Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 8 หลักโภชนบำบัด - Coggle Diagram
บทที่ 8 หลักโภชนบำบัด
ข้อปฏิบัติในการให้อาหารผู้ป่วย :pencil2:
ควรให้กําลังใจและเป็นมิตรกับผู้ป่วย
รับฟังปัญหาต่างๆ ของผู้ป่วยด้วยความเข้าใจ
ก่อนรับประทานอาหาร ควรทําความสะอาดร่างกายของผู้ป่วย หรือให้นอนพักผ่อนก่อนรับประทานอาหาร
จัดอาหารให้น่ารับประทาน สี กลิ่นและเนื้อสัมผัสชวนรับประทาน
เลือกภาชนะเครื่องใช้ในการรับประทานที่สะอาด สวยงามน่าใช้
จัดสิ่งแวดล้อมให้สะอาด และน่าอยู่ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้มากขึ้น
ควรให้อาหารแก่ผู้ป่วยครั้งละน้อยแต่บ่อยครั้ง
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ผู้ป่วยไม่คุ้นเคย
งดอาหารที่ผู้ป่วยแพ้
สารอาหารพิเศษที่ใช้ในการบําบัด :pencil2:
การให้โภชนบําบัดในผ้ป่วยวิกฤต
การให้สารอาหารบางประเภทสามารถที่จะช่วยเหลือระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้โดยหวังผลที่จะทําให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้น สารอาหารเหล่านี้เรียกว่า immunonutrition
Glutamine
glutamine เป็นกรดอมิโนไม่จําเป็น (non-essential aminoacid) ที่เป็นแหล่งพลังงานที่สําคัญของ enterocyte ในการแบ่งตัว และเจริญเติบโต อีกทั้งยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติในทางเดินอาหารอีกด้วย
Arginine
Nucleotide
Nucleotide ชนิดต่างๆ สามารถที่จะกระตุ้นการทํางานของระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติเช่นเดียวกันในการศึกษาส่วนใหญ่นิยมใช้ร่ วมกับ immunonutrient ชนิดอื่นๆ เช่น arginineและ omega-3 fatty acid พบว่าสามารถที่จะลดอัตราการติดเชื้อและลดระยะเวลาการอยู่โรงพยาบาลในผู้ป่วยวิกฤตได้ แต่ไม่สามารถลดอัตราการตายได้เช่นเดียวกัน
Omega-3 fatty acid
สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงของ cell membrane ของcell ต่างๆ ได้ในช่วงที่เกิดการอักเสบของร่างกายอย่างรุนแรง นอกจากนี้ omega-3 fatty acid ยังช่วยลดการเกิดอักเสบได้โดยจะลดการเกิด active leukotriene และprostaglandin6
การใช้สารอาหารทางหลอดเลือดดํา (Parenteral Nutrition)
การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดําแบบบางส่วน
(Peripheral Parenteral Nutrition (PPN))
การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดําแบบสมบูรณ์
(Total Parenteral Nutrition(TPN))
Parenteral Formula
อาหารที่ให้ทางหลอดเลือดดําควรประกอบด้วยสารอาหารครบถ้วน
และพอเพียงกับความต้องการของผู้ป่วย
Carbohydrate,
Protein,
Fat,
Vitamin,
เกลือแร่
และนํ้า
Carbohydrate
Protein
โปรตีนที่ให้ได้ทางเส้นเลือดดํา ต้องอยู่ในรูปของ amino acids เท่านั้น
1.Mixed amino
High branched-chain amino acids formula
Essential amino acids formula
