกสามัญ กรรมการ จะมีจำนวน 33คน
1.นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการสภาโดยตำแหน่ง
4.การเลือกตั้งนายกสภาฯ เป็นการเลือกตั้งทางอ้อม
5.กรรมการสภาฯ เลือกคณะผู้บริหารฯ
6.นายกสภา เลือก เลขาธิการสภา รองเลขาธิการสภา ประชาสัมพันธ์ เหรัญญิก
7.วาระของกรรมการ 4 ปี ตามวาระที่มาของกรรมการว่าแต่งตั้ง
8.นายกสภาฯถอดถอนเลขาธิการได้
กรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระได้ในกรณีต่อไปนี้
2.ขาดคุณสมบัติตามาตรา 18
3.ลาออก
1.ขาดคุณสมบัติตามมาตรา13
มาตรา 18 คุณสมบัติของกรรมการสภาฯ
2.ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
3.ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
1.เป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
ความแตกต่างระหว่างคุณสมบัติของกรรมการสภาและสมาชิกสามัญ
1.การไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
2.ไม่เคยถูกพักใช้ เพิกถอน
กรรมการจะดำรงตำแหน่งมากกว่า 2 วาระ ติดต่อกันไม่ได้
นางสาว ณัฐธกานต์ ศรีสวัสดิ์ รุ่น 36/1 เลขที่ื 37 รหัสนักศึกษา 612001038