Lipid
Lipid ที่ให้ทางหลอดเลือดดําจะอยู่ในรู ปแบบของ lipid Emulsion ส่วนใหญ่จะประกอบด้วย Long chain fatty acid
Multivitamins
Vitamin k โดยปกติไม่ได้ผสมในสารละลายที่ให้ทางเลือดเลือดดํา เนื่องจากมีside effect จึงให้เสริมในรูป Vit K1 10 mg IM หรือ Sc สัปดาห์ละครั้ง ยกเว้นในรายที่ on anticoagulant (Maintenancedose 0.2-2.0 mg/day)ปริมาณ Vitamin ที่ ร่างกายต้องการทาง Parenteral ซึ่ง recommend
Mineral
Macrominerals
Parenteral Additive
สารอื่นที่ไม่ใช่สารอาหารที่เติมลงไปใน TPN
หลักการบริการอาหารที่ดีแก่ผ้ป่วย :pencil2:
สถานที่
หอผู้ป่วยเป็นสถานที่ๆ ผู้ป่วยจะต้องรับประทานอาหาร ถ้าหอผู้ป่วยอยู่ในสถานที่สะอาดปราศจากกลิ่น มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่อึกทึกครึกโครม จะทําให้บรรยากาศในการรับประทานอาหารดีขึ้น ในหอผู้ป่วยสามัญ อาจมีปัญหาของผู้ป่วยเตียงใกล้เคียงกัน มีอาการหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุทําให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อยลง ผู้ป่วยพิเศษอาจจะดีกว่าในกรณีที่มีญาติคอยดูแล และให้กําลังใจ รวมทั้งสถานที่ไม่พลุกพล่าน
บุคลากรที่ให้บริการ
บุคลากรแรกที่ผู้ป่วยจะพบในการบริการอาหารก็คือ พนักงานที่ทําหน้าที่บริการอาหาร การแต่งกายของพนักงานที่สะอาด เรียบร้อย ทั้งทางร่างกาย เสื้อผ้า รวมทั้งกิริยามารยาท ทั้งทางสายตาและคําพูดเป็นสิ่งที่ชักจูงให้เกิดความประทับใจ และบริโภคอาหารได้เป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงควรให้ความสําคัญในการควบคุมความประพฤติ การแต่งกายของบุคลากรที่ให้บริการอาหารแก่ผู้ป่วย
อาหาร
อาหารที่จัดให้แก่ผู้ป่วยจึงควรพยายามให้เกิดความน่ารับประทานมากกว่าจัดให้เพียงเพื่อมีอาหารบริการแต่ละมื้อเท่านั้น ความน่ารับประทานของอาหารเช่น สีสัน ดูน่ารับประทาน มีการจัดอย่างประณีต มีปริมาณไม่มากไม่น้อยเกินไป ลักษณะของอาหารอาหารใดที่ควรกรอบก็ต้องกรอบ อาหารใดที่ควรเปื่อยนุ่มก็ควรนุ่มไม่ใช้เหนียวจนเคี้ยวไม่ไหว
ภาชนะและอุปกรณ์
ควรได้รับการเอาใจใส่ ดูแลให้อยู่ในสภาพที่ดี สะอาด น่าใช้ หลีกเลี่ยงการนําภาชนะที่สกปรก บุบร้าว บิ่น ไปใช้ในการบริการให้แก่ผู้ป่วย ภาชนะอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหาร
เวลาในการบริการ
ต้องบริการอาหารให้ตรงตามเวลาที่กําหนดไว้ทุกมื้อ เพราะผู้ป่วยอาจจะต้องมีการตรวจ หรือต้องให้ยาก่อนและหลังอาหารตามแผนการรักษาที่กําหนด เพราะฉะนั้นควรส่งอาหารให้ตรงเวลาเพื่อสอดคล้องกับการรักษาด้านอื่นๆ ด้วย
ปัญหาการบริการอาหารผู้ป่วยในโรงพยาบาล :pencil2:
ลืมสั่งอาหาร
คําสั่งอาหารไม่ชัดเจน
การจัดอาหารผิด
ลืมงด ลืมเปลี่ยน และลืมย้ายห้อง
อาหารบริการไม่ทันตามกําหนดเวลา
วัตถุประสงค์ของโภชนบําบัด :pencil2:
เพื่อนําความรู้ด้านโภชนศาสตร์มากำหนดอาหารเพื่อรักษาให้หายจากโรคและฟื้นตัวเร็วขึ้น
เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ที่จะเกิดตามมา
เช่น ผู้ป่วยโรคอ้วน
โรคที่จะตามมาคือ โรคเบาหวาน
โรคความดันโลหิตสูง
โรคหัวใจขาดเลือด
เพื่อป้องกันภาวะทุพโภชนาการ การเจ็บป่วยอาจทําให้ผู้ป่วยเบื่ออาหารหรือมีการสูญเสีย สารอาหารบางชนิดมากขึ้นจนเกิดภาวะทุพโภชนาการ
เพื่อรักษาและส่งเสริมให้ภาวะทุพโภชนาการที่เกิดขึ้นอยู่แล้วหายไปเนื่องจากผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะทุพโภชนาการมาก่อน
หลักการประยุกต์ใช้ทางคลินิกและวิธีให้โภชนบําบัด :pencil2:
องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับโภชนบําบัด
สรีรวิทยาในขณะที่เจ็บป่วย
การทำหน้าที่ของรางกายไม่ปกติ ดังนั้น การให้โภชนบําบัดต้องเหมาะสมกับหน้าที่ของร่างกาย เช่น การเคี้ยว การย่อย การดูดซึมและการขับถ่าย
จิตวิทยา
ในขณะที่ร่างกายเจ็บป่วย ผู้ป่วยต้องแยกจากเพื่อนฝูง ครอบครัวทำให้เกิดความเครียดและว้าเหว่ ผู้ป่วยต้องการความช่วยเหลือ เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับอาหารบำบัดโรค
วัฒนธรรม ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี
ทัศนคติของผู้ป่วยเกี่ยวกับอาหารขึ้นอยู่กับ วัฒนธรรม เชื้อชาติ ศาสนา และความเชื่อของผู้ป่วย ดังนั้นการจัดอาหารบำบัดโรคจึงควรคํานึงถึงเหตุผลดังกล่าว
สังคม
ครอบครัวหรือเพื่อนควรได้ช่วยเหลือในการปรับตัวของคนไข้
เศรษฐกิจ
เมื่อเกิดเจ็บป่วยค่าใช้จ่ายต้องเพิ่มขึ้นรายได้อาจลดลง เนื่องจากหยุดงานหรือ เมื่อหายแล้วต้องเปลี่ยนงานใหม่ ไม่มีเงินพอในการรักษาพยาบาล สิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความวิตกกังวล เป็นผลทําให้เบื่ออาหารและไม่ยอมรับอาหารบําบัด
กระบวนการทางโภชนบําบัด
การวิเคราะห์ภาวะโภชนาการของผู้ป่วย
การซักประวัติ
การวัดขนาดร่างกายของผู้ป่วย
การตรวจร่างกาย
การตรวจทางชีวเคมี
การวางแผนการให้โภชนบําบัด
เป้าประสงค์
ผลลัพท์ที่พึงปรารถนาสําหรับผู้ป่วยอย่างกว้างๆ
วัตถุประสงค์
ผลระยะสั้นแต่ละขึ้นตอนที่บรรลุเป้าประสงค์
ชนิดของอาหารเพื่อโภชนบําบัด
เมื่อได้เป้าประสงค์และวัตถุประสงค์แล้วก็
ต้องพิจารณาอาหารที่จะให้แก่ผู้ป่วย จะใช้อาหารชนิดใด จะจัดอย่างไร
ขั้นการดําเนินการโภชนบําบัด
ขั้นการประเมินผลโภชนบําบัด
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการให้โภชนบําบัด
แพทย์
พยาบาล
เป็นผู้คัดลอกคําสั่งของแพทย์
คอยช่วยเหลือดูแลคนไข้ ระหว่างรับประทานอาหาร
นักกําหนดอาหาร
คิดคํานวณคุณค่าอาหารสําหรับผู้ป่วยตามที่แพทย์สัง
กําหนดอาหารและดัดแปลงอาหารให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความพึงพอใจของผู้ป่วยด้วย
ควบคุมการจัดและการปรุงอาหารเฉพาะโรค
เยี่ยมผู้ป่วย
ทํางานร่วมกับแพทย์และพยาบาลในการให้คําปรึกษาแนะนําด้านอาหารกับผู้ป่วย
อาหารประเภทต่างๆที่ใช้ในโรงพยาบาล :pencil2:
อาหารผู้ป่วยในโรงพยาบาล
อาหารทั่วไป ่ (general diet)
1.1 อาหารธรรมดาหรือออาหารปกติ (Regular,normaldiet)
1.2 อาหารธรรมดาย่อยง่าย (light diet)
1.3 อาหารอ่อน (Soft diet)
1.4 อาหารน้ำ
1.4.1 อาหารนํ้าใส
1.4.2 อาหารนํ้าข้น
อาหารบําบัดโรคหรืออาหารเฉพาะโรค (therapeuticdiet)
อาหารลดโซเดียม (Low Sodium diet)
ลดปริมาณ
โซเดียมที่มีอยู่ในอาหาร
อาหารลดโคเลสเตอรอล (Low cholesterol diet)
ผู้ป่วยที่ต้องจํากัดโคเลสเตอรอลจึงต้องหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่มีโคเลสเตอรอลสูง หรือรับประทานในปริมาณจํากัดเนื้อสัตว์ที่มีโคเลสเตอรอลสูง
อาหารโรคเบาหวาน (diabetes mellitus diet)
อาหารดัดแปลงโปรตีน (Protien modified diet)
อาหารที่มีโปรตีนสูง
เป็นอาหารที่กําหนดให้แก่ผู้ป่วยที่มีการสูญเสียโปรตีน และจําเป็นต้องได้รับการชดเชย
อาหารที่มีโปรตีนตํ่า
โปรตีนในอาหารชนิดนี้จะตํ่ากว่าที่กําหนดในมาตรฐานอาหารทั่วไป เป็นอาหารที่กําหนดให้แก่ผู้ป่วยโรคไตที่ไม่มีการล้างไต
อาหารดัดแปลงพลังงาน (energy modified diet)
อาหารพลังงานตํ่า (Low energy diet)
อาหารนี้จะดัดแปลงให้พลังงานตํ่ากว่าอาหารทั่วไป เพื่อให้แก่ผู้ป่วยอ้วนหรือมีน้ำหนักมากกว่าปกติและจำเป็นต้องลดนํ้าหนัก
อาหารพลังงานสูง (High energy diet)
เป็นอาหารที่จัดให้แก่ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่ามาตรฐาน เพื่อให้มีนํ้าหนักตัวเพิ่มขึ้น
อาหารลดไขมัน (Low fat diet)
เป็นอาหารที่จัดให้แก่ผู้ป่วยต้องการลดน้ำหนัก และผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง
อาหารทางสายให้อาหาร (tube feeding)
อาหารโรคเบาหวาน (diabetes mellitus diet)
เป็นอาหารที่แพทย์สั่งให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับภาวะปกติของคนทั่วไป
รักษาน้ำหนักตัวของผู้ป่วยและป้องกันโรคแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นรวมทั้งเป็นการสนับสุนนการใช้ยาให้ได้ผลดียิ่งขึ้น
อาหารนี้ต้องควบคุมทั้งปริมาณพลังงานชนิดของโปรตีน ไขมันและคาร์โบไฮเดรต ซึ่งแพทย์ต้องกําหนดให้แก่ผู้ป่วย และนักกําหนดอาหารจะทําการคํานวณปริมาณอาหาร สั่งเตรียมและชังตวงอาหารนั้นก่อนส่งไปบริการให้แก่ผู้ป่วย
อาหารทางสายให้อาหาร (tube feedingdiet)
สูตรนํ้านมผสม (milkbase formula)
สูตรอาหารปั่นผสม (Blenderizedformula)
สูตรอาหารสําเร็จรูป (commercial formula)
โภชนบําบัด หรืออาหารบําบัดโรค (Diet therapy) :pencil2:
การใช้อาหารช่วยในการรักษาโรคโดยการดัดแปลงอาหารธรรมดาให้ เป็นอาหารที่เหมาะสมกับโรคที่เป็นอยู่ และจัดให้ถูกหลักโภชนาการ
ช่วยรักษาหรือบรรเทาอาการของโรค รวมทั้งป้องกันอาการทุกโภชนาการที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่ได้รับ การรักษาโรคอยู่